xs
xsm
sm
md
lg

“บอย ปกรณ์” ไม่ต่อสัญญาช่อง 3 ออกมาเป็นฟรีแลนซ์ รับผู้ใหญ่ยื้อบ้าง มีงานเรียกใช้ได้ (คลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“บอย ปกรณ์” เผยเพิ่งหมดสัญญาช่อง 3 ตอนสิ้นเดือน เลือกไม่ต่อ ขอมาเป็นฟรีแลนซ์ ใจหายอยู่มา 15 ปี บอกผู้ใหญ่เข้าใจและมียื้อบ้าง แต่อายุ 39 แล้วอยากหาประสบการณ์ใหม่ๆ มีอะไรเรียกใช้ได้เหมือนเดิม อัปเดตสตูดิโอใหม่ใกล้เสร็จแล้ว ลงทุนไป 8 หลักแต่ไม่ถึง 50 ล้าน ทำเป็นธุรกิจครอบครัว ให้น้องชายคนเล็กดูแลเป็นหลัก



โบกมือลาต้นสังกัดไปอีกคนแล้ว สำหรับพระเอกเบอร์ต้นๆ ของช่อง 3 อย่าง “บอย ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์” ที่ตัดสินใจไม่ต่อสัญญากับช่อง หลังเพิ่งหมดไปเมื่อสิ้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยวันนี้ (8 ธ.ค.) บอยได้เปิดใจหลังมาร่วมงานบวงสรวง “ชูชัยบุรี ศรีศิวะ มหาเทพ อัญมณี” ว่าที่ตัดสินใจไม่ต่อสัญญา เพราะอายุ และความรับผิดชอบที่มากขึ้น แต่แพลนชีวิตก็ยังเหมือนเดิม เพราะยังทำงานในวงการบันเทิงเป็นหลัก รู้สึกใจหายเหมือนกัน เพราะอยู่กับช่องมานานถึง 15 ปี

“หมดสัญญาแล้วครับ ถามว่าจะต่อไหม ก็ไม่ได้คุยกันแล้วครับ ไม่ได้ต่อสัญญา ก็เป็นฟรีแลนซ์ไปครับ ตกลงกันเรียบร้อยครับ สำหรับผมแล้วช่อง 3 เป็นทุกอย่างของผมเหมือนกัน เป็นอีกครอบครัวหนึ่ง มีทุกวันนี้ได้หลักๆ ก็เพราะช่อง 3 ดูแลผม ให้โอกาสผม แต่ว่ามันก็เป็นเรื่องของอายุด้วยเรามีหลายๆ สิ่ง หลายๆ อย่างที่ต้องทำมากขึ้น ต้องรับผิดชอบมากขึ้น แล้วก็อยากไปลองอะไรใหม่ๆ บ้าง รวมๆ ก็ประมาณนี้เองครับ ไม่ได้มีอะไรซับซ้อนเลย ก็เพิ่งหมดไปอาทิตย์หนึ่ง (หัวเราะ) หมดสิ้นเดือนที่แล้วครับ”

คุยกับที่บ้านละผู้ใหญ่ที่ช่องก่อนตัดสินใจ มีงานอะไรยังเรียกใช้ได้เหมือนเดิม
“ความจริงก็มีคุยกับที่บ้านด้วย คุยกับผู้ใหญ่ที่ช่องด้วย ก็เป็นออกมาประมาณนี้ แต่ว่าคือเราก็เป็นฟรีแลนซ์ ทางช่อง 3 เขายังให้โอกาสผม หรืออยากจะเรียกผมไปทำงานอะไรก็ยินดีเสมอ อย่างล่าสุดผมหมดสัญญาแล้ว แต่ 2-3 วันที่ผ่านมา เบลล่า (ราณี แคมเปน) จัดแฟนมีต ซึ่งช่องเป็นคนจัด ผมก็ไปเป็นแขกรับเชิญ ก็ไปทำได้ ผมอยู่ช่อง 3 มา 15 ปีครับ เล่นหนังเรื่องหนึ่งแล้วก็เข้าช่อง 3 เลย”

ชีวิตฟรีแลนซ์ไม่มีอะไรเปลี่ยน แพลนชีวิตยังเหมือนเดิม
“ผมว่าทุกอย่างก็เหมือนเดิมนะ คือหมายถึงว่าแค่เราจากเคยมีสังกัด มาเป็นไม่มีสังกัด แล้วก็อาจจะได้ไปเจอผมในช่องทางอื่นๆ ที่ไม่เคยเห็นมากขึ้นเท่านั้นเอง แต่ว่าเรื่องของการทำงาน การแพลนชีวิต ผมไม่ได้มีอะไรต่างจากเดิมเลย เพราะงานของผมก็ยังเป็นการแสดงเหมือนเดิม ออกอีเวนต์ ถ่ายโฆษณาเหมือนเดิม การใช้ชีวิตไม่ได้เปลี่ยน”

ยังไม่มีค่ายไหนติดต่อ เพราะยังไม่ค่อยมีคนรู้
ไม่ได้มีใครติดต่อมา เพราะส่วนใหญ่เขายังไม่ค่อยรู้ครับ เอาเป็นว่าผมก็คงไม่ได้ไปเซ็นที่ไหน แต่ถ้าจะได้ดูกันปีหน้าก็มีซีรีส์เรื่องหนึ่ง หนังเรื่องหนึ่ง แต่ยังบอกไม่ได้ว่าช่องไหนครับ”

เล่าให้หวานใจ “เฟย์ พรปวีณ์ นีระสิงห์” ฟัง แต่ไม่ได้มีส่วนช่วยตัดสินใจ
“เอาจริงๆ แค่เล่าเฉยๆ เพราะผมกับเฟย์เรื่องงานก็ปรึกษากันบ้าง แต่อันนี้มันเป็นงานคนละส่วนกัน ก็ไม่ได้ส่งผลต่อการตัดสินใจ แค่เล่าให้ฟังเฉยๆ เขาก็ตามเราแหละ เราก็ทำงานตรงนี้มานาน”

ยอมรับผู้ใหญ่มียื้อบ้าง ใจหายอยู่มา 15 ปี ได้โอกาสจากช่องมาเยอะ
“ก็มีคุยกันบ้างครับ ถามว่าใจหายไหมอยู่มา 15 ปี ก็มีแหละ…ใช่ไหม คือผมกับช่องก็แบบโอ้โห ผมโตมากับช่อง ได้โอกาสจากช่องเยอะมาก ทุกคนรู้จักผมวันนี้ก็มาจากช่อง ก็หลายอย่าง แต่ละปีมันมีงานอะไรของช่องบ้าง มันก็เหมือนเราฝังไปในตัวแล้ว แต่ก็มีบอกผู้ใหญ่ที่ช่องครับ ถ้าเกิดมีอะไรที่ผมกลับไปช่วยได้ ผมก็ยินดีเสมอ”

เพื่อนแก๊งคนดีที่ไหน “เกรท วรินทร ปัญหกาญจน์, เจมส์ จิรายุ ตั้งศรีสุข และ อาเล็ก ธีรเดช เมธาวรายุทธ” ไม่มีใครตามมา เพราะยังมีสัญญาอยู่
“คิดว่าไม่น่านะ เท่าที่รู้ เพราะแต่ละคนสัญญาก็ยังมีอยู่ระยะหนึ่งเหมือนกัน ถามว่าเพื่อนใจหายไหม ก็เฉยๆ มันรู้ ส่วนใหญ่คนที่รู้ว่าผมไม่ต่อแล้วเขาก็เฉยๆ เขาเข้าใจว่าอายุ 39 แล้ว เราไม่ใช่เพิ่งอายุ 25 เราคงต้องมีความรับผิดชอบต่างๆ มากๆ หรือไปหาอะไรใหม่ๆ ทำบ้าง แค่นั้นเองครับ ถามว่าเป็นอิสระแล้วมีความกังวลใจไหม ก็ไม่มีนะ ไม่มีเลย ก็แค่เปลี่ยนจากคนที่เคยมีสังกัดเป็นไม่มีสังกัดแค่นั้นเอง ส่วนที่เหลือก็ทำงานปกติเหมือนเดิม”

อัปเดตธุรกิจสตูดิโอ ใกล้เสร็จทั้ง 2 ที่
“ใช่ครับ ความจริงตอนนี้ก็หัวหมุนเลยครับ วุ่นมาก เพราะมีงานถ่ายของตัวเองด้วย แล้วพอดีว่าสตูดิโอที่ทำ 2 อัน มันจะเปิดใกล้ๆ กัน เสร็จพร้อมๆ กัน ก็คือมีอันหนึ่งที่ต่อยอดจากสตูดิโอคุณแม่ ชื่อสตูดิโอบ้านวันใหม่ เป็นบ้านหลังขนาดกลางๆ เปิดให้คนเข้ามาใช้บริการ ถ่ายโฆษณา ถ่ายละคร ถ่ายซีรีส์ ถ่ายไวรัลอะไรได้หมดครับ ภาพนิ่งก็ได้ แล้วมีอีกสตูฯ หนึ่งที่เปิดใกล้ๆ กัน อันนั้นชื่อ 15 สตูดิโอ เป็นสตูดิโอภาพนิ่ง แล้วผมกันห้องหนึ่งไว้ทำเวิร์กช็อปศิลปะด้วย หลักๆ ตอนนี้ก็มี 2 แหละ แต่สตูฯ ภาพนิ่งกับสตูฯ เวิร์กช็อปมันอยู่ด้วยกันครับ”

ลงทุน 8 หลัก แต่ไม่ถึง 50 ล้าน เน้นฟังก์ชั่นใช้งานไม่ได้อยู่อาศัย
“ความจริงมันก็ตามไซส์ ตามขนาดแหละครับ ประมาณหนึ่งแต่ไม่ได้เยอะรุนแรงขนาดนั้น เอาเป็นว่าโครงสร้างแข็งแรง ได้ตามมาตราฐาน ฟังก์ชั่นการใช้งานครบครันครับ ถามว่า 8 หลักไหม ก็ 8 อยู่แล้วครับ เพราะตัวสตูดิโอภาพนิ่ง มันก็เป็นตึกประมาณ 3-4 ชั้น ทุกอย่างมันมีค่าใช้จ่าย ต้องลงทุน แต่ไม่ถึง 50 ล้านครับไม่ๆ ไม่ถึงขนาดนั้น ไม่ได้แพงอะไรขนาดนั้นครับ อย่างที่บอกมันไม่ใช้บ้านที่อยู่อาศัย เราเน้นที่ฟังชันก์การใช้งานมากกว่าครับ”

เปิดสตูดิโอเพราะคุณแม่อยากทำ คนดูแลหลักๆ คือ “ภัทร ฉัตรบริรักษ์” น้องชายคนเล็ก
“ความจริงต้องเริ่มจากคุณแม่อยากทำด้วย อยากทำนานแล้ว ความจริงสตูดิโอคุณแม่ที่เป็นบ้าน เริ่มต้นมันมีจากซื้อที่เพื่อจะทำสตูดิโอภาพนิ่ง กะจะทุบบ้านทิ้ง แต่บ้านมันสวย เลยกลายเป็นบ้านที่เอาไว้ถ่ายละครก่อน แต่สตูฯ ภาพนิ่งที่เป็นห้องขาวๆ ก็ยังอยากทำอยู่ การใช้งานมันคนละแบบไง แล้วก็มีสตูดิโอบ้านวันใหม่ เป็นบ้านอีกหลังที่ทำขึ้นมา เพราะฟีดแบ็กสตูดิโอคุณแม่ค่อนข้างดี เรามีที่ตรงนี้อยู่เลยรีโนเวตขึ้นมา จริงๆ แล้วคนดูแลหลักๆ เป็นภัทรครับ เรื่องสตูดิโอภัทรจะเป็นคนดู ทั้ง 3 อันอยู่ใกล้ๆ กัน เดิน 2 นาที ในซอยลาดพร้าว 15 ที่จอดรถเพียบครับ”

มีละครมาถ่ายหลายเรื่องที่สตูดิโอคุณแม่ ล่าสุดคือ “มาตาลดา”
หลายเรื่องเลยครับ อย่างล่าสุดที่ดังๆ ก็ มาตาลดา ก็ดีครับ ด้วยความที่เราทำงานตรงนี้มานาน เราก็พอจะรู้บ้าง ว่าบ้านแบบไหนที่กองละครชอบถ่ายออกมาแล้วสวย หรือสัดส่วนมันควรจะเป็นยังไง เราพอมีประสบการณ์ก็ทำง่ายหน่อย”

เป็นธุรกิจครอบครัว เพราะส่วนตัวยังทำงานในวงการเป็นหลัก
“ไม่ๆ ที่ผมบอกไปมันคือธุรกิจของที่บ้าน เป็นกิจการของที่บ้าน ภัทรจะเป็นคนดูแลหลักๆ ของผมก็ยังทำงานในวงการเหมือนเดิมครับ เป็นหลักของผมตรงนี้แหละ แต่ที่ผมทำงานมาตลอด 15 ปี ก็เพื่อจะมีทุนทรัพย์ในตรงนี้แหละ เพื่อมาซัปพอร์ตครอบครัวหรือตัวเองก็ตาม จะทำธุรกิจไรก็จะมีทุนทรัพย์มาทำได้ แต่เรื่องของการต่อยอด ผมก็แบ่งหน้าที่กัน แต่หลักๆ ผมยังก็ทำงานในวงการเหมือนเดิม”











กำลังโหลดความคิดเห็น