xs
xsm
sm
md
lg

“เบนซ์” โลกใบที่สอง สวนเดือด “หญิงลี” หนังคนละม้วน! แฉฝ่ายหญิงจีบก่อน ชวนไปอยู่ที่บ้านในฐานะคนรัก!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



อดีตแฟน “หญิงลี” เปิดหน้าท้าชนเดือด ลั่นถูกจีบก่อน ฝ่ายหญิงบอกเป็นพรหมลิขิต ให้เงิน 5 พันก่อนชวนมาอยู่ในบ้านในฐานะคนรัก ต่อมามีเรื่องหึงหวงกับคนเก่า ถูกชักปืนจ่อหัว ฝ่ายหญิงสั่งคนในบ้านทำร้าย ก่อนแจ้งความข้อหาบุกรุก ท้าถ้ามีหลักฐานขโมยกล้องให้จับไปได้เลย ส่วนแชตถูกยุให้กอบโกยแค่ประชดเท่านั้น ลั่นครอบครัวสุดเครียด ได้รับหมายเรียกจากตร. 

หลังจากที่นักร้องลูกทุ่งสาว “หญิงลี ศรีจุมพล”ออกมาแถลงข่าวด้วยอาการน้ำตาคลอเบ้า ยอมรับว่ากระแสข่าวโลกสองใบคือตนเองจริงๆ โดยเริ่มต้นคบกับหนุ่มชื่อ “ไม้”แต่ทะเลาะกันเพราะฝ่ายชายติดนิสัยชอบดื่ม ทำให้เลือกถอยห่างออกมา ต่อมาได้เจอผู้ชายอีกคน ซึ่งศึกษาดูใจกันได้เพียง 3 เดือนก็เริ่มเห็นอะไรหลายๆ อย่าง มีการคุกคามทางสื่อ และข้อความแชตจากผู้หญิงอื่นบอกให้มากอบโกยจากตน ซ้ำตนยังสงสัยว่าชายคนนี้แอบเอากล้องของตนไปขายหรือเปล่า จึงได้มีการไปแจ้งความไว้เรียบร้อยแล้ว หลังจากนี้ฝั่งชายคนใหม่เอาอะไรออกมาแฉ หรือพูดอะไรอีก ตนก็จะให้ทนายเป็นคนดำเนินการต่อไป ตอนนี้พบรักแท้จริงๆ เพราะได้กลับมาปรับความเข้าใจกับ “ไม้”​ เรียบร้อยแล้ว

เรื่องราวยังไม่จบ ล่าสุดฝั่งหนุ่มคนใหม่ของหญิงลี ที่ชื่อว่า “เบนซ์” ได้ออกมาเปิดหน้าท้าชนเป็นครั้งแรกด้วยการให้สัมภาษณ์กับรายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ บอกว่าไม่มีอะไรจะเสียแล้ว เพราะหลังจากที่ฝ่ายหญิงไปแจ้งความ หมายเรียกถูกส่งมาที่บ้าน ทำให้ครอบครัวตนได้รับผลกระทบมาก

“วันนี้ผมขอเปิดหน้า เพราะว่าไม่มีอะไรต้องปิดบังแล้ว สิ่งที่จะเล่ามันคือความจริง เนื่องจากก่อนหน้านี้มานักข่าวหลายสำนักติดต่อมา ผมก็ไม่เคยออกมาพูด ซึ่งเมื่อวานนี้ที่ฝ่ายหญิงออกมาพูด มีสิ่งที่พาดพิงผมเยอะพอสมควร ทำให้คนรอบข้างคนที่รู้จักมองในด้านลบ จริงๆ แล้วไม่ได้อยากออกมาเปิดเผยทางสื่อ หรือออกมาแฉอะไรเลย ถ้าผมจะทำผมคงทำไปตั้งนานแล้ว แต่ก็เลือกที่จะไม่ให้ข้อมูลใดๆ กับใครเลย แต่วันนี้ครอบครัวของผมเห็นว่าผมถูกหมายเรียกจากตำรวจ ทำให้ตอนนี้คุณแม่ ตายายของผมต้องมาเดือดร้อน ถึงขั้นนอนไม่หลับ ผมจึงอยากออกมาพูดในความถูกต้อง

ผมรู้จักกับฝ่ายหญิงเมื่อประมาณ 3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งผมทำอาชีพฟรีแลนซ์รับถ่ายภาพ จากนั้นระยะเวลาผ่านมาก็ไม่ได้เจอกันอีก ต่อมาเมื่อช่วงปีที่แล้ว ผมไปเก็บภาพคอนเสิร์ต บรรยากาศงาน ก็ได้ไปเจอฝ่ายหญิง ไปยกมือสวัสดีเขา จากนั้นเขาให้ผู้จัดการมาบอกกับผมว่าให้ไปรอหลังเวที หลังจากฝ่ายหญิงถ่ายภาพกับแฟนคลับเสร็จ เขาเดินมากอดผม กอดอยู่สักพักใหญ่ จนผู้จัดการมาสะกิดบอกว่าดูไม่ดีแล้ว เขาจึงบอกให้ทางผู้จัดการมาขอเบอร์ ขอไลน์ผมไว้ ซึ่งตอนนั้นผมไม่ได้คิดอะไร คิดแค่ว่าเผื่อมีงาน มีคอนเนกชั่น จึงให้เบอร์และไลน์ไป”



บอก “หญิงลี” เป็นฝ่ายชวนตนไปทำงาน และให้เข้าไปอยู่ที่บ้านด้วยกันในฐานะคนรัก
“วันรุ่งขึ้นฝ่ายหญิงมีการทักแชตไลน์ มาสอบถามว่าผมทำงานอะไร ทำอาชีพอะไร ผมก็เล่าให้ฟัง จากนั้นเขาถามผมว่าเงินพอใช้ไหม ผมก็บอกไปว่าพอที่จะประคองตัวเองได้ จากนั้นเขาโอนเงินให้ผม 5,000 บาท หลังจากวันนั้นเขาติดต่อให้ผมไปหา เพื่อที่จะไปคุยงาน เนื่องจากเขาต้องขึ้นคอนเสิร์ต พอผมไปถึง รองานจบ เขาชวนไปทานข้าว ตอนนั้นก็รู้สึกเอะใจ ว่าทำไมถึงชวนไปทานข้าว แต่ผมก็ไป จากนั้นก็พูดคุยกันมากขึ้น ต่างคนก็ต่างมีใจให้กัน และฝ่ายหญิงบอกว่าตามหาคนแบบผมมานานแล้ว การที่เราได้มาเจอกันถือว่าเป็นพรหมลิขิต



หลังจากนั้น 2-3 วัน ฝ่ายหญิงได้ชักชวนผมไปอาศัยอยู่ที่บ้านด้วยกันในฐานะคนรัก แต่ให้ช่วยเหลือในการทำงาน โดยให้ผมดูแลเรื่องขับรถ ดูแลเรื่องของที่พัก รวมถึงการเดินทางไปงานคอนเสิร์ต ซึ่งฝ่ายหญิงให้เงินผมเดือนละ 20,000 บาท ซึ่งคนในบ้านรวมถึงทีมงานรับรู้ความสัมพันธ์ของผมและฝ่ายหญิงทั้งหมด ตอนนั้นผมรู้อยู่แล้วว่าฝ่ายหญิงเคยมีคนคุยมาก่อน ซึ่งผมก็ได้สอบถามกับฝ่ายหญิงว่า แล้วผู้ชายคนที่เคยคบหากันคืออะไร แต่ฝ่ายหญิงบอกว่าจบแล้ว เคลียร์ไปแล้ว ผมจึงมั่นใจที่จะเข้าไปอยู่ในบ้านโดยไม่ต้องปิดบังอะไร”

เผยแฟนของ “หญิงลี” เอาปืนจ่อหัวตนจริง 

“หลังจากคบหากันสักพัก มีอยู่วันหนึ่งฝ่ายหญิงเดินทางไปที่รีสอร์ตบ่อยมาก ผมจึงเกิดความสงสัยว่าไปทำอะไร ฝ่ายหญิงบอกว่าไปเคลียร์ปัญหากับคนเก่า สาเหตุที่ไปเพราะเรื่องทำงาน ซึ่งตอนนั้นผมก็หึงหวง แต่ทำอะไรไม่ได้เนื่องจากไม่มีหลักฐาน จากนั้นก็มีปากเสียงกัน ทะเลาะกันมาตลอด หลังจากนั้นฝ่ายหญิงได้บินกลับมาที่กรุงเทพฯ ผมก็ไปรอรับเขา แต่ฝ่ายหญิงบอกว่าวันนี้เราไม่เข้าบ้านดีกว่าไหม ไปนอนที่บ้านของคนสนิทของเขา ซึ่งผมกับเขาก็ไปนอนบ้านคนสนิทได้ 1 คืน พอตื่นเช้ามา ฝ่ายหญิงทำท่าทีกังวลใจ ผมจึงถามว่าเป็นอะไรหรือเปล่า เขาบอกว่าไม่เป็นอะไร

พอวันรุ่งขึ้นเขามีการคุยโทรศัพท์อยู่ในห้องนานถึง 2 ชั่วโมง ซึ่งผมก็ไม่ได้เข้าไปรบกวนอะไร สักพักเขาเดินออกมาหน้าตาตื่น เขาบอกว่า ผู้ชายคนนึงจะเข้ามานะ ค่อยๆ คุยกันนะ ใจเย็นๆ ซึ่งผมก็บอกไปว่า ผมไม่ได้อยากมีปัญหา คุณบอกว่าคุณเคลียร์ไปแล้ว คุณก็ต้องเป็นคนคุยเองจากนั้นฝ่ายชายมาถึงที่บ้าน ผมก็อยู่ในบ้าน มีปากเสียงกันปะทะคารมกันไปมา จากนั้นฝ่ายชายได้พูดขึ้นมาว่า มึงจะหยุดไหม ถ้าไม่หยุด เดี๋ยวกูจะหยุดมึงเอง พร้อมชักปืนขึ้นมาจ่อที่หัวผม จากนั้นเจ้าของบ้านโทรศัพท์หาตำรวจ พอเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามา ฝ่ายชายได้นำปืนขึ้นไปแอบข้างบนบ้าน พอตำรวจตรวจค้นก็พบปืนพร้อมกระสุนเต็มแม็ก ซึ่งสาเหตุที่ผมไม่ดำเนินคดีเนื่องจากฝ่ายหญิงได้ขอร้องไว้”



บอก “หญิงลี“ ให้คนในบ้านมาทำร้ายตน และไปแจ้งความตนในข้อหาบุกรุก
“หลังจากวันนั้นผมก็จับได้ว่าฝ่ายหญิงคุยกับฝ่ายชาย (คนเก่า) ทำนองว่าให้ฝ่ายชายรอ กำลังเคลียร์กับผมอยู่ แต่สิ่งที่ฝ่ายหญิงคุยกับผม คือบอกว่าเคลียร์กับฝ่ายชายไปแล้ว จึงทำให้ผมรับไม่ได้ และตกลงกันว่าผมจะออกจากบ้านไปวันที่ 19 เมษายน แต่สุดท้ายผมอยู่บ้านหลังนั้นไม่ได้แล้วรู้สึกอึดอัด และเสียใจกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น จึงตัดสินใจออกจากบ้านมาในวันที่ 16 เมษายน แต่ฝ่ายหญิงก็เข้ามาถามผมว่าทำไมถึงรีบไป ทำไม่ถึงไม่อยู่เก็บเกี่ยวความสุขกันก่อน แต่ผมก็บอกว่าไม่แล้วรู้สึกอึดอัด



หลังจากนั้นฝ่ายหญิงก็บอกให้ผมเอาโทรศัพท์ของผมไปให้เขา ซึ่งผมก็ไม่ยอม ฝ่ายหญิงจึงเรียกคนในบ้านออกมา ผมเห็นว่าไม่ปลอดภัย จึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาไลฟ์ แต่ไม่ได้ต้องการแฉ เป็นการไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ไม่ได้เป็นสาธารณะ ยืนยันที่ทำไปเนื่องจากต้องป้องกันตัวเอง เพราะฝ่ายหญิงเรียกคนมาหลายคน กลัวจะไม่ปลอดภัย ขณะเดียวกันเขาก็ให้คนในบ้านสองคนมาทำร้ายผม โดยทุบเข้าที่ท้ายทอยผม จากนั้นได้แย่งโทรศัพท์มือถือไป หลังจากนั้นฝ่ายหญิงก็ไปแจ้งความผมในข้อหาบุกรุก”



เผยถ้ามีหลักฐานว่าตนขโมยกล้องไป ให้มาจับตนได้เลย ยืนยันตนไม่ได้เอาไป
“ส่วนเรื่องกล้องที่หายไปนั้น ฝ่ายหญิงเคยบอกกับผมว่ากล้องวิดีโอที่ไม่ได้ใช้งานสามารถนำไปปล่อยเช่าหารายได้เสริมได้นะ ซึ่งบางทีผมก็นำกล้องไปปล่อยเช่า แต่สาเหตุที่กล้องหายไปนั้นผมไม่ทราบ และยืนยันว่าไม่ได้เป็นคนเอาไป ซึ่งก่อนหน้านั้น ผมเคยบอกกับฝ่ายหญิงแล้วว่า กล้องหายให้ไปแจ้งความ แต่ฝ่ายหญิงกลับเฉย ซึ่งหากฝ่ายหญิงคิดว่าผมเป็นคนเอาไป หากมีหลักฐานให้เอาออกมายืนยันได้เลย



ส่วนเรื่องของแชต ผมยอมรับว่ามีการคุยแชตกับอดีตคนเคยคุยจริง และเมื่อฝ่ายหญิง (หญิงลี) รู้ จึงโทร.ไปหาอดีตคนเคยคุยของผม และบอกให้เลิกยุ่งกับผม ซึ่งข้อความแชตอันนั้นอดีตคนเคยคุยตอบกลับมาด้วยความโมโหและประชดประชันผม หาว่าผมเป็นแมงดา กอบโกยอะไรได้ก็ให้กอบโกยมาให้หมด ถ้าอ่านทั้งประโยคมันคือการประชดประชันว่าไม่น่ากลับมาคบกับผมเลย”

ภาพจากรายการ เที่ยงวันทันเหตุการณ์

ภาพจากรายการ เที่ยงวันทันเหตุการณ์

ภาพจากรายการ เที่ยงวันทันเหตุการณ์

ภาพจากรายการ เที่ยงวันทันเหตุการณ์

ภาพจากรายการ เที่ยงวันทันเหตุการณ์

ภาพจากรายการ เที่ยงวันทันเหตุการณ์





กำลังโหลดความคิดเห็น