ได้เวลาส่งดาวกลับฟ้า หลังจาก “หญิง จุฬาลักษณ์ อิสมาโลน”อดีตเซ็กซี่สตาร์วงการบันเทิงไทย เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งเต้านม เมื่อเวลา 02.50 น. ของวันที่ 16 มกราคม 2567 ที่ผ่านมา โดยครอบครัวได้นำร่างมาทำพิธีทางศาสนาที่ศาลา 8 วัดศิริพงษ์ธรรมนิมิต ซอยวัชรพล เขตบางเขน กทม. และได้มีพิธีฌาปนกิจ วันนี้ (23 มกราคม) เวลา 17.00 น.
บรรยากาศในงานเต็มไปด้วยความโศกเศร้า มีครอบครัวและญาติสนิท รวมถึงเพื่อนชาวต่างชาติและคนในวงการบันเทิง อย่าง “โยโกะ ทาคาโน่” และ “โจอี้ กาน่า” เดินทางมาร่วมส่งดวงวิญญาณหญิงเป็นครั้งสุดท้าย ซึ่งภายในงานมีการรวบรวมผลงานในอดีต รวมทั้งภาพในโมเมนต์ต่างๆ ของหญิง มาเปิดให้ชมผ่านจอ LED และจอมอนิเตอร์ เพื่อเป็นการระลึกนึกถึงช่วงเวลาที่งดงามของอดีตนักแสดงผู้ล่วงลับ
จากนั้นเวลา 15.40 น. เป็นพิธีเคลื่อนศพเวียนเมรุ โดยมี “เดวิด อิสมาโลน”สามีชาวฝรั่งเศสของหญิงเป็นผู้ถือกระถางธูป ซึ่งในระหว่างขึ้นไปทอดผ้าบังสุกุล คุณแม่ของหญิงได้สะอื้นไห้ออกมาด้วยความอาลัยรักต่อลูกสาว เป็นภาพที่บีบหัวใจเป็นอย่างมาก ด้าน “น้องแองจี้ แองจิลิน่า อิสมาโลน”ลูกสาวคนเดียวของหญิงได้ทำหน้าที่แจกของชำร่วยให้กับแขกเหรื่อในงาน ทำเพื่อคุณแม่อย่างเข้มแข็ง
หลังจากเสร็จสิ้นพิธีการฌาปนกิจ นักแสดงและตลกชื่อดัง “โจอี้ กาน่า” ซึ่งเป็นเพื่อนกับ “เดวิด” สามีของหญิงมา 20 ปี ได้เปิดใจว่าจะพยายามไปเยี่ยมให้กำลังใจเดวิดบ่อยๆ อีกฝ่ายพยายามจะอยู่เมืองไทยต่อให้ได้แม้ภรรยาจะจากไปแล้ว โดยในระหว่างที่สื่อมวลชนกำลังสัมภาษณ์โจอี้อยู่นั้น โจอี้ได้เรียกเดวิดเข้ามาในวงสัมภาษณ์ก่อนจะเผยความรู้สึกสั้นๆ ว่า ตนไม่ได้เข้มแข็ง หญิงเข้มแข็งกว่า พร้อมยกมือไหว้ขอบคุณ และเดินกลับไปดูแลแขกเหรื่อในงานต่อ
“คุยกับเพื่อนๆ ว่าเราจะไปหาเขาก่อน เพราะเขาเป็นคนเงียบๆ ไม่ค่อยคุยอยู่แล้ว ถ้าไม่ใช่เรื่องงาน ส่วนใหญ่แล้วจะเจอกัน ปาร์ตี้กันกับเพื่อนๆ ที่เป็นต่างชาติที่อยู่ในประเทศไทย จะมานั่งคุยกันว่าจำได้ไหม ที่เราวิ่งแคสงานเอ็กซ์ตร้า 1,000 บาทก็หาวิ่งงานกัน ก็เป็นเพื่อนที่เราเคยร่วมงานหลายครั้ง”
เผย “เดวิด” เป็นคนเงียบๆ ไม่ค่อยพูด
“เขาเป็นคนเงียบๆ ไม่ค่อยพูด มีแต่แฟนเขาเรียก ฮันนี่ๆ เบบี๋ๆ เขาไม่ค่อยพูดอะไร หรือถ้าเอาอะไรมาให้ เขาก็จะโอเค ครับๆ เขาเป็นคนแบบนี้ แต่ถ้าอยู่กับเพื่อน พูดภาษาฝรั่งเศส ภาษาอังกฤษมันก็จะพลิ้ว ส่วนใหญ่จะเป็นแนวนี้ แต่ถ้าเป็นเรื่องงานเขาก็จริงจัง เขาเป็นคนเงียบมาก ถ้าคนไม่รู้จักเขาอาจจะคิดว่าหยิ่ง แต่เขาไม่ได้หยิ่งครับ เขาเป็นแบบนี้”
เท่าที่ทราบครอบครัวจะอยู่ที่ไทยเหมือนเดิม เพราะ “น้องแองจี้” กำลังมีอนาคตที่ดี เป็นนักกีฬาไอซ์สเก็ตทีมชาติ
“ที่คุยเมื่อวันศุกร์นะครับ เขาบอกว่าจะพยายามอยู่ เพราะตอนนี้โชคดีที่ลูกสาวติดกีฬาไอซ์สเก็ตทีมชาติไทย เพราะฉะนั้นการย้ายลูกไป มันไม่ใช่ความคิดที่ดี อยู่ที่นี่ก็ได้รับใช้ชาติ กำลังมีอนาคตที่ดี เป็นสิ่งที่แม่เขาเสียดายมาก เพราะแม่อยากเห็นลูก ตอนน้องแองจี้ไปซ้อม ผมก็ไป 2-3 ครั้ง เวลามีแข่งเล็กๆ เขาก็จะบอกเรา เราก็ไปให้กำลังใจเด็กคนนี้ เขาจริงจังตั้งใจทำงาน ไม่น่าเชื่อว่าแม่จะไม่ได้เห็นวันที่ลูกรับเหรียญ ตอนนี้เดวิดก็ต้องพาลูกไปต่อให้ได้ครับ เพราะฉะนั้นเขาต้องอยู่ที่นี่ให้ได้”
“น้องแองจี้” ไม่ค่อยพูด ได้นิสัยพ่อมาเต็มๆ
“ระหว่างพ่อกับแม่ ผมคิดว่าแองจี้เขาได้นิสัยพ่อมามากกว่า เขาเป็นเด็กเงียบๆ มาก เงียบเหมือนพ่อจริงๆ ถ้าไม่ใช่กับเพื่อนนะ เขาจะไม่พูด แต่แม่เขาเฟรนด์ลี่มาก พยายามให้ลูกรู้จัก ให้มีอัธยาศัยดี เป็นศิลปินยิ้มแย้มแจ่มใส ถ้าสังเกตดูหน้าลูกสาวเนี่ย เขาไม่ได้จะยิ้มง่ายๆ นะ เขาได้นิสัยพ่อ ไม่ใช่ว่าน้องหยิ่ง”
จากนี้จะไปเยี่ยม “เดวิด” บ่อยๆ เชื่อพ่อลูกจะเข้มแข็ง มีกำลังใจดี
“ก็จะพยายามไปเยี่ยมพ่อเขา แล้วก็จะให้กำลังใจเต็มที่ ไม่รู้จะพูดยังไง เพราะความสูญเสียไม่มีใครอยากให้มันเกิดขึ้น แต่ทุกคนต้องเจอ ในเมื่อเจอแล้วก็เป็นตัวอย่างกับคนที่เหลืออยู่ ก็ต้องเป็นกำลังใจให้ อยากให้แองจี้มีกำลังใจ เข้มแข็ง เชื่อว่าเขาทำได้ครับ”
