หมดลุ้น “โยชิ รินรดา” ขอไม่ต่อ! บนเวที “มิสยูนิเวิร์ส” หลังจักรวาลเปลี่ยนกฎใหม่ เปิดรับสาวทรานส์จากทุกประเทศ เจ้าตัวขอปิดจ๊อบที่ “เวทีทิฟฟานี่” รับทำตามความฝันแล้ว ยันถ้าจะไปประกวดใหม่ ต้องฝึกฝนอย่างหนัก เพราะสมัยนี้การประกวดนางงามหนักหน่วงกว่าแต่ก่อน
หลังจากเวทีมิสยูนิเวิร์สที่อยู่ในมือของ "แอน จักรพงษ์" เปลี่ยนกฏใหม่ ให้สาวสองที่แปลงเพศแล้วเข้าประกวดได้ หลายๆ คนก็ลุ้นให้ "โยชิ รินรดา ธุระพันธ์” Miss Tiffany's Universe 2017 ลงประกวดชิงมง เพราะสวยเพอร์เฟคสาวแท้ยังต้องอาย
“ว้ายยยย...ขอบคุณที่เชียร์ให้โยไปจักรวาล แต่โยคิดว่าส่วนตัวคงไม่ไปไม่ถึงจักรวาล เราขอไปแค่ยูจักรวาลดีกว่า ณ จุดนี้ เส้นทางของการเป็นนางงามของโยมันได้อิ่มตัวแล้ว คือที่สุดคือการได้มิสทิฟฟานี่ยูนิเวิร์ส คิดว่าไม่น่าจะไปประกวดเวทีไหนแล้ว บวกกับเราเองไม่ได้มีทักษะความเป็นนางงามจ๋า และคิดว่าปีนี้การประกวดนางงามมีการแข่งขันที่สูงมาก ในเรื่องของเพอร์ฟอร์มแมน เรื่องสปีด ภาษาด้วย และทักษะความเป็นนางงามในสมัยนี้ยิ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ เราขออยู่เป็นแรงซัพพอร์ต และอยู่ดูเป็นกำลังใจให้ทุกคนดีกว่า และในอนาคตข้างหน้าก็อาจจะมีทรานส์เจนเดอร์จากประเทศไทยไปประกวดก็ได้”
“คือโยก็เห็นกระแสที่หลายคนเชียร์แล้ว แต่ด้วยศักยภาพประเทศอื่นๆ เอง หรือศักยภาพของคนเอง ก็มีเก่งๆ มีความเป็นนางงามมากกว่าโยซะอีก เพราะถ้าลงประกวดหรือแข่งขันอีกที มันต้องใช้แรง ใช้เอนนิจี้ รวมไปถึงการฝึกฝนที่ค่อยข้างที่จะหนักมากๆ ขอเป็นแรงเชียร์แรงใจดีกว่า เราเอาชีวิตของเราไปโฟกัสในเรื่องของการทำธุรกิจดีกว่า เพราะเราก็อายุ 26-27 ปี แล้ว ในพาสของวงการบันเทิงเราก็เต็มที่เหมือนเดิม ส่วนในพาสของธุรกิจเราก็ทำเต็มที่ มิสทิฟฟานี 2017 คือที่สุดในชีวิตของโยแล้วล่ะ”
“อย่างเวลาที่เราดูการประกวดนางงาม สิ่งที่สนุกมากก็คือพาสในชุดว่ายน้ำ ด้วยชุดเอย ด้วยเพลงเอย นางงามเดินสับกันยิ่งกว่า รวมไปถึงอีกหลายๆ ชุด ชุดราตรี ชุดประจำชาติด้วย แต่ถ้ารอบสปีดดิฉันอาจจะช็อตไมค์ได้ แต่ถ้าจอยๆ สนุกก็ต้องรอบชุดว่ายน้ำ ชุดราตรี”
“สิ่งที่โยไม่อยากจะประกวดอีก เพราะโยหยุดไว้ที่มิสทิฟฟานี่ยูนิเวิร์ส เพราะอย่างที่บอกไปว่าเวทีนี้คือความฝันของเราตั้งแต่เด็กๆ และถือได้ว่าเป็นเวทีระดับประเทศ โยอยากจะมาทำให้มันสำเร็จ ตอนที่เราประกวดกับคอนเซ็ปท์ living the dreams ตามความฝัน มันตรงกับสิ่งที่เราตั้งไว้ สิ่งที่เราฝันไว้ว่าเราอยากเป็นมิสทิฟฟานี่ เลยเลือกที่จะมาประกวดเวทีนี้ และพอเข้ามาประกวดจริงๆ ทักษะการเป็นนางงามมันเยอะมาก แต่พอเราเริ่มมาประกวดมันทำให้โยเปลี่ยนไป ขั้นแรกเลยคือโยพูดรู้เรื่องขึ้น ก่อนหน้านั้นเราเป็นเน็ตไอดอล เราก็จะแนะนำขายสกินแคร์ ภาพนิ่งภาพสวยไป แต่พอมาเป็นนางามก็ต้องมีการสื่อสารการตอบคำถาม ทักษะการพูดตอนนั้นน้อยมาก แต่พอเราเข้ามา เราได้ฝึกการพูด พูดเก่งขึ้นในระดับนึง และพอมาประกวดแต่ก่อนเราอยู่กับผ้าใบ แต่ตอนนั้นเราต้องอยู่กับส้นสูง ฝึกเดินใหม่ เสียเงินในการดูแลตัวเองมาก องค์ประกอบเยอะมาก หุ่นดี สมองดี สปีดดี เหมือนพัฒนาจริง”
“เพราะถ้าเราจะต้องไปประกวด มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์จริงๆ อาจจะไม่ต้องนับหนึ่งใหม่ เพราะเราก็พอมีทักษะอยู่บ้าง แต่เราก็ต้องเรียนเพิ่มเติมมากขึ้นกว่าเดิมมาก เพราะตัวแทนแต่ละปีมันแข่งขันสูงมาก อย่างเรามาร่วมเป็นหนึ่งในการประกวดมิสทิฟฟานี่ปีล่าสุด ก็ต้องตอบคำถามยังไงให้กรรมการสนใจ ซึ่งเรานั่งมองยังเครียดแทนเพราะถ้าเป็นเราตอบเอง เราคงขาสั่นแหละ”
