“ชาล็อต” ขอปกป้องตัวเอง เอาผิดเกรียนคีย์บอร์ด เป็นเคสตัวอย่าง โดนด่าแรง พ่อแม่เลี้ยงมาให้แรดร่า_ (คลิป)

“ชาล็อต ออสติน” แจ้งความเกรียนคีย์บอร์ด ทนมานาน 2 ปี ขอปกป้องตัวเองบ้าง โดนป่วน โดนด่าแรง พ่อแม่เลี้ยงมายังไงให้แรดร่า_ เอาผิดไป 6 ราย รอตำรวจไซเบอร์ตามตัว อยากเจอแล้วถามเกลียดอะไรกัน งานนี้ไม่ใจอ่อน จะทำเป็นเคสตัวอย่าง ขึ้นศาลคงล้านกว่า เอาเงินมาโปะบ้านได้เยอะอยู่ เผยมีเด็ก 16 ทักมาขอโทษ บอกยังเรียนอยู่ กลัวพ่อแม่เสียใจ ตกใจหุ้นมิสแกรนด์ พุ่งเร็วแตะ 38 ล้าน



หลังหุ้น MGI “มิสแกรนด์” พุ่งซิลลิ่งทะลุค่าพื้นฐาน จนเป็นที่ฮือฮา หลายคนก็แซวสาว “ชาล็อต ออสติน” ว่าขึ้นแท่นเป็นเศรษฐีนีท่านหนึ่งแล้ว ล่าสุดวันนี้ (17 ม.ค.) ได้สาวชาล็อต ในงานบวงสรวงละคร “มนต์รักลูกทุ่ง ๒๕๖๗” เจ้าตัวก็ได้เผยถึงเรื่องนี้ว่าตกใจมาก แต่ก็แอบขายไปบางส่วนแล้ว เพราะจะเอาเงินไปโปะบ้าน ส่วนที่เข้าไปพบตำรวจไซเบอร์มาเมื่อต้นปี ก็เพราะไปแจ้งความเกรียนคีย์บอร์ด หลังทนโดนป่วนและโดนด่ามา 2 ปีเต็ม

“เป็นอีกบทบาทหนึ่งที่ทำให้เราได้โตขึ้น ในวัย 25 ได้ทำอะไรหลายๆ อย่าง ได้เป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทที่เราอยู่ เราก็พัฒนาบริษัทไปเรื่อยๆ ด้วยการที่รับงานต่างๆ รับโอกาสต่างๆ ให้เพิ่มยอด กระตุ้นยอดให้กับองค์กร ถือว่าเป็นสิ่งที่ท้าทาย และเป็นสิ่งที่ดีค่ะ”

ตกใจมูลค่าหุ้น พุ่งเร็วแตะ 38 ล้าน
“หนูตกใจที่มันพุ่งเร็วเกินคาด เร็วจนเติมไม่ทัน เราก็ได้มีการลองถอนออกมา แต่ไม่ได้เป็นจำนวนเยอะ หุ้นก็ยังเป็น 1 ใน 10 อยู่ ตอนนี้เหลือ 195,000 ถอนมาแค่ 50,000 หุ้น เอามาโปะบ้าน (หัวเราะ) องค์กรเขาบอกว่าลองซื้อขายดู จะได้รู้จังหวะการเล่นหุ้นด้วยตัวเอง พอลองแล้วมันได้เกินคาด ก็เลยเอาไปโปะบ้านค่ะ แล้วก็มีแเพลนว่าจะซื้อหุ้นเพิ่มอยู่แล้ว แต่เดี๋ยวรอก่อน”

ตั้งเป้าจะโปะบ้าน 25 ล้านหมดภายใน 3 ปี
“ไม่น่าจะปีนี้ค่ะ แต่ถ้ามีงานพรีเซ็นเตอร์เยอะๆ ก็อาจจะหมดในปีนี้ ก็เข้าได้อยู่หลายๆ ตัว คือเราตั้งเป้าโปะบ้านภายใน 5 ปี แต่ตอนนี้น่าจะเหลืออีก 3 ปี”

น้อมรับคำชมเป็น “เศรษฐีนี”
“ก็ดีนะ เป็นคำชมที่ดี ก็รู้สึกอยากเป็นอยู่ เศรษฐีนีดีค่ะ มีตังค์ใช้ (หัวเราะ) ยังดีที่มีแฟนคลับคอยซัปพอร์ตอยู่ เหนียวแน่นเหมือนเดิม พอละครออนแอร์ น่าจะตกแฟนคลับเพิ่มได้อีกหลายคน”

เผยไปแจ้งความเกรียนคีย์บอร์ด ทนมา 2 ปี ป่วนไม่ไหวแล้ว
“คือต้องบอกว่าเป็นเกรียนคีย์บอร์ดก็ได้ อารมณ์เหมือนแอ็กปั่น เขาคอยป่วนตลอด คือถ้ากุเรื่องหรืออะไรเราไม่ได้สนใจ แต่นี้คือไปป่วนในงาน เวลาเราไลฟ์ก็ไปป่วนในไลฟ์ที่เราทำงาน ป่วนในไลฟ์บอส ไลฟ์เรา จนทนไม่ไหวแล้ว รู้สึกว่า 2 ปีนี่คือยอมโดน จะด่าจะว่าอะไรยอมหมดเลย ไม่ได้ตอบโต้ เลยรู้สึกว่ามันเกินพอแล้ว บางคำพูดมันแรงมากๆ จนพี่ตำรวจยัง อุ้ย ขนาดนี้เลยเหรอ เราก็เลยรวบรวมหลักฐานทั้งหมดยื่นให้ทางตำรวจสอบสวน เดี๋ยวต้องไปที่ตำรวจไซเบอร์ให้เขาเจาะ IP”

โดนด่าแรงถึงพ่อแม่ “เลี้ยงดูมายังไง ให้ลูกแรดร่า_ได้ขนาดนี้”
“แอนตี้แฟนคือมีทั้งเพิ่งมี และมีนานแล้ว แต่ที่นานแล้วคือมันเกิน 3 เดือน ไม่สามารถเอาเรื่องได้ เลยเอาเรื่องเฉพาะคนที่เพิ่งทำ ถามว่าเป็นคำพูดอะไรบ้าง ก็มีด่าพ่อด่าแม่ บอกพ่อแม่เลี้ยงดูมายังไง ให้ลูกแรดร่า_ได้ขนาดนี้ เราก็เลยแบบ โห…ก็เถียงไม่ได้นะ (หัวเราะ) แต่รู้สึกว่าด่าเราเราไม่ว่า แต่พ่อแม่เลี้ยงเรามาดีนะทุกสิ่งทุกอย่างเราทำตัวเองไหม พ่อแม่ไม่เกี่ยว เลยไม่โอเค แล้วก็มีอีกหลายๆ อย่าง เป็นไปได้ถ้าเจอตัว จะให้ดูว่าที่เขาพิมพ์มีอะไรบ้าง แรงขนาดไหน ตอนแรกแจ้งไป 5 ราย แต่วันที่ไปสน.ได้มาอีก 1 ราย เป็น 6 ราย มีตัวจี๊ดอยู่ 2 คน แต่พอไปสน.ก็ปิดแอ็กเคานต์ไปเลย ก็เลยเอ้า ปิดทำไม ทำไมไม่ด่าต่อ”

เชื่อถึงจับได้ก็ยังโดนอยู่ แต่อยากให้เป็นเคสตัวอย่างบ้าง มีทักมาขอโทษ บอกยังเด็กอยู่ ไม่อยากให้พ่อแม่เสียใจ
“เขาคงมีความสุขกับการไม่ชอบหนูหรือเปล่า แต่เราไม่ได้สนใจอยู่แล้ว เพราะมีคนชอบ มีคนไม่ชอบ มันเป็นปกติในวงการ เป็นปกติของมนุษย์ แต่หนูแค่ไม่โอเคกับทั้งคำพูด กับการระรานไปถึงงาน การกุข่าว กุเรื่องใหคนเชื่่อ แล้วก็มาด่าเราทั้งที่ไม่ใช่เรื่องจริง ถามว่าทำไมถึงเพิ่งแจ้งความตอนนี้ คือมันต้องมีสักเคสค่ะ ไม่งั้นหนูคงต้องโดนแบบนี้ไปเรื่อยๆแต่ต่อให้มีเคสนี้ออกมาก็ยังคงโดน แค่อย่างน้อยมันคงบรรเทาลงบ้าง แล้วก็ทำให้หลายๆ คนที่กำลังจะพิมพ์คิดได้บ้าง ว่าผลมันจะเป็นแบบที่เคยเกิดขึ้นนะ มีหลายแอ็กทักมาขอโทษ บอกหนูขอโทษนะคะ หนูอายุ 16 อย่าเอาเรื่องหนูเลย ยังเรียนอยู่เลย พ่อแม่ต้องเสียใจ เราก็แบบอ้าว แล้วทำทำไม เขาบอกว่าหนูเห็นหลายๆ คนเขาสงสัย หนูเลยอยากรู้ ก็บอกว่าเขาว่าสงสัยก็โทร.มาถาม สงสัยก็มาถามดีๆ ได้ แต่นี่ไปลงติ๊กต๊อก ไปโยงโน่นนี่นั่นจนปวดหัว เลยแบบสักเคสเถอะ”

ถึงปิดแอ็กฯ แต่ถ้าเจาะ IP ก็ยังตามเจอ ถ้าขึ้นศาลต้องคุยกับ “บอส ณวัฒน์ อิสรไกรศีล” อีกที
“ถ้าเจาะ IP ก็ตามได้ค่ะ แอ็กเคานต์ยังอยู่แค่ล็อกเฉยๆ (บอสว่ายังไง?) ณ ตอนนี้เป็นสิทธิ์ของหนู แต่ถ้าดำเนินการไปถึงขึ้นศาล ก็ต้องคุยกับบอสอีกทีว่าจะยังไง แต่เรามั่นใจว่าเราถูกอยู่แล้ว”

กระทบกับจิตใจมากกว่างาน ยิ่งมีดรามายิ่งดิ่ง ขอปกป้องตัวเองบ้าง
“มันกระทบกับจิตใจมากกว่าค่ะ ด้วยที่เราดิ่งอยู่แล้วที่เป็นหลายๆ โรคที่เกิดขึ้น พอมีดรามายิ่งดิ่งไปอีก พอมีคนมาด่าใจก็ตึกๆ เราก็รู้สึกว่าไม่ไหวแล้ว ขอปกป้องตัวเองบ้าง ก็ตามกฎหมายจำคุก 1 ปี ปรับไม่เกิน 2 แสนบาทต่อคน ถ้าถึงขึ้นศาล 6 คนก็ได้ล้านกว่าบาทโปะบ้านได้เยอะอยู่ ตอนนี้ไซเบอร์ก็กำลังเจาไอพีให้อยู่”

ให้อภัยเด็ก 16 ที่ทักมาขอโทษ เพราะไม่ได้อยู่ใน 6 แอ็กเคานต์ที่หมายหัวไว้
“ก็ปล่อยไป ให้อภัย ไม่ได้อยู่ใน 6 คน (หลังมีข่าวมาขอโทษ?) หนูหมายไว้แล้วว่าแอ็กเคานต์ไหน ก็ตัวจี๊ด จริงๆ มีหลายแอ็กเคานต์ที่หนูเจอทั้งตัวเป็นหน้าบุคคล รู้ชื่อ แต่หนูไม่ตาม เพราะรู้สึกว่าแค่ได้เห็นก็โอเคแล้ว อย่างน้องถ้าไม่ชอบก็อย่าระราน ต่างคนต่างอยู่สิ คือ 6 คนนั้นเขาไม่หยุด ก่อนดรามา มีดรามาก็ไม่หยุด เลยรู้สึกเหนื่อยแทนหลายคนที่มาเห็น มาปั่นป่วน เราทนไม่ได้แล้ว ก็อยากเจอนะคะ อยากถามว่าเป็นอะไรมานั่งพูดกันหน่อยเป็นอะไร ถ้าสมมติได้เจอก็จะถามว่า ไม่ทราบว่าเกลียดอะไรหนูมากไหมคะ อยากจะรู้เหตุผล คนเราทำอะไรต้องมีเหตุผล 2 ปี ถ้าจะตามมาเป็นแฟนคลับไหม กลับใจมารักฉันนะ (หัวเราะ)

ถามว่าจะใจอ่อนไหม จริงๆ หนูเป็นคนใจอ่อน แต่ว่าไม่เอา ไม่ได้แล้ว หนูกลัวด้วย กลัวว่าถ้าใจอ่อนเดี๋ยวมีอีก อยากให้เป็นบทเรียนด้วยก็ปรึกษาพี่ๆ ในวงการหลายคนก็บอกว่าถูกแล้ว ปกป้องตัวเองบ้าง หลายคนเขาไม่เข้าใจในสิ่งที่เราจะพูด หรือบางทีเราไม่มีโอกาสได้ออกมาพูดอะไร กลายเป็นว่าพอคนไปกุให้ใหญ่โตปุ๊บ อยู่เฉยๆ ก็เป็นข่าวเลย แล้วก็มีเพจหนึ่งที่ยังไม่เข้าร่วม แต่ก็ยังทันนะ ยังไม่ถึง 3 เดือน ยังต้องได้เข้ารอบเพราะเพจนี้หนูแค้นใจมาก เขาจุดประเด็นดรามาขึ้นมา”

วันนี้มีภูมิคุ้มกันแล้วในระดับหนึ่ง
“ระดับหนึ่งค่ะ ก็ต้องอยู่ให้ได้ แล้วก็ยอมรับ เดินหน้าต่อไปค่ะ”

มีร้องเพลงในละคร ถ้าเพี้ยนนิดๆ หน่อยๆ อย่าถือสา ไม่มีความสุขกับการร้องเพลงเหมือนเมื่อก่อน เพราะคนจับตามองจนกดดัน
“ถามได้ถูกวันด้วย เพิ่งคุยโปรเจกต์จบพอดี ปาป๊า(ณวัฒน์) อนุมัติค่ะ ต้องรอดูว่าจะเป็นเพลงอะไร แนวไหน ใครเป็นคนทำ ก็มีค่ะ ก็จริงจังในระดับที่ว่าออกงานแล้วไม่อาย เพราะเป็นเพลงตัวเอง ถ้าร้องไม่เพราะก็ไม่รู้จะยังไงแล้ว เมื่อกี้ก็ยังไม่ได้ฟัง เราเพิ่งรู้ว่าต้องร้องเพลงนะ ทุกคนโอเคเราก็แฮปปี้ ถ้าร้องเพี้ยนก็นิดๆ หน่อยๆ อย่าถือสากันเลยนะคะ ถามว่ากดดันไหมที่ยังถูกจับตา หนูไม่อยากร้องเพลงเลย เหมือนไม่อยากร้องแล้ว ไม่มีความสุขกับการร้องเพลงเหมือนเมื่อก่อน เมื่อก่อนร้องเพี้ยนก็จริงแต่มีความสุขกับการได้ขึ้นเวทีโชว์ แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นว่าคนคาดหวังว่าต้องร้องเพลงเพราะ

เราไม่มีความสุขกับการร้องเพลง แล้ววันนี้หนูพอขึ้นปุ๊บ ถ้าเห็นหนูจับใจตัวเองก็กลัวมาก อาจจะหยุดร้องเพลงไปสักพักเลย แต่ก็จะเอาเวลาที่หยุดไปเรียนเพิ่มถ้ามีเวลานะคะ (เมื่อไหร่จะได้ฟังเพลงของเรา?) ภายในปีนี้แหละ เร็วสุดก็กลางปีค่ะ”