“แอนนี่” เปิดหมดเปลือก เจ็บ - จุก - จี๊ด! เผยอยู่กินฉันท์สามีภรรยากับ “ปลื้ม” สิ่งที่ “เบียร์ เดอะวอยซ์” พูด - ได้เรียนรู้คน

“แอนนี่” เปิดหมดเปลือกครั้งแรก เจ็บ-จุก-จี๊ด เล่านาทีเห็น “ปลื้ม” โน้มตัวหา “เบียร์ เดอะวอยซ์” แต่อีกฝ่ายนิ่งเฉย รับเหตุการณ์คืนนั้นเป็นสาเหตุให้เลิกกัน ทั้งที่อยู่กินฉันท์สามีภรรยากับ “ปลื้ม” มา 4 ปีโดยไม่ได้จดทะเบียน บอกฝ่ายชายยืนกรานไม่เคยบอกเบียร์ว่าเหมือนตู้เอทีเอ็ม หากวันนึงเขาคบกันก็ยินดีด้วย

ดรามาข้ามปีกับกรณี “เบียร์ เดอะวอยซ์” ภัสรนันท์ อัษฎมงคล ถูกแฉแอบแซบแฟนเพื่อน งานนี้เบียร์ได้ออกมาไลฟ์สดยันไม่ได้เป็นเพื่อนกับแอนนี่ และไม่ได้เกินเลยกับ “ปลื้ม” แค่ฝ่ายชายจุ๊บ แต่ไม่ได้เยเย่ พร้อมบอกว่าผู้ชายเป็นคนบอกตนเองว่าอยากหลุดพ้นจาก “แอนนี่” เพราะเหมือนตู้เอทีเอ็มและที่นอน ลั่นถึงไม่มีตนเอง เขาก็ไม่กลับไปเอา

ล่าสุดรายการโหนกระแส วันที่ 5 ม.ค. 67 โดย หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย ได้โฟนอิน “แอนนี่” เป็นที่แรก เพื่อเคลียร์ถึงเรื่องนี้ โดยมีผู้ร่วมรายการคือ พชร์ อานนท์, ทนายแก้ว ดร.มนต์ชัย จงไกรรัตนกุล และเจ๊มอย งานนี้แอนนี่เผยว่าสภาพจิตใจโอเคระดับหนึ่ง ยอมรับว่าได้ฟังเบียร์แถลงแล้ว ฟังผ่านๆ เพราะมีเพื่อนๆ ส่งมาให้ดู ดีเอ็มแทบแตก พร้อมเผยสถานะคบ “ปลื้ม” 4 ปี อยู่กินฉันท์สามีภรรยาโดยไม่ได้จดทะเบียน

คุณมีเรื่องระหองระแหงกับปลื้มจริงมั้ย?
แอนนี่ : มันเหมือนปัญหาเล็กๆ น้อยๆ ค่ะ บางทีสะสมมา แต่เราก็คุยกันตลอดค่ะ เราพยายามให้เหตุผลให้เขาเข้าใจในการทำงาน ว่าเราไม่มีเวลา เราขอโทษ แต่เราพยายามหาเวลาให้เขาเต็มที่ เป็นเรื่องเวลาที่เราไม่ค่อยมีให้เขา เพราะเราทำงานค่ะ

ค่าใช้จ่ายเวลาอยู่ร่วมกัน ส่วนใหญ่ใครเป็นคนจ่าย?
แอนนี่ : ค่าใช้จ่ายทุกอย่างในคอนโดก็เป็นทั้งปลื้มจ่าย ส่วนค่ากินเราก็แชร์กันมากกว่า อย่างเราสั่งอาหารมาทาน ก็ต่างคนต่างสั่ง หรือสั่งมากินด้วยกัน ก็ไม่ได้มีเงินเดือนให้ค่ะ

วันนั้นเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น?
แอนนี่ : น้องพาน้องหมามาด้วย อีกวันแอนต้องไปทำงาน แล้วหนูเป็นคนนอนยากมาก ได้ยินเสียงอะไรนิดหน่อยก็ตื่นแล้ว ตอนกลางคืนเหมือนเราได้ยินเสียงเพื่อนๆ เขากลับไปแล้ว ก็คิดว่าเขากลับไปเรียบร้อยแล้ว แต่เหมือนได้ยินเสียงเหมือนน้องหมาอยู่หน้าห้อง เราก็คิดว่าเอ๊ะยังไม่กลับเหรอ ตอนแรกยังไม่ออกไป ก็โทรหาปลื้มก่อนว่าอยู่ไหน เคลียร์ห้องเสร็จหรือยัง เพราะตอนนั้นประมาณตีสี่กว่าๆ แล้ว ตอนแรกพยายามหลับแต่ก็ยังได้ยินอีก มันก็จะตื่นแล้วแหละ ก็เลยออกไปดูดีกว่า แล้วก็เห็นตามภาพที่ได้พูดออกไป

ภาพที่คุณเห็นคือภาพคุณปลื้มลักษณะโน้มตัวไป?
แอนนี่ : ใช่ค่ะ เห็นตอนที่เขาโน้มตัวอยู่แล้วค่ะ

ลักษณะฝ่ายหญิงถอยหนีหรือนิ่งเฉย?
แอนนี่ : นิ่งเฉยค่ะ แต่พอเห็นหนูก็ผละออกจากกัน

ใช้ระยะเวลาที่เห็นนานแค่ไหน?
แอนนี่ : แอนจำไม่ได้เลยค่ะ พอเห็นก็ช็อกแล้วเรียกปลื้มให้มาคุยในห้อง แล้วบอกให้น้องเบียร์กลับไปก่อน

ฝ่ายหญิงเดินมาพูดคุยกับคุณมั้ย?
แอนนี่ : ณ ตอนนั้นแอนคิดว่าน้องเขากลับไปแล้ว จนเราคุยกันก็ได้ยินน้องเขามาเรียกให้แอนออกไปคุยกับน้องเขา

ตอนเห็นเขาโน้ม มือฝ่ายชายอยู่ลักษณะไหน?
แอนนี่ : มันไม่ได้เห็นขนาดนั้นค่ะ มันเห็นเป็นคนโน้มลงไปแล้ว

ตามความเข้าใจของคุณ เป็นเพราะฝ่ายชายโน้มไปจุ๊บ แลวฝ่ายหญิงถอยหนี หรือคิดว่าสองคนสมยอมกันเอง?
แอนนี่ : เขาไม่ได้มีการถอยหนีค่ะ ถ้าการจุ๊บส่วนใหญ่ไม่ได้เกิดจากความยินยอมฝ่ายเดียวหรือเปล่าคะ ในมุมของแอนนะคะ การโอบกอดไม่เห็นค่ะ

หลังเขาไปในห้อง มีการทะเลาะเบาะแว้งกัน คุณมีการพูดมั้ยว่าฝั่งคุณปลื้มกับคุณเบียร์ เขาไปมีสัมพันธ์หรือไปนอนกัน?
แอนนี่ : ไม่มีเลยค่ะ แอนแค่ถามว่าเกิดอะไรขึ้น ทำแบบนี้ทำไม คืนนั้นเอาจริงๆ เลย แอนคิดว่าเขาอาจจะเมา แล้วอารมณ์พาไปหรือเปล่า แอนแค่ต้องการว่าที่ทำอยู่คืออะไร แค่เมาใช่มั้ย หรือเกิดอะไรกับเขาและน้องหรือเปล่า ไม่มีการพูดว่านอนด้วยกันเลย

จากนั้นได้เคลียร์?
แอนนี่ : เขาก็บอกว่าหมดรักหนูแล้ว หนูก็ถามว่าทำไมไม่จบกันตั้งแต่แรก ทำไมทำแบบนี้ เขาก็บอกว่าจะรอให้ผ่านช่วงคริสต์มาส ปีใหม่ ไปก่อนค่ะ

ฝั่งเบียร์ได้คุยมั้ย?
แอนนี่ : ได้คุยผ่านข้อความมากกว่าค่ะ ตามที่ได้เห็นกันไป แค่นั้นเลย

น้องยอมรับมั้ยว่ามีการจูบกัน?
แอนนี่ : น้องเขายอมรับค่ะ และเขาก็ขอโทษ

ทนายแก้ว : ตอนน้องเบียร์ยอมรับ เขารับว่าเมา หรือรับว่าได้จูบกันจริงครับ

แอนนี่ : เขารับว่าได้มีการจุ๊บกันจริง เหตุการณ์เกินเลยขึ้นมาแล้ว แล้วเขาก็ขอโทษ ไม่มีคำว่าเมาค่ะ

ทนายแก้ว : การพูดคุยของสองท่าน มีสติสัมปชัญญะครบถ้วนมั้ย หรือมีอาการเมามั้ย?
แอนนี่ : ของหนูครบถ้วนค่ะ เรียกว่าไม่เมาได้ค่ะ

ทนายแก้ว : สองคนสมัครใจจุ๊บกัน ถูกต้องมั้ย

แอนนี่ : ค่ะ

มีคนบอกว่าคุณส่งข้อมูลให้เพจคุณพระโรส?
แอนนี่ : ไม่ใช่ค่ะ เอาจริงๆ หนูไม่รู้จักเพจพี่โรสด้วย เพราะไม่ค่อยได้ตามข่าว ไม่รู้จัก ไม่ได้เล่นเฟซบุ๊กเท่าไหร่ ก็ตกใจเหมือนกันที่มีคนแคปเพจมาให้หนูดูตอนเกิดเรื่อง

ข้อความคุณหลุดไปถึงคุณพระโรส ไปได้ยังไง?
แอนนี่ : หนูก็ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ เพราะมันไม่ได้หลุดมาทางฝั่งแอนแน่นอน

แต่คุณเคยคุยเรื่องนี้กับคนอื่น?
แอนนี่ : ใช่ค่ะ มีการปรึกษากับพี่ๆ ที่รู้จักกัน ส่วนหลุดไปไหนเราไม่รู้ค่ะ

กับวาวาเอง ทราบมั้ยมีเสียงเขาออกมาคุยกับเบียร์?
แอนนี่ : เพิ่งทราบตอนพี่โรสโพสต์ค่ะ หนูกับพี่วาเขาแค่บอกว่ามีการคุยกับเบียร์แล้วนะ เขาแค่มาอธิบายให้หนูฟังว่าคุยออกไปในเวย์นี้ ก็เข้าใจทางพี่วา เพราะเขาเป็นตัวกลางและทำให้พวกหนูได้มารู้จักกัน เขาก็พยายามเคลียร์ทุกฝ่ายว่ามันเป็นยังไง ใครทำยังไง แต่คลิปเสียงหลุดไปอันนี้แอนไม่ทราบเลย

เราไม่ได้เกี่ยวข้องกับเพจคุณพระโรส?
แอนนี่ : ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องค่ะ

เมื่อวานเบียร์พูดเหมือนว่าผู้ชายเขาเบื่อคุณมาก เพราะคุณไปขอตังค์เขาบ่อย เหมือนเขาเป็นตู้เอทีเอ็มและที่นอน รู้สึกยังไงกับคำนี้?
แอนนี่ : จริงๆ ก็ตกใจเหมือนกันว่าทำไมคำพูดนี้มันออกมาได้ขนาดนี้ เพราะแอนไม่เคยได้ยินคำพูดนี้จากปากปลื้มเลย ตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา เขาซัปพอร์ตหนูดีมากๆ ไม่ว่าจะเรื่องเงินหรืออะไรก็แล้วแต่ ไม่ว่าการหยิบยืมเงินเขา เขาก็ยินดีที่จะช่วยเหลือ และหนูก็คืนไปให้หมดแล้ว หนูเลยมองว่าถ้าหนูจะเกาะเขาจริงๆ แอนไม่ต้องทำงานให้มันเหนื่อยดีกว่ามั้ยคะ หนูอยู่เฉยๆ ให้เขาเลี้ยงดีกว่า เราก็รู้สึกว่ามันรุนแรงไปมั้ยนะคำนี้

ปกติแล้วเราไม่ได้ขอเงินเขามาใช้?
แอนนี่ : ไม่ค่ะ

ทนายแก้ว : มีทำธุรกิจร่วมกันมั้ย

แอนนี่ : ไม่มีค่ะ

ได้คุยกับปลื้มมั้ยหลังจากที่เขาแถลง?
แอนนี่ : ได้คุยค่ะ เขาบอกค่อนข้างตกใจเหมือนกัน เพราะมันแรงเกินไป ที่บอกว่าไปทะเลาะในห้องแล้วบอกว่าไปนอน หนูก็บอกว่าหนูไม่ได้พูดนะ จำได้ใช่มั้ย ไม่มีคำนี้เลย ปลื้มก็บอกว่าจำได้ ไม่ได้พูดคำนี้ จะคุยปัญหาของเรามากกว่าว่าเราจะไปยังไง จะไปทิศทางไหน เรื่องเป็นแบบนี้แล้ว เราจะยังไง

ได้ถามมั้ยคำที่เขาบอกว่าเขาเหมือนตู้เอทีเอ็มก็เลยอยากเลิก?
แอนนี่ : ถามค่ะ เขาบอกว่าเขาไม่ได้พูดเลย

ทนายแก้ว : หมายถึงคำนี้ออกมาจากปากของเบียร์

ในฐานะที่เคยเป็นตัวเฮียมาก่อน เรื่องนี้คิดได้สองมุม มุมนึงผู้ชายอาจไม่ได้พูดจริง แล้วมีการหยิบยกคำพูดมาพูดให้คุณเสียหาย แต่ถ้าให้พูดเข้าข้างเบียร์ เบียร์อาจฟังข้อเท็จจริงนี้มาจากปลื้มจริงๆ ก็ได้ เพราะผู้ชายส่วนใหญ่เวลามีเป้าหมายมักพยายามสร้างเรื่องให้คนตัวเองเป็นคนเฮียเลวร้ายในสายตาตัวเองเสมอ เช่นกรณีผมเบื่อเขามากเลย วันๆ ไม่ทำอะไรเลย อยากไปมาก แต่ไปไม่ได้ เพราะเขาทำร้ายตัวเองตลอดเวลา อาจพูดแบบนี้ หรือบอกว่าอ๋อ ผู้หญิงคนนี้จบไปนานแล้ว แต่เขาไม่ยอมจบ มันมีหลากหลายที่ผู้ชายสามารถพูดได้ คุณมั่นใจแค่ไหนว่าปลื้มไม่ได้พูด?
แอนนี่ : แอนค่อนข้างมั่นใจ เพราะตลอดระยะเวลา 4 ปีเขาเป็นแฟนที่ดีมากๆ เขาซัปพอร์ตแอนทุกอย่าง ก็ยังตกใจเหมือนกันที่เกิดเรื่องแบบนี้ หนูกล้ายืนยันว่าเขาไม่พูดแบบนี้แน่นอน

หลังเกิดเรื่อง คุณเบียร์เขาพยายามโทรหาคุณแต่คุณไม่รับโทรศัพท์เขา มันเกิดอะไรขึ้นตอนนั้น?
แอนนี่ : หนูประชุมอยู่ค่ะ หลังจากนั้นมีติดต่อไป แต่เขาไม่รับสาย และหายไปเลย จนมาไลฟ์เมื่อคืนค่ะ

เคยระแคะระคายมั้ยว่าปลื้มกับเบียร์อาจรู้สึกดีๆ ต่อกัน?
แอนนี่ : ไม่เลยค่ะ เพราะปลื้มเป็นคนที่เพื่อนค่อนข้างเยอะ เวลาปาร์ตี้หรือเมาก็มีการนอนค้างที่คอนโด แต่นอนข้างนอก อย่างน้องเบียร์ หนูเห็นว่าเป็นน้องคนนึง ออกมาเห็นนอนอยู่ก็คิดว่าคงตี้กันแหละ กลับไม่ไหว มันดึก อันตราย ก็เลยนอนที่นี่ค่อยกลับตอนเช้า ก็เห็นแบบนี้ประมาณ 2-3 ครั้ง ก็ไม่ได้เอะใจอะไร เรามองเขาเป็นน้องคนนึงและเป็นคนใกล้ตัว ก็ไม่ได้คิดอะไร

วันที่คุณมีโอกาสคุยกับปลื้ม คุณเคยถามเขามั้ยว่าวันนั้นไปจูบเบียร์ทำไม?
แอนนี่ : ยังไม่มีโอกาสถามค่ะ

ไม่กล้าถามหรือถามไปแล้วกลัวความรู้สึกตัวเอง ให้เกียรติเขา หรือกลัวคำตอบ?
แอนนี่ : ไม่ได้กลัวคำตอบค่ะ แต่เหมือนเรารู้อยู่แล้วว่ามันคืออะไร ภาพทุกอย่างสะท้อนออกมาแล้วว่าคือคำตอบ เราก็เลยไม่อยากถาม วันนั้นปลื้มเมาอยู่นิดนึง เราก็คิดว่าคงเมาแหละ ให้ไปตื่นก่อน เดี๋ยวหายเมา สติดี ก็ค่อยมาคุยกันหนูเลยไม่ถาม หนูถามว่าทำอย่างนั้นไปทำไม เขาก็ไม่ได้ตอบ เขาก็ยกคำอื่นมาว่าที่ผ่านมาเธอเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ไม่ค่อยมีเวลามากกว่า

สถานะคุณกับปลื้มเป็นไงตอนนี้?
แอนนี่ : เลิกกันแล้วค่ะ มันยังเป็นเพื่อนได้ไม่สุด แต่ก็คุยกันได้ค่ะ

เลิกกันเพราะเรื่องส่วนตัวหรือสาเหตุในคืนนั้น?
แอนนี่ : ด้วยสาเหตุในคืนนั้นด้วยค่ะ

คุณกังวลใจมั้ย ฝั่งโน้นบอกว่าเขาจะฟ้องคุณ ที่คุณส่งข้อมูลไปให้เพจต่างๆ นานา ทำให้เขามีปัญหาเกิดขึ้น แล้วไปหมิ่นประมาททำให้เขาเสียหาย?
แอนนี่ : ไม่ได้กังวลใจอะไรเลยค่ะ เพราะหนูไม่ได้ทำ

คุณรู้ใช่มั้ยว่าเขาจะฟ้องคุณ?
แอนนี่ : เห็นอยู่ค่ะ ได้ยินอยู่

เบียร์บอกว่าต่อให้เบียร์ไม่ได้ไปยุ่งกับเขา ผู้ชายก็ไม่กลับไปเอาคุณหรอก คุณรู้สึกยังไง?
แอนนี่ : ค่อนข้างตกใจ หนูว่ามันก็แรง แต่หนูมองว่ามันเป็นคำพูดที่ออกมาจากทัศนคติและความคิดน้องตอนนั้นมากกว่า ซึ่งถ้าเป็นมุมแอน ให้ย้อนกลับไปได้ หนูก็ยังยินดีที่จะรู้จักทั้งเขาและปลื้ม เพราะอย่างน้อยก็เป็นบทเรียนให้หนูรู้ว่าบนโลกนี้ก็ยังมีคนแบบนี้อยู่นะ ถ้าอยากสนิทหรืออะไรกับใคร หนูควรต้องรู้จักเขาให้มากกว่านี้อีกนิดนึง ถึงจะเชื่อใจและไว้ใจได้
 
คุณมองเรื่องนี้เป็นการเรียนรู้คนของคุณ?
แอนนี่ : ใช่ค่ะพี่ ก็ถ้าย้อนกลับไปได้ เราจะได้รู้ว่ามันมีคนหลายประเภท เขาอาจคิดเหมือนเรา คิดไม่เหมือนเรา หรืออาจคิดอีกแบบนึง เราจะได้ระวังเวลาจะคบใครที่เข้ามาเราควรรู้จักตัวตนเขาให้ดีก่อน ก่อนที่เราจะเปิดใจให้มากกว่าค่ะ

ถ้าจะถามว่ากรณีที่น้องเบียร์บอกว่าต่อให้เขาไม่ได้ยุ่งกับเบียร์ ผู้ชายก็ไม่กลับไปเอาคุณหรอก ถ้าเป็นคุณ คุณจะกลับไปเอาผู้ชายมั้ย?
แอนนี่ : ถ้า ณ ตอนนี้คงไม่สามารถกลับไปคบกันแบบแฟนได้ หนูก็คงไม่กลับค่ะ แต่ถ้าอนาคตเป็นเพื่อนได้ค่ะ แต่ขอเวลาหน่อย (หัวเราะ)ให้กลับไปเป็นแฟนคงไม่เอาแล้วค่ะ

ทนายแก้ว : อยากถามว่าพวกคลิปที่ผู้จัดการวาวาปล่อยของออกไป น้องแอนมีส่วนตัดแต่งเติมอะไรบ้างมั้ย

แอนนี่ : ไม่มีเลยค่ะ แอนก็ไม่รู้ด้วยว่าคลิปตรงนั้นหลุดไปได้ยังไง

ทนายแก้ว : โพสต์ต่างๆ เราไม่ใช่ต้นเรื่องส่งข้อมูล

แอนนี่ : ใช่ค่ะ

ทนายแก้ว : กรณีถ้าเกิดเราเกี่ยวข้องกับการตัดแต่งคลิปอะไรก็ตาม เราอาจมีความผิดฐานเป็นตัวการร่วมฐานหมิ่นประมาทได้ ส่วนเรื่องน้องเบียร์พูดว่าเอทีเอ็มก็เป็นสิทธิ์ของแอนที่จะพิจารณาว่าจะฟ้องหรือไม่ฟ้อง กรณีนี้มีอายุความ 3 เดือน ผมพูดเป็นมุมกฎหมายเผื่อให้ประชาชนได้ทราบด้วย รวมถึงบุคคลใดก็ตามที่แชร์หรือคอมเมนต์ว่าแอนก็ดี แอนสามารถรักษาสิทธิ์ของตัวเองได้หมดครับ แค่อธิบายในมุมกฎหมายให้ทราบ ทางนั้นก็มีโอกาสฟ้องได้ ก็ดูเป็นเรื่องๆ กรณีที่เขาอ้างว่าต้นเรื่องมาจากแอน ฝั่งโน้นก็ต้องมีพยานหลักฐานมาซัปพอร์ตว่ามาจากแอนตรงไหน ถ้าหลักฐานไปถึงเขาก็มีสิทธิ์ฟ้องแอนได้ ส่วนแอนถ้ากระทบสิทธิ์อะไรก็ตาม ก็สามารถฟ้องได้เหมือนกัน

ตอนนี้มีผลกระทบอะไรกับครอบครัวมั้ย?
แอนนี่ : ไม่ได้กระทบอะไรขนาดนั้นค่ะ คุณพ่อคุณแม่ พี่ๆ น้องๆ ค่อนข้างเป็นห่วงว่าเป็นยังไงบ้าง ตอนนี้กำลังใจจากที่บ้านก็ดีมากๆ ค่ะ

เจ๊มอยอยากถามอะไรมั้ย?
เจ๊มอย : ก็อย่าพยายามทำให้เหยื่อกลายเป็นปีศาจ น้องแอนไม่ใช่เหยื่อที่โดนกระทำ อยากร้ายก็ร้ายบ้างลูก อย่ามาทำเป็นคนดีแบบนี้ จะทำให้จิตใจเราเหยื่อกลายเป็นปีศาจได้ลูก หนูมีสิทธิ์ที่จะโกรธ แล้วหนูวี้ดก่อนแล้วค่อยให้อภัยก็ได้ลูก เดี๋ยวจะอึดอัด

พชร์ : พี่ว่าน้องฉลาดพูด เป็นคนมองโลกในแง่ดี ถ้าเป็นเจ๊มอยนี่ไม่ปล่อยแน่

เจ๊มอย : หนูให้อภัยเขาได้ การให้อภัยที่ดีที่สุดคือไม่ต้องกลับไปยุ่งกับเขาอีก ไม่ต้องกลับไปเป็นเพื่อนดีที่สุด

พชร์ : ทำแบบนี้ถูกแล้ว เพราะคนจะมองว่าหนูเป็นที่หนึ่ง

ทนายแก้ว : มีแนวโน้มจดทะเบียนกันมั้ย เพราะอยู่กันมา 4 ปีมีการพูดคุยกันมั้ย

แอนนี่ : ก็มีการพูดคุยค่ะ แต่ด้วยหนูไม่สามารถเคลียร์เรื่องเวลางานของหนูได้ หนูเลยไม่อยากไปเบียดเบียนเขา เพราะถ้าจะแต่งงานขอเคลียร์ทุกอย่าง หนูพร้อมถึงจะแต่งงานค่ะ

มีอะไรอยากฝากมั้ย?
แอนนี่ : ไม่ได้อยากฝากอะไร แค่อยากฝากพี่ๆ เพื่อนๆ ชาวเน็ตว่า จบเรื่องนี้แล้วก็อันฟอลฯ ได้นะคะ หนูไม่ได้ต้องการยอมฟอลฯ อะไรเลย
 
เพราะเขาบอกว่าคุณได้ยอดฟอลฯ ไปแล้ว คุณไม่ได้อยากได้อยู่แล้ว?
แอนนี่ : ค่ะ (หัวเราะ)

ถ้าวันนึงเขาสองคนไปคบหากันไม่ติดใจใช่มั้ย?
แอน : ค่ะ ก็ยินดีด้วยค่ะ
 
ฝั่งคุณโรสเปิดไปแล้ว ที่บอกว่าเป็นความสุขของเขาเวลาเห็นปลื้มยิ้ม?
แอนนี่ : ฟังแล้วค่ะ

ไม่จี๊ดเหรอ?
แอนนี่ : ก็จี๊ดอยู่ค่ะ

ขอโทษนะถามเฮียๆ พี่ก็เสืxกมากจริงๆ ฟังแล้วก็ปวดใจเนอะ?
แอนนี่ : ค่ะ

ทนายแก้ว : มายด์เซ็ตน้องเขาดีนะ มีกำลังใจที่ดี