xs
xsm
sm
md
lg

เสียน้ำตาที่ร้านปลาเขื่อน!?! ถ้ายังไม่ตาย – ผ่านไปต้องกิน/หนังเร่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: หนังเร่



3
“...พวกพี่คงรู้กันแล้วละมังคะ...”

1
ประมาณสัก 6 ปีที่แล้ว เมื่อใกล้ผ่านอำเภอทองผาภูมิ เพื่อนรุ่นน้องเอ่ยปากคล้ายบอกทุกคนว่าจะไปกินกาแฟที่ Crab Coffee ซึ่งเป็นร้านเจ้าประจำ พิกัดง่ายๆ คือจากทองผาภูมิมุ่งหน้าไปยังเขื่อนวชิราลงกรณ์ราวๆ 2 กิโลเมตร ร้านอยู่ทางขวามือ จุดสังเกตคือมีหลักกิโลเมตรยักษ์ตั้งอยู่ริมทาง

ขณะกำลังลงจากรถ ใครคนหนึ่งซึ่งคงหิวเอาการ หลุดปากว่าร้านนี้ก็ได้ หมายความคือเรื่องที่จะแบกท้องไปกินแกงป่า กะเพราะไก่รสจัดจ้านย่านเมืองมัลลิกา ก่อนถึงตัวเมืองกาญจน์ ต้องพับไว้ก่อน

เมื่อไม่มีใครในกลุ่มคัดค้านพวกเราจึงเดินไปยังร้านอาหารตามสั่งเล็กๆ ซึ่งมีอยู่สองสามโต๊ะ สภาพเป็นเพิงธรรมดาทั่วไป อยู่ใกล้ Crab Coffee ไม่กี่ก้าว

แม้ไม่ได้ไปยังร้านที่ตั้งใจไว้ กระนั้นบนโต๊ะอาหารวันนั้นก็มีทั้งกะเพราะไก่บ้าน แกงป่าไก่บ้าน ต้มยำปลาคัง

หลังกินเสร็จสรรพ ผู้เขียนโพล่งขึ้น ทำนองว่าเฮ่ย ผัดกะเพราเขาเด็ดเหมือนกันนะ แต่ติตรงแกงป่า ถ้าใส่ผักเฉพาะมะเขือแบบร้าน...ต้องถือว่าผ่านทีเดียว

ต่อจนต้องเดินทางผ่านทองผาภูมิอีกครั้ง พวกเราทุกคนลงความเห็นว่านอกจากไปกินกาแฟที่ Crab Coffee จะไปซ้ำร้านอาหารตามสั่งเล็กๆ ที่มีหญิงกับชายช่วยกันปรุง ช่วยกันยกอาหารมาให้

ยิ่งกว่าประหลาดใจ!?! เพราะทุกจาน ‘เด็ด’ ขึ้นกว่าเดิมมากมายหลายเท่า เละไม่แพง

ผู้เขียนครุ่นคิดอยู่ในใจ...รสมือแบบนี้ต้องให้กำลังใจกันหน่อยแล้ว

ถึงไม่มีหนทางอย่างอื่นเรื่องช่วยโฆษณาประชาสัมพันธ์ แต่การบอกกล่าวพูดคุยกัน นั่นย่อมหมายถึงความงดงามยิ่ง

คุยไปคุยมาจึงรู้ว่าทั้งสองซึ่งเป็นสามีภรรยากันเคยทำงานด้านสื่อมาก่อน มิหนำซ้ำยังเคยทำงานด้านฝ่ายศิลป์ให้กับเครือผู้จัดการ และเป็น ‘พันธมิตร’ ตัวยง

มิตรภาพของเราจึงพัฒนาเพิ่มมากขึ้นๆ

มิเพียงมิตรภาพของพวกเรา หากแต่ร้านของพวกเขาขยายขึ้นๆ แวะไปทีไรจำนวนโต๊ะ จำนวนพื้นที่ค่อยๆ ต่อเติม เสริมด้วยพนักงานหน้าใหม่เพื่อช่วยรับมือ ‘ลูกค้า’ ที่มาชิมเสน่ห์ปลายจวัก

2
จากนั้นเป็นต้นมา ถ้าผ่านทางไปทองผาภูมิพวกเราตั้งใจไปร้านของน้องเขา คือ ‘ร้านปลาเขื่อน’ มากกว่าไปจิบกาแฟ Crab Coffee

หนแรกๆ ทุกครั้งที่ไป น้องผู้หญิงจะวิ่งออกจากครัวมาทักทายด้วยสายตาเปี่ยมสุข ขอถ่ายรูปด้วยทีละหลายๆ แอคติ้ง ผ่านไปๆ น้องต้องสาละวนอยู่หน้าเตาเพราะลูกค้าเข้าหนาแน่น ปล่อยให้ฝ่ายชายมาต้อนรับขับสู้ เนื่องจากอาหารทางร้านรสจัดจ้าน เผ็ดแซ่บ ‘ร้านหน้าเขื่อน’ จะมีแตงโมหวานฉ่ำ เสริฟฟรีให้ทุกโต๊ะ

ส่วนโต๊ะของพวกเรา สมมุติสั่งไป 4 อย่าง พนักงานจะยกมาเสิร์ฟเพิ่มอีกอย่างไม่ก็สองอย่าง ผู้เขียนรู้ว่าเป็นน้ำใจของน้องทั้งสอง นอกเหนือจากส่วนลดที่ไม่รู้ว่าจะได้กำไรอะไรจากโต๊ะของพวกเรา

นี่ยังไม่นับหน่อไม้ดองที่ยัดใส่ถุงมาให้ทุกคราวเมื่อรู้ว่าผู้เขียนติดใจมาก เพราะหน่อไม้ดองของร้านปลาเขื่อนสั่งพิเศษจากชาวบ้านละแวกนั้น ทำอะไรกินเองก็อร่อย

บางวันที่หลายคนซึ่งพวกเราเคยพาไป แล้วแวะไปอีก จะกลับมาพร้อมกับข้าวสองสามถุงใหญ่ “พี่เขาฝากมาให้พวกพี่”

มีวันหนึ่ง น้องสองคนมาหาเราถึงที่พำนัก แน่นอนว่าหิ้วกับข้าว – กับแกล้มมาฝากด้วย ตอนหนึ่งน้องผู้ชายเอ่ยกับผู้เขียนว่ามีเพื่อนจะให้ที่ซึ่งทำเลสวยมาก ติดถนนใหญ่เพื่อให้เขาไปบริหาร สมควรจะไปไหม?

บอกน้องว่า ร้านเราอย่างไรก็เป็นของเรา ร้านเขาอย่างไรก็เป็นของเขา ชั่งใจเอาเอง

หลังปีใหม่ พวกเราต้องผ่านไปยังทองผาภูมิ เผอิญเดินทางช้ากว่าปกติ ที่เคยโทรสั่งกับข้าวกับน้องผู้ชายล่วงหน้า เพราะลูกค้าช่วงเที่ยงค่อนข้างเยอะ จึงไม่ได้ทำเหมือนทุกครั้ง คิดว่าบ่ายแก่ๆ กว่าจะไปถึงลูกค้าน่าจะซาแล้ว

มัวแต่เอาขยะไปทิ้งลงถัง ผู้เขียนจึงเดินไปยังโต๊ะช้ากว่าคนอื่น น้องผู้หญิงมายื่นอยู่ข้างโต๊ะ รู้สึกแปลกใจว่า เอ๊ะ! น้องผู้ชายไปไหน ปกติจะยิ้มร่ามาไหว้ มากอด

ครั้นพอย่อเข่าลงนั่ง เธอหันมาทางผู้เขียน

“พวกพี่คงรู้กันแล้วละมังคะ...” หันมองหน้าทีละคน ผู้เขียนใจหายวูบ

“พี่ตุ๋ยเสียแล้ว ถ้ารู้ว่าพี่ๆ มา เขาต้องดีใจมาก เขารักพี่....” คล้ายเอ่ยชื่อผู้เขียนแต่ก้อนสะอื้นอัดไว้ในลำคอ

จากพนักงานองค์กรที่ย้อนกลับบ้านเกิดเปิดร้านอาหารตามสั่งช่วยกันสองคนจนเติบโตมาได้ขนาดนี้ ชีวิตกำลังไปได้ดี ท้ายที่สุดต้องจากไปกะทันหันกับเส้นเลือดในสมองแตก

พวกเราทุกคนตระหนักเหมือนกัน

“...วันนี้กับข้าวทุกจานเจือด้วยหยาดน้ำตา...”



กำลังโหลดความคิดเห็น