“บูม สุภาพร” แฮปปี้ “แพท ณปภา” เตรียมแต่งงานอีกครั้ง บอก “พี ชานนท์” คู่ควรที่สุดแล้ว เพราะเป็นคนที่น่ารัก และขยันช่วยกันทำมาหากิน และรักลูกชาย บอกอย่าไปมอง 8G ทุกคนมีโอกาสเริ่มต้นใหม่ได้ทุกวัน ซุ่มคบหนุ่มมาพักใหญ่ แต่ไม่เปิดตัวเพราะอีกฝ่ายเป็นนักธุรกิจ คนละสายงานกัน ลั่นหากวันหนึ่งอีกฝ่ายเจอคนที่ใช่กว่าก็เดินออกไปได้เลย เพื่อความแฟร์
เป็นคู่เพื่อนซี้ที่หลายคนบอกว่าแทบจะเป็นคู่แฝดกันไปแล้ว สำหรับนักแสดงสาว “บูม สุภาพร วงษ์ถ้วยทอง” กับสาว “แพท ณปภา ตันตระกูล”ที่ล่าสุด แพท กำลังจะมีข่าวดี เตรียมเข้าประตูวิวาห์กับแฟนหนุ่ม “พี ชานนท์ วงศ์งามขำ”เพราะมีการจับจองสวมแหวนกันเป็นที่เรียบร้อย ล่าสุดเจอสาวบูม ในการสัมภาษณ์พิเศษนักแสดงเรื่อง เรือนทาส เจ้าตัวก็เผยว่าแฮปปี้มากที่เห็นเพื่อนมีความสุขอีกครั้ง
“เราก็แฮปปี้กับเขาค่ะ ไม่ว่าจะเป็นยังไง แต่มันก็เป็นเรื่องของเขา มันไม่ใช่เรื่องของบูมที่จะไปยุ่งในชีวิตเขา เพราะเขาก็เป็นมนุษย์ธรรมดาคนนึง ที่เขามีรัก โลภ โกรธ หลง สามารถที่จะเริ่มต้นกับใครใหม่ก็ได้ สามารถที่จะคุยกับใครก็ได้ มันก็เป็นเรื่องปกตินะคะ ก็พอทราบมาก่อนสักพักค่ะ แต่ยังไงเราก็คือคนอื่น เราก็เลยไม่สามารถไปพูดหรือไปถาม เขามาปรึกษาอะไรบ้างไหมเหรอ ก็ไม่นะคะ โตๆ กันแล้ว ก็ไม่ได้มาปรึกษาเรื่องความรักว่าอะไรยังไง แต่ก็มีพูดกันบ้าง แต่เราก็ไม่ได้ลงรายละเอียด เพราะบูมเชื่อว่าบางเรื่องมันคือเรื่องส่วนตัว ถ้าเขาอยากเล่าเดี๋ยวเขาก็มาเล่า
เราก็เคารพในการตัดสินใจของเขา และเราก็ยินดีกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับชีวิตเขา เพราะตัวพีเองบูมก็รู้จัก พีเป็นคนที่น่ารักมาก แล้วเรซ (ลูกชายแพท) ก็รักพี และที่สำคัญพีก็รักเรซและรักแพท ดังนั้นมันก็ดีแล้ว เขาก็อยู่เคียงข้างกันและกัน ช่วยกันทำมาหากิน ดูแลซึ่งกันและกัน บูมว่ามันเป็นสิ่งที่ทุกคนควรจะมองว่ามันสวยงาม ไม่ใช่มองว่า 4G 5G 8G ทุกคนสามารถเริ่มต้นใหม่ได้ทุกๆ วันทุกคนมันก็ต้องมูฟออน สุดท้ายแล้วเราก็ต้องยินดีกับสิ่งที่มันเกิดขึ้น”
เผย “พี” เคยมาขอคำปรึกษาเรื่องจะขอแต่งงาน เป็นคนที่คู่ควรกับแพท
“จริงๆ บูมไม่รู้ บูมทราบตอนที่เห็นข่าว แต่ทราบเรื่องก่อนหน้านี้ เกี่ยวกับเรื่องแหวน การขอกัน แต่มันก็ผ่านมาสักพักแล้ว บูมก็ไม่รู้ว่าม้นจะเกิดขึ้นหรือเปล่า พีก็เคยมาปรึกษาบ้าง ถามว่าจะขอแพทแต่งงานแบบนี้ๆ ดีไหม เราก็ไม่สามารถบอกว่าขอเลยๆ ก็ไม่ใช่ เราก็เลยบอกว่าแล้วแต่ เอาที่ใจเรารู้สึก เพราะความรักมันคือความรู้สึกของเขา แต่ถ้าเขาบอกว่าพี่บูมช่วยมาเป็นสักขีพยานรักให้หน่อย พี่บูมช่วยมาอยู่ในเหตุการณ์ตรงนี้หน่อย เราก็พร้อมเต็มที่ แต่เขาไปอิตาลีค่ะ ไปทำงาน
ถามว่าพีคู่ควรกับเพื่อนเราไหม คู่ควรค่ะ อย่างที่บูมบอกไป น้องเป็นคนที่น่ารักเสมอต้นเสมอปลาย ทำมาหากินช่วยกันกับแพท และรักแพทในรูปแบบที่แพทเป็น และรักเรซ ดูแลเรซ ดังนั้นบูมว่ามันก็พอแล้วนะ เพราะพอถึงวัยนึงบูมว่าคนเรามันก็ไม่ได้ต้องการอะไรมากแบบเว่อร์วังขนาดนั้น แต่สุดท้ายต้องการความสบายใจ พีมีสิ่งที่จะสามารถดูแลแพทได้ เพราะถ้าไม่มี แพทไม่เซย์เยสค่ะ ทุกวันนี้แพทเขาก็มีความสุข พีออกรายการบูมทุกวัน พามาทุกวัน เขาดูแลซึ่งกันและกันดี รักเอย”
เผยมีคนคุยแล้ว แต่ไม่อยากเปิดเผย เพราะคนละสายงานกัน
“ก็ดีค่ะ เรื่อยๆ มีความสุขในทุกๆ วัน ถามว่ามีคนคุยไหม ก็มีค่ะ แต่เราไม่ได้อยากเปิดตัว เพราะบูมไม่ได้รู้สึกว่ารักครั้งนี้เราจะไปกันได้ไกลขนาดไหน และยังไม่รู้ว่าเขามั่นใจในตัวเราเหรอ เรามั่นใจในตัวเขาเหรอ มันไม่ใช่ว่าพอเปิดแล้ววันนึงเราเลิกกัน เราเข้ามาดูแล้วต้องมาลบภาพ หรือเราต้องมานั่งดูภาพอดีต บูมรู้สึกว่ามันไม่จำเป็น เขาเป็นนักธุรกิจ ส่วนตัวบูมอยู่ตรงนี้ก็อาจจะคนละสายงานกัน แล้วบางทีเขาไปประชุมงาน ไปคุยกับลูกค้า แล้วมีคนเรียก เฮ้ย แฟนบูมหรืออะไรแบบนั้น มันก็ต้องให้เกียรติเขาด้วย เพราะด้วยสายงานที่ต่างกัน
คุยกันมานานแล้วค่ะ แต่บูมไม่เคยปิดว่าไม่มีแฟน โสด หรืออะไร ก็คุยกัน ศึกษากัน เป็นแฟนกัน แต่ไม่ได้หมายความว่าเธอต้องเป็นของฉัน เธอห้ามไปคุยกับคนอื่น ณ วันนี้บูมก็พูดมาตลอดตั้งแต่ที่คบกันว่าถ้าสมมติเจอใครที่มันใช่กว่า หรือว่าอยากจะไปจากฉัน เธอไม่ได้รู้สึกว่าฉันเป็นเป้าหมายในชีวิตเธอตอนจบ เธอก็สามารถที่จะเดินออกไปและไปคุยกับเขาได้ รู้สึกว่ามันก็แฟร์ เพราะตัวบูมเองก็คิดว่าถ้าวันนึงบูมเจอใครสักคนที่ถูกจริตเรา เราก็ต้องเคารพทางเขา ที่เราจะอยู่กับคนที่เรารู้สึกเราอยู่กับคนอื่นดีกว่า มันก็ไม่ใช่ ดังนั้นก็เป็นความสัมพันธ์แบบแฟร์ๆ มากกว่าที่บูมอาจจะไม่ได้หวานเจี๊ยบขนาดนั้น แต่ก็แฮปปี้ดีค่ะ”
ยันยังไม่มีข่าวดีเร็วๆ นี้ อยากให้พร้อมและมั่นใจทั้งคู่ก่อน
“ข่าวดียังไม่น่าจะค่ะ ให้แพทไปก่อนเลย ไม่รีบค่ะ บูมว่ามันต้องคิดอะไรหลายๆ อย่างนะ ด้วยเป้าหมายในชีวิตของเราว่าเหมือนกันไหม และความพร้อมของแต่ละคนคืออะไร พร้อมทั้งคู่ พร้อมของคุณกับพร้อมของฉันมันเหมือนกันหรือเปล่า คือมันต้องหลายๆ อย่างค่ะ บางคนอาจจะบอกว่าคิดเยอะ แต่ถ้าไม่คิดสุดท้ายแล้วยังไง มันเสียดายหลายๆ อย่างนะคะ เสียดายทั้งโอกาสของตัวเขา โอกาสของตัวเรา ทรัพย์สินเงินทองที่เขาต้องมาจัดงานทำอะไรอีก
ก็อยากให้วันนึงที่ทุกอย่างมันเต็มอิ่ม มันเติมเต็มซึ่งกันและกัน และมันถึงวันที่เราต้องการที่จะจับมือเดินต่อไปอีกประตูนึงด้วยกัน วันนั้นก็คือเป็นวันนั้น แต่ถามว่าจะรีบวิ่งเพื่อไปประตูไหม มันอาจจะล้มก่อนที่เราจะถึงประตูก็ได้”
