นักร้องและนักแสดงตัวแม่ ตั๊ก ศิริพร อยู่ยอดเปิดปมในใจกับ วู้ดดี้ วุฒิธร มิลินทจินดา ในรายการ WOODY INTERVIEW ถึงเรื่องราวในอดีต รวมถึงปมในใจที่รู้สึกผิดกับความเป็นแม่ของตัวเอง เป็นแม่ที่เคยรังแกลูก
ตั๊ก ศิริพร ไปออกรายการไหนจะมีความคาดหวังเลยว่าต้องสนุก ต้องตลก มีบางวันไหมว่าที่บางทีเราเอเนอร์จี้ดรอปมาก แต่ฉันต้องทำต่อไป ?
“อยากจะบอกว่าปัจจุบันตั๊กไม่รับงานร้องเพลงแล้วนะ เพราะตั๊กร้องเพลงมาตั้งแต่อายุ 17 ตอนนี้พี่ตั๊กจะ 52 แล้ว เวลาพี่ตั๊กไปโชว์ตัวอย่างที่วู้ดดี้พูดคนจะคาดหวัง ตั๊กร้องเสร็จต้องเอ็นเตอร์เทนจะไปร้องอย่างเดียวไม่ได้ เราจะต้องจอย ซึ่งมันเป็นปัญหาหนักอก หัวจะระเบิด บางทีไปงาน งานนี้เราจะเล่นอะไรดีนะ มันเครียด เจอหลากหลายงานเข้ามันก็สะสมถึงบ้านนี่นอนแผ่หลับลึกเลย จนกระทั่งมันเต็มอิ่ม ตั๊กเลยไม่อยากรับงานร้องเพลงแล้ว มันเบื่อ”
เมื่อพูดถึงคุณยายจะเป็นเรื่องที่เซนซิทีฟสำหรับพี่ตั๊ก ?
"วิถีคนต่างจังหวัด คนที่เป็นพ่อแม่ส่วนใหญ่จะทิ้งลูกหลานไว้ให้ยายเลี้ยง ซึ่งตั๊กก็เหมือนกัน แม่ตั๊กก็จะให้เราไปอยู่กับคุณยาย ก็จะอยู่กับคุณยายตั้งแต่เด็กเลย เรียกยายว่าแม่ กินนอนกับยาย ท่านไปทำงานก็กระเตงพี่ตั๊กไปด้วย เพราะความที่บ้านเราไม่ได้เกิดบนกองเงินกองทอง ต้องหาเช้ากินค่ำไปขายของตามงานวัด อาบน้ำก็ไม่มีที่ให้อาบ เข้าห้องน้ำก็อาศัยห้องน้ำวัด เวลานอนก็ต้องนอนกางมุงกับพื้นดินข้างรถเข็น พี่ตั๊กเติบโตมาอย่างนั้นกับยาย ก็จะเห็นมาโดยตลอดว่าท่านลำบากขนาดไหน แล้วตั๊กปฏิญาณกับตัวเองเลยว่าสักวันหนึ่งถ้าเกิดฉันโตมีงานทำ ฉันจะเลี้ยงดูยาย
ใครจะคิดว่าเด็กบ้านนอกคนหนึ่งอย่าง ตั๊ก สิริพรมันจะก้าวมาถึงจุดนี้ มันเกิดคาดนะ แล้วทางบ้านกำลังจะดีขึ้น ใฝ่ฝันว่าอีกหน่อยสบายขึ้นจะซื้อบ้านเป็นของตัวเองให้ยายได้อยู่ไม่ต้องไปขายของตามงานวัดแล้ว แต่ยายก็มาด่วนจากไปซะก่อน ตั๊กยังไม่ให้แกได้สุขสบายเลย มันเลยเป็นปมในใจว่ายายทำไมไม่อยู่กับเราสักหน่อยกำลังจะดีขึ้นแล้ว
บังเอิญว่าวันที่ยายเสียเราไปงานพอดีด้วย แล้วยายเราอยู่โรงพยาบาล วันนั้นใจเราเป็นอะไรก็ไม่รู้อยู่ดีๆ คิดถึงแต่ยาย ซึ่งไม่เคยเป็นแบบนั้น ไม่สามารถทำอะไรได้เลย ใจมันกระวนกระวายร้อนรุ่มอยู่กับยายตลอดเวลาต้องมีอะไรสักอย่างหนึ่ง ตั๊กขออนุญาตเขากลับบ้านเลยไม่ไปงานต่อ แล้วเชื่อไหมตั๊กไปทันได้ดูแกเสีย ไปถึงแล้วเสียเลย ทุกวันนี้ยังฝันถึงแกอยู่เลย พี่ตั๊กรักยายที่สุดแล้วค่ะ"
ครอบครัว ตั๊ก ศิริพร เป็นครอบครัวที่อบอุ่นมาก เลี้ยงลูกมาอย่างดีตอนนี้ น้องภู อายุเท่าไหร่แล้ว ?
"จะอายุ 21 ปี แล้วนะเร็วไหมล่ะ อยู่มหาวิทยาลัยปี 3"
แล้วการเลี้ยงดูวันนี้กับวันโน้นมันต่างกันไหม ?
"เราเลี้ยงเขาแบบไข่ในหินแล้วเลี้ยงแบบผิดด้วย โรคซึมเศร้าหลังคลอดตั๊กเป็นนะ จะห่วงลูกมากกว่าปกติเป็น 100 เท่าจะนั่งร้องไห้แบบไม่มีเหตุผล ไปทำงานใจก็อยู่กับลูก แล้วตั๊กไม่ให้ลูกทำอะไรเลย ตั๊กจะทำให้ลูกทุกอย่าง แล้วจะเป็นคนที่กลัวเชื้อโรคตอนนั้นเหมือนคนบ้าโรคจิต เป็นอย่างนั้นจริงๆ นะ ตั๊กก็ยอมรับว่าตัวเองผิดนะถ้ามองกลับไป ถ้าวู้ดดี้ไปหาตั๊กที่บ้าน จะไม่ให้วู้ดดี้จับลูกกลัวเชื้อโรคอะไรแบบนี้ บ้าบอไปแล้ว ตั๊กทะเลาะกับผัว ผัวเสียโทรศัพท์มือถือไม่รู้กี่อันแล้ว ปาทิ้งเพราะทะเลาะกับเราเรื่องลูก เราจะห่วงลูกมากผิดปกติ วู้ดดี้คิดดูนะอาบน้ำให้ลูกจนลูก 10 ขวบ บ้าไหม นี่คืออีกหนึ่งปมของตั๊กคำว่าพ่อแม่รังแกฉันเอามาใช้คำนี้กับเราเถอะมันใช่เลย"
เกิดอะไรขึ้นกับเขา แล้ว ตั๊ก ศิริพร เห็นอะไรจากการที่เลี้ยงแบบนี้ ?
"อันนี้ต้องขอขอบคุณพี่ซูโม่กิ๊ก วันหนึ่งแกเห็นพี่ตั๊กมาถ่ายรายการแล้วซึมเศร้า หมายถึงว่าทุกคนร่าเริงแล้วเราเศร้าตลอดเวลา แกเลยเรียกมาคุย แล้ววันนั้นมันเลยเป็นการคุยเหมือนเปิดอกเลยนะ เราก็ไม่เคยคุยกับใคร เพราะเราก็ไม่รู้จะคุยกับใครปัญหาตรงนี้กับผัวก็คุยไม่ได้ คุยกับแม่ก็ไม่ได้เพราะแม่อยู่พิษณุโลก ไม่มีคนที่จะปรึกษาตรงนี้ เหมือนแกมาทลายตรงนี้ให้ ตัดสินใจพูดกับแกแบบเปิดอกเลยน้ำตานี่ไหลพราก เราเล่าให้แกฟังหมดเลย พี่กิ๊กหนูเป็นอย่างงี้ๆ หนูเลี้ยงลูกอย่างงี้ๆ ทำไมหนูทำอย่างงี้ๆ ตอนนี้น้องภู 10 ขวบแล้ว หนูยังอาบน้ำให้ลูกอยู่เลย พูดแล้วขนลุก
พี่กิ๊กนั่งสอนเลยมึงทำแบบนี้ไม่ได้ มึงรังแกลูกอยู่ แล้วแกก็สอนเรา มึงต้องทำอย่างงี้ๆ เหมือนแกมาเอาภาระทุกอย่างออกจากเราหมดเลย เราโล่ง ที่ผ่านมามันเป็นอย่างนี้เหรอเนี่ย 10 ปีลูกเราทำแบบนี้กับลูก แล้ววันนั้นคุยกับพี่กิ๊กเสร็จตั๊กกลับไปปฎิบัติเลย ปกติจะรีบกลับบ้านไปบ้านน้ำให้ลูกทุกคนห้ามอาบ วันนั้นกลับไปบ้านบอกลูกว่าภูอาบน้ำเองนะลูก(หัวเราะ) เขาก็เข้าไปอาบน้ำเอง แต่ตอนที่เขาอาบน้ำเองเราแอบไปฟังพูดแล้วน้ำตาจะไหล เขาอาบเองครั้งแรกในชีวิต เขาอาบไปแล้วเขาร้องเพลงไป แสดงว่าที่ผ่านมา 10 ปีเขาทรมานมาก ตั๊กยืนน้ำตาไหลรู้เลยว่านี่กูทำกับลูกมาเป็น 10 ปี เขาอาบน้ำเองมีความสุขดูสิ แต่ตั๊กก็ขอโทษลูกนะ ตั๊กเรียกลูกมาแล้วก็ขอโทษเขากับสิ่งที่แม่ทำ แม่ผิดไปแล้ว ตั๊กคุยกับเขาทุกเรื่องเลยนะเราไม่มีความลับกัน"
ทุกวันนี้ ก็แชร์ทุกเรื่อง เขาก็มาปรึกษา ?
”ใช่ จนวันหนึ่งเขาเดินมาพูดกับเรา ซึ่งตั๊กก็คิดไม่ถึงเนอะ ลูกเดินมาบอกว่า แม่ผมไม่มั่นใจว่าผมชอบผู้หญิงหรือผู้ชาย เขาเดินมาพูดเองนะ แต่เชื่อไหมมันเป็นคำพูดที่พี่โคตรมีความสุขเลย เพราะพี่ตั๊กรู้สึกว่าลูกไม่มีความลับกับเรา ลูกเราไม่กดดันแล้ว ตอนแรก พี่นุ้ย (นุ้ย เชิญยิ้ม) สามีก็ทำใจไม่ได้อยู่ช่วงนึง ถ้าเกิดลูกจะเป็น LGBTQ+ ด้วยความที่้เขาเป็นผู้ชาย
แต่เราก็คุยกันนะว่าพ่อเดี๋ยวนี้โลกมันไม่เหมือนสมัยเราแล้วนะ โลกมันไปเร็วมาก ความรักไม่มีการที่จะมาแบ่งอะไรแล้ว ความรักก็คือความรัก ทั้งบ้านเราเลยนะ ทั้งแม่ น้องสาวตั๊ก เราคุยกันเปิดอกในครอบครัว แล้วก็คุยกับลูกว่า ภูลูกจะเป็นอะไรก็ได้ แต่แม่ขออย่างเดียวได้ไหมลูก ลูกอย่างเป็นภาระให้สังคม อย่าเป็นภาระพ่อแม่ ขอแค่ลูกเป็นคนดีแม่ขอแค่นี้ อาจจะไม่ต้องมาเลี้ยงดูพ่อแม่ก็ได้เราดูแลตัวเองกันได้ แต่ภูต้องห้ามมาเป็นภาระพ่อแม่นะ เคยเห็นไหมคนที่โตจนหมาเลียตูดไม่ถึงทุกวันนี้ยังขอเงินพ่อแม่อยู่เลย อย่างนั้นไม่เอานะ อยากจะเรียนอะไร อยากจะทำงานอะไรตามใจภูเลย ไปมีชีวิตของภู เพราะชีวิตคือชีวิตของภู แม่ให้กำเนิดจริงแต่ไม่ได้เป็นเจ้าชีวิต เราก็แนะนำเขาอยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ
เขาปรึกษาเรื่องแฟนไหม ?
"คุยกันหมดค่ะ แต่ตอนนี้ยังไม่มี เขายังไม่เจอที่ถูกใจ"
สามารถติดตาม WOODY INTERVIEW ได้ที่ช่องทาง Facebook: Woody , Youtube: Woody
