xs
xsm
sm
md
lg

“นนกุล” เผยภาพฝันมี “แอฟ-ปีใหม่” อยู่ด้วยกันจนถึงวันสุดท้ายของชีวิต แม้ความรักอาจจะไม่ชนะทุกสิ่ง!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ทำสาวๆ ต่างร่วมยินดีและยิ้มตามกับความรักครั้งใหม่ของ “แอฟ ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ” และ “นนกุล ชานน สันตินธรกุล“ที่แม้จะอายุห่างกันถึง 16 ปี แต่ทั้งคู่ก็พร้อมจะโอบรับความรัก ความรู้สึกดีๆ ที่มีให้แก่กัน โดย นนกุล เองก็ชัดเจนในความสัมพันธ์ครั้งนี้ว่าอีก 3 ปี จะแต่งงาน ร่วมเป็นครอบครัวกับแอฟ

ในรายการ Chairs to share ทางช่องยูทูิวบ์ The standard pop นนกุลได้มาเปิดใจเล่าถึงตัวตน ความฝัน และชีวิตในมุมความรักไว้คนใครๆ ได้ฟังต่างก็เขินตาม

สิ่งที่น่ารักและดึงดูด นนกุลในต้วแอฟ?

“เขามีรอยยิ้มที่น่ารักกับผมมากๆ เวลาเขายิ้มทีโลกมันสดใสทั้งใบเลย ผมยิ้มตามไปด้วยทุกครั้งเวลาเขายิ้ม ผมเลยอยากทำให้เขายิ้มได้ตลอดเวลาเท่าที่ผมจะทำได้

เขาวางตัวดี โพสซิชั่นดี และไม่อ่อนข้อไม่ว่าคนจะมองว่าเขาเป็นยังไงก็ตาม เขายังรักษาความเป็นตัวตนของเขาอย่างหนักแน่นและมั่นคง เลยเป็นสิ่งที่มีเสน่ห์สำหรับผมมากๆ

พี่แอฟเป็นคนที่อ่อนหวานมากๆ ข้ามในเข้มแข็งมากๆ มีบางมุมเท่านั้นที่ผมรู้ ซึ่งน่ารักสำหรับผมมากๆ เวลาที่ง้องอน เขาจะมีน้ำเสียงที่เขาใช้ที่น่ารักมากๆ ซึ่งผมคงไม่สามารถทำออกมาให้ทุกคนดูได้ และไม่คิดจะทำ เพราะผมอยากจะรู้แค่คนเดียว มันเป็นมุมน่ารักในช่วงเวลาส่วนตัวที่เราอยู่ด้วยกัน ก็รู้สึกดีจังเราได้เห็นแค่คนเดียว เรารับรู้แค่คนเดียว มันเลยพิเศษสำหรับผม”

รู้สึกยังไงบ้างที่เทปก่อนหน้านี้แอฟมาออกแล้วพูดถึงเรา?
“รู้สึกดีมากๆ ม้นเป็นคำที่เบสิก และรู้ว่าคนที่เขาพูดถึงคือเรา เรารู้สึกโชคดีที่ได้รู้จักผู้หญิงคนนี้ ทุกๆคำพูดที่พี่เขาพูดมันได้กลั่นกรองออกมาจากใจจริงๆ มันยังให้แรงบันดาลใจกับอีกหลายคน แค่มองหน้าพี่แอฟก็รู้แล้วว่าพี่เขาเป็นผู้หญิงที่เต็มไปด้วยความรักจริงๆ เรารู้สีกโชคดีมากๆที่ได้รู้จัก ได้อยู่ในสถานะนี้กับพี่เขา”

ใช้สถานะกำลังคุยๆกันอยู่ แต่ไม่ใช่แฟน?
“ผมจริงจังกับทุกคำพูด ถ้าเราเลือกที่จะคุยกับคนนี้แล้ว และจริงจังกับคนๆนี้ ยิ่งจะใช้คำว่าสถานะแฟน เราเป็นคนในอาชีพนี้เวลาจะใช้คำพูดใดๆ ทุกคนรู้หมด มันเลยต้องวางแผนในสเต็ปต่อๆ ไป มันเล่นๆ ไม่ได้ เพื่อเป็นการใหัเกียรติพี่แอฟ และเพื่อให้เท่ากับเกียรติที่ผมได้รับจากพี่แอฟมา”

จากนั้นทางรายการได้เปิดคลิป แอฟ ทักษอร ที่พูดถึงนนกุล โดยแอฟเผยว่า “นนคือความสบายใจ สบายใจที่จะพูด ปรึกษาอะไรได้ทุกอย่าง ขอบคุณค่ะที่เป็นความสบายใจ” พร้อม
ฝากคำถามถึง นนกุล ว่า… “เคยคิดไหมว่า ภาพสุดท้ายที่มองเห็นตัวเองเป็นอย่างไร อยู่ที่ไหน อยู่กับใคร ทำอะไร ขอแบบละเอียดๆ เลยนะคะ และภาพนี้ชื่อว่าอะไรคะ” ซึ่ง นนกุล ตอบว่า….

“ในแง่การงานถ้าเลือกได้ก็อยากจะมีพลังในการเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ ที่เรารักให้ได้ ในแง่ความรัก แต่งงาน มีลูก มีครอบครัว มีชีวิตคู่กับพี่เขา แน่นอนว่าในนั้นต้องมีน้องปีด้วยอยู่แล้ว… พูดไปมันก็จะเขินๆ แหละ… ก็จนถึงวันสุดท้ายของชีวิต …เขินครับ”

ความรักครั้งนี้พิเศษยังไงบ้าง?

“พิเศษมากๆ ครับ ผมไม่ได้ใช้คำว่าแฟนมาตั้งแต่ม.ปลาย ตอนนั้นใช้เพราะเหตุผลเด็กมากๆ แค่อยากรู้ว่าถ้าเรามีคนๆ หนึ่งที่เราใช้คำว่าแฟน เราจะรู้สึกยังไง แล้วครั้งนั้นพอเหมือนเราไม่ได้ให้คุณค่ากับคำนี้ มันเลยโหวงไปเลย เป็นคำว่าแฟนมันแค่นี้เองจริงๆ เหรอ มันทำให้เราตั้งคำถามว่าคำๆ นี้สุดท้ายมันมีคุณค่าแค่ไหนกันวะ จากวันนั้นถึงวันนี้ จะตัดสินใจใช้คำๆ นี้มันเลยระมัดระวังมากๆ แล้วยิ่งเป็นพี่แอฟด้วย ผมไม่อยากใช้สุรุ่ยสุร่าย”

เฺปิดตัวคุยกันนอกจากคนเชียร์ ก็มีคนมองอีกมุมหนึ่ง ทั้งบวกและลบ ได้คุยกัน?

“มีคุยกันครับ สุดท้ายก็เป็นอย่างที่พี่แอฟบอกเลย ปัญหาของเรา เรามี เราร่วมกันแก้ไขได้ แต่ถ้าเป็นปัญหาที่เราควบคุมไม่ได้ มันไม่ใช่ปัญหาของเรา แต่เป็นปัญหาของคนอื่น คอมเมนต์ใดที่แสดงความเป็นห่วงเราเข้าใจ เป็นเจตนาที่ดี ใครมองบวกเรายินดีอยู่แล้ว เราชื่นใจที่เรายินดีและมีความสุขไปกับเรา

ไม่ได้มองว่าเป็นเรื่องใหญ่อะไรเลย ผมโอเค ผมแฮปปี้กับสิ่งที่ผมมีอยู่ตรงนี้ ถ้าพี่ไม่สบายใจ มองมาที่ผม แล้วผมจะกล้าพูดว่าไม่เป็นไร พี่ไม่สบายใจแต่ผมสบายใจมากๆ นะ ผมพร้อมจะเป็นแรงซัปพอร์ตตรงนั้นเพื่อสร้างความสบายใจให้พี่มากขึ้นเรื่อยๆ”

แอฟเคยพูดถึงความแตกต่างของเราทั้งคู่ว่าสุดท้ายแล้วความรักจะชนะทุกอย่าง แล้วสำหรับนนกุล เป็นอย่างนั้นไหม?
“ส่วนตัวผมเอาตามความเป็นจริงแล้ว ความรักอาจจะไม่ได้ชนะทุกอย่างหรอก อาจจะมองต่างจากพี่แอฟ เพราะมันมีปัจจัยหลายๆ สิ่ง ถ้าอยากจะทำให้มันรอดอาจจะต้องทำอะไรบางอย่างเพื่อมันด้วย ไม่ว่าจะทำงานหาเงิน ดูแลสุขภาพร่างกายให้อยู่กันไปนานๆ ความรักคงไม่ชนะสุขภาพ มันก็คงถดถอยไปตามกาลเวลา แต่รู้อย่างเดียวคือมันเป็นสิ่งที่ดีแน่นอน เป็นสิ่งที่ดีที่เกิดขึ้นในชีวิตเราและควรจะโอบรัดมันไว้เมื่อได้มันมา”

แอฟ-นนกุล ดูแลกันยังไงบ้าง?

“เราจะดูแลกันในเรื่องของความรู้สึก ผมมีกฎเหล็กข้อนึงเลยคือ วันนึงไม่ว่าจะยุ่งแค่ไหน ต้องได้คุยกันทางโทรศัพท์ น้อยที่สุดต้องได้ยินเสียงกันสักครั้งอย่างน้อย 1 ครั้งต่อวัน เพื่อให้ได้ถามไถ่กัน เพราะเราไม่ได้อยู่ด้วยกัน 24 ชั่วโมง ก็คือสิ้นสุดของวัน ไม่ว่าจะเหนื่อยแค่ไหน ดึกแค่ไหนแค่ได้ยินเสียงกันก่อนนอน อันนี้คือกฎเหล็กของผม แต่วันไหนพี่เขาเหนื่อยมาก ผมก็โอเค ผมยินดี

แต่อีกสิ่งหนึ่งที่เป็นกฎเหล็กเหมือนกัน ดึกแค่ไหนก็ต้องคุย คือ ถ้าเหมือนจะทะเลาะกันผมจะไม่ปล่อยให้ข้ามวัน ต้องเคลียร์เลยในวันนั้น เคลียร์อย่างมีเหตุผล ใจเย็น ว่าเรื่องที่ทะเลาะกันควรค่าแก่การที่เราจะหักความสัมพันธ์กันไหม”
















กำลังโหลดความคิดเห็น