xs
xsm
sm
md
lg

“อเล็กซ์ เรนเดลล์” ยังอยู่ช่อง 3 นับเป็นบ้านอยู่มาตั้งแต่ 8 ขวบ ความรักแฮปปี้ คุยอนาคตแล้ว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“อเล็กซ์ เรนเดลล์” ฉลองวันเกิดแบบเรียบง่ายแต่อบอุ่น อยากให้เป็นปีที่แข็งแรงขึ้น หลังทำงานหนักจนต้องพักร่างกาย เผยสัญญาช่อง 3 ยังไม่หมดเร็วๆ นี้ อยากเล่นบทใหม่ที่ท้าทายมากขึ้น อัปเดตรักแฮปปี้ มีคุยเรื่องอนาคตแล้ว แต่ให้เป็นไปตามระบบและมารยาทของสองครอบครัว 

เป็นอีกหนึ่งนักแสดงมากความสามารถ ที่โลดแล่นอยู่ในวงการมาตั้งแต่เด็กๆ สำหรับหนุ่ม “อเล็กซ์ เรนเดลล์” ที่เพิ่งจะฉลองอายุครบ 34 ปีไปเมื่อวันที่ 9 มกราคมที่ผ่านมา ล่าสุดเมื่อวานนี้ (19 ม.ค.) ได้เจอ อเล็กซ์ ในงานแถลงข่าวเปิดตัวบัตรเครดิต ยูโอบี คริสฟลายเออร์ (UOB Krisflyer) บรรดาสื่อมวลชนก็เลยขอแฮปปี้เบิร์ธเดย์ย้อนหลังให้เจ้าตัว พร้อมอัปเดตถึงสัญญากับช่อง 3 หลังเพื่อนๆ หลายคนทยอยออกไปเป็นนักแสดงอิสระกันหมดแล้ว

“ขอบคุณมากครับ อายุ 34 ปีแล้ว ถามว่าเขินไหมเข้าสู่ตัวเลขนี้แล้ว ก็ไม่เท่าไหร่ จริงๆ ชอบ ทุกๆ ปีจะรู้สึกว่าอายุ 34 ปี ปีที่แล้วอายุ 33 ก็เป็นไปตามวัย ไม่ได้พยายามจะทำตัวให้เด็กลง หรือทำตัวให้อายุมากกว่าความเป็นจริง ธรรมชาติเนอะ เราอายุเท่าไหร่ก็อายุเท่านั้นไปเรื่อยๆ สะสมประสบการณ์ไปเรื่อยๆ หลายคนพอเลข 3 ไม่อยากนับแล้ว แต่ผมเฉยๆ บางคนคิดว่าอายุ 30 คืออายุเยอะแล้ว แต่สำหรับผมด้วยชีวิตหลายอย่างมันยังเริ่มต้นหลายอย่าง คนเรามีชีวิตวัยเด็ก วัยกลาง เพราะฉะนั้นเอ็นจอยไลฟ์ให้มากที่สุดครับ”

เป็นวันเกิดที่เรียบง่ายแต่อบอุ่น
“เอาจริงๆ ผมเกือบจะลืมวันเกิดของตัวเองด้วยซ้ำ ด้วยความที่เราทำงานหรือ เอ๊ะวันไหนนะ อ๋อกำลังจะถึงแล้ว ก็มีเบิร์ธเดย์กับที่บ้าน และวันนั้นบังเอิญเขียนเข้าไปในกรุ๊ปหาเพื่อนๆ ที่สนิทกัน ก็รวมตัวกันแค่นั้นเลย ไม่ได้คิดว่าเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่ แล้วยิ่งโต เบิร์ธเดย์มันก็ไม่ได้อะไรมาก เรียบง่าย เค้กก็น่ารักมากครับ พี่ๆ ที่เราทำงานด้วย ไม่ว่าจะเป็นที่ช่อง 3 สปอร์นเซอร์ต่างๆ ที่เราเป็นพรีเซ็นเตอร์ก็ส่งมา คอมเมนต์จากคนที่ไม่ได้คุยกันหลายปี ก็รู้สึกอบอุ่นมากครับ”

อยากให้เป็นอายุ 34 ปี ที่แข็งแรงมากขึ้น
“อายุ 34 ปี อยากได้สุขภาพที่แข็งแรงมากขึ้น อยากจะได้ เพราะว่าปีสองปีที่ผ่านมาผมทำงานหนัก และสุขภาพไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ปีนี้ก็จะให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ครับ ไม่เชิงเบางานลง แค่ให้คุ้มขึ้น ใช้หัวมากขึ้นไม่ใช่ใช้แรงอย่างเดียว”

มีช่วงหายไปรักษาสุขภาพ เพราะทำงานหนักเกินไป
“ใช่ครับ ผมมีปัญหานิดๆ หน่อยๆ แต่ไม่ได้เป็นอะไรมากขนาดนั้น แต่ใช้เวลาครับ มีเรื่องกล้ามเนื้อนิดหน่อยครับ เรื่องเอ็นฉีก ประมาณนี้ครับ ที่ต้องใช้เวลาอยู่เหมือนกัน รู้สึกว่าเราทำงานหนักประสบความสำเร็จ แต่ถ้าร่างกายไม่ดี สุดท้ายก็เท่านั้นครับ ก็รู้สึกว่ามันคุ้มไหม เราเป็นคนที่ทำทุกอย่าง แล้วพยายามทำเอง ก็ทำให้เต็มที่ที่สุดเท่าที่จะทำได้ ก็ฝืนร่างกายไปเรื่อยๆ พอมันเกิดเจ็บขึ้นมาก็กลับมาคิด ว่าต้องวางแผนดีกว่านี้หรือเปล่า ก็ให้ร่างกายมีลำดับความสำคัญมากกว่านี้ครับ”

ปรับการใช้ร่างกาย เพื่อให้มีแรงทำงานมากขึ้น
“ปรับเยอะครับ เสาร์-อาทิตย์ไปกับเพื่อนก็น้อยลง ไม่ถึงปาร์ตี้หรอก แต่ไปกับเพื่อนปีนี้ก็บอกไว้ว่าไปแค่วันนี้ๆ เท่านั้น แล้วพยายามนอน 5 ทุ่ม ตื่น 6 โมงทุกวัน ตื่นมาจะได้สดใส จะได้มีแรงทำงานมากขึ้น ก็เล็กๆ น้อยๆ ครับ ด้วยวัย 34 ถ้าใช้ชีวิตเหมือนเดิมก็จะแย่ลงครับ

สัญญาช่อง 3 ยังไม่หมดเร็วๆ นี้ แต่เลือกรับงานมากขึ้น อยากเล่นบทใหม่ๆ และท้าทาย
“ก็ยังเซ็นกับช่อง 3 อยู่ครับ ก็ยังไม่ได้หมดเร็วๆ นี้ แล้วเอาเข้าจริงๆ โดยส่วนตัวก็เป็นบ้านของเราเนอะ เราอยู่มาตั้งแต่ 8 ขวบ คงยากที่จะไปไหน แต่ในเวลาเดียวกันเราก็เลือกงานมากขึ้นแล้วก็ดูจังหวะที่เหมาะสมมากขึ้นครับ ใจก็อยากทำอะไรที่มัน คืออยากแสดงต่อไป อยากแสดงอะไรที่มันรู้สึกว่ามันใหม่ๆ มันท้าทายมากขึ้น 

อย่างละครตอนนี้ก็ไม่ได้มี เราก็รู้สึกว่าถ้าจะเล่นละครอีก ก็น่าจะต้องเป็นอะไรที่เรารู้สึกว่า เฮ้ย…มันใช่ เราอยากที่จะลองไปลุย บทมันโดน สภาพแวดล้อมมันมีความสุขในการทำงานเพราะมันไม่ได้เหมือนเมื่อก่อนแล้ว เราทำทั้งองค์กร 2 องค์กรที่เราบริหารของเราเอง เพราะฉะนั้นถ้าเราจะมีสิทธิ์ที่สามคือการเล่นละครควบคู่กันไป เราต้องแน่ใจว่าจังหวะอะไรหลายๆ อย่างมันลงตัวครับ”

มีละครติดต่อมาบ้าง แต่องค์กรของตัวเองกำลังไปได้ดี จะออกจากตรงนี้ได้ ต้องทำให้รู้สึกคุ้มค่าจริงๆ
“จริงๆ ไม่เยอะมากขนาดนั้น แต่ก็มีถามๆ มา ผมก็ค่อนข้างชัดเจน ว่าช่วงนี้ด้วยองค์กรที่เราทำก็ไปได้ด้วยดี ค่อนข้างที่จะแข็งแรงแล้ว เรามาทำยูทิวบ์ของเราด้วย ยูทิวบ์ก็เห็นหนทางอะไรหลายๆ อย่าง ที่เราทำแล้วรู้สึกว่าเราก็เป็นผู้จัด เป็นคนดูเอง ถ่ายทำที่บ้านเรา ออฟฟิศก็อยู่ติดบ้านเรา เราเหมือนมีโลกของเราอยู่ ถ้าใครจะดึงเราออกจากโลกนี้ มันต้องรู้สึกว่ามันคุ้มค่าจริงๆ”

อัปเดตรัก “เจนนี่” คุยเรื่องสร้างครอบครัวแล้ว แต่ยังมีหลายด่าน ที่ต้องเซ็ตให้ดีก่อน
“ตอนนี้ก็คิดๆ แล้วแต่ว่ายังมีหลายๆ ด่านที่รู้สึกว่าต้องเซ็ตให้ดีก่อน ความสัมพันธ์ก็ไปได้ด้วยดีครับ มีการพูดคุยกัน เขาก็เห็นตรงกัน ซึ่งด่านที่บอก ก็คือด่านตัวเราเองนี่แหละหลายๆ ด่าน ด่านงาน ด่านความพร้อม คือการแต่งงานมันไม่ใช่แค่คนสองคน แต่งไปก็จบมันก็จะต้องคิดถึง ถ้ามีลูกเราจะสามารถส่งเขาเรียนได้ไหม เราพร้อมกับสิ่งที่ตัวเองมีแล้วหรือยัง พร้อมที่จะมอบแรงของเราให้อีกคนได้จริงๆ หรือเปล่า 

มันก็รู้สึกว่ามันก็ใกล้ที่จะถึงตรงนั้นแล้วแหละ เพียงแต่ว่ายังอยากจะจัดการเรื่องงานอีกสักนิดหนึ่งครับ เขาเองก็เป็นคนทำงานเหมือนกัน ก็ทำงานค่อนข้างที่จะหนักเหมือนกัน คือผมน่าจะบ้างานกว่า แต่ผมริเริ่มอะไรมาเยอะ แล้วผมก็อยากจะทำมันให้ไปถึงจุดที่ไม่อยากให้มีอะไรที่จะมาทำให้ห่วง เราต้องมั่นใจว่า โหเราเริ่มมาเป็น 10 ปีแล้ว เราอยากให้มันเสร็จมากกว่านี้อีกสักนิดนึงแล้วค่อยดูครับ”

เชื่อตัวเองเป็นแฟมิลี่แมนคนหนึ่ง แต่เรื่องแต่งงานต้องไตร่ตรองให้ดี อยากให้ทุกอย่างเป็นไปตามระบบและมารยาทของสองครอบครัว
“เราก็ไม่อยากจะพูดหวานแหววอะไรมากมาย (หัวเราะ) คือรู้สึกว่าความหวานเราเก็บไว้เป็นของเราสองคนได้ (หัวเราะ) แต่ในแง่คืออายุก็เท่ากัน วัย 34 แล้ว เราก็เห็นทำค่าย เห็นเด็ก เห็นอะไร พี่ชายเราก็มีลูก เรารู้สึกว่าเราก็เป็นแฟมิลี่แมนคนหนึ่งแหละ ที่เรามองว่าวันข้างหน้าเราก็จะมีลูก 3-4 คน หรือ 2 คนอะไรแบบนี้ แล้วก็มีหลานมีลูกไปเที่ยวกันเยอะๆ อีก 10-20 ปีข้างหน้า ก็อยากจะมีภาพแบบนี้เหมือนกัน แต่ถ้าเราตัดสินใจด้วยความที่ไม่ได้คิดไตร่ตรองให้ดีก่อน ภาพตรงนั้นอาจจะไม่เกิดขึ้นก็ได้ เพราะฉะนั้นอยากให้ทุกอย่างเป็นไปตามระบบ และเป็นไปตามมารยาทของทั้งครอบครัวเราในหลายๆ อย่างด้วยครับ











กำลังโหลดความคิดเห็น