“มุกดา” เผยสเตตัสสัมพันธ์ “เข้ม” ไม่มีวันตาย ไม่มีวันต้องแยกจากกัน ตอนนี้เป็นแบบนี้ดีแล้ว อนาคตไม่รู้ แนะสาวที่อยากจะดูใจกับเข้มต้องรับความติสต์จัดของเข้มให้ได้ และต้องผ่านด่านเพื่อน
“เข้ม หัสวีร์ ภัคพงษ์ไพศาล" กับ “มุกดา นรินทร์รักษ์”
เคยออกมาเผยสถานะความสัมพันธ์ที่เป็นมากกว่าคู่จิ้นคือ เป็นมากกว่าเพื่อนแต่ไม่ใช่แฟน แต่พักหลังๆ เข้มก็ออกมาตัดพ้อว่าเหงาใจ พร้อมประกาศหาสาวพูดคุยศึกษาดูใจ งานนี้มุกดาจะว่าไง
”ดูหน้าเขาแล้วเชื่อเหรอคะ คิดว่าเขาจะไม่แพรวพราวเหรอ เหงาอะไรก่อน เขาไม่เหงาหรอก ดูหน้าได้เลย ไม่มีทางเหงา เขาแสบ แต่ก็ไม่รู้นะว่าเขามีซุกมีซ่อนรึเปล่า มุกเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันเพราะนางดูติสต์ๆ ก็ลองจีบคนดูเนอะเข้ม เท่าที่รู้จักกันมาเขาจีบคนไม่ค่อยเก่ง เขาจะติสต์ๆ ถ้ารู้จักเขาจริงๆ จะรู้ว่าเขาเป็นคนที่เข้าถึงยาก ด้วยความติสต์ของเขา แต่ถ้าเขาชอบใคร อยากจีบใครเขาคงจีบแหละ“
ถ้า “เข้ม” มีแฟนคงโดนบอกเลิก บอกด่านแรกที่ต้องผ่านให้ได้คือเพื่อน เพราะเข้มติดเพื่อน
“คงโดนบอกเลิกอยู่ ล้อเล่น เพราะเข้มเป็นคนรักเพื่อน ชอบอยู่กับเพื่อน สาวที่จะมาอยู่ใกล้คงน้อยใจ เดานะ เขาดูแลเพื่อนดี เขาก็ดูแลแฟนดีแหละ แต่ยังไม่รู้นะว่าคนนั้นเป็นใคร เข้ากับเข้มได้แล้วต้องเข้ากับเพื่อนเข้มได้ด้วย เพราะ 7 วันของเข้มก็อยู่กับเพื่อนไปแล้ว 5 วันแล้ว แต่สุดท้ายมุกว่า ถ้าเขาคลิ๊กกับใครเขาก็คงเต็มที่ ให้เวลา เต็มที่กับแฟน เต็มที่กับคนที่เขาอยากจะใช้เวลาด้วย”
เผยผู้หญิงที่เหมาะกับเข้ม ต้องรับความติสต์จัดของเข้มได้
“ต้องเป็นคนที่รับความติสต์เขาได้ เขามีความติสต์สูงเลย เข้มถึงเวลาที่เขาติสต์เขาจะติสต์หนัก เวลาทั่วไปเขาโอเคเลยค่ะ แต่ถ้าถึงเวลาที่เขาติสต์ เขาติสต์จัด”
ส่วนความสัมพันธ์ตนกับเข้มตอนนี้ ไม่มีวันตาย มันไม่มีวันต้องแยกจากกัน
“มุกคิดว่าจุดที่เราสองคนยืนกันอยู่มันชัดเจน เป็นบัดดี้ เป็นเพื่อนที่คอยซัพพอร์ตกันไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม ในชีวิตจริงเราก็ยังเจอกัน ยังคีฟโมเมนต์เหล่านี้ตลอด เป็นอะไรที่ดี แล้วเราสบายใจที่จะอยู่ด้วยกัน ไม่ต้องคิดอะไร มันไม่มีวันตาย มันไม่มีวันต้องแยกจากกัน"
"แฟนคลับทุกคนน่ารักมากๆ เขาเข้าใจว่าเราอยู่กันตรงไหนของความสัมพันธ์ เรากำลังทำงาน เราก็แค่ช่วยเหลือกัน มันค่อนข้างดีมากๆ สำหรับมุกในตอนนี้ รวมถึงสิ่งที่แฟนคลับให้กลับมาคือความเข้าใจ เขาเป็นพาร์ตเนอร์ในการทำงานที่ดี(กำแพงเฟรนด์โซนหนามาก?) ก็ไม่รู้เหมือนกันซิคะ อยู่กันแบบนี้ก็ดีแล้ว อนาคตค่อยว่ากัน มันจะเป็นยังไงยังไม่รู้”