“เบส คำสิงห์” เปิดใจน้ำตาคลอ ทุกฝ่ายเสียความรู้สึก “พ่อสมรักษ์” โดนสาว 17 แจ้งความ แต่ให้เป็นไปตามกฎหมาย ลั่นถ้าพ่อผิดก็ต้องยอมรับผิด ต้องเผชิญหน้ากับสิ่งที่ทำ ถ้าไม่ผิดอยากไปพักที่ฝรั่งเศสก็พร้อมออกค่าใช้จ่ายให้ ใครผิดใครถูกให้รอดู ยังพิสูจน์ไม่ได้ แต่พ่อผิดก็ขอโทษแทนพ่อ ลั่นไม่ถามเรื่องพ่อแม่หย่า เอาที่แม่สบายใจ ลั่นไม่ออกมาพูด เพราะทั้งคู่ยังอยู่บ้านตนแต่พักคนละห้อง บอกหนักหนาสำหรับตน แต่เกิดขึ้นแล้วก็ต้องเดินหน้า
เรียกว่าเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเลยทีเดียว สำหรับกรณีที่ “สมรักษ์ คำสิงห์”โดนสาว 17 แจ้งความเอาผิด ปมล่วงละเมิดทางเพศและพาเข้าโรงแรม ซี่งงานนี้แม้สมรักษ์ จะยืนยันว่าอีกฝ่ายสมยอม และตนก็แค่ถอดเสื้อผ้า ยังไม่มีสารคัดหลั่งออกมา รวมถึงได้หย่าภรรยาไป 2 เดือนแล้ว แต่ชาวเน็ตก็ยังวิจารณ์กันอย่างดุเดือด จนลามไปถึงลูกสาวอย่าง “เบส รักษ์วนีย์ คำสิงห์”ที่นอกจากจะมีคนเห็นใจและสงสาร ที่ต้องเจอแต่เรื่องวุ่นวายในชีวิต ทั้งที่วันๆ หาแต่เงินแล้ว ก็ยังโดนทัวร์เกรียนถล่มแซะด้วย ว่าคงต้องขายรถหรูช่วยคดีพ่อแล้วมั้ง
โดยล่าสุดวันนี้ (12 ธ.ค.) ได้เจอสาวเบส ที่มาร่วมแจกปฎิทิน 2567 ในงานช่องวัน 31 ยกทัพนักแสดงส่งความสุข เจ้าตัวก็ได้เปิดใจเคลียร์ถึงเรื่องนี้ โดยยอมรับว่าพ่อกับแม่ได้หย่ากันแล้วจริงๆ แต่ก็ยังอยู่บ้านเดียวกัน ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้น ถ้าพ่อทำผิดก็ต้องยอมรับผิด แต่ถ้าไม่ผิดแล้วอยากไปพักผ่อนที่ฝรั่งเศส ก็จะออกค่าใช้จ่ายให้ ไม่รู้เหตุการณ์รอให้กฎหมายพิสูจน์ ใจยังไม่อยากให้พ่อไปฝรั่งเศส อยากให้เผชิญปัญหาก่อน เพราะมันเกิดขึ้นแล้วต้องเดินหน้า
“(ยกมือไหว้) ขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจหนูค่ะ ก็ต้องรอดูว่าคดี ทนายจะจัดการยังไง ต้องรอตามขั้นตอนกฎหมาย หนูรู้เท่าที่พ่อเล่าตรงกับข่าว เล่าให้หนูฟังเหมือนกับที่ให้ข่าวค่ะ หนูก็ทราบเหมือนกับทุกคน หนูถามทนายก็บอกว่าเดี๋ยวดำเนินคดีตามกฎหมาย ตรงนี้ก็ต้องให้ทนายกับพ่อจัดการ หนูเองก็ไม่ได้คุยกับพ่อ หนูรู้ว่าพ่ออยู่ขอนแก่น แต่ก็ไม่รู้ว่าเขารู้สึกอะไรยังไง แต่ว่ามันก็ไม่ได้มีใครรู้สึกดีอยู่แล้ว ทุกฝ่าย ทุกคน ก็เสียความรู้สึกหมดค่ะ รวมถึงผู้เสียหายด้วย หนูอยากให้ทุกคนคอมเมนต์กันเบาๆ ให้กำลังใจทุกฝ่ายดีกว่าค่ะ ถ้าถามถึงแม่กับน้อง คือตอนแรกเราก็ตกใจเหมือนกัน เราก็ไม่รู้ว่าจะเกิดข่าวนี้ขึ้น แต่พอเรามาคุยกันในครอบครัว เบส แม่ แล้วก็น้อง เราก็ให้กำลังใจกัน 3 คนก็ต้องเดินหน้ากันต่อไป”
ยอมรับพ่อแม่หย่ากันแล้ว แต่ยังอยู่บ้านเดียวกัน ไม่ได้ถามเหตุผล เพราะเอาที่แม่สบายใจ
“อันนี้หนูรู้อยู่แล้วค่ะ เพราะตอนที่พ่อกับแม่หย่ากันก็มาบอก ซึ่งเราก็โอเค เราแล้วแต่เขาอยู่แล้ว เป็นเรื่องของสามี-ภรรยา ถ้าเขาสบายใจเราก็โอเคค่ะ แต่ที่เบสไม่ได้ออกมาพูด เพราะรู้สึกว่าเขาหย่ากัน แต่ก็ยังอยู่บ้านเบส พ่ออยู่คนละห้องกับแม่ พ่อยังพักที่บ้าน ยังใช้รถที่บ้าน ถ้าออกมาพูดก็รู้สึกว่ายังไม่ใช่ คือเบสกับน้องก็โตแล้ว เข้าใจในเรื่องของความรัก ก็แล้วแต่เขาตัดสินใจค่ะ การหย่ากันก็อาจจะเป็นหลายๆ เรื่องรวมกัน เขาอยู่กันมานาน การที่หย่ากันก็ต้องมีหลายๆ เรื่อง แต่เบสไม่ได้ถามว่าเพราะอะไร เพราะเบสเอาที่แม่สบายใจค่ะ (คุณแม่บอกว่าเป็นห่วงความรู้สึกเรากับน้อง?) ห่วงแม่ดีกว่าค่ะ (เสียงสั่น) เราก็ให้กำลังใจกัน 3 คน”
ดึงกำลังใจจากทุกคนมาฮีลตัวเอง ไหว้ขอโทษแทนพ่อด้วย
“จากทุกคนค่ะ ขอบคุณมากๆ ค่ะ (ไหว้) คนให้กำลังใจเยอะมาก ก็ขอบคุณแฟนคลับหนู แล้วก็ทุกคนที่ให้กำลังใจหนู หนูรับรู้ แล้วมันก็ฮีลใจได้จริงๆ ขอบคุณค่ะ แต่ในส่วนของคอมเมนต์ลบ มันก็ปกติอยู่แล้ว เราโดนดรามามาเยอะแล้ว หนูโฟกัสคนที่ให้กำลังใจดีกว่า ขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจ ส่วนคนที่มาว่าหรืออะไร หนูขอโทษด้วย ขอโทษแทนคุณพ่อด้วยค่ะ(ยกมือไหว้ น้ำตาคลอ)”
คาดพ่อมีแพลนกลับกรุงเทพฯเร็วๆ นี้ เพราะต้องกลับมาเคลียร์อีกหลายอย่าง
“น่าจะต้องได้กลับอยู่แล้วค่ะ เหมือนมีเรื่องอื่นด้วยที่ต้องเคลียร์ เพราะเขาก็มีหลายๆ อย่าง เพราะว่าทนายความก็อยู่กรุงเทพฯ ค่ะ เขาต้องกลับมาคุยกับทนายที่กรุงเทพฯ อยู่แล้ว”
บอกถ้าพ่อผิดก็ต้องยอมรับผิด แต่ถ้าไม่ผิดก็ยินดีออกค่าเครื่องบินไปฝรั่งเศส
“ส่วนตัวหนูบอกพ่อไป ว่าถ้าพ่อผิดก็ต้องยอมรับผิด แต่ถ้าไม่ผิดแล้วอยากจะไปพักผ่อนที่ฝรั่งเศส หนูก็จะออกค่าเครื่องบิน ค่าที่อยู่ให้ แต่ถ้าผลออกมาแล้ว ก็ต้องเผชิญหน้ากับสิ่งที่ทำ ผิดก็คือผิด”
ยืนยันรักพ่อแม่เหมือนเดิม ให้กฎหมายเป็นเครื่องพิสูจน์ ผลเป็นยังไงก็พร้อมซัปพอร์ต
“เราก็รักพ่อแม่ค่ะ เขาเป็นพ่อเรา มันเกิดขึ้นแล้ว เบสเป็นคนที่ว่าถ้าผิดก็คือผิด ถูกก็คือถูก เพราะฉะนั้นเบสให้กำลังใจพ่อนะคะ แต่ถ้าพ่อผิดจริงๆ ก็ต้องรับผิด เราเองก็ไม่รู้ว่าเหตุการณ์เป็นยังไง เราไม่มีทางรู้ได้ ก็ต้องให้กระบวนการทางกฎหมายพิสูจน์หนูรักพ่อแม่ไม่ว่ายังไง ผลออกมาเป็นยังไงหนูก็ซัปพอร์ตเท่าที่ทำได้อยู่แล้วค่ะ ส่วนไปฝรั่งเศส เขาย้ายไปอยู่ไม่ได้อยู่แล้วค่ะ มันเรื่องของวีซ่า ก็ต้องรอดูต่อไป หนูเองยังไม่อยากให้พ่อไป อยากให้เผชิญหน้าก่อนกับสิ่งที่เกิดขึ้น ปัญหาเกิดขึ้นแล้วก็ต้องเผชิญ”
ไม่ได้พูดอะไรกับแม่มาก มองตาก็รู้ใจ
“เราไม่ได้พูดกันมาก แต่มองตาก็รู้แล้ว”
ยอมรับหนักหนากับตัวเองมาก แต่ไม่เป็นไรเดินหน้าต่อ มันเกิดขึ้นแล้วก็ต่อเผชิญกับมัน
“มันก็หนัก แต่ว่าไม่เป็นไรค่ะ เราก็เลือกไม่ได้ มันเกิดขึ้นแล้ว เราเดินหน้าดีกว่า แต่ว่าการที่เป็นหัวหน้าครอบครัว รับผิดชอบครอบครัว มันเป็นสิ่งที่ดีอยู่แล้ว แต่ปัญหาที่เข้ามา อาจจะรู้สึกไม่ดีตรงที่ว่าเราไม่ได้ทำ แต่คนก็มีด่าเราบ้าง มันเกิดขึ้นแล้ว หนูก็ต้องเผชิญหน้ากับมัน”
ไม่น้อยใจคนด่าไปก่อน ห้ามความคิดคนอื่นไม่ได้
“คือหนูโดนมาตลอด มันก็ห้ามไม่ได้ 1 พันคนก็ 1 พันความคิดค่ะ มันก็แล้วแต่คนจะคอมเมนต์ มันห้ามไม่ได้ แต่สำหรับใครที่ให้กำลังใจ ก็ขอบคุณมากๆ หนูรับรู้ค่ะ”
ยอมรับตามตรงไม่เชื่อใครเลย พิสูจน์ไม่ได้ รอดูดีกว่า
“หนูไม่เชื่อใครเลย มันพิสูจน์ไม่ได้ ต้องรอดู คือเราไม่รู้ เราไม่ได้อยู่ในห้องนั้น เราไม่ได้อยู่ในคืนนั้น หมายถึงว่าจะมีใครพูดความจริงร้อยเปอร์เซ็นต์ไหม เราไม่มีทางรู้ค่ะ แต่หนูก็ถามทนายว่าจะพิสูจน์ได้ยังไง ก็ต้องตามขั้นตอน มันก็มีวิธีพิสูจน์อยู่แล้วตามกฎหมาย อันนี้ก็ต้องให้ทนายดูแล แต่ส่วนตัวถามว่าหนูเชื่อใครไหม ถ้าตอบตรงๆ คือหนูไม่ได้เชื่อใครเลย รอดูดีกว่า”
เผยพ่อไม่ได้ติดต่อมา แต่น่าจะคุยกับน้องชาย
“ไม่ค่ะ เขาน่าจะคุยกันโบ๊ทซะส่วนใหญ่ เพราะว่าเขาสนิทกับโบ๊ท แต่หนูจะสนิทกับแม่ค่ะ”
อยากให้พ่อดูแลตัวเองดีๆ และรอบคอบ อะไรที่ผิดก็ว่าไปตามผิด
“ก็เหมือนที่เบสบอกตามรายการทุกรายการที่เคยออก ก็คืออยากให้ดูแลตัวเองดีๆ ค่ะ แล้วก็รอบคอบ แต่ว่าทั้งหมดทั้งมวลที่เบสพูด ไม่ได้ว่าพ่อนะคะ เบสก็รักพ่อเหมือนเดิม ถ้าอะไรที่มันผิด มันก็ต้องพูดไปตามความผิด อะไรที่ควรจะตักเตือน มันก็ต้องเตือน แต่ว่าเบสก็รักพ่อเหมือนเดิม (เสียงสั่น) รักแม่เหมือนเดิม คือเบสก็ลำบากใจเหมือนกันที่ต้องออกมาพูด เพราะเดี๋ยวคนจะเข้าใจว่าเราไม่รักพ่อ แต่คือเบสรักครอบครัวเหมือนเดิม แต่ในเรื่องนี้ถ้าผิดก็ว่าไปตามผิดค่ะ”
ที่ผ่านมาเจอปัญหาอะไรก็คุยกันตลอด แต่กับเรื่องนี้ไม่ได้คุยเยอะ เพราะเป็นเรื่องเซนซิทีฟ
“ใช่ค่ะ คือทุกปัญหาไม่ว่าจะเป็นเรื่องของหนี้ต่างๆ อะไรที่ผ่านมาก็มีคุย แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องเซนซิทีฟ เบสก็ไม่ได้ถามหรือคุยอะไรมากมาย”
เชื่อชาวเน็ตแยกแยะได้ ปล่อยไปตามธรรมชาติให้เวลาพิสูจน์
“หนูว่าเดี๋ยวนี้ชาวเน็ตแยกแยะได้และเก่งค่ะ คือถ้าเราทำผิดจริงๆ ชาวเน็ตก็ไม่ยอมอยู่แล้วแหละ แต่ถ้าเราทำถูก ชาวเน็ตจากที่เขาด่า เขาก็จะกลับมาว่าอ๋อ…ความจริงเป็นแบบนี้ คือหนูรู้สึกว่าให้มันเป็นไปตามธรรมชาติ เดี๋ยวทุกอย่างมันก็ใช้เวลาพิสูจน์เอง ว่าเรื่องราวเป็นยังไง แต่ถามว่าพ่อหนูมีความผิดไหม ตรงนี้มันมีความผิดอยู่แล้ว หนูขอโทษแทนคุณพ่อด้วยค่ะ (ยกมือไหว้)”
หลังสัมภาษณ์แล้วก็อยากกลับไปคุยกับแม่ เพราะเข้าใจหัวอกผู้หญิงเหมือนกัน
“คุยกับแม่ดีกว่าค่ะ (หัวเราะ) ผู้ชายก็คุยกับผู้ชายไป เราเป็นผู้หญิงก็คุยกับแม่ดีกว่า หัวอกผู้หญิงเหมือนกัน หนูเข้าใจค่ะ(ทำไมถึงไม่อยากคุยกับพ่อ?) หนูไม่ได้ไม่อยากคุย แต่ว่าคุยไปแล้วสิ่งที่หนูได้รับ มันเหมือนกับในข่าว หนูเลยรู้สึกว่าเราดูในข่าวก็ได้ค่ะ แต่ในเรื่องของกำลังใจ คือเบสให้กำลังใจแม่เบสดีกว่า เลยไม่ได้ให้กำลังใจพ่อ เบสก็บอกพ่อว่าถ้าในเมื่อพ่อทำผิด ก็ว่าไปตามผิด ไม่ว่าจะผิดมากผิดน้อย แต่ผิดเราก็ต้องยอมรับ แต่ในส่วนของแม่ เบสให้กำลังใจแม่มากกว่าอยู่แล้ว ถามว่าแม่เป็นยังไงบ้าง ก็โอเคค่ะ มันไม่มีใครรู้สึกดีหรอก แม่ก็คงไม่ได้รู้สึกดีค่ะ แต่ว่าเราก็ให้กำลังใจกัน”
ไม่โอเคกับสิ่งที่เจอ แต่ก็อยากขอบคุณทุกกำลังใจ
“มันไม่มีใครโอเคหรอก แต่ว่าก็ขอบคุณทุกกำลังใจ (เสียงสั่น) (รู้สึกยังไงที่มีคนรักและเชื่อมั่นในสิ่งที่เราพูด?) คือเรื่องนี้มันไม่ได้เป็นเรื่องของเบสเนอะ ที่เบสพูดไปอยากให้ทุกคนไม่ต้องเชื่อเบสก็ได้ แต่ว่ารอดูตามกระบวนการของกฎหมาย แต่ในส่วนของเบสท์คือเบสท์ก็รักพ่อกับแม่เหมือนเดิม แล้วก็ขอบคุณกำลังใจมากกว่า เบสรับรู้ว่าทุกคนให้กำลังใจเบส ขอบคุณมากๆ ค่ะ (ยกมือไหว้น้ำตาคลอ)”
