นานๆ ทีจะได้ชมภาพยนตร์แนวผจญภัย ที่คนไทยทำ ล่าสุด Prime จับเคมีคู่ใหม่ จากนักร้องสาว อย่าง "มัจฉา โมซิมันน์"มาลงภาพยนตร์ชีวิตแนวผจญภัยโหด มัน ฮา ประกบโบ๊ะบ๊ะตัวพ่อ "ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์"ในภาพยนตร์เรื่อง The Adventure ผจญภัยล่าขุมทรัพย์หมื่นลี้
ภาพยนตร์เรื่อง The Adventure ผจญภัยล่าขุมทรัพย์หมื่นลี้ เป็นเรื่องของ “จอย (มัจฉา)”เลขาสาวของบริษัทข้ามชาติขนาดใหญ่ ที่มีปัญหาเรื่องการเงิน เมื่อประสบกับความเครียด จอยชอบอ่านนิยาย ดูสารคดี หรือซีรีส์เกี่ยวกับการท่องเที่ยว เดินทาง ผจญภัย และจินตนาการถึงชีวิตแบบนั้นอยู่บ่อยครั้ง
วันหนึ่ง เธอได้รับคำสั่งให้เดินทางไปประชุมกับเจ้านายที่กรุงเซี่ยงไฮ้ ซึ่งการเดินทางในครั้งนี้ทำให้ชีวิตของเธอพบกับจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญเมื่อเธอได้พบกับ “ริคกี้ (ซันนี่)” ชายหนุ่มชาวไทยที่ร้านขายของโบราณแห่งหนึ่ง ริคกี้เดินทางออกจากประเทศไทยมาหลายปีแล้ว เขาเลือกใช้ชีวิตตามสไตล์นักเดินทาง นักผจญภัย
งานล่าสุดของเขาคือการนำของโบราณไปหลอกขายบรรดาเศรษฐีในราคาแพงๆ แต่ส่วนใหญ่มักถูกจับได้ตลอดว่าเป็นของเก๊ แถมตอนนี้ยังติดหนี้คนมากมายจนถูกหมายหัว เขาจึงต้องพยายามหาเงินมาใช้หนี้ให้ได้ภายในเวลาที่กำหนด
จอยกับริคกี้แย่งกันซื้อรูปปั้นรูปทรงประหลาดคู่หนึ่งในร้าน ริคกี้บังเอิญทำรูปปั้นแตกเมื่อกลับไปถึงที่พัก เขาพบว่าข้างในรูปปั้นมีลายแทงโบราณส่วนหนึ่งอยู่ ริคกี้มาดักรอจอย แล้วเกลี้ยกล่อมให้ขายรูปปั้นอีกตัวให้เขา แต่จอยไม่ยอมขาย สุดท้ายริคกี้เลยต้องจำใจบอกความลับเรื่องลายแทง และแล้วการผจญภัยตามล่าหาขุมทรัพย์ที่ยังไม่รู้ว่าคืออะไรของทั้งสองคนก็เริ่มขึ้น
มัจฉา-ซันนี่ คู่โบ๊ะบ๊ะคู่ใหม่กับจะพาการเดินทางนับหมื่นลี้ สู่มนต์เสน่ห์แห่งเซี่ยงไฮ้ และ ความสวยแปลกตาน่าหลงใหลของเมืองเฟิ่งหวง ซึ่ง มัจฉา-ซันนี่ ได้มาเล่าถึงการทำงานระหว่างทางในเรื่อง The Adventure ผจญภัยล่าขุมทรัพย์หมื่นลี้ ที่การเดินทาง จุดหมายอาจไม่สำคัญเท่าเพื่อนร่วมทาง โดยวันนี้เราได้เปิดใจคุยกับทั้งคู่
ซันนี่ : "คาเเรกเตอร์เป็นคนเทาๆ เรื่องนี้ก็เป็นอีกคนหนึ่ง เป็นคนอีกประเภทที่มีความเทาๆ ในเรื่องเป็นนักต้มตุ๋น เป็นคนที่ออกค้นหาชีวิตของตัวเองที่ต่างประเทศ เรื่องก็ไปเกิดขึ้นที่ประเทศจีน และจะเป็นคนละขั้วกับจอยที่เป็นนางเอก ซึ่งเขาได้มีโอกาสมาที่นี่ จริงๆ เขาเป็นคนที่ต้องการการผจญภัยอยู่เเล้วแต่เขาไม่มีโอกาส เเละสิ่งที่เขาทำอยู่เขาก็ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ ก็มาเจอกัน มาได้เรียนรู้ซึ่งกันและกัน เป็นนักเดินทาง เเต่ไม่รู้ว่าชอบอะไรทำอะไร ปักหลักที่ไหนอย่างไร เป็นคนชอบผจญภัย แต่ก็ไม่รู้จริงๆ ว่าเราชอบทำอะไร เราไปอยู่ที่ไหนก็ทำมาหากินที่นั่นไป ฟีลอยากเป็นนักท่องเที่ยวแหละ"
มัจฉา : "คาเเรกเตอร์รับบทชื่อจอย เป็นสาวออฟฟิศที่ติดหนี้บัตรเครดิต ชอบใช้ชีวิตและเป็นคนชอบการผจญภัย เเต่หาตัวเองไม่เจอว่าชอบทำอะไร วันหนึ่งต้องไปทำงานกับเจ้านายที่เซี่ยงไฮ้เเละมีเหตุผลอะไรสักอย่างที่ทำให้เจอกับพระเอก ต้องได้ออกไปหาขุมทรัพย์ด้วยกัน
มาออดิชั่นตั้งแต่ 4 ปีที่แล้ว ก็ได้รับเลือกและมีช่วงโควิด-19 พอดี ก็เลยต้องหยุดไป โควิดมาชีวิตก็เปลี่ยนไปเยอะมากค่ะ ตอนนั้นก็ไปเป็นนักร้องผ่านมา 4 ปีก็ได้กลับมาเล่นหนังค่ะ กับงานการแสดงถือเป็นครั้งแรก รู้สึกสนุกมากกับงานแสดงในครั้งแรก ถือว่าท้าทายและเป็นที่หนังด้วย เป็นโรแมนติกคอเมดี้บรรยากาศทุกอย่างในกองคือสนุกมาก เพราะฉะนั้นก็จะเฮฮาสนุกๆ”
เคมี “มัจฉา-ซันนี่”
มัจฉา : "เวิร์กช็อปด้วยกันก็เมื่อ 4 ปีที่แล้วแค่ 1 ครั้งหรือ 2 ครั้งนี่แหละ แล้วถ่ายด้วยกันแค่ 1 ซีน แล้วมาเวิร์กช็อปด้วยกันอีกทีก็ก่อนที่ถ่ายค่ะ”
ซันนี่ : "ก็ตามตัวละครไปเรื่อยๆ เมื่อก่อนเขายังสาวๆ (หัวเราะ) ตอนนั้นตัวจริงเขาจะอายุน้อยกว่าตัวละครไง แต่ตอนนี้กำลังใช่เลย"
มัจฉา : "ต้องมาเล่นกับพี่ซันนี่ไม่ยากนะคะ ไม่ยาก ถึงตอนแรกจะไม่เคยเจอกัน แต่พอเจอกันก็เห็นว่าเป็นคนง่ายๆ และก็น่ารักค่ะ ก็เลยไม่ได้รู้สึกว่าเกร็ง รู้สึกชิล ทีแรกก็ไม่ได้คิดไว้ว่าเขาจะเป็นคนยังไง ไม่เคยได้ยินอะไรเลย ก็เลยไม่ได้คาดหวังไว้ว่าจะเป็นยังไง จังหวะโบ๊ะบ๊ะก็ทันเขานะคะ ก็เออๆ ออๆ ไปค่ะ"
ซันนี่ : "มัจฉาเขาเป็นผู้ฟังที่ดีนะ ไม่รู้เขาอยากฟังหรือเปล่า แต่เขามารยาทดี คือมีส่วนร่วมตลอดเราพูดอะไรเขาตอบรับตลอด บางทีเราเล่าอะไรไปเขาก็ไม่ได้อยากฟังเท่าไหร่แต่ก็ฟังตลอด เราก็นึกว่าเขาจะนั่งฟังเฉยๆ แต่เขาหันมามีความเห็น เห้ย…ดีจัง ก็ดีๆ ก็รู้สึกได้แบบนั้น"
ด้นสดๆ หน้างาน ไม่ได้จำ!
ซันนี่ : "เราไปถ่ายทำกันที่ประเทศจีน ต้องพูดภาษาจีนจริงๆ เหมือนไปผจญภัยกันจริงๆ ไม่ได้อยู่กันง่ายๆ นะครับ อยู่กันลำบาก มีอุปสรรคทุกครั้งในการเดินทางถ่ายทำ เรื่องฟ้า เรื่องฝน การติดต่อพูดคุยกับคนเเละรู้สึกว่ามีการเอาตัวรอด
ผมรู้สึกผูกพันกับตัวละครอยู่เเล้ว เเละอยากเอาตัวเองไปสัมผัสกับคนที่อยู่ในพื้นที่ เเละอยากศึกษาเเละเรียนรู้กับคนในพื้นที่เช่น ภาษา การวางตัวเเละการกระทำ ของคนในพื้นที่ การเล่นกับสำเนียงคำพูดของภาษาจีน วิธีการแสดงของผมคือไม่ได้จำ คือการด้นสดหน้างานอย่างเดียว รู้สึกว่าพูดไปเเล้วก็ต้องมั่นใจกับสิ่งที่เราพูดไปก่อน"
มัจฉา : "รู้สึกสนุก มีความตื่นเต้นมากๆ เเละนี่ก็เป็นครั้งเเรกที่ได้ไปทำงานต่างประเทศนานๆ กับคนในกองที่เพิ่งรู้จักกันไม่นานนี่เอง รู้สึกว่าพี่ๆทุกคนในกองก็น่ารักมาก มีความเป็นกันเองสูง ทำให้สนิทกับคนในกองถ่ายได้ค่อนข้างไวพอสมควร"
ซันนี่ : "ช่างหน้า ช่างผมรักเขามากเลย ซึ่งปกติมันเป็นตำแหน่งผม ปกติผมจะเป็นที่รักของทุกคน แต่ทีนี้ทุกคนเขาไปรักเขาหมด (หัวเราะ) ปกติผู้ที่ถูกรักมันคือฉัน ทีนี้เขาก็มาแย่งไป"
1 เดือนรีแลกซ์ ไม่ต้องห่วงสวย
มัจฉา : "รู้สึกสบายมาก เพราะทำงานนางเเบบมาตลอด พอได้มาเเสดงหนังเรื่องนี้ไม่ต้องมาห่วงสวยอะไรมากเรื่องหน้าเรื่องผมเรื่องชุด ไม่ต้องโชว์เนื้อหนัง ทำให้ 1 เดือนที่ได้ไปถ่ายทำภาพยนต์ เป็น 1 เดือนที่ค่อนข้างรีแลกซ์กับตัวเองมากๆ สนุกกับการเเสดงที่ดูเป็นธรรมชาติมากๆ เเละตัวละครอย่างจอยเองก็รู้สึกว่าตัวเองก็เป็นเเบบนั้น บ้าๆบอๆ เหมือนตัวละคร เเละนั้นก็เป็นอีกมุมหนึ่งของเรา พี่ๆทุกคนคือเ ยินดีมากๆที่ทำให้ มัจฉาไม่เกร็งในการถ่ายทำ ทุกคนคือน่ารักมากๆ ช่างเเต่งหน้าทำผมก็เต้นกับเพลงของมัจฉา ทำให้ทุกคนดูสนุกมากๆค่ะ"
เล่าบรรยากาศถ่ายทำที่ประเทศจีน
ซันนี่ : "ย้ายหลายเมืองนะครับ มีเซี่ยงไฮ้เเละก็นั่งรถไฟขึ้นไป ก็อยู่กันเป็นเเก๊งคาราวานคนไทย พอกลับมาเล่าเเบบนี้เเล้วก็สนุก อยู่กันเป็นเดือน ขีดกำเเพงอยากกลับบ้านไปหาเเมวเเล้ว เเละทีมมิจฉาชีพฝั่งเราก็จะหลอกเราไปเรื่อยๆ ว่า เดี๋ยววันนี้ก็ได้กลับเเล้วอะไรเเบบนี้ครับ"
มัจฉา : "เเต่มันก็มีแค่ 2 ที่เองนะ คือเซี่ยงไฮ้กับเฟิงหวง เเต่ตอนนั้นมันก็สนุก เเต่ก็ไม่รู้ว่าจะกลับวันไหนจริงๆ"
ออกนอกกรอบ แตกต่างจากนักร้อง
มัจฉา : ก็เเตกต่างจากการทำเพลงค่ะ เพราะการเขียนเพลง ทำเพลง ขึ้นเวที ซึ่งมันมีความเเตกต่างกับการเเสดงมากๆค่ะ เพราะต้องศึกษาตัวละคร บุคลิกท่าทาง การเเสดงต่างๆ ซึ่งมันก็สนุกคนละเเบบ เเละก็ได้ประสบการณ์ จากการเเสดงของพี่ซันนี่ค่ะ ซึ่งพี่ซันนี่มีความเป็นธรรมชาติจากการเเสดงของพี่ซันนี่ค่ะ เเละมัจฉาคิดว่า เวลาที่ฉาเล่น ฉาจะไม่รู้สึกว่าฉาอยู่ในกรอบ เพราะถ้าฉาคิดแบบนั้นฉาก็จะอยู่ในกรอบเหมือนเดิม เเละฉาก็เหมือนว่า เเค่จำมาเเละดูบทของเราว่าเป็นยังไงค่ะ”
ซันนี่ : ”สำหรับผมเเล้วการเเสดงต่างๆ การท่องจำบทหรืออะไรต่างๆ เราไม่ได้เเค่จำบทมาเพื่อที่จะเเสดงอย่างเดียว เราก็ใส่ความเป็นตัวเองเเละธรรมชาติของตัวเราลงไปด้วย เราคิดขึ้นมาเพื่อพูด เเละเราได้คิดข้อมูลในสิ่งที่เราได้รับมา เรารู้สึกอย่างไรเราก็จะบอก ซึ่งในวันปิดกล้องพอผมได้ไปดูในจอมอนิเตอร์ ผมก็รู้สึกว่าน้องมัจฉาก็ขึ้นกล้องมากๆ เลยนะครับ”
มัจฉา : "ยังไงก็ฝากหนังเรื่อง The Advemture ผจญภัยล่าขุมทรัพย์หมื่นลี้ด้วยค่ะ สามารถดูได้ที่ Prime Video สามารถดูได้ทั่วโลกไม่ใช่เเค่ที่ไทยที่เดียวนะคะ"
ซันนี่ : "ฝาก The Adventure ผจญภัยล่าขุมทรัพย์หมื่นลี้ ด้วยนะครับ เป็นภาพยนต์สนุกสนาน มาดูกันนะครับว่าความสนุกสนานสไตล์คนไทยที่ไปอยู่ต่างประเทศจะเป็นอย่างไร สถานที่ ทัศนคติ เป็นอย่างไร อยากให้ดูกันในวันปีใหม่นะครับ อย่างน้อยได้อยู่ด้วยกันกับครอบครัวนะครับ"
