xs
xsm
sm
md
lg

สื่อสหรัฐฯ จับตามอง "บันเทิงญี่ปุ่น" กำลังจะมา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


Godzilla Minus One ทำรายได้ถล่มทลาย
เมื่อ 5 ปีก่อนภาพยนตร์เรื่อง Parasite จากเกาหลีใต้ สร้างความฮือฮาระดับคว้ารางวัลออสการ์ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และทำเงินเฉพาะในสหรัฐฯ ไปถึง 50 ล้านเหรียญฯ

ก่อนที่จะมี Decision to Leave มาตอกย้ำความสำเร็จ ด้วยการเข้าชิงรางวัลระดับโลกมากมาย จนทำให้วงการหนังเกาหลีใต้ ดูสดใสรุ่งเรืองในตลาดอเมริกัน และระดับโลกมาก ๆ

แต่ปีนี้เป็นคราวของหนังญี่ปุ่นบ้างที่ปีนี้ วงการหนังญี่ปุ่นดูจะประสบความสำเร็จในระดับสากลอย่างเป็นรูปธรรมอีกครั้ง มีทั้งหนังทำเงินชนิดระดับประวัติศาสตร์ และยังมีชื่อชิงรางวัลใหญ่ ๆ บนเวทีระดับโลกอย่างออสการ์หลายสาขา

ตั้งแต่รางวัลสาขาอนิเมชั่นยอดเยี่ยมที่ The boy and the heron ของ ฮายาโอะ มิยาซากิ เจ้าเดิมยังคงชิงรางวัลนี้ได้อีกครั้ง หลังเคยสร้างประวัติศาสตร์เป็นคนคว้ารางวัลสาขานี้เป็นคนที่ 2 ตั้งแต่เมื่อ 20 ปีก่อนแล้ว

ล่าสุดชิงออสการ์
ขณะที่ Perfect Days หนังที่ว่าด้วยเรื่องราวของหนุ่มใหญ่ชาวญี่ปุ่น ที่ประกอบอาชีพเป็นภารโรงที่ใช้เวลาไปกับกาฟังเพลงร็อกยุคเก่า ก็ไปไกลถึงการเข้าชิงรางวัลสาขาหนังภาษาต่างประเทศ แม้หนังจะเป็นผลงานของผู้กำกับชาวเยอรมัน แต่ Perfect Days ก็เป็นตัวแทนของญี่ปุ่นในการชิงออสการ์ปีนี้ และยังถูกเลือกแบบเบียดหนังสุดดังแห่งปีอย่าง Godzilla Minus One มาได้ด้วย

แต่ Godzilla Minus One ก็คงไม่มีอะไรน่าเสียดาย เพราะหนังสัตว์ประหลาดยักษ์เรื่องนี้ไปไกลในตลาดต่างประเทศแบบสุด ๆ กวาดเงินในอเมริกามากถึง 50 ล้านเหรียญฯ ไปแล้ว นับเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของวงการหนังญี่ปุ่นก็ว่าได้ ที่พิสูจน์ว่าไม่ใช่เฉพาะหนังการ์ตูนก็ขายได้ในอเมริกา

Godzilla Minus One ยังสร้างประวัติศาสตร์อีกด้าน ด้วยการชิงรางวัลออสการ์ ด้านเทคนิคพิเศษด้านภาพ เป็นคู่แข่งของหนังดัง ๆ มากมาย ตั้งแต่ The Creator หนังซูเปอร์ฮีโร่ Guardians of the Galaxy Vol. 3 หนังแอ็กชั่นทุนสูง Mission: Impossible – Dead Reckoning และหนังอิงประวัติศาสตร์อลังการงานสร้าง Napoleon ที่เกือบทั้งหมด ใช้ทุนเกิน 100 ล้านเหรียญฯ แต่ Godzilla Minus One ใช้ทุนสร้างแค่ประมาณ 10–15 ล้านเหรียญฯ เท่านั้น

The boy and the heron ชิงรางวัลภาพยนตร์อนิเมชั่น
พูดได้ว่าวงการบันเทิงญี่ปุ่นค่อย ๆ คลืบคลานสู่ตลาดใหญ่อย่างสหรัฐฯ และไม่ใช่แค่อนิเมชั่นที่ปกติก็ทำเงินแบบเงียบ ๆ มานานหลายปีอยู่แล้ว แต่ตอนนี้หนังคนแสดงก็เริ่มจะได้รับความสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อไม่กี่ปีก่อน หนังญี่ปุ่นเพิ่งจะได้รางวัลออสการ์สาขาหนังต่างประเทศ จน ริวซูเกะ ฮามากูจิ กลายเป็นคนทำหนังที่ชาวอเมริกา โดยเฉพาะสายที่ดูหนังกันแบบจริง ๆ จัง ๆ เริ่มคุ้นชื่อ

ผลงานเรื่องล่าสุดของ ริวซูเกะ ฮามากูจิ ก็ได้รับความสนใจเป็นอย่างดีอยู่ในกลุ่มเดียวกับผู้กำกับประเภท ฮิโรคาซึ โคริเอดะ ที่ผลงานได้รับการเผยแพร่ในอเมริกาอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว แต่สองสามปีมานี่หนังสายตลาด ก็เริ่มจะได้รับความสนใจจากคนอเมริกันมากขึ้นเรื่อย ๆ

ทั้ง Shin Godzilla, Shin Ultraman และ Shin Kamen Rider ที่ทั้งหมดได้ฉายในอเมริกาแบบจำกัดโรง และได้รับความสนใจไปพอสมควร

แม้แต่งานซีรีส์ฝั่งตะวันตก ที่ดัดแปลงมาจากการ์ตูนญี่ปุ่น อย่าง One Piece ที่หลายฝ่ายเดาเอาไว้ว่าน่าจะแย่แน่ ๆ ก็เวิร์กอย่างเหลือเชื่อ ทำให้หนังญี่ปุ่นดูมีอนาคตสดใสมาก ถึงขั้นที่นักวิเคราห์ของสื่อเศรษฐกิจอย่าง Bloomberg บอกว่าให้จับตาดูให้ดีเพราะ ญี่ปุ่น กำลังจะกลายเป็นเกาหลีที่ 2 ในตลาดอเมริกา

Perfect Days  ชิงรางวัลหนังภาษาต่างประเทศ
ฟังดูน่าตลกสำหรับคนไทยที่คุ้นเคยกับสื่อญี่ปุ่นมาอย่างยาวนานก่อนหน้าเกาหลี แต่สำหรับสถานการณปัจจุบัน มันก็อาจจะเป็นแบบนั้นจริง ๆ

แต่สุดท้ายก็อยู่ที่ทางญี่ปุ่นเองด้วยเช่นเดียวกัน เพราะทีผ่านมา ผู้สร้างหนังชาวญี่ปุ่น มักจะคิดอะไรไม่ค่อยเหมือนชาวบ้าน อย่างการคิดไปเองว่าถ้าทำหนังเป็นภาษาอังกฤษแล้ว จะทำให้ผู้ชมชาวตะวันตกยอมรับหนังญี่ปุ่นได้มากขึ้น พยายามปรับรายละเอียดต่าง ๆ ให้ดูสากล แต่กลับกลายเป็นความล้มเหลวอย่างรุนแรง อย่างหนัง Knights of the Zodiac ฉบับคนแสดงภาษาอังกฤษผลงานการร่วมกันสร้างของ Toei Company และ Sony ที่ทำเงินในสหรัฐฯไป 1 ล้านเหรียญถ้วน สวนทางกับทุนสร้างระดับ 60 ล้าน เรียกว่าทำ Godzilla ได้ถึง 4 – 5 ภาคกันเลยทีเดียว

หรือการจัดจำหน่ายหนังที่มีคนอยากดูกันทั่วโลกอย่าง Godzilla Minus One แบบแปลก ๆ อย่างที่ตอนนี้หนังได้ฉายเพียงไม่กี่ประเทศ เหมือนทางญี่ปุ่นไม่ได้อยากให้ใครได้ดู

Knights of the Zodiac ล้มเหลวไปก่อนหน้านี้

กำลังโหลดความคิดเห็น