“ต้อม รชนีกร” เผยเพราะไทม์มิ่งปล่อยรูปหลังศัลยกรรม ทำโดนปลดพรีเซ็นเตอร์กลางอากาศ สูญเงินล้านไปแบบน่าเสียดาย จากไปไหนคนขอถ่ายรูป เปลี่ยนเป็นได้แต่คำปลอบใจแทน โอดเป็นศัลยกรรมครั้งแรกที่โดนวิจารณ์หนัก ตอนนี้ 2 เดือนยังไม่เข้าที่ ต้องรอ 3-6 เดือน ยังไม่มีแพลนทำเพิ่ม กลัวการดมยา รับเล่นละครทุกบท หาค่าเทอมให้ลูก ฝากลูกสาวคนสวย กำลังจะเดบิวต์เป็นนักร้องดูโอ้เดือนหน้า
ต้องเผชิญกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเลยทีเดียว สำหรับนักแสดงมากความสามารถ “ต้อม รชนีกร พันธุ์มณี” หลังตัดสินใจขึ้นเขียงศัลยกรรมหน้าใหม่ในวัย 52 ปี ด้วยการดึงหน้า ตัดกราม ทำจมูก และทำตา แต่กลับถูกปล่อยรูปตอนหน้ายังไม่เข้าที่ออกมาก่อน จนโดนโซเชียลบูลลี่ยับทำจิตตก ถึงขั้นร้องไห้เสียใจหนักกลางรายการ ล่าสุดวันนี้ (17 ม.ค.) ได้เจอ “ต้อม รัชนีกร” ในงานบวงสรวงละคร “มนต์รักลูกทุ่ง ๒๕๖๗” เจ้าตัวก็ได้ออกมาอัปเดตความสวยให้ดูกัน ว่าตอนนี้ก็ยังไม่เข้าที่ดี
“คิดว่าอีกนิดหนึ่งค่ะ เพราะยังบวมอยู่ ช่วงตา ช่วงโหนกแก้ม มันยังไม่เข้าที่หรอก ตอนนี้เอาจริงๆ นะ ถ้าเกิดว่าไทม์มิ่งในการปล่อย มันเหมือนดาราทั่วไปที่ทำ มันก็จะไม่กระทบมาก แต่ ณ ตอนนี้ที่มันกระทบมาก ก็คือเขาลงเร็วไปหน่อยแค่นั้นเอง มันเพิ่งออกจากห้องผ่าตัด มันเข้าที่ไม่ได้หรอก เราทำใจอยู่แล้ว ว่าการทำศัลยกรรมมันต้องรอ 3-6 เดือน ทุกอย่างมันต้องรอเวลา เราก็ไม่ได้เครียดกับตรงนั้น รู้อยู่แล้วว่าศัลยกรรมมันต้องบวม แต่ทุกคนมันต้องมีไทม์มิ่งของตัวเองค่ะ”
โดนยกเลิกพรีเซ็นเตอร์กลางอากาศ ทำสูญเงินก้อนใหญ่ เสียโอกาสในชีวิต
“ตอนแรกคือยังไม่ได้เครียด คือเรายังไม่ได้เห็น อาทิตย์แรกๆ ยังตาบอดอยู่ในห้อง ยังไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่เริ่มมาเครียดตรงที่ว่าเรามีงานที่รอรับอยู่แล้ว เป็นงานพรีเซ็นเตอร์ เขาบอกว่ามันมีรูปแบบนี้ออกไป มันเสียภาพลักษณ์ของผลิตภัณฑ์เขา เขาก็ยกเลิกกลางอากาศ สูญเงินไปก้อนใหญ่อยู่ อย่างที่รู้ว่าพรีเซ็นเตอร์ถ้าขึ้นบิลบอร์ด มันไม่ได้ราคาหลักหมื่นหลักแสน เพราะฉะนั้นการที่ไม่ได้บอกความจริง ว่ามันจะเป็นยังไง มันค่อนข้างกระทบกับเรา ถ้าบอกเราก่อนว่ามันจะเป็นอย่างนี้ เราก็จะไม่เสียโอกาสใดๆในชีวิต ก็ได้อธิบายค่ะ แต่เขาไม่ฟัง ถามว่าถามเขาไหม ว่าทำไมปล่อยรูปเร็วจัง …ก็ไม่รู้ ก็ใครๆ เขาก็โปรโมตแบบนี้กัน แต่ใครๆ ในที่นี้คือไม่มีดารานะ คือคนธรรมดา แต่เป็นอินฟลูฯ”
ความสวยแลกมากับการสูญเสียเงินล้าน คำทักเปลี่ยนจนเสียเซลฟ์
“ตรงนั้นมันก็ร่วมด้วย แล้วก็อีกตรงหนึ่ง เมื่อก่อนเวลาเราไปไหนก็จะโอ้ย คิดถึงจังเลย อยากถ่ายรูปด้วย สวยจังเลย แต่ตอนนี้หน้าใหม่โอเคแล้วนะคะ มันคือคำปลอบใจ แต่เราไม่ต้องการแบบนั้น แล้วแฟนคลับเราก็ไม่ต้องการที่จะเห็นเราเป็นแบบนั้น ถามย้อนกลับไปจะตัดสินใจทำอยู่ไหม เอาจริงๆ ก่อนหน้านั้นไม่ได้คิดที่จะทำ ตื๊อนานมาก จนทำก็ได้ จริงๆ แล้วถ้าเรากลับมาสู่จอเหมือนเดิม แฟนคลับเราก็ยังตามแหละ ไม่ว่าเป็นหน้าไหนเขาก็ตามอยู่แล้ว เพราะเขาชอบดูละครเรา อย่างเวลาไปข้างนอก เขารู้อยู่ว่าเจอรชนีกรแหละ แต่คำทักทายมันเปลี่ยนไป เลยทำให้เรามีความรู้สึกว่า เฮ้ย การทักทายแบบเดิมๆ มันดีกว่า คือถ้ามีคนมาถามว่าหน้าโอเคแล้วนะ ไม่แก่แล้ว คุณจะโอเคไหม มันไม่โอเคนะ”
เป็นการศัลยกรรมครั้งแรก ที่โดนวิจารณ์หนักขนาดนี้
“ใช่ แล้วมันเหมือนเป็นอะไรที่แบบ บางคนก็เอามาล้อ ซึ่งก็แล้วแต่ ก็เข้าใจในยุคสมัยแหละ แต่ก็ไม่มีใครเขาเคยทำกัน”
ไม่เคยพูดว่าหมอทำไม่ดี แต่จริงๆ เคสมันไม่ได้ซับซ้อนขนาดนั้น
“แม่ไม่ได้บอกเลยว่าเขาทำไม่ดี ไม่เคยพูดตั้งแต่วันแรก ไม่เคยพูดเลย ดีหมด แล้วก็สวย ถามว่าตั้งใจไหม เขาตั้งใจทำให้ คุณหมอก็ตั้งใจทำให้ รู้แหละแผลเป็นใดๆ ไม่มี คุณหมอทำเก่งจริง ไม่ได้ว่า ปัญหาก็ไม่ได้หนักมากขนาดที่บอกว่าไปทำมาซับซ้อน ไม่เคยทำ แม่แก้ครั้งเดียวในชีวิตนะ คือตอนอายุ 20 กว่า ยังไม่ 30 ด้วย แต่ที่บอกว่าซ้ำซ้อนก็ไม่ขนาดนั้น แต่ว่ามันก็ไปตามวัย อายุ 50 กว่าแล้ว มันก็มีหย่อนคล้อยตามธรรมดา เหมือนที่ทุกคนเขาก็ทำกัน อันนั้นแหละที่ทำให้เราคิดว่าทำก็ได้”
แฮปปี้คนมองว่าหน้าเด็กลง แต่ส่วนตัวก็ยังไม่ชินหน้าใหม่
“อันนี้ก็แฮปปี้แหละ แต่ถามว่าชินกับหน้าใหม่หรือยัง ก็ยังไม่ชิน กับการที่เราจะต้องแต่งงานทำผม แต่งตัวใหม่ แต่เดี๋ยวสักพักมันก็จะปรับตัวได้เอง คนข้างกายนางก็คงพยายามชิน (หัวเราะ) ไม่รู้ปลอบใจหรือเปล่า ทั้งลูกทั้งแฟนเลย ตื่นมาตอนเช้าก็ อุ้ย ใครเนี่ย ก็ไม่รู้ว่าใครเนี่ยของเขาคือสวยหรือไม่สวยวะ แต่แฟนเราเขาไม่เคยห้าม บอกว่าโอเค อะไรที่ทำแล้วสบายใจก็ทำ”
ยังไม่คิดทำตรงไหนเพิ่มอีก กลัวทุกครั้งที่ขึ้นเขียง
“เอาจริงๆ ยังไม่ได้คิด ก่อนหน้านั้นก็ไม่คิดว่าอยากจะทำ กลัวทุกครั้งที่ทำศัลยกรรม การดมยาคือคิดนะว่าจะตื่นไหม ยังมีสองหน่อต้องดูแลอยู่ นางกำลังจะเป็นสาวด้วย ส่วนอีกคนก็ยังไปไม่ถึงฝั่งเลย”
ยังรับละครทุกบท แม้คนจะมองว่าเล่นรันทดไม่ได้แล้ว เพราะหน้าดูแพงขึ้น
“ใช่เหรอ รันทดก็เล่นได้ รับหมด ค่าเทอมลูกคือเหนือสิ่งอื่นใด”
หน้าใหม่ยังไม่มีงาน เพราะคนไม่รู้ว่าดีขึ้นหรือยัง
“ตอนนี้ยังค่ะ เพราะบางคนก็ยังไม่รู้ ว่าเราดีขึ้นหรือยัง เขาก็เลยไม่กล้าติดต่อ แต่บางเจ้าก็ไม่รู้แหละ จะเป็นยังไงก็แล้วแต่ ถ้าเป็นรชนีกรก็เอา สภาพจิตใจก็ยังนอยด์ๆ อยู่แหละ แต่ไม่ร้องไห้แล้ว ที่ร้องตอนนั้นเพราะช่วงนั้นมันมีภาพบางภาพที่เรายังไม่คิด ว่าเราจะได้เห็นด้วยซ้ำ แล้วมาเห็นว่าตอนช่วงหลังแหละ มันรุนแรงไป ตอนนี้ก็จะ 2 เดือนแล้ว เขาบอกประมาณ 3 เดือนเข้าที่ (ทำมาแล้วโหงวเฮ้งเปลี่ยนไหม?)ไม่รู้ รู้แต่ว่าปีนี้ราศีพิจิกดี ก็โอเค”
ฝากลูกสาว “วีวี่ เวอร์โรนิก้า” เตรียมเดบิวต์ เป็นนักร้องดูโอ้
“ไหนๆ มาแล้วก็ฝากลูกสาวด้วยนะคะ ตอนนี้กำลังซ้อมเต้น แต่ลูกไม่ค่อยคุยกับเรา จะส่งไลน์มาด้วยภาษาแปลกๆ อย่าง ฝด ฝันดี เราก็บอกว่าเขียนเต็มๆ ก็ได้นะลูก กูโง่ (การสื่อสารมากขึ้นไหม พอเรารู้ความสามารถพิเศษเขา?) คือรู้แหละ แต่นางไม่ให้เจอ ไม่ให้เห็น ไม่บอก เราจะรู้จากคนรอบตัว ทีมงานจะแอบบอกว่าแม่ น้องทำอันนี้นะๆ แล้วก็ส่งไลน์มาให้ดูมากกว่า”
บอกลูกขี้อาย ไม่ชอบให้แม่ดัน แต่ลูกสวย ลูกเก่ง ฝากสนับสนุนด้วย
“ไม่ คิดว่านางเขิน นางขี้อาย (เดบิวต์กับค่ายไหน?) จำชื่อค่ายไม่ได้แล้ว แต่ร้องเพลงเป็นดูโอ้ มันต้องดังด้วยตัวเองอยู่แล้ว เพราะแม่ไปช่วยร้องเพลงไม่ได้ น่าจะเร็วๆ นี้ เดือนหน้า ถามว่าซัปพอร์ตลูกยังไงบ้าง ก็ไม่ได้ซัปพอร์ตเลย ลูกไม่ให้ (หัวเราะ) ไม่อนุญาตเลย ขนาดขอแค่ส่งคนไปดูแลแทนแม่ มันก็ไม่เอา มันหยิ่ง
แม่ภูมิใจ แต่นางไม่รู้หรอก ว่าอีแม่ภาคภูมิใจ นางก็จะเก็บทุกสิ่งอัน มันไม่พูดเลย ลูกฉันสวย ลูกฉันเก่ง ว้าย (หัวเราะ) ก็ฝากน้องด้วย น้องเป็นเด็กขี้เขิน ถ้าทุกคนช่วยสนับสนุน ช่วยให้กำลังใจ คิดว่านางคงทำได้”
