“เพชร พุ่มพวง” เปิดใจถึงความกดดัน เป็นลูกแม่ “ผึ้ง พุ่มพวง” เหมือนดาบสองคม ไม่อยากรับรู้มรดกแม่ผึ้งมีจริงไหม ลั่นเป็นลูกแม่ผึ้งได้แค่ชื่อเสียง โตมาจากน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง เดือนชนเดือน ต้องดิ้นรน
หลังจากที่นักร้องหนุ่ม “เพชร พุ่มพวง” หรือ “ภัควรรธน์ พิสิษวุฒิรัชต์” ทายาทราชินีลูกทุ่ง “ผึ้ง พุ่มพวง ดวงจันทร์” ออกมาพูดถึงมรดกของคุณแม่จนหลายๆ คนถามถึงกรณีนี้กันยกใหญ่ ล่าสุดเจ้าตัวได้ออกมาเผยว่าที่ออกมาพูด เพราะถูกถามอยู่บ่อยครั้งว่ามรดกของแม่เป็นสิบๆ ล้านหายไปไหนหมด ซึ่งหนุ่มเพชร ก็บอกว่าตนรู้สึกกดดันกับคำพูดเหล่านี้ เพราะมรดกที่ว่าตนก็ไม่เคยได้เห็น และไม่อยากรับรู้ด้วยว่ามีจริงหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาก็ทำงานหาเลี้ยงตัวเองมาตลอดแบบเดือนชนเดือน
“ความที่หลายคนคิดว่าผมเป็นลูกแม่ผึ้ง พุ่มพวง ผมรวยมากอยู่แล้ว ไม่ต้องรับงาน ไม่ต้องร้องเพลงก็รวยแล้ว แต่ความจริงไม่ใช่นะครับ ผมก็ยังอยากทำงานเหมือนเดิม แล้วเรื่องมรดกของคุณแม่ผมไม่ทราบอะไรเลย ผมกดดันกับคำพูดของคนอื่นมานานแล้วครับ แต่เราก็ไม่รู้ว่าจะพูดยังไงดีการที่เป็นลูกแม่ผึ้งเอาจริงๆ มันก็เหมือนเป็นดาบสองคม ผมดีใจที่ได้เป็นลูกคุณแม่ แต่พอเวลาที่คนอื่นคาดหวังในตัวเรามากๆ ว่าทำไมเราถึงไม่ร้องเพลงลูกทุ่งแท้ๆ เหมือนคุณแม่ ซึ่งบอกตรงนี้เลยว่าเราทำไม่ได้อยู่แล้ว หรือหลายๆ คนอยากจะโยนงานให้ แต่บางทีก็เปลี่ยนใจเพราะคิดว่าเป็นลูกพุ่มพวงน่าจะค่าตัวแพง
หลังจากที่ไลฟ์แล้ว หลายคนก็เริ่มที่จะเข้าใจมากขึ้น ว่าความจริงผมก็ไม่ได้มีอะไรนะ ได้แค่ชื่อเสียงของคุณแม่มาเฉยๆ หลังจากได้พูดไปแล้วก็สบายใจขึ้นนิดนึง ที่ผ่านมาโตมาจากน้ำพักน้ำแรงของตัวเองจริงๆ ครับ ถ้าเป็นภาษาบ้านๆ ก็เหมือนเดือนชนเดือน ยังต้องดิ้นรน ยังต้องสู้ ถามว่าพอมีคนพูดเรื่องมรดกคุณแม่บ่อยๆ แล้วผมอยากรู้ไหม ผมไม่อยากรู้ครับผมมองว่าเรื่องมรดกมันเป็นเงินของแม่ผม ไม่ใช่เงินของผม
จริงๆ หลายคนก็กดดันว่าทำไมผมถึงไม่อยากรู้บ้าง ผมก็ไม่รู้ว่าผมจะรู้ไปทำไม ผมมองว่าสร้างด้วยตัวเองดีกว่า ถึงแม้ว่ามันจะลำบากหน่อย แต่อย่างน้อยทุกบาททุกสตางค์เราก็หามาใช้เองน่าจะดีกว่า อีกอย่างมรดกที่ผมมีทุกวันนี้ก็คือการได้เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของคุณแม่ รวมถึงชื่อเสียงที่คุณแม่ให้มา ทุกวันนี้ก็รับงานปกติครับ ติดต่อมาได้เลย ค่าตัวไม่แพงทักมาได้เลยทุกช่องทางโซเชียล ทั้งงานร้องเพลง พิธีกร ดีเจ ยินดีเสมอเลยครับ”
