“ดีเจพุฒ พุฒิชัย” เปิดใจช่วงเวลาที่มีความสุข “น้องพีร์เจ” เดินได้ เผยยอมทำงานหนัก จ้างได้ เก็บเงินให้ลูกเรียนอินเตอร์ ให้ความสำคัญด้านการศึกษา สวีตจุ๋ยเหมือนเดิม แต่ไม่เท่าเดิม โฟกัสลูก ปีหน้าอยากได้ลูกเพิ่มอีกคน แต่แล้วแต่บุญวาสนา
ลูกชาย “น้องพีร์เจ” อายุ 1 ขวบแล้ว อยู่ในช่วงเดินได้ ทำพ่อแม่อย่าง “พุฒ พุฒิชัย เกษตรสิน”และ “จุ๋ย วรัทยา นิลคูหา” แฮปปี้มากๆ เฝ้าดูการเติบโตของลูกทุกย่างก้าว ล่าสุดได้เจอตัวพ่อพุฒในงาน HARUDOT BY NANA COFFEE เปิดโซนใหม่ “GARDEN ART SPACE” ที่จังหวัดชลบุรี พุฒก็เผยว่าปีหน้าอยากได้ลูกเพิ่มอีกคน แต่ก็แล้วแต่บุญวาสนา
“แฮปปี้มากครับ เป็นช่วงที่เขาเดินได้ เป็นช่วงเวลาที่เขามีความสุขกับการเดิมตามมุมต่างๆ ในบ้าน พุฒกับจุ๋ยก็จะต้องคอยเดินตามดูเขาเรื่อยๆ ในตอนนี้ บางทีเขาเดินเร็วเราก็กลัวหัวเขาจะไปโขกอะไร
ส่วนเรื่องความจ้ำม่ำ ถ่ายรูปจะดูจ้ำม่ำแต่จริงๆ แล้วตัวเล็ก น้ำหนักตามเกณฑ์ แฮปปี้มากครับ เขากินง่าย นอนง่าย จะเป็นห่วงก็พวกโรคภัยไข้เจ็บมากกว่า โควิดกลับมาระบาดอีกรอบนึงแล้ว ไข้หวัดใหญ่ ไวรัสโนโร อาร์เอสวี เด็กเขายังไม่มีภูมิแข็งแกร่งเท่าผู้ใหญ่ เราก็จะค่อนข้างกลัว เราก็ต้องดูแลตัวเองกัน จุ๋ยเขาจะเป็นคนละเอียดมาก เวลาผมออกมาทำงาน เขาก็จะเตือนอย่าลืมพ่นจมูก ฉีดแอลกอฮอล์ ใส่มาสก์ เวลากลับบ้าน ต้องล้างมือ อาบน้ำให้สะอาดก่อนเลี้ยงลูก ก็กลัวว่าเขาจะป่วย พอเขาป่วยแล้วเราสงสาร เด็กป่วยทีเป็น 1-2 อาทิตย์ แต่คุณหมอบอกว่าเด็กต้องป่วยบ้าง เราก็เลยไม่ได้ซีเรียสขนาดนั้น ถึงคราวที่เขาจะต้องป่วยเราก็ดูแลรักษาเขาไป เราก็ค่อนข้างปล่อยวางลง แต่อะไรที่ควบคุมได้จากตัวเรา เราก็จะพยายามช่วยกัน”
ปีหน้าปั๊มลูกคนที่ 2 แต่อยู่ที่บุญวาสนา เพราะลูกคนแรกก็ใช้เวลานาน
“ก็อยากนะ แต่อย่างที่ทราบว่ากว่าจะมีพีร์เจได้ก็ใช้เวลานานมาก เราสองคนก็คุยกันนะว่าจะมีอีกคนนึง เรามีความตั้งใจกันอยู่แล้วว่าอยากจะมีลูก 2 คน ถามพีร์เจป่าป๊ามีน้องได้ไหม เขาก็โอเค ก็ไม่รู้ว่าเขารู้เรื่องไหม แต่เราก็ติ๊ต่างว่าเขาโอเค อยากปุ๊บปั๊บเหมือนกัน อยากให้มาง่ายๆ มันจะดีมากๆ เลยครับ ปีหน้านี่แหละ แล้วก็ปีต่อไป เราอายุเยอะแล้วก็กลัวลูกเราวัยรุ่นเราจะแก่เกินไป อยากเป็นคุณพ่อคุณแม่ที่วัยรุ่นที่ไปทำกิจกรรมกับเขาได้ ถ้าปีหน้าได้ก็จะดีมากๆ เลย แต่สุดท้ายก็แล้วแต่บุญวาสนาที่เขาจะมา”
รองานในวงการอยู่ ลั่นดันลูกเรียนอินเตอร์ ให้ความสำคัญกับการศึกษา
“รออยู่ครับ ลูกค้าท่านใดที่สนใจติดต่อมาได้ ตอนนี้ส่วนใหญ่จะเป็นงานออนไลน์มากกว่าที่เข้ามา เป็นยูทูปเบอร์ด้วย ถ้าเป็นงานครอบครัวเราจะมีบัญชีหนึ่งไว้เลยให้กับลูก ของพ่อแม่ก็แยกกัน ต่างคนต่างใช้ มีแยกกันบ้าง ก็วางแผนให้กับเขา เราค่อนข้างให้ความสำคัญกับการศึกษามากๆ มาเป็นอันดับ 1 เลย เราอาจจะไม่ได้เรียนดีมาตั้งแต่เด็ก เรารู้สึกว่าถ้าวันนั้นเขาได้เรียนในที่ดีๆ เราเชื่อว่าศักยภาพของการศึกษามันจะส่งผลให้คนมีศักยภาพมากขึ้น เราเชื่อแบบนั้น เราสองคนก็คุยกันว่าเราจะให้ความสำคัญกับเรื่องของการศึกษาสุดๆ แต่ไม่ได้กดดัน ไปผลักดันจนเขาเครียดเกินไป ก็วางไว้ว่าจะให้เขาเรียนอินเตอร์ พ่อแม่ยอมทำงานหนัก จ้างได้ครับ สปอนเซอร์เข้าได้”
สวีตเหมือนเดิม แต่ไม่เหมือนตอนแต่งงานกัน เพราะกลับมาโฟกัสลูก
“สวีตเหมือนเดิม แต่เราสองคนจะโฟกัสที่ลูกมากกว่า มันก็จะไม่เหมือนกับตอนแต่งงาน เราก็ยังคงแชร์เรื่องราว พูดคุย หวานกันเหมือนเดิมแต่ไม่เท่าเดิมแต่ก็จะมีแซวๆ กัน เราจะแข่งกันว่าลูกจะเรียกใครก่อนระหว่างป่าป๊ากับหม่าม๊า ก็จะคุยข่มกัน ผมก็จะพูดกรอกหูลูกว่าป่าป๊า เรียกป่าป๊า พีร์เจก็เรียกป่าป๊าก่อน แต่คำแรกที่เขาพูดได้คือหม่ำหม่ำ“
