xs
xsm
sm
md
lg

“เต๋า สมชาย” ชมลูกชายอยู่เป็น เรียก “นัท มีเรีย” ว่าพี่ เล่าอดีตให้ฟัง - มิตรภาพของการเป็นเพื่อน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“เต๋า สมชาย” เผยโมเมนต์สุดประทับใจ “น้องสุขใจ” กับ “นัท มีเรีย” อยู่เป็นเรียกพี่ บอกลูกชายเคยถามถึงความสัมพันธ์ในอดีต ตอนนี้ลูกโตพอจะรู้เรื่องราวทุกอย่างแล้ว ชมลูกมีความคิดใช้ได้ ไม่ก้าวร้าว สอนเสมอเรื่องการใช้ชีวิต การวางตัว   

ทำเอาคนที่ได้เห็นคลิปการสนทนาระหว่าง “น้องสุขใจ” ลูกชายของ “เต๋า สมชาย เข็มกลัด”​ กับสาว “นัท มีเรีย เบนเนเดตตี้” ยิ้มตามกันแบบไม่รู้ตัวทีเดียว ซึ่งเป็นคลิปสนทนาที่ น้องสุขใจ บอกฝ่ายหญิงว่า มีเพื่อนที่โรงเรียนมาถามตนว่าทำไมพ่อถึงเลิกกับแฟนเก่า ตนจึงตอบไปว่า ให้ลองไปฟังเพลง รักไม่ช่วยอะไร เดี๋ยวก็รู้เอง ซึ่งสาวนัทก็ถามกลับว่าแล้วสุขใจรู้เรื่องเหรอ เจ้าตัวก็รีบตอบทันทีว่ารู้ เพราะฟังจากแอปฯ ฟังเพลง ทำให้ตนรู้ความหมายของเพลง

ล่าสุดพอได้เจอ เต๋า สมชาย ในงานเสกคาถาเปิดตัวมือปราบมหาอุตม์ ณ โรงภาพยนตร์ 8 เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์สุขุมวิท เจ้าตัวก็ยิ้มอย่างอารมณ์ดี และภูมิใจในตัวของลูกชายเอามากๆ โดยบอกว่าตนได้เคยบอกถึงความสัมพันธ์ในอดีตกับสาวนัทให้ลูกฟังแล้ว เพราะลูกเริ่มโตและเข้าใจทุกอย่างได้แล้ว

“ก็ดีครับ ความจริงแล้วเขาเป็นเด็ก เราก็ถามว่าแล้วหนูตอบว่าอย่างไร เขาก็บอกว่าไปฟังเพลงรักไม่ช่วยอะไร เราก็ถามว่าฟังรู้เรื่องเหรอ เขาก็บอกว่ารู้เรื่อง เพราะเขาฟังใน spotify แล้วมันจะมีเนื้อเพลงขึ้น ผมก็บอกว่าเดี๋ยวหนูไปเล่นละครเวทีกับฟ้าโปรด ลูกบุญธรรมของพี่นัทเขา มีอะไรก็คุยกับเขาสิ เขาก็เข้าไปถาม ก็ถามน่ารักดี ด้วยความเป็นเด็กเขาก็อยากรู้ พอเขาอยากรู้จริงๆ เราก็เล่าสู่กันฟัง แล้วทางมีเรียเองเขาก็บอกว่าแล้วบอกเขาว่าอย่างไร ตัวเขาก็ตอบของเขาเอง ผมว่ามันก็เป็นคำตอบที่ใช้ได้ดี

เรื่องความสัมพันธ์ของเรา เขารู้อยู่แล้วครับ เพราะเขาโตแล้ว และอีกอย่างนึงพวกนี้อยู่ในอินเตอร์เน็ตอยู่แล้ว เขาก็เคยอ่าน เขาเคยถามผมตอนเด็กๆ ผมก็บอกว่าวันนึงพอโตขึ้นมาแล้วเขามีความคิดความอ่านแล้วจะเล่าให้ฟัง คือตอนนั้นเล่าไปเขาก็ไม่เข้าใจ แต่พอตอนนี้เขาได้เจอ ผมว่ามันคือมิตรภาพของการเป็นเพื่อน เราก็รู้สึกอย่างนั้นจริงๆ และเวลาผมไม่อยู่ และเขาไปเจอกันเอง เขาก็จะเรียกกันมาถ่ายรูป แล้วก็จะส่งมาให้ผมดูบอกว่าป๊าๆ วันนี้หนูเจอพี่นัท เขาเรียกพี่นัทนะ เด็กมันอยู่เป็นไง (หัวเราะ)”

บอกถึงจะเป็นลูก “เต๋า สมชาย” แต่ก็สอนเรื่องความพอดีและไม่ก้าวร้าวให้ตั้งแต่เด็ก
“ใช่ๆ คือคำถามที่เพื่อนเขาที่โรงเรียนถามผมว่ามันเป็นส่วนนึง คือเด็กอยากรู้เขาก็ถาม ซึ่งมันเป็นสิ่งที่มันถูกต้องแล้วจากการตอบของลูกผม แล้วเวลาผมเล่นคอนเสิร์ตมันก็เหมือนเป็นมุก ตอนร้องเพลงรักไม่ช่วยอะไรท่อนฮุกก่อนจะเข้าโลกทั้งใบ คนก็จะเฮฮา มีความสุข และจริงๆ เขาก็รู้อยู่แล้วว่าหลังจากคอนเสิร์ตแกรมมี่-อาร์เอสจบไป ทุกคนก็จะได้เห็นโมเมนต์ของความเป็นเพื่อนจริงๆ ถามว่าเคยคิดมาก่อนไหมว่าลูกต้องมาเจอโมเมนต์นี้เข้าสักวัน คือมันไม่ได้มีความรู้สึกว่าดูน่ากลัวหรืออะไร จริงๆ เป็นเรื่องของธรรมชาติ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นเขาก็รู้อยู่แล้ว

ฟ้าโปรดกับสุขใจเขาเป็นเพื่อนกันอยู่แล้วครับ เพราะอย่างฟ้าโปรดเขาก็เป็นลูกของแตนที่เป็นลูกพี่ลูกน้องของน้องนัท และเขามาเล่นละครเวทีแฟนฉันด้วยกัน เขาก็สนิทกัน แต่ฟ้าโปรดจะอายุน้อยสุด 7-8 ขวบ แต่สุขใจเขากำลังจะ 13 เขาก็เหมือนพี่ใหญ่ เขาทำตัวเป็นแจ็คหัวโจกดูแลน้องๆ ผมว่าจริงๆ แล้วมันเป็นสิ่งที่ดี เวลาเราฟังคำตอบ ขนาดผมเป็นพ่อเขา พอฟังคำตอบก็รู้สึกว่าใช้ได้นะ เขามีความคิดที่เป็นของเขา และผมก็พยายามบอกว่าทุกอย่างมันต้องมีความพอดี ไม่มากเกินไป ไม่น้อยเกินไป มีความสนุกได้ แต่ไม่ได้ก้าวร้าว และเขาก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ เพราะตอนที่ผมปล่อยให้เขาไปเล่นละครเวทีก็คือให้โอกาส และบอกว่าถ้าทำก็ต้องทำให้ดีที่สุด และเขาก็ทำออกมาได้ดีจริงๆ”

เผยสอนให้ลูกเล่นกีฬา ความมีสปิริตของนักกีฬาจึงถือเป็นเรื่องสำคัญมากๆ
“ไม่หรอก เขาก็ทำดีหมด ไม่เห็นเขาทำอะไรไม่ดี แต่อย่างที่ผมบอกว่าคนเป็นพ่อเป็นแม่ก็ต้องดูแลลูกในทุกๆ ด้าน เขาจะออกไปข้างนอกโดยที่เราไม่อยู่ เพราะผมก็ทำงานเยอะ ผมก็ปล่อยให้ยุ้ยเมียผมเป็นคนพาเขาไปเลย และ 2 เดือนนั้นผมก็ขับรถไปถ่ายละครเอง อย่างพรุ่งนี้สมใจมีงาน น้องสุขใจก็ขอไปด้วย ก็ให้ยุ้ยพาไป ตัวผมก็ต้องไปถ่ายละครเอง เพราะเวลาเขาอยู่กับพ่อแม่เขาก็จะรู้สึกมั่นใจ ปลอดภัย แต่เวลาเขาอยู่กับพ่อแม่ เราก็ต้องดูแลเขาในทุกๆ เรื่อง อย่างเวลาที่เขาเจอคนเยอะๆ ผมก็รู้ความรู้สึกเขานะ เพราะผมก็เคยเป็นวัยรุ่นมาก่อน เวลาเด็กอยู่ด้วยกันเยอะๆ ความคึกมันก็มี แต่เขาไม่เป็น หรือถ้ามีปัญหาอะไรนิดๆ หน่อยๆ เขาก็จะมาบอกเรา เราก็จะอธิบายว่าตรงนี้ๆ เป็นแบบนี้

แต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่รวมๆ กันแล้วคือสิ่งที่ดี และผมให้เขาเป็นนักกีฬามาตั้งแต่เด็ก เขาเป็นนักบาสเก็ตบอลของโรงเรียน การที่เขาเป็นนักบาสฯ เขาจะมีระเบียบวินัย คือต้องมีการฝึกซ้อม และเรื่องสปิริตในการเป็นนักกีฬากับการเล่นกีฬาที่ต้องมีคนหมู่มาก เขาได้อยู่กับคนเยอะๆ เราก็ต้องดูว่าถ้าอันไหนที่เรารู้สึกว่าอันนี้ลูกเราไม่ดี ไม่ควร เพราะจริงๆ แล้วการอยู่หลายๆ คนต้องมีความรักกัน ความเอื้ออาทรห่วงใย ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ที่สำคัญคือสปิริต และพอเป็นนักกีฬามันทำงานเป็นทีม ซึ่งมันก็ช่วยได้ เพราะผมก็เป็นนักฟุตบอล มันก็ช่วยได้จริงๆ”











กำลังโหลดความคิดเห็น