xs
xsm
sm
md
lg

“แพท” ครบ 3 ปีแห่งอิสรภาพ ชีวิตที่ได้ปลดล็อกทุกอย่าง คนหลังกำแพงยกเป็นต้นแบบในการกลับตัวกลับใจ (คลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“แพท” ทำบุญครบ 3 ปีที่ได้รับอิสรภาพ ไม่ลืมคนหลังกำแพง เข้าไปมอบความสุข เลี้ยงอาหาร ร้องเพลง ให้กำลังใจในเรือนจำ เหมือนเกิดใหม่ ชีวิตตกตะกอนและปลดล็อกทุกอย่าง กล้าเล่าอดีตของตนเองให้เป็นบทเรียนคนอื่นอย่างไม่ปิดบัง ภูมิใจผู้ต้องขังยกเป็นต้นแบบในการกลับตัวกลับใจเป็นคนดี พร้อมขอบคุณทุกคนที่อุ้มชู ทุกวันนี้มีแต่ความสุข



ก้าวออกมาจากโลกหลังกำแพงครบ 3 ปีเต็ม เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2567 สำหรับนักร้องหนุ่ม “แพท พาวเวอร์แพท” วรยศ บุญทองนุ่มซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา แพทไม่เคยเอาอดีตที่ไม่สวยงามมาทำร้ายตัวเอง แต่เจ้าตัวใช้สิ่งนี้เป็นพลังในการเปลี่ยนแปลงตัวเองให้เป็นคนที่ดีขึ้นกว่าเดิม รู้ซึ้งแล้วว่าการทำผิดมันทำลายโลกทั้งใบของตัวเองให้หายนะได้ขนาดไหน

วันเวลาที่ผ่านมา แพทได้พิสูจน์ตัวเองว่าเป็นคนใหม่ที่ดีกว่าคนเก่าในอดีต ทั้งยังเป็นต้นแบบของคนหลังกำแพงที่กลับตัวกลับใจแล้วสามารถเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้อย่างมีคุณภาพ ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา การได้รับโอกาสและการให้อภัยจากสังคม เป็นสิ่งที่เจ้าตัวรู้สึกซาบซึ้งและเห็นคุณค่ากับสิ่งที่ได้รับตลอดเวลา และยึดมั่นที่จะทำสิ่งดีๆ เพื่อตอบแทนโอกาสที่ทุกคนมอบให้อย่างเต็มที่เต็มกำลังความสามารถที่ทำได้

ล่าสุด วันที่ 4 มกราคม ที่ผ่านมา แพทตั้งใจกลับไปยังเรือนจำกลางบางขวางอีกครั้ง เพื่อส่งมอบความสุขให้กับพี่น้องผู้ต้องขัง ให้มีกำลังใจในการปรับเปลี่ยนตัวเอง ให้ทุกคนกลับออกมาเป็นลูกที่ดีและเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดีให้ได้ ทีมข่าวบันเทิงผู้จัดการออนไลน์ ได้ตามเข้าไปสัมภาษณ์แพท และเก็บภาพบรรยากาศกิจกรรมภายในเรือนจำแบบ Exclusive ซึ่งแพทได้เรียกวันที่ 4 มกราคม นี้ว่า เป็นวันเกิดใหม่ของตนเอง

“3 ปีที่แล้ว วันที่ 4 มกราคม 2564 เป็นวันแรกที่ผมก้าวออกมามีชีวิตใหม่ที่นี่ ที่เรือนจำกลางบางขวาง วันนี้ถือเป็นโอกาสครบรอบ 3 ปีเต็มแล้ว ผมได้รับอิสรภาพ และได้รับโอกาสจากสังคม ได้กลับมาทำงานที่ตัวเองรักอีกครั้งหนึ่ง ถือว่าเป็นอีกหนึ่งวัน ที่เป็นวันคล้ายวันเกิดของผมเลยทีเดียวครับ เป็นวันเกิดใหม่ผมเป็นคนที่มีวันเกิด 2 วันครับ ภูมิใจมาก (วันเกิดจริงของแพทคือ 2 มิ.ย.)”

คำว่าวันเกิดใหม่ มีความหมายกับแพท เป็นวันที่แพทได้เป็นคนใหม่ ไม่ใช่แพทคนเดิมในอดีตที่ผ่านมา
“ก็เหมือนกับว่าวันที่เราได้เป็นคนใหม่ ก้าวออกไปจากเรือนจำ เป็นคนใหม่ที่ได้รับการปรับเปลี่ยน แล้วก็ตกตะกอนทางความคิด กลับไปมีโอกาส ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองตั้งใจ ไปรับผิดชอบหน้าที่ที่ตัวเองควรจะรับผิดชอบในหลายๆ สิ่ง ซึ่งก็มีแต่เรื่องดีๆ เข้ามา นับตั้งแต่วันนั้นจนถึงทุกวันนี้ ก็เป็นอีกหนึ่งวันที่มีคุณค่า แล้วก็อยู่ในความทรงจำของทั้งผมและครอบครัว รวมถึงแฟนคลับด้วยครับ (วันนี้น่าจะเป็นวันที่มีความหมายกับคุณพ่อคุณแม่เหมือนกัน ก่อนออกจากบ้านเมื่อเช้า มีได้พูดคุยอะไรกับท่านไหม?) ก็ได้สวัสดีท่าน แล้วคุณพ่อก็มากอด ให้พรว่าเจริญๆ นะลูก แต่คุณแม่เขาไม่ค่อยจะอะไรแบบนี้อยู่แล้ว แต่ในใจท่านก็คงมีการปิติยินดีอยู่แล้ว ในครอบครัวก็เต็มไปด้วยความสุขครับ”

พร้อมเล่าย้อนกลับไปวินาทีเปลี่ยนชีวิต ในวันที่ 4 มกราคม เมื่อ 3 ปีที่แล้ว
“วันนั้นตื่นเต้นมาก แล้วก็จินตนาการการหลายๆ อย่าง ถึงวันที่เราจะได้รับอิสรภาพ ซึ่ง ณ วันจริงก็ไม่ได้เหมือนภาพที่เราคิดไว้สักเท่าไหร่เลย คือมันดีกว่า ความรู้สึกมันยิ่งใหญ่กว่า โลกข้างนอกมันกว้างขวางมากๆ กว่าที่เราจินตนาการไว้ตอนก่อนออกไป แล้วก็ได้รับการตอบรับจากสังคม จากแฟนเพลง เกินคาดกว่าที่เราคิดไว้ ได้รับความรัก ความอบอุ่น จากครอบครัวเต็มที่มากๆ ทุกอย่างมันเกินกว่าภาพที่เราคิดไว้มากวันนั้น เป็นวันที่ดีมากๆ เลยครับ”

วันนี้เหมือนภาพตัดมาอีกครั้ง แต่แพทกลับมายืนที่แห่งนี้ในบริบทใหม่ที่ไม่เหมือนเดิมกับในอดีตอีกต่อไป
“มันมีแต่ความยินดีมากกว่า ที่วันนี้เราได้กลับมาเพื่อสร้างสิ่งดีๆ ให้กับเพื่อนผู้ต้องขัง สร้างแรงบันดาลใจ มอบพลังบวกให้กับเขา แล้วก็ให้เขาดูตัวอย่างจากชีวิตของเรา ว่าถ้าเราตั้งใจปรับเปลี่ยนตัวเองได้ ยืนหยัดในความดี ทุกคนมีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จได้เช่นกัน วันนี้ก็เป็นความทรงจำดีๆ ที่กลับมาที่นี่ครับ”

แพทเคยผ่านจุดนี้มาก่อน จึงเข้าใจความรู้สึกของผู้ต้องขังเป็นอย่างดีว่า กำลังใจเป็นสิ่งสำคัญในการเป็นพลังผลักดันให้คนที่เคยก้าวพลาดลุกขึ้นมาปรับเปลี่ยนตัวเองให้เป็นคนใหม่ จึงอยากเข้ามาส่งมอบความสุขและสร้างแรงบันดาลใจให้คนหลังกำแพงในวันนี้
“คือปกติแล้ววันที่ 4 มกราคม ปีที่ผ่านมา เราก็จะมีงานต่างๆ ในโอกาสครบรอบ ก็จะมีคอนเสิร์ตบ้าง พบปะแฟนคลับบ้าง แต่ปีนี้เราอยากทำอะไรที่มันแตกต่างมากขึ้น อยากจะส่งต่อสิ่งดีๆ ให้กับเพื่อนพี่น้องผู้ต้องขังด้วย เพราะเราก็ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของประเทศชาติที่จะมาช่วยกัน ในการที่จะให้โอกาสพวกเขา ให้กำลังใจพวกเขา เป็นการช่วยเหลือทั้งตัวเขาและสังคมของเราด้วย

ผมเชื่อว่าคนในนี้เขามีศักยภาพ มีสมอง มีกำลัง มีคุณภาพในการที่จะกลับออกไปพัฒนาประเทศชาติของเราได้ เพียงแต่เขาปรับเปลี่ยนวิธีคิดเล็กน้อย เปลี่ยนมุมมองผมเชื่อว่าเขาจะสามารถนำพาตัวเองและครอบครัว แล้วก็ประเทศชาติของเราไปสู่จุดที่เกิดการพัฒนาได้

ผมเลยอยากส่งมอบกำลังใจนี้ ก็จะมีการร้องเพลง การพูดให้กำลังใจ รวมถึงอาหารต่างๆ ซึ่งทางผมและบริษัท มาดู มาฟัง(บริษัทของแพท) คัดสรรมาเป็นอย่างดีว่าเป็นเมนูที่เพื่อนๆ ได้ทานแล้วน่าจะมีความสุข เพราะอาจจะไม่ได้ทานกันบ่อยนะ ซึ่งดูจากภาพวันนี้ก็น่าจะจริง เพราะหลายๆ คน ดูมีความสุขมากๆ ทางผมเองและทีมงานก็มีความสุขยิ่งกว่าพวกเขาอีกวันนี้ ที่งานออกมาเป็นรูปร่าง

ตอนแรกจะทำเล็กๆ ไม่ได้ทำใหญ่มาก แต่พอพี่ๆ และแฟนคลับทราบข่าว ก็มาร่วมงานบุญครั้งนี้ งานก็ออกมายิ่งใหญ่กว่าที่คิดไว้มากๆ เลย ต้องขอขอบคุณทุกส่วนที่มาร่วมกัน รวมถึงท่านผู้บัญชาการเรือนจำกลางบางขวางและเจ้าหน้าที่ทุกระดับ ที่อำนวยความสะดวกในการจัดกิจกรรมนี้ด้วย ก็ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก ทุกคนเต็มไปด้วยรอยยิ้มและมีความสุขครับ”

เลี้ยงอาหารทั้งในและนอกเรือนจำ ในเรือนจำรวม 300 คน มีทั้งผู้ต้องขังคนไทยและต่างชาติ และนอกเรือนจำอีกจำนวนหนึ่ง รวมทั้งหมดเกือบ 500 คน
“วันนี้มาประมาณ 300 คนครับ ก็จะมาหลากหลายในแต่ละแดน แดน 14 แดน 13 ที่ทำงานเกษตร น้องๆ ที่ทำกิจกรรมอยู่กับทูบีนัมเบอร์วัน นักเรียนศิลปะ นักเรียนดนตรี เขาจะมาจอยกันวันนี้ ก็เป็นบรรยากาศที่อบอุ่นมาก แล้วก็จะมีกิจกรรมด้านนอกด้วย คือเรามีฟู้ดทรัก(Food Truck)เป็นเย็นตาโฟเจ้าเด็ด แล้วก็มีไอศกรีมด้วย มาเลี้ยงพี่ๆ ที่มาทำงานช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ อยู่กองนอกเรือนจำ เราก็อยากจะให้ทั่วถึง มีเลี้ยงทางเจ้าหน้าที่ด้วย เรียกว่าอิ่มหนำทั้งพี่น้องด้านในและด้านนอกเลย”

หลายท่านก็คุ้นเคยกันอยู่แล้ว ทั้งพี่น้องผู้ต้องขัง ทั้งพี่ๆ เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ที่บางขวาง ก็คุ้นหน้าคุ้นตา บางคนก็เจอกันมา 10-20 ปีแล้ว ทุกคนน่ารักเหมือนเดิม เข้ามาทักทายด้วยความอบอุ่นเป็นกันเอง ผมก็มีความสุขมากๆ ที่ได้กลับมาเยี่ยมเยียนเขา เหมือนกลับมาเจอญาติ เจอเพื่อนนั่นแหละครับ ก็มาสวัสดีปีใหม่พวกเขาด้วย”

มีความสุขที่ได้เป็นผู้ให้ ปีหน้าจะทำอีก อยากทำให้คนหลังกำแพงรู้สึกว่าภายนอกไม่ได้ทอดทิ้ง อยากให้มีความหวังในการใช้ชีวิต ถ้ากลับตัวกลับใจเป็นคนดีแล้ว สังคมยังให้โอกาสเสมอ
“มันก็มีความสุข แล้วเราก็อยากจะให้เขามีความสุข ให้เป็นไปตามจุดประสงค์ ตามภาพที่เราคิดไว้ มันแฮปปี้และดีกว่าที่เราคิดไว้มากๆ พอเราได้มาเห็นเขาบอกว่าอร่อย เห็นการตอบรับที่เต็มที่แบบนี้ ก็ถือว่าเป็นอะไรที่เกินคาด คิดว่าปีหน้าอาจจะมีจัดแบบนี้อีก เรารู้สึกว่างานแบบนี้มันเป็นประโยชน์ เป็นการส่งต่อกำลังใจ ให้ความหวังกับเขาได้อย่างเป็นรูปธรรม เป็นการส่งต่อความสุข ที่ทำให้เขารู้สึกว่าภายนอกไม่ได้ทอดทิ้ง ยังมีความหวังในการใช้ชีวิต ยังมีความหวังว่าสังคมจะให้โอกาสเขา ถือว่ามันเต็มไปด้วยความสุข ทั้งผู้ให้และผู้รับ

มันมีผลอย่างมากเลย เพราะการอยู่ด้านใน อย่างที่ทราบกันดี ว่าชีวิตก็จำเจ อยู่ในกฎระเบียบ เช้าถึงเย็นก็จะซ้ำซาก ไม่ได้เจอคนภายนอก ไม่ได้ทราบข่าวสารภายนอกเท่าไหร่ เพราะฉะนั้นการที่คนภายนอกมารวมกลุ่มจัดกิจกรรมให้เขา มันเป็นอะไรที่เขารู้สึกว่าคนภายนอกไม่ได้ทิ้งเขา ผมรู้สึกว่าเขารู้สึกว่าด้านนอกเปิดใจ พร้อมที่จะเป็นแบ็กอัปให้เขาด้วยใจจริง ได้มาเจอหน้า มาพูดคุย มากินอาหารร่วมกันแบบนี้ เขาก็จะรู้สึกว่าเขาไม่ได้แปลกแยกในสังคม เพราะฉะนั้นมันก็จะไม่เป็นจุดดำในใจเขา ในการที่เขาจะใช้ชีวิตต่อไป ผมว่าสังคมสมัยใหม่แล้ว ทุกคนควรให้โอกาส เปิดใจกับคนที่ทำพลาด รับผิด และปรับปรุงตัว ผมว่าท้้งผมเอง ทีมงาน และน้องๆ ที่นี่ รับรู้ได้ถึงพลังบวกและความห่วงใยที่มีต่อกัน ถือว่าวันนี้งานประสบความสำเร็จอย่างมากครับ”

อีกหนึ่งในเหตุการณ์ประทับใจที่เกิดขึ้นในงานก็คือ มีผู้ต้องขังรายหนึ่งที่เคยเป็นลูกศิษย์แพท ที่แพทเคยสอนดนตรีสมัยยังอยู่ข้างใน ได้บอกว่าตนเองเป็นผลผลิตของแพท เป็นคนดีขึ้นมาได้เพราะแพทคอยสอนและเคี่ยวเข็ญ คอยดุ คอยเตือนตลอด และตนได้รับปากกับแพทไว้แล้วว่าจะไม่ทำผิดอีก ซึ่งแพทได้เผยความรู้สึกถึงเรื่องนี้ว่า...
“ณ ตอนอยู่ข้างใน เราก็พยายามที่จะให้กับเขา ตามที่เราให้ได้ ตอนนั้นเราก็ไม่ได้มีทรัพย์สินอะไรให้เขา เรามีแต่ความรู้ให้เขาติดตัวไป อย่างน้อยที่สุดเขาอาจจะไม่ได้ทำงานสายอาชีพนี้ หรืออาจจะไม่ได้เก่งมากมาย แต่อย่างน้อย ณ วันที่เขาใช้เวลาอยู่ในเรือนจำ เขาจะได้มีสิ่งที่สร้างสรรค์ มีสิ่งที่มันเกิดประโยชน์กับเขา ในเรื่องดนตรีและศิลปะ มันเป็นเรื่องขัดเกลาจิตใจได้ ทำให้เขาอ่อนโยนขึ้น มองอะไรที่ละเอียดรอบด้านขึ้น ทำให้เขารู้จักเห็นใจผู้อื่นมากขึ้น ผมว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ดนตรีและศิลปะมอบให้ และมีคุณค่ามาก

ส่วนคนที่จะต่อยอดเป็นอาชีพทางด้านต่างๆ ก็ดี ผมเชื่อว่าอันนั้นเป็นเรื่องของผลกำไรที่เขาได้ ในสิ่งที่เขาทำในแต่ละโอกาสของคนที่ได้รับ แต่อย่างน้อยที่สุด ณ วันที่เขาอยู่ข้างใน แต่ละวันที่เขาตื่นขึ้นมา เขามีความหวัง มีเป้าหมาย และรู้สึกว่าตัวเองมีการพัฒนา รู้สึกถึงคุณค่าของตัวเอง วันเวลาผ่านมา 3 ปี กลับมาหลายคนก็เติบโต เรียนรู้ พัฒนา ซึ่งผมเองก็ภูมิใจ แต่สิ่งเหล่านี้หลักๆ ก็ได้กับตัวน้องเขาเองนั่นแหละกับความสุข ความรู้ที่เขาได้ ตรงนี้ก็ถือว่ามีอีกหลายคนที่เราได้มีโอกาสถ่ายทอดความรู้ให้ และมีน้องอีกหลายคนที่เราเคยถ่ายทอด ถ่ายทอดต่อไปเป็นรุ่นๆ ความรู้ที่เราให้ มันไม่ได้สูญหายในวันที่เราก้าวออกไป ก็รู้สึกดีใจมากๆ กับสิ่งที่เราให้เขาครับ”

คนข้างในหลายคนชื่นชมแพท มองเป็นไอดอลในแง่ของการเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้อย่างมีคุณภาพ
“ก็เป็นสิ่งที่ดี ที่น้องเขาจะเรียนรู้ ทั้งชีวิตตัวเองและชีวิตของเราเอง มันเป็นประสบการณ์ให้เขาตกผลึกในเรื่องของความคิด การตัดสินใจ การใช้ชีวิต จะได้ไม่ต้องผิดพลาดอีก ใครที่กลับตัวได้คิดได้ ก็ถือว่าคนนั้นมีบุญ และมีโอกาสในการประสบความสำเร็จในชีวิต ผมเอาใจช่วยกับทุกๆ คนเลยครับ”

แพทมองย้อนกลับไปในวันนั้นที่ตนเองอยู่ในโลกหลังกำแพงกว่า 16 ปี 8 เดือน ก็คงเหมือนกับทุกคนในวันนี้ที่อยู่ในที่แห่งนี้
“สถานการณ์ผมว่า ณ วันนั้นกับวันนี้ ก็คงจะไม่ต่างกันมาก เพราะทุกคนเหมือนตกอยู่ในความรู้สึกเดียวกัน ที่จะต้องรับโทษ ต้องรอคอยการกลับไปอยู่กับญาติ กลับไปอยู่บ้าน กลับไปใช้ชีวิตอิสระ ซึ่งเป็นชีวิตที่ทุกคนรอคอย แต่ ณ วันนี้ในวันที่ต้องรับโทษอยู่ ผมก็จะบอกน้องๆ เสมอว่าอยู่ให้รู้สึกว่าตัวเองยังมีคุณค่า ให้สิ่งรอบตัวเกิดประโยชน์กับเรามากที่สุด สิ่งต่างๆ ที่เขาขัดเกลาในนี้ ล้วนเป็นประโยชน์และสามารถนำไปใช้ได้จริงในชีวิตข้างนอกอย่างแน่นอน ก็จะพยายามบอกให้พี่ๆ น้องๆ เก็บเกี่ยวไว้ เพราะทุกอย่างมันเป็นประโยชน์ให้เราเติบโต ได้เรียนรู้และเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ชีวิตมันมีสองด้านครับ ทั้งดีและไม่ดี อยู่ที่เราเลือกมอง เลือกที่จะเก็บมากับตัวว่าจะเลือกเอาสิ่งไหน”

กลับมาในเวอร์ชั่นใหม่ มองฟ้าที่นี่ วันนี้เปลี่ยนไปไหม?
“มันก็ไม่นะ ผมก็รู้สึกเหมือนเดิมแหละ เพราะ ณ วันที่เราอยู่ในนี้ เราก็ไม่เคยด้อยค่าตัวเอง หรือว่ามองว่าตัวเองอยู่ในจุดที่ไม่มีใครเอาแล้ว เรายังเห็นคุณค่าในตัวเองเสมอ และเราก็มีความหวังเสมอ ส่วนตัวเป็นคนไม่ยึดติดหรือจมปลักอะไรกับพลังลบๆ มากนัก เพราะชีวิตที่ผมใช้ในนี้ ผมยังมีความหวังเสมอทุกวัน เพียงแต่วันนี้กลับมายืน มันคือวันที่เรารู้สึกว่าประสบความสำเร็จในชีวิตประมาณหนึ่งแล้วในการกลับมาอีกครั้ง ก็เรียกว่ากลับมาให้เขามากกว่า ทั้งเรื่องของแจก เรื่องของกำลังใจ วันนี้ก็กลับมาด้วยความสุขที่เรามามอบให้เขา”

รีวิว 3 ปีที่ได้รับอิสรภาพ เหมือนคนผ่านชีวิตทุกมิติมา 10 ปี
“เป็น 3 ปีที่ค่อนข้างเกิดอะไรกับชีวิตผมมากๆ เหมือนคนผ่านชีวิตมา 10 ปี ทุกมิติในชีวิต ทั้งเรื่องงาน เรื่องสังคม เรื่องการพัฒนาตัวเอง ครอบครัว ความรับผิดชอบ การทำประโยชน์ให้กับสังคม ก็ไปมาไม่รู้กี่ที่ทั่วประเทศแล้ว คือได้ทำอะไรหลากหลายมากๆ ได้เดินทางไปหลายที่มากๆ ทุกที่ทุกอย่างที่ทำ ล้วนแต่ทำสิ่งดีๆ ล้วนแต่สร้างประโยชน์ให้กับตัวเอง คนรอบข้าง แล้วก็ประเทศชาติ ก็รู้สึกภูมิใจในตัวเองนะ ที่พอได้รับอิสระก็ใช้ชีวิตได้อย่างคุ้มค่าและมีประโยชน์ขนาดนี้ ทำเพื่อตัวเองและสังคมไปพร้อมๆ กัน ทุกครั้งที่เรามอบความสุข มอบแรงบันดาลใจให้กับแต่ละคนที่ไปเจอ เราก็ได้รับความสุขกลับมาด้วย เพราะฉะนั้นมันเป็นสิ่งที่ได้ทั้งสองฝ่าย ไม่ใช่เขาได้หรือเราได้อย่างเดียว”

ตอนนี้เป็นวิทยากรเต็มตัว เป็นอีกหนึ่งงานหลักของชีวิตที่ทำมาอย่างต่อเนื่อง ไปมาแล้วหลายจังหวัดทั่วประเทศ
“เป็นเรื่องจังหวะชีวิต เนื่องด้วยชีวิตของเราที่ผ่านมา มันก็ผ่านประสบการณ์อะไรมามาก คือน้อยคนมากๆ ที่จะเจอเหตุการณ์แบบนี้ แล้วมีโอกาสกลับมาตรงนี้ มาบอกเล่าต่อแบบนี้ เพราะฉะนั้นมันเป็นโอกาสที่ดี และเป็นสิ่งที่เราตั้งใจแล้ว ว่าเราจะทำเพื่อสังคม เยาวชน และประเทศชาติ ในทุกวันที่ผ่านมารู้สึกยินดีทุกครั้งที่ได้รับเชิญ ได้มีโอกาสไปเป็นวิทยากร การที่จะไปเจอน้องๆ เจอแต่ละคน แต่ละสถานที่ แต่ละองค์กร เราเองก็ภูมิใจกับตัวเองมากๆ และผมเชื่อว่าหลายคนที่ได้มาฟังไม่มากก็น้อย เขาจะได้รับประโยชน์ และนำมาฉุกคิด เพราะว่าประสบการณ์ชีวิตของแต่ละคน ไม่จำเป็นต้องไปลองเรียนรู้ผิดถูกเองทุกอย่าง แต่เรียนรู้จากประสบการณ์ของเราก็ได้และนำไปปรับใช้ ทุกวันนี้ก็ยังมีงานลักษณะนี้ต่อเนื่องมาตลอดเลย”

ชอบตัวเองในเวอร์ชั่นนี้เพราะมีแต่สิ่งดีๆ แต่ก็ไม่ได้รู้สึกรังเกียจตัวเองในอดีตที่ผ่านมา
“ก็ชอบ เพราะเป็นอะไรที่มีแต่สิ่งดีๆ ทำเพื่อคนอื่น เติบโต มีความเข้าใจชีวิตมากขึ้น แต่ก็ไม่เคยรู้สึกรังเกียจตัวเอง ณ วันที่ผ่านมานะ เพราะว่าเรื่องราวในชีวิต ทั้งด้านดีไม่ดี มันล้วนเป็นครูสั่งสอนเราทั้งนั้น ให้เราเจอประสบการณ์ ให้เราเรียนรู้ เพราะฉะนั้นผมก็ยังภูมิใจในความเป็นเราตั้งแต่เกิดจนถึงปัจจุบันนั่นแหละ เพียงแต่ ณ ทุกวันนี้ ด้วยวัย ด้วยประสบการณ์ชีวิต มันตกตะกอน และรู้สึกว่าชีวิตมันสบายขึ้น ไม่ต้องไปดิ้นรนอะไรมาก แล้วก็ทำเพื่อคนอื่น เลยรู้สึกว่าชีวิตตัวเองมีคุณค่ามากขึ้นครับ”

3 ปีทีผ่านมา สิ่งยากที่สุดสำหรับแพทคือการต้องรับผิดชอบหน้าที่ต่างๆ ที่เติบโตมา
“ยากที่สุด ก็ในเรื่องของการที่เราต้องรับผิดชอบ กับหน้าที่ต่างๆ ที่เราเติบโตมา ดูแลครอบครัว ดูแลบริษัท ดูแลทีมงาน มันไม่ได้มีแค่ตัวเราแล้ว เวลาจะคิดตัดสินใจทำอะไรลงไป เราต้องคิดถึงคนข้างหลัง คนที่เราดูแลด้วย อีกหลายชีวิตเลย บางอย่างเราไม่สามารถทำตามใจตัวเองได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ ต้องคิดถึงคนรอบข้างเราด้วย”

ส่วนเรื่องที่ง่ายที่สุดคือ สามารถพูดถึงอดีตที่ผิดพลาดของตัวเองให้เป็นบทเรียนกับผู้อื่นได้อย่างไม่ต้องปิดบัง
“เราสามารถคุยกับทุกคนได้อย่างภูมิใจ เราสามารถเล่าเรื่องราวของเราได้อย่างไม่ต้องปิดบังอะไร แต่สมัยก่อนเราอาจจะปิดบังเรื่องราวชีวิต ไม่อยากให้ใครรู้ชีวิตของเรามาก หรือเวลาคุยกับใคร ก็ไม่มั่นใจว่าเขาจะมองเรายังไง แต่เมื่อเราผ่านชีวิตมาในระดับหนึ่ง เรารู้สึกว่าเราปล่อยวาง ที่ผ่านมาเราสะสมสิ่งดีๆ มาตลอด เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเดินไปที่ไหน คุยกับใคร เราล้วนมั่นใจและภูมิใจ กล้าพูด กล้าเล่าถึงชีวิตที่ผิดพลาดของเราอย่างที่ไม่เคยอาย เพราะเรายอมรับมัน และเราก็ได้ชดใช้สิ่งเหล่านั้นไปเรียบร้อยแล้ว เพราะฉะนั้นทุกวันนี้มีแต่ความสุข ได้เจอคนใหม่ๆ มากมาย 3 ปีมีพี่ๆ น้องๆ ทั้งในและนอกวงการหลายๆ คน ที่ดูแลสนับสนุนกัน ก็รู้สึกโชคดีที่ได้เจอพวกเขาเหล่านั้นครับ”

เป็น 3 ปีที่ปลดล็อกอะไรหลายๆ อย่าง เคยรู้สึกผิดที่ทำให้พ่อ-แม่ และครอบครัวเสียใจ ตอนนี้กลับมาเป็นลูกที่ดีให้พ่อแม่ภูมิใจได้แล้ว จากเด็กผู้ชายที่ไม่เคยกอดหอมพ่อแม่เพราะเขิน ตอนนี้กอดหอมบอกรักตลอด อยากบวชทดแทนบุญคุณบุพการีก็ได้ทำแล้ว เคยเดินทางผิดทำเรื่องผิดกฎหมาย ซึ่งแพทได้ชดใช้ความผิดเหล่านั้นด้วยการรับโทษ 16 ปี 8 เดือนในเรือนจำ และจะไม่มีวันทำผิดซ้ำอีก ได้พิสูจน์ตัวเองว่าเป็นคนใหม่ที่ดีกว่าเดิม ตอนนี้ชีวิตแพทเหมือนปลดล็อกแล้วทุกอย่าง
“จริงๆ ปลดล็อกตั้งแต่ออกไปจากเรือนจำแล้ว เป็นเรื่องของการเติบโต การเรียนรู้ พัฒนาตัวเองมากกว่า ซึ่ง 3 ปีนี้ก็พัฒนาแบบก้าวกระโดดหลายๆ อย่าง แต่ก็จะไม่สามารถสำเร็จได้ ถ้าขาดพี่ๆ เพื่อนๆ ผู้ใหญ่ต่างๆ ที่คอยสนับสนุนครับ ก็ต้องขอบคุณเขาด้วย”

เป้าหมายชีวิตหลังจากนี้ไม่ได้ตั้งเป้าไว้สูงมาก แค่รับผิดชอบหน้าที่ตัวเองให้ดีที่สุดไม่ขาดตกบกพร่อง วางแผนอนาคตให้อยู่ในเส้นทางของความถูกต้องก็พอแล้ว
“ผมไม่ได้ตั้งเป้าไว้สูงมาก หน้าที่ที่เรารับผิดชอบ ก็อยากจะให้มันราบรื่นตลอดไปเรื่อยๆ ไม่มีอุปสรรคใดๆ มาทำให้เราชะงัก ก็หวังแค่นั้นแหละ เราไม่ได้คิดอะไรที่มันใหญ่โตมากๆ ในเรื่องของงาน ของบริษัท ของครอบครัว ก็อยากจะดูแลกันไปให้ดีแบบนี้ได้อย่างสมบูรณ์ ไม่ขาดตกบกพร่องพอแล้ว ไม่ได้หวังเยอะครับ

ชีวิตตัวเองก็ไม่ได้หวังอีกเหมือนกัน ไม่ได้คิดไกล ทำทุกวันให้ดีครับ วางแผนอนาคตให้อยู่ในเส้นทางของความถูกต้องพอแล้ว ส่วนผลจะเป็นยังไงเราไม่ได้ซีเรียสกับมัน เพราะว่าชีวิตมันผ่านเรื่องหนักๆ มาแล้ว ในอนาคตมันก็ไม่ได้มีอะไรเลวร้ายกว่าที่ผ่านมาแล้ว มันก็สบายๆ มากกว่าครับ ตอนนี้มีความสุขมากครับ”

ขอบคุณทุกคนที่อยู่เบื้องหลังที่คอยซัปพอร์ตและอุ้มชูจนตนมีวันนี้
“ขอบคุณมากๆ นะครับ ไม่ว่าจะเป็นพี่ๆ น้องๆ ผู้หลักผู้ใหญ่ที่ผมเคารพรักทุกท่าน แฟนคลับ ครอบครัว ทุกๆ คนที่คอยสนับสนุนผม อุ้มชูผม ที่ได้ร่วมงานกัน ทุกคนน่ารักกับผมมาก มีโอกาสเราจะได้ไปร่วมงานกันอีก ไปดูแลกันอย่างนี้เรื่อยๆ ก็ขออวยพรปีใหม่ให้ทุกท่านพบแต่ความสุขความเจริญยิ่งๆ ขึ้นไปครับ ขอบคุณครับ”







































กำลังโหลดความคิดเห็น