“อุ๋งอิ๋ง สาวน้อยเพชรบ้านแพง”สุดยอดหมอลำรุ่นใหม่ สาวน้อยมาลัยเงินล้าน ที่วันนี้ควง “บอสโจ ยมนิล”เปิดใจหลังดังเป็นพลุแตกเพียงชั่วข้ามคืน พร้อมเล่าเส้นทางการเป็นหมอลำของอุ๋งอิ๋ง และเคลียร์ความสัมพันธ์ข่าวลือ บอสโจ แอบกินเด็กในวง ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่องวัน31
เข้ามาเป็นหมอลำไม่ถึงปี อายุ 16 ปี เรารับมือกับความดังชั่วข้ามคืนแบบนี้ยังไง?
อุ๋งอิ๋ง : “ทีแรกเข้ามาก็ยังปรับตัวไม่ได้ ไม่รู้ว่าดังไม่ดัง”
นี่เป็นความฝันของเราเลย ตั้งแต่มาสมัครหมอลำ?
อุ๋งอิ๋ง : “ใช่ค่ะ ก็ดีใจที่กระแสการตอบรับดี หน้าเวทีพ่อๆ แม่ๆ fc ก็มาให้กำลังใจหลาย”
น้องอุ๋งอิ๋งเดินเข้ามาสมัครหลังเวทีกับ บอสโจ หลังเวทีเลย?
อุ๋งอิ๋ง : “ใช่ค่ะ ไปกับแม่ 2 คน ทีแรกก็คิดจะไปวงอื่น เพราะเคยทักหาพ่อ แต่พ่อไม่ตอบ”
บอสโจ : “เชื่อไหมอุ๋งอิ๋งเคยทักเฟซบุ๊กไปหาผม เมื่อปี 2564 ผมไปไล่ดูไทม์ไลน์ คือมันไม่ได้เป็นเพื่อนกันทางเฟซบุ๊ก มันไปอยู่ที่สแปม เนื่องด้วยศิลปินลา เจ็บไข้ได้ป่วย ผมเลยประกาศรับสมัครทางเฟซ อยากได้ศิลปินมาสมทบ เสริมทัพบนเวทีสาวน้อยเพชรบ้านแพง พอดี อุ๋งอิ๋ง ทักมา ผมก็หาไม่เจอหรอกมันอยู่ที่สแปม เราไม่เห็น พอคุยกันแล้วไล่ไทม์ไลน์ โอ้โห..ลูกเคยทักมาเมื่อปี 2564 คือหลังจากที่เห็น ผมกดไลก์ให้ ต่างกันต่างตอบกลับแบบนั้น ไม่ได้คุยกัน แล้วลูกทักมา 4-5 ครั้งเลย พอผมประกาศอีกที 1-2เดือน นางก็ทักมาอีก คือมันเป็นที่มาถ้าคุณมาถึงจุดนี้มันอยู่ที่ความพยายามจริงๆ”
แต่เราก็ไม่ได้ตอบกลับกันในแชต จนสุดท้าย อุ๋งอิ๋ง บุกมาหา?
บอสโจ : “สุดท้ายผมมีสิ่งที่อะไรมาสะกิดใจ ก็เป็นการสนทนากันแต่ตอนปี 64 แค่กดไลก์ แล้วนางก็ไม่ตอบกลับ ผมก็ไม่ตอบกลับเหมือนกัน จนผมบอกว่าขอดดูคลิป ฟังเสียง และส่งรูป 2-3 รูป เดี๋ยวติดต่อกลับครับ แล้วก็ทักมาอีก 2-3 ครั้ง”
เราไม่ใจเสียเหรอ ทักไปหลายครั้งบอสไม่ตอบหนูเลย?
อุ๋งอิ๋ง : “ไม่ค่ะ เพราะช่วงนั้นยังเรียนอยู่ แล้วก็ลำซิ่งอยู่ ถ้าพ่อโจไม่ตอบ ก็ลำซิ่งตามปกติ”
บอสโจ : “ผมรู้สึกว่าเด็กคนนี้แค่อายุ 16 ปี มีความสามารถเหมือนผมต้องการก็คือ ร้องลำซิ่งได้ด้วย มีความสามารถมากกว่าศิลปินที่ทักมาสมัครเกือบพัน เด็กคนนี้มีความน่าสนใจ ผมรับแล้ว ผมจะออดิชั่นทางเฟซ แล้วเรียกมาพบตัวเลย หลังจากที่เราคิดไว้ อายุ 16 ปี ถ้าอยู่วงใหญ่ไม่ได้ ก็ให้ไปอยู่รถแห่ ซึ่งสาวน้อยเพชรบ้านแพงเรามีรถแห่ 2 คัน ซึ่งหลังจากที่ได้ฟังคลิป ผมเลยโทรหาลูกเลย พรุ่งนี้เจอกัน เพราะคืนนี้พ่ออยู่เมืองเลย แล้วเดินทาง 506 กิโลเมตร เพื่อจะไปเจออุ๋งอิ๋ง”
ครั้งนั้นที่ บอสโจ โทรมารู้สึกยังไง?
อุ๋งอิ๋ง : “ดีใจค่ะ นอนอยู่บนที่นอน รีบออกไปบอกแม่ แม่ก็ถามว่าเป็นอะไร”
บอสโจ : “คุยกับพ่อทางโทรศัพท์ กระโดดลุกขึ้นจากที่นอนเลย”
เหตุผลของ อุ๋งอิ๋ง ทำไมเลือกสาวน้อยเพชรบ้านแพง?
อุ๋งอิ๋ง : “ตอนแรกหนูไปสมัครอีกวงนึง”
บอสโจ : “เห็นว่าไปหลายที่ มีค่ายเพลงด้วย”
อุ๋งอิ๋ง : “ตอนนั้นหนูตัดสินใจกำลังจะเก็บเสื้อผ้าไปอยู่ที่ไปสมัคร”
บอสโจ : “พ่อโจไม่ตอบไง”
อุ๋งอิ๋ง : “พ่อเลี้ยงหนูบอกว่าทำไมไม่ลองสมัครใกล้ๆ บ้าน”
ตอนแรกบอกจะให้ไปอยู่วงเล็กก่อน แต่ทำไมสุดท้ายให้ขึ้นวงใหญ่?
บอสโจ : “หลังจากที่คุยกัน เดินทาง 506 กิโล เลยนัดเจอกันหลังเวที ประมาณ 2 ทุ่มเขาบอกว่ามาถึงแล้วนะ พอดีดนตรีกำลังซาวด์เช็ก เขาเดินมากับแม่ ก็เลยให้ขึ้นไปฟังเสียงสดๆ เช็กซาวด์กันไปเลย มันเป็นจังหวะพอดี”
อุ๋งอิ๋ง วินาทีนั้นตื่นเต้นแค่ไหน?
อุ๋งอิ๋ง : “ตื่นเต้นค่ะ หนูก็ไม่เคยขึ้นวงใหญ่ ส่วนมากขึ้นแต่รถแห่ หน้าเวทีคนก็เยอะ หนูต้องคุมสติก่อน เพราะว่าขึ้นครั้งแรก พ่อโจก็ไปยืนอยู่หน้าเวที หนูก็ไม่รู้จะทำยังไง ทำตัวไม่ถูก”
บอสโจ ฟังเสียงแล้วเป็นยังไง?
บอสโจ : “ผมก็พูดในคลิป ป้าด ตัวเล็กแต่เสียงดี เสียงมีพลัง คิดว่าศิลปินข้างหลังกำลังเขียนคิ้วก็ต้องหยุดวางดินสอเขียนคิ้ว...ใครร้องวะ เหมือนเด็กมันมีพาวเวอร์ เอาตรงๆ มันตอบตกลงกันอยู่แล้ว เลยให้น้องกลับบ้านไปเก็บเสื้อผ้าวันนึง แล้วยาวมาถึงทุกวันนี้เลย วันรุ่งขึ้นก็ได้ขึ้นเวทีใหญ่เลย”
มันเหมือนที่เราฝันไหม เราได้ใส่ชุดหมอลำใหญ่ๆ ครั้งแรกเป็นยังไงบ้าง?
อุ๋งอิ๋ง : “ดีใจจนบอกไม่ถูกค่ะ หนูบอกครอบครัวว่าหนูอยากขึ้นวงใหญ่แล้วทีนี้ทางครอบครัวหนูไม่ค่อยมีงบ ไม่ค่อยมีทุน เห็นคนอื่นเขาตัดชุดงามๆ ก็อยากใส่เหมือนเขา”
บอสโจ : “ก่อนขึ้นผมให้นางไปคัฟเวอร์เพลง กอดเขาอุ่นบ่ แล้วหลังจากนั้นก็ทำคอนเทนต์มาเรื่อยๆ แล้วก็ขึ้นเวที ช่วงขึ้นเวทีถือว่าทำได้โอเคครับ แล้วมันจะมีศิลปินน้องใหม่ไต่ดาวเหมือนกัน แต่อุ๋งอิ๋งอาจจะมีความโดดเด่นมากกว่าเพื่อน”
สิ่งหนึ่งที่อุ๋งอิ๋งกลัวที่สุด คือมีความเขินอยู่จุดนึง มีปมด้อย ขออนุญาตนะคะ กว่าที่เราจะกล้าเปิดเผยตอนนั้นเรากลัวไหม?
อุ๋งอิ๋ง : “กลัวค่ะ หนูกลัวเขาพูดว่าเด็กคนนี้ทำไมไม่เหมือนเพื่อน”
บอสโจ : “หลังจากที่คุย ส่งคลิปเสียงแล้วนะ เขาบอกว่าพ่อจะรับหนูไหม หนูไม่สมบูรณ์นะ เอาตรงๆ หนูนิ้วมือไม่สมบูรณ์เหมือนคนทั่วไปนะ เอาจริงๆ อยู่นี่ทั้งคนตาบอด คนแก่ คนอ้วน คนแคระ พ่อก็เลี้ยงอยู่นี่หมด เพราะผมทำรายการแมวล่า แล้วลูกส่งรูปมา ผมบอกไม่เป็นอะไรเลยลูก แต่ไม่มีใครรู้ ผมไม่เปิดเผยไง เดี๋ยวจะมองว่าผมหากินกับคนไม่สมบูรณ์แบบ มีปมด้อย อะไรประมาณนี้ ให้มองความสามารถเหมือสิ่งที่เขามีปมด้อย”
ตอนนี้เรื่องราวของอุ๋งอิ๋งที่มือปลดล็อกหรือยัง?
อุ๋งอิ๋ง : “สบายใจแล้วค่ะ”
เขามีจุดเด่นตรงไหนที่เขามีคนมาชอบแล้วมามอบพวงมาลัยให้เขาเยอะๆ?
บอสโจ : “ผมอยู่กับวงการหมอลำมาตั้งแต่เกิด เราเห็นศิลปินมาหลายรุ่น อุ๋งอิ๋ง มีความแตกต่างจากหลายๆ ศิลปินก็คือ ความเป็นบ้านๆ ธรรมชาติดิบๆ โดยไม่ได้ปรุงแต่งอะไร แล้วด้วยอายุด้วย น่าจะเป็นวงแรกๆ ที่สนับสนุนอายุประมาณนี้ แล้วขึ้นสู่วงการอย่างเป็นทางการ แล้วได้รับความเมตตาจากพ่อๆ แม่ๆ นางมีพรสวรรค์ มีของอยู่ในตัวนางอยู่แล้ว บวกกับมาเจอกับเวทีสาวน้อยเพชรบ้านแพง เราให้โอกาสลูก แล้วมาถึงทุกวันนี้ก็ถือว่าด้วยแรงผลักดันของพ่อๆ แม่ๆ fc สาสน้อยเพชรบ้านแพง”
พอดังเร็ว ได้ขึ้นมาร้องเร็ว หลายๆ คนในวงเขาอยู่กันเยอะ ก็จะมีบางคนที่เขาอยากจะมายืนตรงที่ อุ๋งอิ๋ง มันจะมีคนอิจฉาไหม แล้วเขาอยู่อย่างนี้จะอึดอัดไหม?
บอสโจ : “มนุษย์เนอะ จิตใจลูกทีมหลายๆ คนถ้าอุ๋งอิ๋งไม่ดัง ผมก็จะโดนข้อครหาจากลูกทีมอยู่นะ ไม่รู้เป็นใคร มาจากไหน ทำไมต้องรับเป็นลูกบุญธรรม ทำไมต้องปั้นแบบวันสองวัน สามวัน แล้วมีผลงานเลย มันเป็นบันไดขึ้นไปเรื่อยๆ เพราะปกติกว่าจะปั้นใคร ผมเคยพูดหลายๆ ครั้ง มันอาจจะมีสิ่งที่มองไม่เห็น ด้วยอาจจะเป็นบุญสัมพันธ์ ดวงสัมพันธ์ ทำให้ผมต้องผลักดันอุ๋งอิ๋ง จากวันนั้นจนถึงวันนี้ แต้ถ้าอุ๋งอิ๋งไม่ดังผมโดนแน่ๆ”
พอเราเมตตาเขา มันก็มีข่าวลือ คนเม้าธ์?
บอสโจ : “แต่ผมก็เรียกลูกทีมมาประชุมกันครับ ไม่อยากให้เกิดการเปรียบเทียบ ให้อยู่ในบริบทนางเอก หรือพระเอก หรือศิลปินในวง อย่างอุ๋งอิ๋ง น้องเขาเพิ่งมา ก็ไม่อยากให้เกิดการอิจฉากัน ให้ทำหน้าที่ของแต่ละคนให้ดีที่สุด”
แต่มันไม่ใช่ในวง กระทู้เขาเขียนว่าหัวหน้าคณะหมอลำชื่อดังมีเมียแล้ว แต่ขอนอนกับนางเอกในวง แลกกับการอัปค่าตัว ทีนี้มันกระจายไปหลายวง หนึ่งในนั้นก็เป็นวงของบอสโจ?
บอสโจ : “ข่าวนี้น่าจะประมาณ 2-3 อาทิตย์ที่แล้ว หรือเกือบเดือนที่แล้ว มันปฏิเสธไม่ได้ว่าคนต้องมาเพ่งเล็งที่สาวน้อยเพชรบ้านแพง ด้วยความโดดเด่นทางด้านโซเชียล หรือผมอาจจะทำคลิปทุกวัน เคลื่อนไหวทุกวัน มันก็เลยเจอข่าว ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าผมก็เป็นหนึ่งในที่คนมอง
แต่ว่าเรื่องกินเด็กในวง ผมพูดตรงๆ เลย ผมเคยตั้งปณิธานกับตัวเอง ตั้งแต่อายุ 20 ต้นๆ ถ้าผมเป็นผู้บริหาร หรือเป็นหัวหน้าวง ศิลปินภายในวง หรือคำว่าสมภารกินไก่วัด หรือแอบแซบกับเด็กในวง ผมพูดกับตัวเอง ผมจะไม่ทำเด็ดขาด ถ้าทำแล้วมันจะไม่เจริญ หรือวงสาวน้อยเพชรบ้านแพงจะไม่เจริญเด็ดขาด ผมพูดกับตัวเองสัญญากับตัวเองผมจะไม่ทำจนถึงวันตาย
แล้วกับแฟนผม ผมบริหารวงมาก่อน แต่จริงๆ คบกันมานานแล้วก่อนที่จะบริหารวงอย่างจริงจัง ผมพูดกับแม่ลำเพลินอย่างจริงจัง ถึงจะเป็นนางเอกสวยขนาดไหน นางงามระดับประเทศอะไรมาทำงานอยู่สาวน้อยเพชรบ้านแพง หรือมาเป็นลูกทีม ผมไม่แตะต้อง คุยกันเฉพาะเรื่องงาน ลูกก็คือลูก ลูกทีมคือลูกทีม ให้แฟนผมสบายใจ อันนี้ก่อนจะเป็นผู้บริหาร 100% ผมพูดกับแฟนนะ ต่อจากนี้ไป
และเราเคยปวารณากับตัวเองว่าลูกทีมภายในวง คำว่าสมภารกินไก่วัด ไม่เกิดขึ้นกับหนุ่มโจ แน่นอนล้านเปอร์เซ็นต์จนถึงวันสิ้นลมหายใจ ให้แฟนผมทำงานให้สบายใจ ไม่ต้องมาระแวงเรื่องนี้ แน่นอนทุกคนมีสิทธิ์คิดได้ มันเป็นสิทธิของแต่ละบุคคลที่จะคิดว่าคนนั้นเป็นอย่างนั้น แต่คุณต้องมาสัมผัสผมก่อน”
อุ๋งอิ๋งได้ยินข่าวนี้ตกใจไหม?
อุ๋งอิ๋ง : “ข่าวหนูไม่ได้ยิน หนูทำงานอย่างเดียว”
มันมีอะไรที่ทำให้เราเมตตาถึงขนาดรับเป็นลูกบุญธรรมเลย?
บอสโจ : “ธรรมชาติมันเหวี่ยงให้มาเจอกัน ไม่ใช่เราต้องการลูกเพื่อเป็นธุรกิจ หรือหวังผลประโยชน์ในการทำงาน จุดเริ่มต้นของอุ๋งอิ๋งไม่ใช่ลูกดังแล้วเราจะรับเป็นลูก ไม่ใช่ครับ คือตั้งแต่วันแรกจนถึงทุกวันนี้ เราหยอกล้อกันพ่อลูกสนุกสนาน สิ่งไหนที่ปรึกษา สิ่งไหนที่ลูกกับพ่อ หรือสิ่งไหนที่ลูกทำตัวไม่เหมาะสม การวางตัว เราก็บอกเขา ไม่ห่างสายตา”
เห็นบอกว่าอุ๋งอิ๋งมีความกังวลนิดนึงรู้สึกว่าตัวเองไม่ใช่นางเอกพิมพ์นิยม เดิมทีกลัวแฟนๆ จะไม่รัก?
อุ๋งอิ๋ง : “ถามว่าเสียงหนูดีบ่ หนูเป็นคนคนนึงที่เสียงบ่ดี กว่าจะดังได้ต้องผ่านดรามา แต่ละอย่างกว่าจะมาถึงวันนี้ได้ ถามว่าหนูต้องการเป็นที่ 1 ของวงการบ่ หนูตอบเลยว่าหนูบ่ต้องการเป็นที่ 1 ของวงการ ขอแค่ทุกคนเข้าใจ และยอมรับในสิ่งที่หนูเป็น หนูก็พอใจแล้ว”
บอสโจ : “นี่ก็ผ่านดรามามาเยอะเหมือนกันนะ กว่าจะมาถึงทุกวันนี้ เรื่องพัดลม แบบอากาศมันร้อนบนเวที ผู้ดูแลก็ถือพัดลมไปใกล้ๆ นาง ก็จะมีคนบอกว่าทำไมไม่ถือแอร์ขึ้นไปเลย อีกช่วงนึงนางเจ็บท้อง ตอนนั้นนางเริ่มมีกระแสแล้ว ความเป็นผู้หญิงเจ็บท้อง แต่ fc ก็รอชมอยู่ในสังกะสีหลายพันคน แต่ถ้านางไม่ขึ้นยิ่งจะเป็นปัญหาหนัก คนมารอแล้ว พอนางขึ้นเวที แล้วพอคนที่คิดลบ ไม่รู้จักตัวตนนาง คอมเมนต์ไว้ก่อน กูมีความสุขในการเติมเน็ตมาด่าคน มาว่าให้คน ปวดท้องขนาดนี้มาร้องทำไม ทำไมไม่นอนโรงพยาบาล แล้วก็กลายเป็นโรคเยอะ มันมีคนฮักก็ต้องมีคนชัง มีคนที่หวังดีและไม่หวังดี ก็เลยกลายเป็นดรามา เลยบอกให้ลูกเข้งแข็ง”
เวลา อุ๋งอิ๋ง เจอดรามาพวกนี้เรารับมือยังไง?
อุ๋งอิ๋ง : “ตอนแรกก็ดูแล้วเอามาคิด นั่งซึมจนพ่อบอกว่าถ้าไม่อยากเห็นคอมเมนต์ลบๆ ก็ไม่ต้องเข้าไปดู คนที่ให้กำลังใจก็พี่ๆ ในวงแล้วก็แม่ก็เลยผ่านดราม่ามาได้”
บอสโจ : “ผ่านดรามามาได้จนมาเป็นเพลงที่ผมแต่งที่มันเกิดขึ้นจากชีวิตเรื่องราวจริงๆ คือน้ำตาอิหล่าน้อย เปลี่ยนวิกฤติเป็นโอกาสไปเลย”
จริงๆ วง หมอลำสาวน้อยเพชรบ้านแพง สร้างหมอลำที่โด่งดังมาหลายคน แต่ก็มีไทม์มิ่งก็มัน หมายความว่าช่วงนึงเขาก็จะอยู่กับเรา พอเขาเติบโตเขาก็แยกย้ายไปเติบโตของเขาเองในบริบทของเขา กลัวไหมว่าลูกสาวคนนี้จะจากเราไปอีกคน?
บอสโจ : “ทุกวันนี้ผมปลงแล้วครับ เราคือลูกหมอลำ เราเห็นการเปลี่ยนถ่าย กว่าจะมาถึงอุ๋งอิ๋งมันกี่รุ่นแล้ว วงการนี้ศิลปินเก่าไปใหม่มาเป็นเรื่องธรรมดา และธรรมชาติมากที่สุด เรามีหน้าที่ก็คือผลักดันและสร้างสรรค์ ส่งเสริมมันเป็นหน้าที่เรา การจากกัน มันจากกันทุกคน แต่จากเป็นหรือจากตายแค่นั้น หรือจากกันด้วยดีหรือไม่ด้วยดีแค่นั้นไม่วันใดก็วันหนึ่ง ศิลปินเก่าไปใหม่มา แต่เราขอให้ทำหน้าที่เราให้ดีที่สุด ศิลปินคนนี้ออก คนนั้นออก แต่สิ่งที่ยืนหยัดและมั่นคงคือองค์กร ความเป็นสาวน้อยเพชรบ้านแพงมันต้องอยู่สืบต่อรุ่นต่อรุ่น”
หลายองค์กรเขามีกฎเหล็ก บอสเองก็มีเหมือนกันคือห้ามมีแฟน?
บอสโจ : “เอาตรงๆ มันเป็นกฎ แต่ความเป็นจริงแล้วนี่มันอยู่ที่ศิลปินที่จะเลือกมากกว่า ผมจะพูดกับลูก และลูกทีมเสมอว่า พ่อชี้ทางให้แล้วนะ ถ้าคุณเลือกแฟน คุณก็ได้แค่แฟน แต่ถ้าเลือกงาน ถ้าคุณไม่มีแฟน คืองานการแสดงมันเป็นงานบริหารเสน่ห์ ดีว่าทุกวันนี้สังคมมันเปิดรับ ถึงจะมีแฟนแล้วเขาก็รับ รักเขาก็ให้เหมือนเดิม แต่ปกติจะคล้องมาลัย 10,000 มันมีผัวแล้วให้ 100 จริงๆ นะครับ
คนส่วนมากมีความรู้สึกแบบนี้จริงๆ ผมก็เลยพยายามจะพูด อยู่ที่เลือกเอาลูก หนูจะเลือกแบบไหน ถ้าหนูเลือกแฟน หนูไม่ได้มาลัยแล้วหนูจะไปนอยด์ตัวเองไม่ได้นะ เห็นเพื่อนคนที่เขาไม่มีแฟน เขามีแฟนคลับเยอะๆ พอขึ้นเวทีไม่มีมาลัย อยู่ที่ตัวหนูนะ แล้วอย่างลูกยังไม่ถึงเวลา หนูจะมีตอนไหนก็ได้ให้สร้างครอบครัว พ่อผ่านมาเยอะ แล้วเด็กน้อย 16-17 ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ”
อุ๋งอิ๋ง โดนลวนลามหน้าเวที?
อุ๋งอิ๋ง : “ใช่ค่ะ ตอนนั้นหนูร้องเพลงอยู่ หนูมองไปข้างๆ เวที เพื่อไปรับทิปด้านหน้าเวที เขาเมานั้นแหละค่ะ เขาเอามือมาลูบขาหนู”
บอสโจ : “บ่แม่นมาขอเลขบ่ ทุกวันนี้หน้าเวที อุ๋งอิ๋งขอเลขหน่อย”
อุ๋งอิ๋ง : “ตอนแรกหนูตกใจ แต่ก็เก็บอาการและสีหน้าไว้ เพราะกล้องหน้าเวทีมันจับหลาย ขึ้นเวทีหนูมีผู้ติดตามอยู่ข้างหลัง พี่หมอนอิงผู้ติดตามหนู เขาเป็นคนมาปัดออก บอกว่าอย่าทำแบบนี้”
แบบนี้บอสโจทำยังไง?
บอสโจ : “เอาตรงๆ ตั้งแต่รู้ว่าลูกเริ่มมีกระแสแล้ว เราก็เลยวางแผนมันต้องมีผู้ติดตาม ผู้ดูแล อันนี้เราถอดแบบจากค่ายใหญ่ๆ มีศิลปินดูแล มีแอดมิน มีผู้ติดตาม มีช่างแต่งหน้า ถ้าบนเวทีก็จะมีน้องหมอนอิงขึ้นไปอยู่บนเวทีดูแลตรงนี้ด้วย และเราส่วนมากก็จะอยู่บนเวทีกับลูกด้วย ดูเพื่อความปลอดภัยอะไรต่างๆ สาวน้อยเวลาไปแสดง มันก็หนีไม่พ้นกล้องยูทูบเบอร์ 20-30 ช่องในแต่ละวัน แล้วทางวงเราก็ทำไลฟ์สดอยู่แล้วเป็นบางสัปดาห์ บางครั้งที่ลูกโดนลวนลาม มันก็มีไม่กี่ครั้งหรอก โดนลวนลามแค่ลูบขาใช่ไหม”
อุ๋งอิ๋ง : “ใช่ค่ะ แล้วก็ถูกหยิก”
น้อง อุ๋งอิ๋ง นับถือบอสเป็นเหมือนพ่อ วันนี้มีอะไรจะบอกคุณพ่อไหม?
อุ๋งอิ๋ง : “ตั้งแค่หนูเข้ามาในวงก็มีพ่อโจและแม่นุช พี่ๆ ในวงคอยบอก คอยสอน แล้วคอยเตือนหนูในทางที่ดี หล่าขอขอบคุณพ่อโจที่มอบโอกาสดีๆ ให้หนู จนมีหนูในวันนี้ และที่ลืมไม่ได้เลยคือ ขอบคุณ fc สาวน้อย fc น้องอุ๋งอิ๋ง ที่มอบโอกาสให้หนู รักพ่อจ๊ะ”
บอสโจ : “ก็ขอให้ลูกสมหวังดั่งใจปอง ขอให้เป็นศิลปินอยู่กับแฟนๆ อยู่กับ fc สาวน้อยเพชรบ้านแพงไปนานๆ รักษาสุขภาพทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด คิดดี ทำดี สิ่งดีๆ เข้ามาแน่นอน”