“เข้ม หัสวีร์” เผยผ่าตัดยกห้องเครื่องออกไปแล้ว หลังคุณแม่ตรวจพบเนื้องอกในมดลูก ลั่นทุกอย่างไม่น่าห่วง แต่ต้องลุ้นฮอร์โมนช่วงวัยทอง แม่บอกฟาดเคราะห์ก่อนรวย รับมูทุกที่ตาม “หนิง ปณิตา หิรัญพัฒนา” แต่หลังๆ ชักน้อยใจแล้ว
เรียกว่าได้ยกเครื่องใหม่ ตรวจร่างกายชุดใหญ่ หลังจากที่คุณแม่ของ “เข้ม หัสวีร์ ภัคพงษ์ไพศาล” พระเอกช่อง 7 ตรวจพบว่าเป็นเนื้องอกในมดลูก และตอนนี้ได้ทำการผ่าตัดออกไปเรียบร้อยแล้ว โดยเข้มเผยว่าคุณแม่กำลังใจดี พร้อมเผยอาการก่อนเจอก้อนเนื้อ กินน้ำน้อย ปัสสาวะยาก
“คุณแม่ผ่าตัดมดลูกครับ จริงๆ ตรวจเจอเนื้องอกในรังไข่ ตอนแรกตรวจเจอ 2 ก้อน แล้วพอผ่าจริงๆ เจออีกก้อนนึง เป็นพังผืด มันก็จะผ่ายากกว่าปกติ แต่ผ่าแล้วก็ไม่อันตรายหรอกครับ ตอนแรกไม่รู้มาก่อนว่าเป็น แต่พอตรวจก็เจอ ก่อนหน้านั้นน้องสาวคุณแม่ตรวจเจอก่อน เจอซีสต์ เจอก้อนเนื้อ เจอเนื้องอก น่าจะ 11 ก้อนครับ ปะปนกัน ทีนี้แม่พาน้องสาวไป เขาก็เลยตรวจด้วย พอตรวจก็เจอ
ถามว่าคุณแม่มีอาการมาก่อนไหม จริงๆ แม่ปัสสาวะยาก จะฉี่ทีต้องกดท้อง ตอนแรกก็คิดว่าเป็นอุจจาระ เพราะแม่เป็นคนไม่ค่อยถ่ายท้อง แม่เป็นคนท้องผูก แต่พอตรวจไปตรวจมาก็เป็นก้อนเนื้อ จริงๆ แม่แทบจะไม่มีอาการอะไรเลยครับ ใช้ชีวิตปกติ แค่บางทีกินน้ำน้อย แต่พอไปตรวจก็เจอ”
ผ่าตัดออกแล้วทั้งยวง แต่ยังต้องลุ้นฮอร์โมนวัยทอง
“ไม่มีแล้วครับ เพราะว่าเขายกห้องเครื่องออกหมดแล้ว พวกรังไข่ หมอเรียกห้องเครื่อง ก็ผ่าห้องเครื่องออกไปแล้ว ก็ไม่น่าจะมีอะไรแล้วครับ ไม่มีประจำเดือนแล้วด้วย ไม่มีอะไรเลย ก็มาลุ้นกันว่าฮอร์โมนแม่จะเป็นยังไง บางทีมันก็เสี่ยงในเรื่องของฮอร์โมนวัยทอง คือแม่เป็นคนทำอะไรเร็วๆ เป็นคนปรี๊ดง่าย หายเร็ว แต่ถ้าเกิดตัดออกไปพร้อมกันในเรื่องของฮอร์โมนและเรื่องของความปรี๊ดก็น่าจะดี ก็จะดีกับผมครับ เพราะบางทีปุ๊บปั๊บๆ ก็จะตั้งตัวไม่ทัน แต่ช่วงที่แม่ผ่าตัดเป็นช่วงที่เอาคืนได้ดีที่สุด เพราะเราจะแกล้งได้เต็มที่มากขึ้น เพราะแม่ไม่มีแรงด่า แต่ถ้าแรงกว่าเดิมก็ต้องอยู่ให้ห่างมือ ห่างไม้ไว้ แต่ผมว่าน่าจะดี เพราะดูสีหน้าแล้วน่าจะดีเลยแหละครับ
ผมไปถ่ายละคร พี่สาวก็ไปเฝ้าแม่ แล้วผมก็ตีรถจากสระบุรีเข้ามาหาแม่ แต่จริงๆ แม่แข็งแรงมากๆ ทำงานยกของที่บ้านปกติเลย เดิน วิ่ง ผมพาไปวิ่ง ไปปั่นจักรยานเป็นเรื่องปกติ แข็งแรงมาก แต่แม่บอกว่าถ้ามันผ่าแล้วหายก็อยากจะผ่าให้มันจบ ฟาดเคราะห์เพราะปีนี้แกไปดูดวงมาแล้วว่าปีนี้แกจะรวย รวยจากใคร ก็รวยจากลูก ลูกก็ทำงาน ผมก็ชอบแหย่แม่ ไม่อย่างนั้นมันจะเหงา เหมือนขาดอะไรไป ให้แม่บ่นดีแล้ว
ถามว่ากำลังใจแม่เป็นยังไง แม่ไม่ให้ผมไปเฝ้า เพราะกลัวว่าตัวเองจะขำและแผลจะฉีก คือมองตานิดนึงแม่ก็ขำแล้ว แต่พอไปเยี่ยมแม่ แม่ก็ตด มันเป็นแก๊ส แกก็จะเดินมาหาและตดให้ฟัง แต่มันเป็นแก๊สไม่มีกลิ่น ถามว่าห่วงสุขภาพมากขึ้นไหม จริงๆ มีน้าที่ผ่าก่อน พอเห็นว่าผ่าแล้วดี แม่ก็ไม่ได้มีความกลัวหรือสิ่งที่ต้องทำให้ตัวเองเป็นกังวล และการผ่าครั้งนี้มันตรวจทุกอย่างในร่างกายเลย ทั้งลำไส้ ทั้งเลือด ทุกอย่างจริงๆ รอบนี้ก็เหมือนถ่ายทุกอย่างออกจากร่างกาย และตรวจว่ามีเสี่ยงในเรื่องอะไรอีกไหม ปรากฎว่าไม่มี”
เป็นความรู้ใหม่ ลำไส้กับมดลูกไม่ใช่อันเดียวกัน
“มันมีหลายปัจจัยมาก จริงๆ หมอบอกว่าผู้หญิงทุกคนน่าจะมีกันทุกคน ไม่ต้องเป็นห่วงเลย มันเป็นเรื่องธรรมดา ผมเข้าใจว่าลำไส้กับมดลูกคืออันเดียวกัน แต่จริงๆ มันอยู่คนละส่วนกัน ก็งงว่าลำไส้พอเอาออกแล้วอยู่ยังไง แต่มันอยู่คนละส่วนกัน ตอนนี้แข็งแรงดีแล้วครับ ก็ถือเป็นความรู้ใหม่”
โหมงานมากขึ้น เพราะทุกอย่างลงตัว เล็งทำธุรกิจ
“มากเป็นปกติครับ แต่ถ้ามีอะไรเพิ่มขึ้นก็จะดีครับ ปีนี้ตั้งใจว่าจะทำงานให้เต็มที่ จะทำงานให้มากขึ้นกว่าปีที่แล้ว เพราะอะไรมันเริ่มจะลงตัวมากขึ้น การวางแผนในเรื่องของเวลา การจัดการมันดีขึ้นก็จะทำงานให้เต็มที่ในปีนี้ ปีนี้อยากทำธุรกิจครับ ตอนนี้ก็ปรึกษาพี่ๆ หลายคนที่อยากจะทำหลายๆ อย่าง ใครที่ชวนทำอะไรก็ศึกษาแล้วก็ร่วมทำกับพี่ๆ เริ่มอยากทำธุรกิจ”
มูทุกที่ตาม “หนิง ปณิตา หิรัญพัฒนา” แต่หลังๆ ชักน้อยใจแล้ว
“มูครับ ไปทุกที่ก็ขอทุกที่ครับ ส่วนใหญ่ขอเรื่องงานครับ ของานน้อยๆ เงินเยอะๆ งานสบาย แต่ขอเงินใหญ่ๆ ทำน้อยได้เยอะ จริงๆ หลังจากที่ไปงานพี่ก้องมา งานก็เหมือนเข้ามาเยอะเลย งานอย่างพวกกาแฟ พวกเครื่องดื่มเข้ามาติดต่อเยอะเหมือนกัน ช่วงนี้พี่หนิงธุรกิจเขารุ่งเรืองมาก เขาไม่ค่อยได้พาไปมูแล้ว ก็น้อยใจนะ บางทีเขาจะพาทีมงานเซรั่มของเขาไปเที่ยวต่างประเทศ ไปหลายประเทศ เดี๋ยวมีแพลนไปอีกแล้ว ลูกๆ ก็จะเริ่มห่างแล้ว ลูกก็จะห่างนมแล้ว (เสียงเศร้า)
เราก็ไม่ได้บอกเขาครับ แต่แสดงอาการ ไม่ค่อยได้ทักไป เพราะให้แม่เต็มที่กับการทำงานของตัวเอง แต่ก็น่าจะรู้แหละ 2-3 วันหลังจากที่กลับมาจากต่างประเทศ เขาก็ทักมาบ่อย แต่เดี๋ยวรอเจอค่อยบอกว่าผมงอน แม่ครับขอเวลาสักนิดนึงให้ลูกๆ บ้างนะครับ มากินข้าวกันครับ มาปาร์ตี้กันบ้างครับ”