ถึงจะเป็นประเทศเจริญแล้วแต่เรื่องอภิสิทธิ์ชนก็ยังคงมีให้เห็น เมื่อล่าสุดนักเขียนชื่อดัง “เจ.เค โรลลิง” โดนชาวบ้านสวดยับเมื่อเจ้าตัวใช้รถเครนครองถนนหนึ่งเลน ในช่วงเวลาเร่งด่วนเพื่อตัดแต่งต้นไม้รั้วบ้านของตนเอง จนรถติดแถมนักเรียนไปโรงเรียนสาย
เจ.เค โรลลิง สร้างความปั่นป่วนให้กับชุมชนใน เอดินบะระ สก็อตแลนด์ โดยบริเวณหน้าแมนชันหรูราคากว่า 2.2 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 100 ล้านบาท เป็นที่ตั้งขอไฟสัญญาณจราจร
สาเหตุของรถติดมาจากการที่เธอจ้างรถเครนมาตัดแต่งต้นไม้ขนาดยักษ์บริเวณรั้วบ้านของเธอเอง ซึ่งต้องมีการปิดถนนหนึ่งเลน และยังปิดในช่วงเวลาเร่งด่วนตั้งแต่ 7.30 - 15.30 น. เป็นเวลาที่ผู้ปกครองต้องไป รับ-ส่ง ลูกที่โรงเรียน
ผู้ปกครองรายหนึ่งระบุว่า “ทำไมพวกเขาไม่ทำตอนโรงเรียนปิดในช่วง ก.พ.? มันมีเวลาตั้งหลายชั่งโมงช่วงที่ถนนว่าง ไม่มีใครเขาปิดถนนเพื่อมาตัดแต่งรั้วบ้านกันหรอก การทำให้รถติดในชั่วโมงเร่งด่วนเพื่อตัดแต่งรั้วบ้านมันไม่สมเหตุสมผลเลย มันทำให้ลูกของฉันและคนอื่นๆต้องไป รร. สาย ทำไมไม่ไปทำตอนช่วงสุดสัปดาห์ หรือช่วงเวลาที่ไม่เร่งด่วนตอน 9.30 - 14.30 น.“
ดูเหมือนว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่นักเขียนดังทำให้เพื่อนบ้านไม่พอใจ ในปี 2011 เธอเคยรื้อถอนบ้านเก่าที่สร้างในปี 1970 ที่เธอซื้อมาในราคา 1 ล้านปอนด์ เพื่อขยายเป็นสวนหน้าบ้าน ซึ่งหน่วยงานเฝ้าระวังมรดกแห่งชาติอย่าง Cockburn Association ได้ทักท้วงว่าเป็นการทำลายบ้านเก่าที่ยังสมบูรณ์และใช้อยู่อาศัยได้จริง แม้ว่าจะไม่ได้ยื่นคำร้องต่อต้านอย่างเป็นทางการก็ตาม
จากนั้นในปีต่อมาเธอได้รับอนุญาตให้สร้างบ้านต้นไม้ขนาดใหญ่ที่ทำให้สามารถมองเห็นได้จากริมถนน ซึ่งชาวบ้านเกรงว่าจะเป็นการทำลายทัศนียภาพของพื้นที่เขตอนุรักษ์โดยรอบ
นักเขียนดังยังได้ยื่นเรื่องขอสร้างบ้านต้นไม้ดังกล่าว ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 250,000 ปอรด์ หรือกว่า 11 ล้านบาท เพื่อปลูกสร้าง โดยบ้านต้นไม้นี้เธอสร้างเพื่อลูกๆทั้งสองคน ซึ่งแต่ละคนจะมีบ้านต้นไม้ 2 ชั้นเป็นของตนเอง และแต่ละหลังสูงประมาณ 12 เมตร และมีอุโมงค์ลับรวมถึงหน้าต่างที่ยื่นออกมาจากผนังบ้าน
เรียกได้ว่าหลังจากกลายเป็นมหาเศรษฐีทำรายได้จากงานเขียน Harry Potter ที่ขายได้กว่า 500 ล้านเล่ม ก็ทำให้เธอขึ้นแท่นเศรษฐินี เป็นหนึ่งในนักเขียนที่ทำรายได้มากที่สุด