“นุ่น รมิดา” ช่วยยัน “หลุยส์” ไม่ได้ไร้น้ำยา สเปิร์มวิ่งดี แต่เป็นตัวเองที่มีปัญหา ปล่อยมาก่อนแต่งแล้วแต่ไม่ติด หลุยส์รับเจ็บนิดๆ โดนตราหน้า ปีนี้ต้องท้อง หวังคลอดปีหน้า
เป็นอีกคู่ที่เตรียมตัวเข้าสู่กระบวนการฝากไข่อย่างจริงจัง สำหรับคู่ของหนุ่ม “หลุยส์ สก็อต” และสาว “นุ่น รมิดา ประภาสโนบล” หลังจากแต่งงานครบ 2 ปีทุกคนก็ลุ้นว่าเมื่อไหร่จะมีข่าวดีเรื่องทายาท ซึ่งก็ทำเอาฝั่งหลุยส์โดนล้อประจำว่าไม่มีน้ำยาหรือเปล่า
แต่ล่าสุดทั้งคู่มาเผยเรื่องนี้ในการเปิดตัวธุรกิจที่ร่วมจับมือกับ “คุณหมอทราย”หรือ “พญ.ปวริศา ยิ้มแย้ม”แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสูติ-นารีเวช เปิดคลินิก PWS Clinic ศูนย์สูติ-นรีเวช ณ เมืองทองธานี บอกว่าที่เลือกวิธีวิทยาศาสตร์เพราะป้องกันความเสี่ยงหลายๆ อย่างด้วย
นุ่น : “คืออย่างแรกนุ่นไม่กล้าให้หมอผู้ชายตรวจ คืออาย (หัวเราะ) เคยคุยกับหลายๆ คนเหมือนกันนะที่ทำเรื่องมีบุตรยาก ที่ไปหาหมอตรวจสภาพร่างกายน่ะ คือมันมีความเขิน มันไม่ใช่เรื่องปกติเวลาไปตรวจสุขภาพ แต่นี่ไปตรวจภายใน เพราะฉะนั้นเวลาเราต้องไปนอน ก็รู้สึกแปลกพอได้รู้จักหมอทราย จริงๆ ได้คอนแท็กเขามานานแล้ว แต่ก็ยังพยายามมีกันเองก่อน และพอได้คุยกับหมอทราย ขั้นตอนการคุยทำให้เรารู้สึกสบายใจ อย่างแรกที่สบายใจเพราะพี่ทรายเป็นผู้หญิง แต่พอตอนนี้ ใครก็ได้ (หัวเราะ) ชินแล้ว”
หลุยส์ : “ความจริงไม่อยากให้มองว่ามันเป็นปัญหาครับ เพราะถ้าเป็นปัญหาแล้ว เราก็ต้องดูวิธีการแก้ด้วย มันก็จะต้องมาแก้ตรงนั้นตรงนี้ แล้วค่อยมาเข้ากระบวนการของการเก็บไข่”
นุ่น : “คือถ้าจะพูดถึงนุ่นนะ น่าจะมาจากการพักผ่อนไม่เพียงพอ เพราะเรานอนน้อย อาหารการกินอีก พอเริ่มเข้ามาหาพี่ทราย นุ่นก็ปรับในเรื่องการตรวจภายในก่อน พอเช็กแล้วเราไม่มีปัญหาอะไร ที่เหลือพอเป็นเรื่องของเลือด เราเอาเลือดไปเช็กฮอร์โมน คือฮอร์โมนนุ่นควรจะอยู่ในเกณฑ์มีไข่ที่ดี แต่ช่วงนั้นดันไม่ได้ดูแลตัวเอง คือไข่จะดีได้ ดูได้เลยว่ามาจากฮอร์โมน จากเลือดที่เราเจาะว่าช่วงนี้เราเป็นยังไง”
บอกอยากเก็บไข่ให้ได้มากที่สุด เผื่อกันพลาด
นุ่น : “พอตกก็จะมีการเติมวิตามิน แต่ก็ยากเหมือนกัน เพราะตอนนั้นเก็บตอนนั้นก็ยังถ่ายพรหมลิขิตอยู่ มันก็เดี๋ยวขึ้นเดี๋ยวลงตลอด แต่มันก็มีการเริ่มเก็บ ง่ายๆ เหมือนกินบำรุง นุ่นเองก็ต้องช่วยเหลือตัวเองด้วย
ที่เห็นผอมลงเพราะพยายามกินคลีนให้ร่างกายตัวเองปลอดสารพวกเครื่องปรุงต่างๆ และไม่ไปกระตุ้นอะไรที่เกี่ยวกับพวกเนื้องอก เพราะฉะนั้นที่ผ่านมาก็ได้ไข่ดีๆ อยู่ แต่ถามว่าแฮปปี้ไหม ตอนนี้ก็ยัง เพราะถ้าเทียบจากอายุ 25 เรามีไข่เป็นร้อยใบ แต่ตอนที่นุ่นเก็บ บางทีนุ่นได้ประมาณ 10 ใบ แล้วอันนี้ยังไม่รวมกระบวนการในเรื่องของการเอาสเปิร์มมาผสมกับไข่ เพื่อทำอิกซี่ข้างนอก
แต่พอเราเช็กโครโมโซมมันก็จะค่อยๆ หายไปอีก เพราะฉะนั้นตอนนี้นุ่นก็ยังอยู่ในกระบวนการที่อยากเก็บไข่เพิ่มอยู่ แต่ 3 ปีจนถึงตอนนี้นุ่นก็ยังอยู่ในโปรแกรมที่พี่ทรายวางไว้ให้อยู่ คือเราทำมานานแล้ว นุ่นแค่อยากจะมีเพิ่ม กันเหลือ กันพลาด”
หลุยส์ : “ที่เลือกวิธีนี้ก็เพื่อความมั่นใจด้วย เหมือนกับว่าเราอยากที่จะเช็กทุกอย่างว่ามันพร้อมที่จะมี ก็คือถ้าเรามีเทคโนโลยีแบบนี้แล้วในปัจจุบัน แล้วทำไมเราไม่ใช้ ทำไมเราไม่ตรวจ เพราะเมื่อก่อนมันไม่มี ก็เลยไม่สามารถมีออปชั่นนี้ได้ ก็เลยลองทำไปแล้วออกมาอาจจะไม่ครบหรืออะไร เราก็ไม่แน่ใจ”
นุ่น : “แต่เหตุผลที่นุ่นต้องหาหมอแล้ว เพราะในเรตทางการแพทย์ ถ้าแต่งงานแล้วคุณปล่อยประมาณ 3-4 ปีแล้วไม่ติด คุณต้องไปเช็กแล้วว่าอาการมันมาจากผู้หญิงหรือผู้ชาย นั่นเป็นเหตุผลที่นุ่นปล่อยกันมานาน จริงๆ ปล่อยมาก่อนแต่งแล้วด้วยซ้ำ แต่มันก็ไม่ติด ปัญหาคือไข่แก่นั่นแหละ (หัวเราะ) เพราะมาเก็บไข่ตอนอายุ 38 ก็ไม่ได้บอกว่าสายไป แต่มันก็ควรจะเร็วกว่านั้น”
หลุยส์ : “มันก็มีความเสี่ยงที่จะมีปัญหาเยอะมากขึ้น”
นุ่น : “ใช่ ไข่มันก็จะไม่สมบูรณ์บ้าง ไข่มันจะไม่สวยบ้าง ก็ไม่เป็นไร เราใจสู้ แต่ธรรมชาติก็ยังมีได้ค่ะ เพียงแค่ว่าที่เราอาจจะเคยคิดยินว่าบางครั้งเด็กก็สมบูรณ์ แต่บางครั้งพอพ่อแม่อายุเยอะ ลูกก็จะมีความเสี่ยง นุ่นก็เลยรู้สึกว่าทำไมเราต้องมาเสี่ยงแบบนั้น ในเมื่อนุ่นก็มีคุณหมอที่เก่งอยู่แล้ว เพราะเรื่องมูเราก็ผ่านมาหมดแล้ว (หัวเราะ) มันเลยจุดนั้นมาแล้ว แต่ตอนนี้จะเอาความชัวร์ เพราะเราเปิดคลินิก เราจะเล่นๆ ไม่ได้แล้ว เพราะเรื่องนี้จริงๆ ก็เป็นเรื่องเซนซิทีฟของหลายๆ คน จริงๆ ก็เซนซิทีฟสำหรับนุ่นด้วยเวลาต้องสัมภาษณ์ บางครั้งการโดนกระตุ้น บางวันนุ่นก็มีฮอร์โมนที่บางวันก็ดาวน์
บางทีสัมภาษณ์อยู่ถ้าช่วงกระตุ้น ร้องไห้เลยก็มี เพราะว่าต้องเทคฮอร์โมนในการรักษาตัวเองด้วย อารมณ์มันก็ขึ้นลง เพราะฉะนั้นมันไม่ใช่เรื่องง่ายในการที่มาทำลูกตอนอายุเยอะ และมันก็ไม่ใช่เรื่องยากด้วย เพราะบางเคสอายุ 40 ก็ยังมีลูกได้ด้วยซ้ำไป แต่ถ้าไม่อยากมาเจอสิ่งที่นุ่นเจออยู่ในเรื่องของอารมณ์และค่าใช้จ่าย ก็ควรวางแผน พอ 25 จริงๆ ก็เริ่มเก็บได้แล้ว อันนี้บอกให้เก็บ ไม่ได้บอกให้ทำลูกนะคะ เก็บไว้เฉยๆ เพราะสุดท้ายวันนึงไปเจอคนที่ใช่ แล้วเขาอยากมีลูกขึ้นมา มันก็พร้อมหมดแล้ว จะได้ไม่ต้องมานั่งเจ็บตัวตอนอายุ 30-40 กว่า”
ยืนยัน “หลุยส์” ไม่ใช่ไม่มีน้ำยา แต่เป็นตนที่มีปัญหาเอง
นุ่น : “คนที่มีปัญหาน่าจะเป็นนุ่นค่ะ เพราะสเปิร์มของหลุยส์วิ่งดี (หัวเราะ) เขาเช็กมาแล้ว สำหรับนุ่นคือพักผ่อนไม่เพียงพอ และเรื่องของอายุที่มันเกิดขึ้น ณ ตอนนี้คุณหมอเขาก็ให้ยาบำรุงบวกกับที่นุ่นต้องช่วยเหลือตัวเองด้วย เรื่องกิน แล้วความเครียดมีผล ไม่ใช่แค่มีผลกับเรื่องมีลูก แต่กับร่างกายตัวเองทุกอย่าง แต่ตอนนี้พอไม่รับละคร ความเครียดมันก็น้อยลง ความแฮปปี้กับชีวิตมันก็เยอะขึ้น”
หลุยส์ : “ถามว่าเวลามีคนถามว่าทำไมยังไม่มีลูก เราเสียความมั่นใจไหม จริงๆ มันไม่ได้เสียความมั่นใจ ปัญหานี้ไม่ว่าจะเป็นปัญหาของใคร มันก็เป็นปัญหาของเราอยู่ดี เราก็ต้องไปด้วยกัน แต่บางครั้งมันก็รู้สึกเสียใจนิดๆ หน่อยๆ บ้าง เวลามันมีคำถาม หรือที่เขาพูดว่า อ๋อ เพราะน้ำเชื้อไม่ดีใช่ไหม ก็รู้สึกเจ็บนิดนึง แต่ว่าเราก็รับไป”
นุ่น : “แต่วันนี้ชัดเจนแล้วนะคะว่าของเขาดี เลิกว่าเขาว่าไม่มีน้ำยาหรือเปล่า ดิฉันคอมเฟิร์มว่าดิฉันนี่แหละค่ะ (หัวเราะ)”
เผยช่วงที่ผ่านมาต้องพยายามเข้าใจซึ่งกันและกัน เพราะฮอร์โมนไม่ปกติ
หลุยส์ : “ตอนที่นุ่นดาวน์ เราก็ต้องพยายามใจเย็นไว้”
นุ่น : “จะบอกว่าตอนดาวน์มันมีหลายอารมณ์ มันไม่ใช่ร้องไห้นะ บางทีอะไรก็หงุดหงิดไปหมด เอาง่ายๆ เหมือนเวลาผู้หญิงจะมีประจำเดือน มันเป็นฟีลนั้นแหละ อะไรนิดหน่อยก็ขัดใจ อารมณ์ดาวน์เหมือนคนท้องเลยแหละ หลุยส์ทำนิดหน่อยก็น้อยใจอารมณ์เสียใส่ เขาก็รับสภาพนุ่นมาเยอะเหมือนกัน พูดเลยว่าถ้าเลิกก็คือเลิกกันตอนนั้น”
หลุยส์ : “มันเป็นเหตุผลที่เข้ายิมเยอะครับ ซึ่งมันก็เป็นการเรียนรู้สำหรับผม เราก็จะได้เห็นในด้านมู้ดสวิงแบบนี้ ปกติเขาจะไม่มี ถ้าเขามีขึ้นมามันไม่ได้เป็นเพราะเขาเลือกที่จะเป็นแบบนี้ มันด้วยฮอร์โมนข้างในตามธรรมชาติ เราก็ต้องเข้าใจ และขอบคุณเขามากกว่าที่ต้องผ่านกระบวนการนี้แทนผมด้วย”
นุ่น : “ทุกครั้งที่เกิดเรื่องขึ้นหรือทะเลาะกันจากฮอร์โมน มันก็จะมีการคุยกันอยู่แล้ว คือเขาไม่ต้องอธิบายก็รู้ว่าอันนี้นุ่นไม่ปกติ เพราะฉะนั้นหลังกลับมาปกติ พยายามมีสติ พยายามจะรู้ว่าอันนี้ไม่ใช่ตัวเรา ตอนนั้นมันมีความเครียด ความคาดหวัง ถ้าเจ็บตัวขนาดนี้ฉันต้องได้สิ แต่ตอนนี้ปล่อยตัวเองชิล เพราะฉะนั้นฮอร์โมนไม่ค่อยมีผลกับอารมณ์เท่าไหร่แล้ว เหมือนนุ่นไม่ได้คาดหวังว่าครั้งนี้เก็บแล้วนุ่นต้องได้ หรือไม่ได้น้อยใจว่าฉันเป็นคนเจ็บอยู่คนเดียว ตอนนี้กลายเป็นว่าเราเริ่มสนุกกับการทำธุรกิจ สนุกในทุกๆ ขั้นตอนของเรา”
เผยตั้งใจอยากท้องให้ทันปีนี้ เพื่อที่จะคลอดปีหน้า
นุ่น : “จริงๆ อยากท้องปีนี้ค่ะ จะได้คลอดปีหน้า ก็ไม่ได้อยากจะบอกว่าเชื่อเรื่องชงอะไรมาก แต่ก็มีหลายคนทักไงว่านุ่นกับหลุยส์ปีจอ แล้วลูกเป็นมังกร แต่ถ้านุ่นใส่น้อง นุ่นก็คลอดปีนี้ไม่ทันอยู่แล้ว คือยังไงก็ต้องคลอดปีหน้า ซึ่งกระบวนการหลังจากนี้ก็วางแผนว่าเดือนหน้าอยากเก็บไข่อีกรอบ แล้วดูว่าได้เท่าไหร่ นุ่นก็ต้องเริ่มวางแผนตรวจมดลูก มียาทานเพื่อให้มดลูกมันฟู อันนั้นคือกระบวนการขั้นตอนเตรียมมีลูกแล้ว หลังจากนั้นถ้าใส่ตัวอ่อนแล้ว ก็ต้องเริ่มพักละคร แล้วนอนยาวเพื่อให้เรามั่นใจที่สุด เราไม่ได้มีตัวเลือกเยอะขนาดนั้น อะไรที่เราทำได้เราพร้อมที่จะทำ”
หลุยส์ : “ด้วยงานผมก็ต้องรับหน้าที่ตรงนั้นไป ยังไงก็ทำงานอยู่แล้ว เดี๋ยวลองดูเป็นขั้นตอนไปเรื่อยๆ ว่าเขาสามารถที่จะอยู่บ้านคนเดียวได้ไหม ถ้าไม่ได้ก็ต้องมีพี่เลี้ยงหรือใครมาช่วย ตั้งใจมีคนเดียวไหม ผมให้เขาเป็นคนเลือกดีกว่า”
นุ่น : “เอาให้มีก่อนดีกว่าแล้วค่อยว่ากัน ใครจะรู้ว่านุ่นใส่ไปหนึ่งอาจจะได้สอง หมอทรายใส่หนึ่งได้สาม ใส่สองได้สาม เราก็ไม่รู้ถ้ามาสี่ทำไง เราก็คาดหวังให้มีก่อนที่เหลือค่อยว่ากัน เราเป็นกำลังใจให้กันและกัน ทุกคนรู้อยู่แล้วว่าเวลาหลุยส์ทำงาน นุ่นก็ต้องไปด้วย ตอนนี้เราทำทุกอย่างด้วยกันหมดอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเราแข็งแรงมากพอ บ้านเราแข็งแรงพอ วันหนึ่งที่เราพยายามกันเราก็พยายามกันต่อไป เรามองโพสิทีฟ มองข้างหน้าว่ายังไงเราก็ต้องมี เราแค่มีความรู้สึกว่าไม่เป็นไร ฉันไปต่อๆ ฉันมีได้ๆ แล้วพยายามไม่สนว่าฉันอายุขนาดนี้ ฉันมีได้ ยังไงก็ไม่หมดหวัง”
