xs
xsm
sm
md
lg

“โอ๊ต ปราโมทย์” รวยหลายร้อยล้าน ตั้งเป้านำบ.เข้าตลาดหลักทรัพย์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“โอ๊ต ปราโมทย์” อู้ฟู่ รวยหลายร้อยล้าน ลงทุนอย่างต่อเนื่อง  แพลนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ เตรียมเปิดค่ายเพลงเล็กๆ ให้พื้นที่เด็กรุ่นใหม่ได้โชว์ความสามารถ ยังไม่พร้อมแต่งแฟน 

หลังบริษัทย่อยของ “เวิร์คพอยท์” เข้าซื้อหุ้นบริษัท “โครตคูล” ของนักร้องหนุ่ม “โอ๊ต ปราโมทย์ ปาทาน” ไปในสัดส่วน 49% เป็นเงินมูลค่า 216 ล้านบาท จนใครๆ ก็พากันเรียก “ท่านโอ๊ต” งานนี้หลายคนเลยแอบสงสัย ว่าจะถือฤกษ์ดีเอาเงินไปขอแฟนแต่งงานเลยหรือเปล่า เพราะก็ดูจะพร้อมไปหมดทุกอย่างแล้ว ล่าสุดได้เจอหนุ่มโอ๊ต ในงานแถลงข่าวเปิดตัวรายการโหดมันฮา (Takeshi’s Castle) เจ้าตัวก็ได้เผยถึงเรื่องนี้ ว่าไม่ได้ขายหุ้นบริษัทเพื่อแต่งงาน เพราะเงินมันมีอยู่แล้ว แต่อยากพาบริษัทไปเติบโตก่อน ขอรอเวลาอีกแป๊บหนึ่ง

“เราไม่ได้ขายบริษัทหาเงินแต่งงาน มันมีอยู่แล้ว แต่ว่าเป้าหมายต่อไป ผมมองว่าอยากพาบริษัทโคตรคูล เติบโตไปจบถึงขีดสุด วันหนึ่งอาจจะไปเข้าตลาดหรืออะไรแบบนี้ ถ้าวันนั้นมันเกิดขึ้นแล้วจริงๆ แล้วทุกอย่างมันยังลงล็อก ความสัมพันธ์ทุกอย่างมันยังดี ยังแฮปปี้เหมือนทุกวันนี้ มันก็โอเคสำหรับเรา แต่ ณ วันนี้มันยังต้องทำงานหนักมากขึ้นอยู่ ฉะนั้นก็รอเวลาอีกแป๊บหนึ่ง”

เอาเงินไปลงทุนต่อยอด เพื่อซัปพอร์ตทุกบริษัทของตัวเอง
“ผมเอาเงินไปลงทุนอย่างอื่นเพิ่ม ผมมีบริษัทอีกเยอะ มีโคตรคูล มิวสิค ที่ยังต้องดูแล มีบริษัท บอนไฟเออร์ ที่ทำเกมอีก ลงทุนเปิดเกมเกมหนึ่งใช้เงินมากเลยครับ ฉะนั้นเราก็จะเอาไปลงทุนทำอย่างอื่นต่อยอด เพื่อให้ธุรกิจวันหนึ่งมันอาจจะเข้ามาซัปพอร์ตโคตรคูล ให้มันโตขึ้นไปอีกก็ได้ แล้วมีนาคมนี้ เกมแรกของบริษัทบอนไฟเออร์จะเปิดแล้วครับ”

ขึ้นแท่นเป็นนักธุรกิจท่านหนึ่ง ถือหุ้น 4 บริษัท
“หนึ่งคือเรื่องของความชอบ สองคือรู้สึกว่าอยากทำธุรกิจใหม่ๆ เป็นคนไม่ชอบอยู่นิ่ง ทำอันนี้ประสบความสำเร็จแล้ว ผมก็จะปล่อยมันเลย แล้วผมก็จะทำอันอื่นอีก เป็นคนชอบทำอะไรสนุกๆ แล้วพอลองอะไรใหม่ๆ ไปเรื่อยๆ มันก็เอ็นจอย ไม่แน่ปีหน้าก็อาจจะมีค่ายเพลงเล็กๆ กับเพื่อน ทำกันเล่นๆ (ตอนนี้ถืออยู่กี่บริษัท?) ถืออยู่ 4 บริษัทครับ แล้วก็คิดว่าจะเปิดบริษัทเพลงอีก ยังไม่รู้ว่ามันจะเกิดขึ้นไหม ขอคุยกับเพื่อนก่อน ว่าจะออกมาเป็นรูปแบบไหน อาจจะเป็นค่ายอินดี้เล็กๆ เพิ่มโอกาสให้เด็กๆ รุ่นใหม่มีงาน มีพื้นที่ในการแสดงความสามารถตัวเอง”

ทำงานเยอะแต่มีเวลาให้แฟนตลอด เจอกันทุกสัปดาห์
“ผมเจอกันทุกสัปดาห์อยู่แล้ว แล้วเวลาไปงาน ถ้างานไหนไปแล้วเขาไม่อึดอัด หรือสามารถติดสอยห้อยตามไปด้วยได้ ก็ไปด้วยกัน”

ถือคติไม่ทำงานกับแฟนหรือคนคุย มันเซนซิทีฟเดี๋ยวลามไปทะเลาะกันเรื่องอื่น
“ถามว่าเขาเป็นที่ปรึกษาเรื่องงานไหม ผมจะไม่ค่อยคุยเรื่องงาน เพราะรู้สึกว่าถ้าเรามีคนร่วมตัดสินใจอีกคนหนึ่ง แล้วมันเกิดขัดแย้งกันทางความคิด เดี๋ยวมันจะทะเลาะกัน ฉะนั้นถ้าทะเลาะกันเรื่องงาน เดี๋ยวมันจะบานปลายลามไปเรื่องอื่น รู้สึกว่าให้ความสัมพันธ์ มันเป็นเรื่องความสัมพันธ์ไปเลยดีกว่า ให้มันเป็นพื้นที่อีกพื้นที่ไปเลย เพราะเรามีพนักงาน มีทีมงานที่ดีและเก่งอยู่แล้ว ก็แยกให้มันเป็นคนละฟังชันก์ไปเลย ผมเป็นคนไม่ค่อยทำงานกับแฟนหรือคนที่คุยด้วย เพราะรู้สึกว่าวันหนึ่งเดี๋ยวมันมีปัญหา ขนาดกับเพื่อนเรายังมีปัญหาเลยถูกไหม เราทำงานกับเพื่อนยังทะเลาะกันเลย ฉะนั้นแฟนก็จะยิ่งเซนซิทีฟมากขึ้น เพราะถ้าเราไปดุเขาอย่างหนึ่ง มันไม่ใช่แค่งานแล้ว มันเป็นเรื่องความรู้สึกแล้ว ว่ามึงด่ากู ทำไม กูทำผิดแล้วยังไง กูไม่ใช่แฟนมึงหรือไง มันอาจจะเป็นแบบนี้ได้ ฉะนั้นก็อย่าให้มันเกิดดีที่สุด ทะเลาะกันเรื่องอื่นโอเคกว่าเรื่องงาน เรื่องงานมันเซนซิทีฟ”

แพลนเที่ยวญี่ปุ่นปีใหม่ ก่อนกลับมาลุยงานต่อ เป็นทริปพักผ่อนแบบคนแก่
“ไม่มีเวลาออกทริปด้วยกันเลยครับ รถแบตหมดไป 3 คันแล้ว ไม่เข้าใจตัวเองว่าซื้อมาทำไม ปีหนึ่งก็ไปเซอร์วิสทีหนึ่ง แต่มันเป็นความสุขอะเนอะ แต่เดี๋ยวเดือนมกราเราจะไปญี่ปุ่นกันเหมือนเดิม เป็นทริปใหญ่ มีเพื่อนๆ หลายคนเลย เพราะปีหนึ่งมีครั้งเดียว ที่เหลือผมไม่มีเวลาเที่ยวแล้ว ก็ให้เต็มที่เลย 10 วันไปให้มันรู้ ซื้อให้มันกระหน่ำ แต่ผมเที่ยวแบบคนแก่แล้วนะทุกวันนี้ 39 แล้ว เที่ยวแบบคนแก่แล้ว ผมตื่น 11 โมง เดินเล่น ไปถึงดึกๆ กิน ดื่ม หลับ แล้วอยู่แค่นี้เลย ตอนนี้กลางคืนก็ไม่ไปเที่ยวผับด้วยนะ นั่งจิบ นั่งชิล เช่าบ้านอยู่ด้วยกันหลังใหญ่ๆ อยู่กัน 10 คนก็สนุก เรากลางคนแล้ว ปีหน้า 40 แล้วนะ เลยรู้สึกว่าถึงเวลาเที่ยว ก็เที่ยวแบบพักผ่อนจริงๆ ไม่ต้องรีบมาก ไม่จำเป็นต้องตื่น 6 โมงเช้านั่งรถไปกับทัวร์”











กำลังโหลดความคิดเห็น