“ฮาย ธันวา” เคลียร์ ถูกโซเชียลขุด เลิกแฟนเก่า “กิ๊กกี้” เพราะ “เบียร์ เดอะวอยซ์” เข้าใจเป็นผลพวงจากคนอคติ แว๊บนึงอยากอธิบาย แต่ไม่อยากเปิดสงครามผ่านโซเชียลกับใคร ไม่อยากให้คนสนุกไปเรื่อยๆ มีเรื่องกับใครก็แก้กับคนนั้น ไม่ใช่ออกมาขอโทษหน้ากล้อง ศิลปินไม่จำเป็นต้องตีแผ่ชีวิตส่วนตัว ลั่นเคยเลิกเล่นโซเชียลเพราะถูกบูลลี่หน้าตา
เป็นอีกหนึ่งรายที่โดนโยงข่าวร้อน “เบียร์ เดอะวอยซ์” ภัสรนันท์ อัษฎมงคล เหตุโลกออนไลน์มีการแฉเบียร์ว่าสิ่งที่ทำอยู่ตอนนี้ไม่ใช่ครั้งแรก แต่รอบก่อน ผู้หญิงไม่สู้คน ไม่ได้ประจานใคร ทั้งที่โดนผู้ชายเทไปคบกับเบียร์ โดนเบียร์แย่งและไม่เคยรู้สึกผิดกับสิ่งที่เกิดขึ้น งานนี้มีการขุดคลิปเก่าซึ่ง “กิ๊กกี้” อดีตแฟนของนักร้องหนุ่ม “ฮาย ธันวา เกตุสุวรรณ” วง PAPER PLANES ว่าเป็นสาวรายดังกล่าว
ล่าสุด ศิลปินวง เปเปอร์ เพลนส์ จัดกิจกรรม ‘PAPER PLANES FLASH MOB’ ณ ลานพาร์คพารากอน ศูนย์การค้าสยามพารากอน ในวาระฉลองครบรอบ 1 ปี ทรงอย่างแบด ครั้งแรกกับปรากฏการณ์รวมตัวคนเล่นดนตรี ทุกเพศ ทุกวัยจากทั่วประเทศกว่า 100 ชีวิต พร้อมขนเครื่องดนตรีมาร่วมโชว์เพลง “ทรงอย่างแบด” พร้อมกัน ภายหลังเสร็จสิ้นกิจกรรม ฮาย ธันวา ได้ให้สื่อมวลชนสัมภาษณ์ถึงประเด็นดังกล่าว ซึ่งเจ้าตัวเผยว่าเป็นเรื่องเก่าเมื่อ 7 ปีแล้ว ปัจจุบันตนกับแฟนเก่าก็ยังคุยกันอยู่ในฐานะเพื่อน ซึ่งตอนนั้นเลิกกันไม่ได้ออกมาพูด เพราะไม่อยากให้เกิดสงครามโซเชียล แต่มีการเคลียร์กันจบด้วยดี เข้าใจว่าถูกโยงไปด้วยเพราะผลพวงจากการที่โซเชียลอคติกับเบียร์ไปแล้ว
“จริงๆ เรื่องราวมันสักประมาณ 6-7 ปีแล้ว มันนานมากจนผมจำดีเทลได้บางส่วน ณ วันนี้ผมกับแฟนเก่าคนนั้น ทุกวันนี้ก็ยังคุยกันอยู่ ยังคุยในฐานะเพื่อน ยังโทร.คุยกันอยู่ ตัวแฟนผมเองก็ยังติดต่องานกันอยู่ ก็คือจะทำงานร่วมกัน ติดต่องานหางานให้กัน พอเกิดข่าวขึ้นก็แอบเอ๊ะนิดนึงว่าทำไมเกิดข่าว แต่ว่าจริงๆ แล้วเราคุยกันตลอด
ข่าวที่เกิดขึ้นก็มีส่วนที่มันถูกแต่ว่ามันมีส่วนที่ไม่ถูกอยู่ แต่ว่าๆ ปกติผมไม่ใช่คนโซเชียล แล้วการที่ผมออกมาพูดอะไรหรือความสัมพันธ์มันไม่ค่อยใช่ตัวผม เมื่อเกิดเหตุการณ์นั้นขึ้น ผมมีการได้คุย เหมือนเราทะเลาะกับเพื่อนหรือทะเลาะกับครอบครัว สิ่งที่เราทำก็คือ เราคุยกันเป็นการภายใน เพราะเรารู้สึกว่าการออกมาพูดหรืออะไรแบบนี้มันเหมือนเป็นการประกาศสงครามกันทางโซเชียล แล้วมันไม่จบ
ที่จะบอกคือผมมีการคุยกันแล้ว ตั้ง 6-7 ปีที่แล้ว และจะบอกว่าข่าวบางส่วนมันไปเยอะ แต่ว่าผมแค่ไม่อยากออกมาแก้ต่างเพื่อให้ พี่นึกออกใช่ไหมข่าวบันเทิงเวลาเราออกมาแก้ต่าง มันคือการเปิดประเด็น ผมรู้สึกว่าผมไม่ค่อยซีเรียส ที่ผ่านมาแม้ว่าผมจะคบกับใคร เวลามีข่าวผมไม่เคยตอบโต้เลย ผมปล่อยให้มันเป็นไป ผมรู้สึกว่าคนที่เสพข่าวจริงๆ เขาจะไปติดตามดูว่าอะไรมันเกิดขึ้นตอนไหน ง่ายๆ คือผมไม่ได้ซีเรียส”
เผยเคยเลิกเล่นโซเชียลเพราะถูกบูลลี่เรื่องหน้าตา เป้าหมายแค่อยากใช้ชีวิต
“ผมรู้สึกเหมือนเมื่อก่อนเลย ตอนผมคบอยู่กับอีกคนหนึ่งแล้วก็โดนบูลลี่เรื่องหน้าตา ผมก็เลิกเล่นโซเชียลไปเลยนะ ผมรู้สึกว่าทำไมมันเกิดขึ้นเร็วแบบนี้ เขาไม่แม้แต่จะคิดรอฟังความจากอีกฝ่ายเลย เขาเลือกที่จะเข้ามาด่าเลย แต่ผมเป็นสไตล์นี้เลย จะเลิกกับใครคนดังหรือไม่ดัง ผมไม่เคยออกมาพูดเลย เพราะว่าผมมีเป้าของผมคือแค่ใช้ชีวิต แล้วผมเชื่อว่าคนที่เสพข่าวจริงๆ เขาจะไม่ตัดสินเร็ว เขาจะดูเรื่องราวจริงๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น ผมว่าไทม์ไลน์ต่างๆ มีอยู่ในโซเชียลอยู่แล้ว”
แว๊บนึงอยากอธิบาย แต่ไม่อยากให้คนสนุกไปเรื่อยๆ เพราะพูดความจริงไปก็ไม่ค่อยมีประโยชน์
“แว๊บนึงมี แต่เท่าที่ผมวิเคราะห์นะ ผมคิดว่าคนที่เสพข่าวมีจะมีสัก 2-3 ประเภท หนึ่งคือเสพเพื่อรับข่าวจริงๆ ก็คือข่าวจริงข่าวไม่จริง กับสองคือคนที่ไม่สนใครชนะฉันอยู่ข้างนั้น และคนแบบนี้มีมากกว่า การที่ผมออกไปพูดมันจะเป็นการฟีดเพื่อให้คอนเทนต์มันคงอยู่และให้คนสนุกไปเรื่อยๆ การที่เราออกไปพูดความจริงไม่ค่อยมีประโยชน์ หรือการไปแก้ต่างในข้อไหนก็ตาม
ความรักทุกคนรู้อยู่แล้วว่ามันมีมุมหลากหลายที่แตกต่าง แง่มุมที่เราไม่ได้อยากจะออกมาพูดเพื่อให้ต่อความยาวสาวความยืด มันเหมือนคนหนึ่งออกไปยืนหน้าบ้าน ทำไมแกทำกับฉันอย่างนี้ แล้วลองนึกภาพอีกคนหนึ่งที่เขาไม่ค่อยพูดอะไร เขาจะเดินออกไปหน้าบ้าน เพื่อจะไปตะโกนด่ากันให้ชาวบ้านมาตำหนิเราทำไม ทำไมเราไม่กลับมาคุยกันในบ้าน ผมคิดแบบนั้นนะ กับแฟนเก่าผมยังคุยกันอยู่ ล่าสุดผมยังไปเปลี่ยนโปรโมชั่นเบอร์ให้เขาอยู่เลย เมื่อไม่นานมานี้เลยนะ ผมก็เลยแปลกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ถามว่าผมอยากจะไปเปิดศึกอะไรไหม ก็ไม่”
เข้าใจว่าโดนขุดเพราะผลพวงจากคนอคติกับเบียร์
“ผมว่าน่าจะเป็นข่าวมาจากผลพวงอีกคนหนึ่ง คือตอนนี้คนอคติกับน้องเขาแล้ว การที่ผมจะออกไปแก้ต่างคือคนจะไม่ค่อยเชื่อ เพราะว่าน้องคนนั้นทำแบบนั้น ก็ต้องทำแบบนี้แหละ แล้วการที่ผมออกไปตอนนี้ไม่มีประโยชน์ แล้วที่สำคัญเรื่องมันผ่านมาแล้ว 6-7 ปี แล้ว มันนานมาก แล้วผมได้คุยกันหมดแล้ว แล้ววันที่เราเป็นเพื่อนกันแล้ว เป็นเพื่อนประเภทที่โทร.ถามสารทุกข์สุขดิบกัน ไอจีก็ยังฟอลฯ กันอยู่ แล้วอยู่ดีๆ ผมจะออกมาสร้างความอีกเพื่ออะไร มันไม่ใช่เรื่องของเรา มันไม่ใช่เรื่องของผมกับน้องเขาแล้ว มันเป็นเรื่องของคนอื่นแล้วที่คนอยากจะรู้ความจริง และจริงๆ มันเป็นเรื่องส่วนตัว ผมก็เลยอยากเก็บไว้ให้เป็นเรื่องส่วนตัวบ้าง และก็อันไหนที่ผมแสดงออกไปไม่โอเค แต่ยังไม่ได้แสดงออกไป (หัวเราะ) ผมไม่ได้เล่นโซเชียล”
ไม่เคยทำปฏิบัติตัวว่าตนเองเป็นดารา ทุกความสัมพันธ์ที่เกิดก็ไม่ได้เลือกว่าใครดังหรือฮอตกว่า
“ผมบอกก่อน ผมไม่เคยปฏิบัติตัวเองว่าผมเป็นดารา และความสัมพันธ์ที่ผ่านมาอย่าคิดว่าการที่ผมเลิกกันกับใครเพราะคิดว่าคนนั้นคือดาราผมปฏิบัติกับทุกคนเท่ากัน ผมพูดกับทุกคนเสมอ สมมติเวลามีคนพูดว่าอยากจีบคนนี้ ก็จีบสิ พี่เขาเป็นดารา ผมจะบอกว่าไม่เกี่ยวหรอก คนทุกคนเท่ากัน เพราะฉะนั้นสิ่งที่ผมจะบอกคือทุกความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นผมไม่เคยเลือกใครเพราะใครดังกว่า หรือฮอตกว่า ผมบอกตรงๆ นะ และตัวเขาเองก็น่าจะรู้ว่าความรักของผมครั้งนั้นผมตั้งใจมาก ถ้าเขานึกย้อนกลับไปผมตั้งใจมากๆ และผมว่าเขาจำได้ แล้วเราทำเต็มที่กันแล้วทั้งคู่ วันหนึ่งที่ต้องเลิกกัน มันไม่มีเหตุผลอะไรนอกจากตัวเรา”
เลือกไม่สนใจโซเชียล เพราะเปลี่ยนใครไม่ได้ ขอแค่อย่าวุ่นวายกับครอบครัว ลั่นศิลปินไม่จำเป็นต้องตีแผ่ชีวิตส่วนตัว มีเรื่องกับใครก็แก้กับเขา ไม่ใช่ออกมาขอโทษหน้ากล้อง
“ผมเลือกที่จะไม่สนใจมากกว่า ผมเปลี่ยนใครไม่ได้จริงๆ แล้วยิ่งจำนวนเยอะผมเปลี่ยนไม่ได้เลยครับ ผมเข้าไปดูบ้างว่าคนตีความยังไงนะ แต่ว่าสุดท้ายแล้วผมก็ไม่ได้ทำอะไร ขอแค่เขาไม่มาวุ่นวายกับครอบครัวผมก็โอเคแล้ว ขอแค่ยังอยู่ในพื้นที่กับการแสดงความคิดเห็น และผมคิดว่าสิ่งนี้ควรเป็นมาตรฐานในเรื่องของความเป็นส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็นศิลปิน เอาแค่ศิลปินแล้วกันผมอยู่ในโหมดศิลปิน
ผมว่าศิลปินไม่จำเป็นต้องตีแผ่เรื่องราวส่วนตัวขนาดนั้น เพราะเราควรแก้ปัญหาให้ตรงเหตุถ้าเราทะเลาะกับใคร มีเรื่องกับใคร เราควรแก้กับเขา ไม่ใช่ออกมาขอโทษต่อหน้ากล้อง เราควรขอโทษต่อหน้าเขา และผมทำสิ่งนั้นแล้ว ได้ปรับความเข้าใจ ได้คุยกันแล้ว และแค่นั้นมันจบแล้ว ถ้าสังเกตผมไม่เคยให้สัมภาษณ์เรื่องใครเลยแม้ผมจะโดนมาขนาดไหนก็ตาม”
