ยอมเปิดเผยเรื่องลับที่อยู่ในใจมาตลอดชีวิต สำหรับเซเลบสาวห้าว "ป๋าต๊อบ ปฏิญญา ควรตระกูล" สามีของอดีตเซ็กซี่สตาร์สาว "ปีใหม่ สุมนต์รัตน์ วัฒนาเศลารัตน์" ที่ผ่านเรื่องราวดรามามามากมาย ล่าสุดเล่าครั้งแรกกับอดีตอันเจ็บปวด ผ่านรายการโต๊ะหนูแหม่ม กับพิธีกรตัวแม่ "หนูแหม่ม สุริวิภา กุลตังวัฒนา" ถึงสาเหตุการตกอยู่ในวังวนยาเสพติดกว่า 30 ปี และปมบาดแผลถูกคนขับรถข่มขืนจนต้องยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด
แต่ ณ จุดนี้ได้กำลังใจที่ดีจากหวานใจ ปีใหม่ เลิกขาดสารเสพติด และค้นพบวิธีการรักษาเยียวยาจิตใจ บำบัดเรื่องราวในอดีตคลายปมด้วยการใช้เสียงบำบัด จนผันตัวใช้ศาสตร์นี้ส่งต่อช่วยเหลือคนที่อยากจะบำบัดจิตใจ หรือลบอดีตอันแสนเจ็บปวดอีกด้วย
เลิกยาเสพติดมาได้ 13 ปี ปีนี้เข้าสู่ปีที่ 14 แล้วที่หลุดจากตรงนั้นมาได้?
"ทุกวันนี้ยังสงสัยเลยว่าผ่านมาได้ยังไง เราผ่านจากนรกนั้นมาได้ เลิกแล้วหมดเลยไม่มีเหลืออะไรเลย เดี๋ยวนี้เรารู้แล้วว่าเราเลือกที่จะไม่หยิบมันมาก็ได้ ไม่ใช้มันก็ได้ เราไม่โฟกัสมันตรงนั้น"
ชีวิตตอนนี้ต่างจากอดีตยังไงบ้างที่เลิกมาได้?
"เมื่อก่อนเราออกจากห้องน้ำยังไม่ได้ ไม่รู้มันเป็นยังไง การเสพติดมันชอบดึงเราไปในที่ที่มันสกปรก ก็จะติดแต่ในห้องน้ำ บ้านจะดูดีแค่ไหนก็ไม่รู้ แต่ว่าก็จะติดอยู่แต่ในห้องน้ำ จะไปเที่ยวที่ไหนผับดีๆ แต่ก็เป็นไรไม่รู้ก็จะนั่งแต่ตรงใกล้ห้องน้ำ เพราะว่ามันต้องสะดวกกับการไปใช้ยา ออกจากห้องน้ำไม่ได้เลยครับ"
ย้อนไปในอดีตเริ่มต้นใช้ยาตั้งแต่อายุเท่าไร?
"ก่อนปี1999 ก่อนปีY2K ตอนเด็กๆ เราก็เคยชอบสูบกัญชามาก่อน เราประมาทตั้งแต่เด็กเพราะว่ากัญชาคิดว่าสูบแล้วมันดี รู้สึกว่าล่องลอย กินขนมเก่ง แล้วหัวเราะเยอะ อยู่กับเพื่อนๆ คิดว่าเท่ส่วนนึง แต่ว่าตอนนั้นยังไม่ได้ใช้เพราะว่าต้องการหนีอะไร"
เสพเยอะขนาดนั้นไม่กลัวตายหรอ?
"ไม่กลัวตายครับ อยากตายมากเลยครับ อยากให้มันตายไปซะในเมื่อมันหยุดไม่ได้ แพ้มันทุกวัน แพ้ใจตัวเองทุกวัน เคยหัวใจวาย หัวใจหยุดเต้นครั้งหนึ่ง แล้วก็มีการกระตุกของหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ แรกๆ ทุกคนตกใจพาไปโรงพยาบาล หลังๆ คือไม่ได้เข้าแล้วเป็นบ่อยมาก เคยชักต่อหน้าแม่ด้วย โห.. ทำแม่แย่มากทำแม่เสียใจ แต่เราเองเสียใจมากกว่าแม่อีก พอฟื้นขึ้นมาสาบานเลยนะ จากใจของคนติดยาคืออยากเลิกมาก เราไม่รู้ว่าความสุขของมันคืออะไรแต่ว่าเราอยากได้มัน อยากเลิกตลอดเวลาแต่ว่ามันทำไม่ได้ ทุกครั้งที่ดูดเข้าไปเราจะบอกตัวเองว่าพอแล้วนะ"
คนรอบข้างให้กำลังใจให้ผ่านมายังไงบ้าง?
"เราลำบากใจมากเลย คนรอบข้างทุกข์มากโดยเฉพาะแม่ จนไม่กล้ามองหน้าแม่ และเราเองก็ปฏิเสธความจริงลงไปทุกเรื่อง ส่วนเด็กในบ้านที่เขาต้องไขกุญแจเปิดมาหาเราทุกวัน เราไม่เคยคิดเห็นใจเขาเลยถ้าเกิดเขาเปิดมาเห็นนายเขาตาย แล้วเขาจะตกงานไหม แล้วพ่อกับแม่เราจะจัดการยังไงกับเขา"
แล้วกับคู่ชีวิตอย่าง “ปีใหม่” จัดการยังไงกับเขา?
“เรามั่นใจ 100 เปอร์เซ็นต์ว่าความรักจะทำให้เราเลิกยาได้ เรารักปีใหม่มากพอ พอที่จะเลิกยาได้ ความคิดนี้เราคิดว่าทำได้เพราะเราติดเป็นนิสัย จนเป็นอุปนิสัย เราคิดว่าสิ่งรอบกายจะมาช่วยเปลี่ยนภายในจิตใจเราได้ ความรักน่าจะทำให้เราเลิก ชื่อเสียงได้ทำให้เราเลิก คำชมต่างๆ จะมาถมหลุมดำใหญ่ๆ แต่มันช่วยไม่ได้เลย
ปีใหม่มาอยู่กับเรา 3-4 เดือนแรก เราไม่อยากใช้ยาเลยนะ เราคิดว่าทำได้แล้วมันทำได้ เพราะตอนที่ปีใหม่มาอยู่มันสดใสมาก แต่ความอยากมันก็เอาชนะใจตัวเองไม่ได้ แค่วูบเดียวที่ปีใหม่ไปทำงานก็คิดว่าขอสูบแป๊บเดียว แต่ทำไม่ได้สุดท้ายปีใหม่ก็ตกไปในอยู่ในหลุมดำของเราด้วย"
ตอนนั้นพากันตกอยู่ในสถานการณ์ไหน?
"ตอนที่ปีใหม่หยิบขึ้นมาสูบครั้งแรก ใจเราหล่นไปอยู่ที่เท้า ตอนนั้นใครมายิงเรา เราก็ไม่ตาย ใจมันอยู่ที่เท้า รู้แล้วว่านรกมา มันเป็นเรื่องที่แย่จริงๆ จากผู้หญิงสดใส เราชอบเขาเพราะว่าความสดใสเสียงหัวเราะของเขา แป๊บเดียวหายไปหมดทุกอย่าง
เขาสูบมันไป 2-3 อาทิตย์ เขากลายเป็นคนขี้ระแวง ขี้หงุดหงิดหาเรื่องได้ทุกเรื่อง ทะเลาะกันตลอดเวลาทำอะไรร้ายๆ กับเรา ชวนเราสงสัยว่าคนสดใสหรือว่าตัวแสบมันคือเขา ทำไมถึงแสบกับเราขนาดนี้"
30 ปี ที่อยู่กับการเสพยาเสพติด มั่นใจขนาดไหนว่าจะเลิกได้?
"ไม่มั่นใจเลยครับ ไม่มั่นใจว่าจะทำได้"
แล้ว ป๊าต๊อบ เลือกวิธีไหนในการเลิกยา?
"เลือกวิธีการไปศูนย์บำบัด เลือกที่จะไปสมาคมผู้ติดยาเสพติดนิรนาม หรือ Narcotics Anonymous กว่าจะบำบัดได้แม่คงเบื่อมากเรื่องนี้ ทั้งไปหาหมอ ทั้งไปหาจิตแพทย์และไปหาหมอที่สมิติเวช ไปมาหมดแล้วเขาจับเรามัดอยู่กับเตียง ฉีดยานอนหลับให้ด้วย ก็ผ่านจุดนั้นมาแล้วแต่อะไรก็ไม่เคยหยุดได้
ที่มันผ่านมาได้เพราะเราคิดว่ามันมีความพอไง มันตกลงไปในจุดที่ต่ำที่สุด เราคิดว่ามันไม่ไหวแล้ว เราใช้ยาเสพติดไม่ได้แล้ว มันใช้แล้วมันไม่มีความสุขแล้ว และอีกอย่างเรามีชีวิตของผู้หญิงคนนึงที่เราไปขอเขาแต่งงาน มันคือคู่ชีวิตเราด้วยแล้วเราก็รักเขา"
ขอถามเหตุผลอะไรที่ทำให้จมอยู่กับยาเสพติดกว่า 30 ปึ?
"อย่างที่บอกไง ตอนแรกเราใช้เพราะสนุก ตอนหลังใช้เพราะต้องการที่จะหนีอะไรบางอย่าง เราหนีความจริง เราหนีอดีตของเราที่มีตั้งแต่เด็ก หนีความรู้สึกที่เราไม่รักตัวเอง ไม่ชอบตัวเองเลย เท่าที่จำได้นะน่าจะประมาณตอน 10 ขวบ คนขับรถเขาเห็นโอกาสที่จะทำร้ายเด็ก เขาขับรถรับส่งเราที่โรงเรียนและข่มขืนเราตั้งแต่เด็ก
เราไม่ได้บอกใคร แล้วไม่รู้จะบอกยังไง มันเป็นภาพที่หลอนมาก เป็นความรู้สึกของเด็กที่อยากจะบอกใครนะ แต่ไม่รู้จะบอกยังไง แล้วตอนนั้นคุณพ่อคุณแม่ค่อนข้างยุ่งมาก ต้องทำงาน ไม่ค่อยได้เจอกัน"
แล้วเส้นทางที่ทำให้เราดีขึ้น ฟื้นฟูใจตัวเองยังไง?
"เรียกว่าการใช้เสียงบำบัด หลายเสียง หลายโทนแล้วแต่จักระ แล้วแต่ต่อมไร้ท้อด้วย เขาช่วยบำบัดเราในหลายเรื่อง เขาไปบำบัดเราทางหู ทางน้ำ เข้าไปทางเส้นเลือด เข้าไปในเซลล์ เข้าไปอันบล็อกจักระต่างๆ”
ไม่ใช่แค่บำบัดตัวเองแต่เห็นว่าบำบัดคนอื่นได้ด้วย?
“ใช่ครับ เราบำบัดให้คนอื่นได้ด้วย สามารถมาหาได้ที่บ้าน ติดต่อมาได้ที่อินบ๊อกซ์เพจ The sacred pause หรือเบอร์ 065-329-4459 ตอนนี้ทำให้ที่บ้าน ทั้งหมดที่อย่างบอกว่าเสียงบำบัดอะไรได้ มันบำบัดความคิดนะครับ เพราะการป่วยมันมาจากความคิด ถ้าไม่คิดหรือหยุดคิด หยุดจิตปรุงแต่งซะบ้าง แล้วหาธรรมะ หรือธรรมชาติที่นั่งอยู่ในใจ และมาชนะใจตัวเองให้ได้ จะรู้ว่าไม่ได้ชนะใจตัวเองอย่างเดียว ชนะความคิด ชนะอารมณ์ ชนะทุกอย่าง หิริโอตัปปะ ชนะสัมผัสทุกด้าน รูป รส กลิ่น เสียง กิเลส ทุกอย่าง"