“บิ๊นท์ สิรีธร” ซึ้ง “ชีวิตภาคสอง” เปิดมิติใหม่ อัปเลเวลสู่นักแสดงมืออาชีพ บอกแคสหลายรอบ ไม่ง่ายเลย ไม่ใช่นางงามซอฟต์ใส เผยแพชชั่นแรงกล้า ทิ้งหัวโขนนางงาม ต่อไปต้องเป็นนักแสดงตัวท็อปเท่านั้น! ฝากถึงคนไล่ให้ไปเรียนการแสดง ตราหน้าเด็กเส้น ให้โอกาสกันหน่อย เพิ่งเล่นได้ 3 เรื่อง
กำลังลุ้นกันเลยทีเดียวกับละคร “ชีวิตภาคสอง” ทางช่อง one ที่เรื่องนี้ถือได้ว่าเป็นการลับคมการแสดงของ “บิ๊นท์ สิรีธร ลีห์อร่ามวัฒน์” นางสาวไทย 2562 ที่หันมาเอาดีด้านการแสดงแบบเต็มตัว ซึ่ง บิ๊นท์ เล่าว่าตนยังเป็นมือใหม่ทางด้านการแสดง จึงน้อมรับทุกคำวิจารณ์และคำติชม แม้จะเคยโดนไล่ให้ไปเรียนการแสดงใหม่ โดนตราหน้าว่าเด็กเส้น
“กับเรื่องนี้บิ๊นท์ติดตามอ่านเกือบทุกฟีดแบ็กเลยนะ บิ๊นท์แฮปปี้ที่ได้อ่าน ดังน้้นใครจะติ ใครจะชม ชอบหรือไม่ชอบ วิจารณ์มาได้เลย บิ๊นท์ชอบอ่านมาก บิ๊นท์รับได้หมดเลย เรารู้สึกแฮปปี้ที่ได้เห็นมุมมองต่างๆ ของคนในสังคม บางคอมเมนต์เราก็รู้สึกเซอร์ไพรส์ ซึ่งบิ๊นท์รู้สึกว่าตัวละครสมัยนี้ม้นต้องถูกสร้างมาให้คนตีความได้หลายแบบ เช่นมีบางคอมเมนต์บอกหรือลูกจะเป็นคนไม่ดี คนเห็นชื่อเรา เขาคิดไว้แล้วว่าเราต้องดีสิ แต่พอดูไปเขาเริ่มฉุกคิด หรือว่าจริงๆแล้วนางเองจะเป็นคนวางแผนทุกอย่าง นางเองดูไม่ได้เป็นคนดีขนาดนั้น
เรื่องชีวิตภาคสอง ก็เหมือนเข้ามาเปิดมิติใหม่ให้กับบิ๊นท์ในเรื่องของการแสดง ที่ผ่านมาคนจะมองบิ๊นท์หวานๆ นางเอกซอฟต์ใส แต่กับเรื่องนี้ไม่ใช่เลย บิ๊นท์เป็นคนสู้คน ซึ่งกว่าจะได้เล่น บิ๊นท์ต้องไปแคสหลายรอบมากไปออดิชั่นมาแบบสุดๆ ไม่ง่ายเลย เรื่องนี้ถือว่าบิ๊นท์ได้อัปเลเวลการเป็นนักแสดงไปอีกระดับหนึ่งว่ามืออาชีพเขาเป็นกันยังไง มันเกิดจากการเรียนรู้และบ่มเพาะจริงๆ วันนึงบิ๊นท์ก็อยากไปให้ได้แบบพี่ๆ บิ๊นท์ใส่เต็มที่สุดในชีวิตบิ๊นท์ในความรู้ทั้งหมดที่มี“
รู้สึกเป็นนักแสดงเต็มตัว กำลังสนุกกับการเป็นนักแสดง
“รู้สึกว่าเป็นนักแสดงเต็มตัวขึ้น แต่เราก็ยังต้องฝึกต่อไป เหมือนพอเราได้มาเจอ ได้อยู่รายล้อมกับกลุ่มคนที่เป็นมืออาชีพทางด้านการแสดง เราเลยรู้แล้วว่าจุดหมายต่อไปของเราคืออะไรในการเป็นนักแสดง ก็คือเป็นตัวท็อปเท่านั้น อยากเป็นตัวท็อปด้านการแสดง ไม่ใช่แค่เราโชคดีที่ได้เล่นบทนี้แล้วมันดังขึ้นมา แต่เป็นเพราะเราที่ทำให้คนอยากดูละครเรื่องนี้เพราะอยากรู้ว่าเราจะถ่ายทอดออกมาแบบไหน
บิ๊นท์ว่ามันเป็นอะไรที่ท้าทาย เราได้วิเคราะห์ ได้หาบุคลิกอีกแบบของตัวละคร ชีวิตเราอาจจะไม่เคยเป็น ไม่เคยเจออย่างที่ตัวละครนี้เป็น เราจะถ่ายทอดออกมายังไงได้ ตอนนี้บิ๊นท์มุ่งมั่นกับการเป็นนักแสดงสุดๆ”
การเป็นนักแสดงแตกต่างกับการเป็นนางงามมาก
“แตกต่างมากนะคะ การเป็นนางงามเราสามารถเป็นตัวเองได้ 100% เลย เป็นนางงามบิ๊นท์ไม่เคยเกร็งเลย บิ๊นท์ตั้งเป้าไว้อยู่แล้วถ้าบิ๊นท์ได้เป็นนางงามต้องเป็นเพราะตัวเอง ดังนั้นมันมาด้วยตัวเองตั้งแต่แรก แต่พอมาเป็นนักแสดง มันต้องสิงเป็นคนอื่น มันต้องใจกว้างขึ้นอีก บางทีเราจะสงสัยมากเลยเวลาที่เราได้รับบทแล้วเราไม่เคยมีประสบการณ์แบบเขา
เช่น คนๆ หนึ่งแอบขโมยของตลอดเวลา ถ้าเรามองภายนอก อุ้ย ไม่ดี ทำผิดกฎหมาย แต่ถ้าเราย้อนกลับไปดูวัยเด็กของเขา อะไรที่เขาเคยผ่านมา ที่ทำให้เขาจำเป็นต้องทำสิ่งนี้ ก็อาจจะบิดไปอีกขั้ว จากที่ฉันเกลียดเธอ 100% ก็มองอย่างมีเหตุผลขึ้น แต่เธอก็ไม่ควรจะทำนะ บิ๊นท์ว่าชีวิตคนมันมีไดนามิก การแสดงทำให้เราเข้าใจชีวิตคนได้มากขึ้น เจ๋งสำหรับบิ๊นท์มาก
พอได้มาเป็นนักแสดงทำให้มองคนเปลี่ยนไป บิ๊นท์มองคนหลายด้านขึ้น ถ้าเรากำลังใจโกรธหรือไม่ชอบการกระทำคนนี้แล้ว อย่าเอาเราไปตัดสินเขา เราโตมาไม่เหมือนกัน บิ๊นท์จะไม่ไปวิจารณ์หรือตัดสินใครเลย บิ๊นท์จะแค่เฝ้ามองและคิดว่าทำไมเขาถึงเป็นแบบนี้นะ ซึ่งส่วนใหญ่เราจะได้คำตอบก่อนที่เราจะไปตำหนิเขา”
แต่อีกด้าน นักแสดงก็ต้องน้อมรับกับคำวิจารณ์ ซึ่ง “บิ๊นทื์” ขอบคุณวงการนางงามที่ทำให้ตนแข็งแกร่งกับภาพสะท้อนของชาวเน็ต
“หูย…เรื่องนี้แข็งแรงใช้ได้เลย ต้องขอบคุณวงการนางงามที่ทำให้บิ๊นท์แข็งแกร่ง ตอนนั้นโดนครั้งแรกบิ๊นท์ร้องไห้เลย ก็มองเป็นเรื่องปกติ คนเราไม่เคยเจออะไรมากระทบจิตใจ เราเจ็บปวดอยู่แล้ว ตอนนั้นก็ร้องไห้จนเรามีสติเราถึงรู้ว่าบางอย่างเราเอามาพัฒนาได้ บางอย่างมันไม่ใช่ขอบเขตของเราที่เราต้องทุกข์ เราไม่ต้องทุกข์ก็ได้
เราพัฒนาตัวเองต่อไป หากเราอยากมีชีวิตที่เป็นไปตามเป้าหมายเรา เราอาจจะเก็บบางคำวิจารณ์มาพัฒนาตัวเองและเพื่อให้เขาพอใจด้วย แต่อย่าไปจมกับมันจนไม่ทำอะไรเลย บิ๊นท์อยากเป็นกำลังใจให้คนในวงการบันเทิงทุกภาคส่วน ถ้าเจอมันอาจจะทำใจได้ยาก มันอาจจะร้องไห้บ้าง แต่สุดท้ายเราต้องเห็นใจและเมตตาตัวเองที่สุด ชีวิตฉันมันควรจะเป็นไปในทางไหน เราเลือกได้ เศร้าได้ ไม่ผิด“
เมตตาตัวเอง และน้อมรับกับคำติชม หลังจากมีแฟนๆ บางส่วนไล่ให้ไปเรียนการแสดงใหม่ “ชิลๆ เฉยๆ ไม่เป็นไรเลย การแสดงมันคือการลอกเลียนแบบชีวิตมนุษย์ ชีวิตมนุษย์มันมีหลากหลายรูปแบบมาก ชีวิตจริงบิ๊นท์อาจจะพูดควบกล้ำไม่ชัด ซึ่งมันคือชีวิตมนุษย์ คุณก็อาจจะสนใจบิ๊นท์ก็ได้แม้บิ๊นท์จะพูดไม่ชัด เพราะนั่นคือชีวิตบิ๊นท์ที่น่าสอดส่องจังเลย เราจะพยายามปรับตัวให้ดีขึ้น แต่อยากให้ทุกคนมองอย่างเปิดกว้าง ให้โอกาสกันหน่อย ลองดูไปอีกหน่อยไหม ว่าตัวละครที่บิ๊นท์เล่นจะพัฒนาไปได้ในอีกแบบไหนบ้าง
บิ๊นท์เองก็ต้องเมตตาตัวเองด้วยว่าเราเพิ่งเล่นมา 3 เรื่องเอง แต่เราจะทำให้ดีนะ ขอโอกาสหน่อย ขอโอกาสให้ได้เฉิดฉายหน่อยเรื่องชีวิตภาคสองบิ๊นท์ก็ว่าตัวเองขึ้นมาอีกสเต็ปหนึ่งแล้ว คือไปได้อีกขั้น เรื่องถัดไปน่าจะดีขึ้นอีก ตอนนี้เลือดนักแสดงมันเต็มตัวเราแล้ว ตอนนี้ชอบการแสดงมากๆ คนจะถามเรื่อยๆว่าจะกลับไปประกวดอีกไหม บิ๊นท์ก็จะบอกว่าตอนนี้แพชชั่นด้านการแสดงบิ๊นท์แรงมาก ต่อให้จะดังหรือไม่ดัง เราไม่รู้อนาคตหรอก ถ้าตอนนี้เรามีแพชชั่นกับมันเราก็จะมั่นใจว่าเราจะทำสิ่งนี้ได้อย่างเต็มที่ที่สุดเท่าที่ชีวิตเราจะทำได้”
ภาพแรกที่มองการเป็นนักแสดง เล่น 2 เรื่องเดี๋ยวก็ดัง แต่ความจริงนั้นไม่ง่ายเลย
“คิดว่าทุกอย่างมันง่าย เล่น 2 เรื่อง เดี๋ยวก็ดังแล้ว คนจำได้แน่ๆ เลย แล้วเราก็จะมีชื่อเสียงในการเป็นนักแสดง แต่เรื่องจริงมันไม่ได้ง่ายอย่างนั้นเราไม่สามารถไปบังคับใจทุกคนให้มาชอบเราได้ ไม่งั้นมันคงไม่มีคำวิจารณ์เกิดขึ้นแพชชั่นบิ๊นท์ในตอนนี้คือเราอยากดูการแสดของตัวเองแล้วอิน มันยากมากนะ เพราะเรารู้อยู่แล้วว่าเราแสดงอะไรไป การที่เราจะอินได้มันต้องเล่นถึงจริงๆ มันถึงจะถ่ายทอดจากทีวีมาถึงเราแล้วเรารู้สึกมากๆ
จริงๆ เราหวังแค่นั้นว่าเราเห็นตัวเองแล้วเรายังเคารพในการแสดงได้ สองคือบิ๊นท์อยากครองใจคนดูให้ได้ เราเล่นได้ดีแล้วมันอาจจะเป็นสเต็ปหนึ่ง แต่สเต็ปที่สองคือคนดูทั่วไปชอบแบบที่เราชอบหรือยัง ถ้าคนดูชอบ มิชชั่นของการเป็นแสดงมันสำเร็จแล้ว แต่บิ๊นท์บอกเลยว่ายังไม่เห็นว่าเราจะสำเร็จได้แบบกล้าพูดได้เต็มปากกว่า หนูเป็นนักแสดงที่ประสบความสำเร็จ เราแค่มีแพชชั่นที่จะไปตรงนั้น และคิดว่าสักวันหนึ่งเราต้องทำให้ได้”
มองเป็นความท้าทายกับเป้าหมายใหม่ที่อยากจะครองใจคน
“บิ๊นท์มองเป็นเรื่องท้าทาย การเป็นนางงามมันมาด้วยความเป๊ะ เพอร์เฟกต์ คนถึงชอบ แต่การเป็นนักแสดงมันไม่ใช่ว่าคุณทำมันเพอร์เฟกต์แล้วคนจะชอบ มันคืออะไรหลายๆ อย่างที่บางทีคนในวงการเองก็ตอบไม่ได้เหมือนกันว่าทำอะไรคนถึงชอบเรา มันก็ต่างเยอะ ตั้งแต่บิ๊นท์โฟกัสที่จะเป็นนักแสดง บิ๊นท์ก็บอกตัวเองเลยว่าเราต้องทิ้งหัวโขนเก่า คือการเป็นนางงาม ตอนที่เราแสดงให้ได้ไม่อย่างนั้นภาพมันจะยังชัดเจนกับคนดูอยู่ว่าบิ๊นท์เป็นนางงามไง ไม่ใช่นักแสดง แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่คนสามารถถอดความเป็นนางงามของบิ๊นท์ไปได้แล้วบิ๊นท์จะชื่นใจมาก นี่คือเป้าหมายบิ๊นท์ที่อยากทำให้ได้ แล้วก็อาจจะทำไม่ได้เลยในชีวิตก็ได้
เรียกว่าเป็นตำนานบทใหม่ของบิ๊นท์ที่บิ๊นท์เชื่อว่า ถ้าเราใส่เต็มแม็กซ์ มันก็ต้องใกล้ความฝันที่สุด ดังนั้นไม่มีเหตุผลอะไรที่เราจะย่อท้อ หรือไม่ใส่เต็มในเรื่องที่เราทำ การเป็นนักแสดงบิ๊นท์สามารถเป็นตัวเองได้มากขึ้น สบายๆ ไม่ต้องคอยตัดสิน ต้องเป๊ะตลอดเหมือนตอนเป็นนางงาม
ฝากถึงแฟนๆ นางงามก่อนเลยว่าบิ๊นท์ไม่เคยลืมวงการนางงามเลยนะคะ เป็นวงการที่บิ๊นท์ยังคงคิดถึงอยู่เสมอ บิ๊นท์อยากจะเข้าไปทำเบื้องหลัง วาระระดับประเทศ อยากจะเข้าไปเป็น national director ของสักเวทีนึง ส่วนแฟนๆ ทั่วไป บิ๊นท์ก็เป็คนหนึ่งที่ทำตามความฝัน บิ๊นท์อยากให้คนดูดูบิ๊นท์ด้วยความสนุกสนานมากกว่า วิจารณ์บิ๊นท์ได้เต็มที่เลย บิ๊นท์จะขอบคุณมากๆ”