กลายเป็นประเด็นดรามาอยู่ไม่น้อย หลังจากที่มีเพจดังเผยว่านักร้องลูกทุ่งหมอลำ ก.ร. ถูกสามีอดีตนักฟุตบอลทีมชาติไทย ปัจจุบันสังกัดสโมสรดังนอกใจ ต่อมา มีการเผยว่าสาวรายดังกล่าวคือ “กิ๊ก รุ่งนภา แสงศิลป์” นักร้องลูกทุ่งหมอลำชื่อดัง ขณะที่เมื่อมีการส่องเฟซบุ๊ก กิ๊ก รุ่งนภา เจ้าตัวได้โพสต์ข้อความเศร้าขณะกอดลูกในอ้อมอก ระบุว่า “ไม่มีคืนไหนที่เราไม่ร้องไห้ อีกนิดเดียวนะลูก เราจะผ่านทุกคืนไปด้วยกัน”
นอกจากนี้เจ้าตัวยังรีโพสต์ภาพกับสามี เมื่อวันที่ 12 ส.ค. พร้อมถามว่า “ยังจำโพสต์นี้ได้ไหมคะ” ซึ่งโพสต์ดังกล่าวเผยว่า “ไม่ตาม ไม่เฝ้า ไม่เคยตามหึง ไม่เคยตามหวง ไม่ชวนทะเลาะไม่คอยจับผิด กฏมีแค่ข้อเดียว ถ้าทำคือจบ ในเมื่อฉันไม่ทำ เธอก็ต้องไม่ทำ ต่างฝ่ายต่างทำงานทำหน้าที่ รับผิดชอบครอบครัวร่วมกัน ไม่โยนความรับผิดชอบให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งทั้งหมด
รีบทำ รีบหา รีบสร้าง รีบมี มัวแต่ตั้งหน้าทะเลาะจะเอาเวลาไหนไปตั้งใจทำงาน จะเอาเวลาไหนไปมีความสุข จะเอาเวลาไหนไปใช้ชีวิต เพราะเราตกลงกันแล้ว ทำความเข้าใจกันแล้ว เวลามาเจอกันสร้างพลังงานบวก ดีกว่าสร้างพลังงานลบ
เคยทะเลาะกันไหม? เคยสิ แต่ไม่เคยประกาศให้โลกรู้ เราเคลียร์กันในบ้าน นอกบ้านเราไม่คุย เพราะเราไม่มั่นใจว่าเขาจะเห็นใจหรือสมน้ำหน้า ไม่อยากให้ใครมาวิจารณ์ครอบครัวตัวเอง
ไม่เคยโพสต์ด่าผัว ไม่เคยโพสต์ทะเลาะกับผัว (แม้แต่ครั้งเดียว) ถ้าใครชอบแบบนี้ลองดูนะคะ 4-5 ปี ชีวิตไม่วุ่นวายเรื่องนี้เลย มีเวลาใช้ชีวิต ไม่ต้องคอยหวาดระแวง เพราะถ้าเธอมีใคร…ผัวใหม่มันหาไม่ยาก.!!!”
ต่อมา กิ๊ก รุ่งนภา ก็ได้ไลฟ์สดร่ำไห้ เผยว่าตนอยู่ในสถานการณ์อึมครึมมาประมาณครึ่งเดือน สะสมมาระยะนึงแล้ว พยายามจะไม่ร้องไห้ เพราะเข้มแข็งมาสักพักนึงแล้ว ครั้งแรกคิดว่าจะไม่พูดด้วยซ้ำ แต่สำหรับกิ๊กก็ค่อนข้างรุนแรง ภาพที่ทุกคนเห็น ภาพมันดีมาตลอด (น้ำตาซึม)
กิ๊กกับพี่เฟิร์ส คบกัน ตอนแรกก็รัก เพราะเขาน่ารัก พูดเพราะ อบอุ่น ซึ่งสวนทางกับบุคลิก และหน้าตา ถ้าใครอยู่ใกล้กิ๊กจะพูดตลอด กิ๊กจะพรีเซ็นต์ตลอดว่าเขาหน้าโหดแต่อยู่ในโหมดคิตตี้ เขาจะอบอุ่น น่ารัก
คบกัน ดูใจประมาณ 6 เดือนก็จดทะเบียนสมรส ก่อนทำพิธี ตอนนั้นคิดว่าถ้าคนจะใช่ ไม่จำเป็นต้องคบกันนาน ถ้าคนจะใช่ก็คลิกเลย เราก็คิดว่าเราคลิก กิ๊กก็คิดว่าเลือกดีที่สุดแล้ว พ่อแม่ถามว่ามั่นใจไหม ถ้ามั่นใจแล้ว จะเลือกอีกไม่ได้นะ ก่อนจดทะเบียนสมรสก็ถามพ่อแม่ก่อน พ่อแม่ก็ถามย้อนกลับมาว่าเรามั่นใจแล้วใช่ไหม เราก็ตอบว่าใช่ หนูมั่นใจ หนูรัก เรารักใครพ่อแม่ก็รักด้วยอยู่แล้ว ก็ไปจดทะเบียนสมรสกัน ก็ดีใจมาก ครอบครัวกำลังจะก่อสร้างตัวมาแล้ว
ก็ใช้ชีวิตกันจนถึงแต่งงาน บ้านเรากับเขาห่างกันมาก อุบลฯ กับประจวบฯ มันห่างกันพันโล การมาสู่ขอกันไปมาหลายเที่ยว เอาง่ายๆ ไม่ได้สู่ขอกัน ก็คุยกันเลยว่าเราจะแต่งงานกันวันนี้ๆ ฝ่ายเตรียมงานคือฝ่ายกิ๊กล้วนๆ สินสอดพ่อแม่ไม่เคยเรียก พ่อแม่ก็บอกว่าอยากให้หน้างานเป็นยังไงก็หามาแล้วกัน เราก็ช่วยหากัน
หลังแต่งงาน พ่อแม่กิ๊กก็รักเขามาก รักเหมือนลูกชาย ไม่ได้รู้สึกว่าเขาเป็นลูกเขยเลย บางเวลากิ๊กมีปากเสียงกัน พ่อแม่จะเข้าข้างพี่เฟิร์สมากกว่ากิ๊ก โดยเฉพาะตาจะรักพี่เฟิร์สมาก ครอบครัวรักพี่เฟิร์สมาก หลังแต่งงานพ่อแม่ก็ยกสินสอดทุกบาททุกสตางค์ (ร้องไห้) ก็ยกสินสอดให้ลูกสาวกับลูกเขยทุกบาท แต่ไม่บอกนะว่าสินสอดเท่าไหร่ ตอนนั้นเราก็เอาไปตั้งตัว ไปซื้อรถตู้คันนึง ซึ่งแตกต่างจากอีกฝ่ายนึง ฝ่ายนั้นไม่ได้ให้อะไรเรา เรารู้แต่แรกว่าเขามีหนี้สินทั้งในและนอกระบบ ครอบครัวเขาเป็นหนี้อะไรมาเราไม่รู้ แต่ครอบครัวกิ๊กไม่มีหนี้สินเลย เพราะจะสอนลูกตลอดว่าให้สร้างเนื้อสร้างตัว ให้รักความเจริญก้าวหน้า
ก่อนแต่งงานมีปัญหา เพราะพี่เฟิร์สจะเก็บเงินแต่งงาน แต่แม่กับพี่สาวมีหนี้ ตั้งแต่อยู่ที่ไหนก็ตามเขาใช้หนี้ให้ครอบครัวโดยตลอด พอมาวันนึง น้องชายเขาจะแต่งงาน คนเราก็ต้องเก็บตังค์แต่งงาน แต่ก่อนเก็บตังค์แต่งงาน เขาไม่ยอม เขาเคยได้จำนวนไหนก็ต้องได้จำนวนนั้น แต่พอเก็บเงินแต่งงาน เงินเขาก็ลดลง กิ๊กรู้สึกได้ว่าเขาไม่พอใจตั้งแต่ตอนนั้น ถ้าไม่เก็บตังค์แต่งงาน แล้วต้องทำยังไง หนูก็ไม่ได้ว่านะ หนูรัก ไม่ใช่แม่บุญทุ่ม คิดว่ารักกันไม่ต้องอะไรก็ได้ หนูหาได้ ตอนนั้นหนูมีทุกอย่างแล้ว ไม่ได้มาหาด้วยกันนะ กิ๊กมีมาก่อนหน้านี้แล้ว แล้วกลายเป็นว่าเขาให้ไปใช้หนี้ก้อนนึง ไม่รู้ก้อนนี้มาตอนไหน เขามีหนี้ก่อนหน้านี้ พี่สาวก็เคลียร์ให้แม่ เขาก็เคลียร์ให้แม่ ต่างคนต่างเคลียร์ให้แม่ อยากให้แม่อยู่ดีกินสบาย ก็พยายามใช้หนี้ให้แม่ แต่หารู้ไม่ว่า หนี้ที่แท้จริงไม่ได้มีแค่นั้น มันมีเยอะกว่านั้น
พอแต่งงานก็มีหนี้ก้อนนึง ประมาณ 3.8 แสน กิ๊กก็เลยบอกว่าเราเพิ่งแต่งงานใหม่ เราจะเอาเงินที่ไหน เราเพิ่งแต่งงานเสร็จ จะเอาเงินสินสอดเราไปใช้หนี้ให้เขาใช่ไหม แต่ก็ไม่โหดร้ายขนาดนั้น ลูกชายเขาก็มีเงินเดือน แต่เขาจัดการหนี้กันไม่เป็น ลูกชายเขาก็บอกว่าเอาเงินเดือนทยอยจ่าย เคยให้เขาใช้เดือนเท่านี้ ก็เพิ่มไปอีกให้ใช้หนี้ อยากจบให้เร็วที่สุด เราไม่อยากให้มีหนี้แล้ว อยากให้เขากินสบาย ทางบ้านหนูหนูจัดการเอง พ่อก็เอาเงินไปใช้ทางบ้านพ่อเลย และถ้าใช้ก้อนนี้เสร็จแล้ว แม่จะไม่เอามาอีกแล้วนะ
ไปสักระยะนึง ไม่รู้เขาโทร.หาลูกเขามากน้อยเท่าไหร่ เขาให้กันหรือเปล่า หนูก็ไม่รู้ บ้านก็ยังเป็นหนี้ ต้องจ่ายจิปาถะเยอะแยะมากมาย ทั้งครอบครัวหนูก็พยายามทำความเข้าใจ เพราะไม่มีเขา เราก็ดูแลกันดีอยู่แล้ว
เรื่องทุกอย่างกระจ่างวันนี้แล้ว กิ๊กจำเป็นต้องพูด ถ้าเป็นหนี้ส่วนไหน กิ๊กไม่รับผิดชอบแล้วนะ เราไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแล้ว เรื่องหนี้หนูยกไป ทำไมพูดเรื่องหนี้ครอบครัวเขาขึ้นมา อยากให้ทุกคนทำความเข้าใจ เพราะหนูยกออก จะไม่รับผิดชอบเรื่องหนี้แล้ว
ผ่านไประยะนึง ก็มีทะเลาะกัน จนบางครั้งหนูยอมเคลียร์ เพราะไม่อยากให้ครอบครัวมีปัญหา เขาคงรักแม่เขาเหมือนกัน เราก็พยายามปรับความเข้าใจกัน หลังจากนั้นทุกครั้งที่พ่อจ๋า หนูเรียกเขาว่าพ่อจ๋านะ อย่างน้อยเขาเป็นพ่อของลูก พ่อจ๋าไปทำงานที่ไหน กิ๊กจะตามไปซัปพอร์ต พักที่ไหน กินข้าวกับอะไร ที่หลับที่นอนเป็นยังไง ข้าวของเครื่องใช้ครอบครัวกิ๊กจัดการให้ โดยไม่เห็นครอบครัวเขามาจัดการเลย เพราะเขาบอกยุ่งยาก เขาต้องทำงานเพื่อหาเงินใช้หนี้ของเขา เราก็ไม่เป็นไร เราเป็นเมีย มีหน้าที่จัดการ เราจัดการให้ทุกที่
มีช่วงนึงเขาต้องย้ายกลับไปอยู่ที่บ้านเขาคือที่ประจวบฯ เขาไม่ได้อยู่คอนโด บ้านพัก บ้านเช่า เขาอยู่แคมป์นักกีฬา สำหรับกิ๊กมองว่าปลอดภัยที่สุดแล้ว กิ๊กไม่ห่วงเลย คิดว่าอยู่ตรงนี้ จะดีพอสมควร ก็เตรียมข้าวของบางอย่างเขา และคิดว่าเป็นถิ่นเขา เขาคงดูแลตัวเองได้ ด้วยความกิ๊กมีการมีงานทำอยู่แล้ว การเดินทางกิ๊กขับรถเอง กี่ร้อยกิโล กิ๊กก็ขับเอง ไปที่ไหนก็ขับรถเอง พอไปถึงก็แต่งตัวขึ้นร้องเพลง ถ้าได้พัก เช้ามาก็ต้องเดินทาง แต่ถ้าไม่ได้พัก การเดินทางมันก็เหนื่อยมาก บางครั้งเอาลูกเอายายไปด้วย ลูกงอแง งานกิ๊กก็หนักอยู่แล้ว
ใครคิดว่ากิ๊กตามจิกพี่เฟิร์ส เข้าใจใหม่ เวลาจะกินข้าว เวลาจะนอนยังไม่มีเลย ถามหลิง น้องสาวดูนะ ว่ากิ๊กเคยนอนถึง 8 ชม.ไหม (ร้องไห้) อย่างมากก็ 4 ชม. เพราะเราเหนื่อยมาก ก่อนหน้านี้เราพยายามมาก ทำเด็กหลอดแก้ว แล้วเรามีลูกก็ต้องสะดุดอยู่แล้ว ทำเด็กหลอดแก้วครั้งที่สอง เราเริ่มช้ากว่าเพื่อนๆ ในวงการคนอื่น พอกลับมาก็ต้องวิ่ง แอ็กทีฟ ต้องโชว์แบบไหน ต้องคิดงาน ต้องไปทำงาน เรามีลูกต้องดูแลลูก
บางครั้งหนูยังช็อกกับหลายเรื่อง (ร้องไห้) แววตาของหนู มีความเสแสร้งไหม (ร้องไห้) หนูไม่เคยออกมาไลฟ์สดแบบนี้ หนูไม่มีคำว่าสร้างกระแสแน่นอน หนูเอาความสามารถเข้าแลก หนูก็ทำงานของหนู ไม่เคยไปเฝ้า ใครเป็นแฟนนักบอล เพื่อนนักบอล ดูเลยว่าเคยเห็นกิ๊กที่สนามกี่ครั้ง กิ๊กปล่อยโอกาสให้เขาทำงานเต็มที่ จะได้ไม่ต้องมาเป็นห่วงเรา นอกจากพาลูกไป ให้ลูกเห็นพ่อ พ่อได้กอดลูกที่สนาม ทุกคนอาจคิดว่าหนูตามจิก ตามแทะ ตามเล็ม ไม่เลยค่ะ งานหนูก็เหนื่อยมากๆ แล้ว ไม่ตามเลย เราก็ตกลงกันแล้วว่าเราต้องทำความเข้าใจนะ เราทำงานกันคนละอย่าง เราต้องแยกกันทำงาน เพราะค่าใช้จ่ายเราเยอะขึ้น เราต้องดูแลลูก ลูกเรากินนมเก่งมาก วันละ 10-11 กล่อง แล้วกิ๊กต้องซื้อบ้านที่กรุงเทพฯ เป็นจุดศูนย์กลาง เพราะเราอยู่ห่างกันมาก ไม่ว่าอยู่ไหน กรุงเทพฯ ก็จะง่ายสุด ฉะนั้นภาระเราเยอะขึ้น แม่ทำงานหนักขึ้น ไม่ให้พ่อต้องเหนื่อยคนเดียวแน่นอน
ก่อนหน้ามาสะดุดหลังมีลูก กิ๊กหาเงินได้มากกว่าเขาแน่นอน แล้วคนเราผัวเมีย ใช้เงินด้วยกันมันผิดปกติเหรอคะ รู้ไหมพี่สาวเขาเคยด่าหนูว่ายังไง อ๋อ มึงใช้เงินกับผัวมึงอ่ะดิ อ้าว ทุกคน ถ้าหนูไม่ใช้เงินกับผัว แล้วจะต้องเป็นผัวเมียกันทำไม เขาเองไม่ใช้เงินกับผัวเขาเหรอ กิ๊กใช้กับเขาส่วนเล็กน้อยด้วยซ้ำ
กิ๊กไม่ได้ประจานเขานะ แต่พูดในสิ่งที่ทนมาตลอด ทนเพราะรักพี่เฟิร์ส กิ๊กทนทุกวัน ยอมทุกอย่าง เพราะรักคนของกิ๊กมาก แล้วถูกปลูกฝังว่า เราต้องมีหนี้ดีนะลูก หนี้ดีคือได้สิ่งของ อยากได้อะไร อยากได้รถ ก็ซื้อ กิ๊กซื้อรถปีละคัน แล้วพูดกับพ่อจ๋าตลอด ว่าปีนี้ดีใจไหม เราได้รถอีกคันแล้วนะพ่อ พ่ออยากได้อะไรหรือเปล่า ล่าสุดอยากได้มอเตอร์ไซค์เวปป้าคันเป็นแสน หนูก็บอกว่าเอาสิ ไม่เคยกีดกันสามีเลย เพราะเวลาเราทำงานเหนื่อยๆ ก็อยากได้อะไรเป็นรางวัลชีวิตเรา แต่ทางนั้นเอะอะก็ค่าโน่นค่านี่ไม่พอ แต่พ่อส่งไม่เคยขาด แม้แต่เดือนเดียว ถ้าไม่พอก็เป็นกิ๊กที่ไปหามา เพื่อให้มันพอ
ถ้าครอบครัวนั้นฟังอยู่ ทำความเข้าใจกับหนูหน่อย เป็นหนี้ใครเป็นคนสร้าง หนูได้สร้างด้วยไหม หนูไม่ได้สร้างด้วย พอหนูมารับรู้หนี้ก็ต้องช็อกไหม เพราะบ้านเราไม่เคยมีหนี้ หนูรู้ว่าพี่เฟิร์สเขาก็รักครอบครัว รักแม่รักพ่อ ถ้าเป็นพ่อแม่เรา เราก็ต้องช่วย แต่นี่ช่วยแล้วไม่จบสักที ไม่พอสักที ไม่รู้ต้องทำยังไง
พอไปอยู่ประจวบฯ เริ่มโทร.หาพี่เฟิร์สไม่ติด ทั้งที่กิ๊กนอนตีสามตีสี่ หกโมงก็จะดีดตัวมาเอง โทร.หาสามี สามีไม่รับ เที่ยงก็แล้ว บ่ายก็แล้ว ก็เกิดการทะเลาะกันเกิดขึ้นว่าทำไมตื่นสายจังเลย เขาเป็นนักกีฬา ทำไมนอนแบบนั้น กลายเป็นวันเว้นวัน ก็ไม่รู้ทำไมนอนตื่นสายขนาดนี้ เราได้แต่สงสัยแต่เราไม่ตาม เพราะเราตกลงกันแล้วว่าเราให้อิสระ หนูได้ยินมาเยอะมากว่าเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ฟังไลฟ์นี้ก็รู้ด้วยนะว่าเราไม่ตามค่ะ เราตกลงกัน ต้องใช้ชีวิตยังไง มีหนี้สินตรงไหนก็รับผิดชอบ แค่นั้น
ก็เริ่มคุยไม่รู้เรื่อง แล้วต้องย้ายที่ทำงานใหม่ เป็นเชียงใหม่ เราก็คิดว่าทำไมไม่มาอยู่กรุงเทพฯ เพราะเราซื้อบ้านแล้ว แต่ตอนนั้นอาจเป็นวิกฤต ได้ตรงไหนก็คว้าก่อน ก็กลายเป็นว่าได้ที่เชียงใหม่ ก็โอเค อยู่ตรงไหนก็ได้ ขอแค่พ่อได้ทำงานที่พ่อรัก ไปเลย แม่ซัปพอร์ตเต็มที่ หนูก็ไปจัดการให้เหมือนเดิม คอนโด ที่นอน ก่อนแยกกันก็จับมือแล้วกอด บอกว่าจับมือกันแน่นๆ นะ ทำตัวให้ดีๆ อย่าไปอยู่ในที่เสี่ยง ยืดอายุการใช้งานให้ลูกเราเห็น ว่าพ่อรักดี รักความเจริญก้าวหน้า อย่าทำสิ่งไม่ดี มีข้อเดียวที่แม่รับไม่ได้ ฉะนั้นพ่ออย่าทำนะ
หนูยอมรับว่าหลังๆ ทำงานหนักขึ้น เพราะภาระเราเยอะ แทบไม่ได้ไปหากันเลย แต่เราโทร.หากันนะ โทร.ไปบางครั้งมีปัญหา ผัวยังไม่ตื่นนอนเลย แล้วกูมีผัวทำไมวะ ถ้าใครอยู่ในสถานะเมียแล้วโดนแบบนี้ เชื่อนะว่าด่าเยอะกว่ากิ๊ก ถ้าไม่มีปัญหา กิ๊กไม่เคยด่าพี่เฟิร์ส เจ้าตัวรู้ ถ้าไม่ทำตัวแย่ ไม่เคยด่าเลย
เข้าเรื่องที่เป็นปัญหาใหญ่นะคะ มีการทะเลาะ มีปากเสียง เขาคุยผ่านยาย ถ้าหนูไม่รับโทรศัพท์ เขาก็โทร.หายาย มีช่วงนึงหายไป 5 วันเต็มๆ ไม่ติดต่อแม่กิ๊กด้วยนะ กิ๊กสงสัย แต่ยายพยายามหาคำตอบว่าเป็นอะไรไม่ติดต่อกัน จนวันนั้นกิ๊กอัดรายการ กิ๊กนั่งรถไฟกลับอุบลฯ พอถึงอุบลฯ เช้าตรู่ ยายกอดหนู และจับมือหนูบอกว่าพร้อมฟังไหม กิ๊กถามว่ามีอะไร กิ๊กรู้ไหม ว่าเฟิร์สมีปัญหาเรื่องเงิน ก็ถามว่าเงินอะไรยาย หนี้ครอบครัวเขาเหรอ หรือยังไง ไม่ใช่ เป็นหนี้ของเฟิร์ส อ้าว แล้วเฟิร์สทำอะไร เขาไปยืมเงินแนน 1.7 แสน ก็ถามว่าเป็นค่าอะไร ก่อนเขาไปยืมเงิน หายไป เขาบอกเงินเดือนไม่ออก ในความคิดของกิ๊กเป็นไปได้ไหมที่เงินเดือนไม่ออก ก็จี้ถามว่าแล้วคนอื่นเงินเดือนน้อยๆ เขาอยู่กันได้ยังไง ถ้าไม่ออกต้องไม่ออกทุกคน เขาก็ไปต่างๆ นานา เราก็เชื่อ ซัปพอร์ตกัน
จำเป็นที่สุดคืองวดรถ ฝากยายไปบอก เพราะตอนนั้นมีปัญหากันเรื่องงี่เง่าเดิมๆ ความไม่โตของเขา ก็บอกให้ยายบอกเขาจ่ายค่างวดรถ จน 5 วันที่ไม่ติดต่อหายไปเลย แล้วความแตกว่าไปยืมเงินน้อย 1.7 แสน ช่วงนั้นเป็นวันหยุดของเขา 3 วัน 16-18 พ.ย. กิ๊กว่างวันที่ 16 กิ๊กบอกว่าจะไปเชียงใหม่ ทั้งที่เพิ่งกลับถึงอุบลฯ กิ๊กซื้อตั๋วแพงมาก บินไปเชียงใหม่ ไฟลต์บิน 11.20 น. ถึงสนามบิน กิ๊กขับรถไปคอนโดที่กิ๊กเป็นคนหาให้เอง จัดการให้เอง จ่ายค่ามัดจำให้เอง กิ๊กขี่รถวนหา ไม่เจอรถ เพราะเราแลกรถกันใช้ ไม่เจอรถ เดินไปหลังตึก แอร์ไม่เปิด แสดงว่าไม่อยู่ห้อง กิ๊กเดินขึ้นมาตรงบันไดหนีไฟ กิ๊กเคาะประตู สักระยะนึง ไม่มีใครเปิดประตู แสดงว่าไม่มีใครอยู่ โทร.หาแนนคนที่เขายืมตังค์ ถามว่าพี่มึงอยู่ไหน น้องชายเขาก็โทร.ตามให้ เขารับสาย แล้วเสียงเหมือนเพิ่งตื่นนอน ตอนนั้นหัวใจเริ่มหล่นแล้วนะ เพิ่งตื่นนอน แล้วไม่อยู่คอนโด แล้วมันอยู่ไหน ตอนนั้นบ่ายแล้วนะ สักพักแนนก็สืบให้ จนสืบได้ว่าเขาขับรถจากเชียงใหม่มาบ้านที่กรุงเทพฯ ที่ซื้อเอาไว้ แนนบอกให้รออยู่ตรงนั้น เดี๋ยวไปหา พี่มีปัญหาอะไร เดี๋ยวไปหาที่บ้าน เขาไม่บอกว่าหนูจะตามไป
หนูโทร.หาแนน ว่าให้ยื้อไว้หน่อยนะ แป๊บเดียวเดี๋ยวพี่ไป กิ๊กจอดรถเช่าแล้วซื้อตั๋วบินเข้ากรุงเทพฯ ตอนสี่โมงเย็น ถึงบ้านประมาณหกโมง มาเจอปุ๊บ โมโหเลย มีการทะเลาะวิวาท มีปากเสียงกันแน่นอน พอคุยกันตั้งสติ มีคนช่วยห้าม ช่วยอธิบาย คอยจูนให้ กิ๊กใจเย็นมากๆ ตอนนั้น กิ๊กบอกว่าพ่อเป็นอะไร มีปัญหาอะไร ก่อนบินมาหากิ๊กแชตเฟซหา ไม่อ่าน ไม่ตอบ พอมาถึง กิ๊กบอกว่าพ่อเป็นอะไร ไหนบอกว่ามีอะไรจะคุยกันไง ไม่ปิดบังกันไง พ่อไม่เคยเป็นแบบนี้ พ่อมีอะไรก็บอกแม่ตลอดไม่ใช่เหรอ พ่อไปติดหนี้อะไร เขาเลยอธิบายให้ฟัง แต่ก่อนหน้านี้เขาปรับทุกข์กับน้องสาวหนูนะ พูดเรื่องหนี้สินเยอะแยะจิปาถะ แต่เราโฟกัสเงิน 1.7 แสน ว่าเป็นเพราะอะไร เขาก็ใจเย็นลงนะ เพราะเรากอด ทั้งที่โมโหเกือบตาย
เขาบอกว่าเขาผิดพลาดเรื่องแชร์ กิ๊กสับสนเพราะไม่รู้เรื่องนี้เลย แล้วเขาก็เอาตัวนี้มาหมุนใส่อันนั้น วงเวียนเดิมเหมือนครอบครัวเขา ดอกก็พอกๆ นี่คือหนี้เสีย ดอกขึ้นๆ แน่นอน จากนั้นหนูเลยคิดว่าจะเอายังไงต่อ จะไปยังไง เป็นหนี้ตัวไหน ก็มาแจกแจงกัน เราก็รู้แล้วนะว่าเขาโกหกเรื่องเงินเดือน เราก็ให้อภัยอีกนะ งวดรถก็ไม่ได้ส่ง เขาโทร.มาตามกิ๊กว่ายอดไม่เข้าเลย ไม่ได้ใช้ค่างวดรถ แต่ละคันคือ 3 งวดหมดเลย เรื่องเกิดเดือนที่แล้วนี่เองค่ะ หนูบอกว่าไม่เป็นไร เดี๋ยวหนูจัดการช่วย พ่อเอาเงินเดือนพ่อโปะหนี้พ่อหมดเลย ส่วนงวดรถเอาส่วนของแม่ไปจ่าย ช่วยกัน เต็มที่ไม่เกินปีใหม่ เราต้องปิดหนี้ตัวนี้ให้หมด ไม่อยากเป็นหนี้ เขาก็ใจเย็นลงนะ ทุกคนกอดเฟิร์ส เราก็บอกว่าเริ่มต้นกันใหม่นะพ่อ กลับมาเป็นพ่อจ๋าเหมือนเดิมนะ ไม่เป็นไร คนเรามันพลาดกันได้
เขาตอบมาว่ากลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่ได้หรอกแม่ (เสียงสั่นเครือ) เราอึ้ง เขาไม่ยอมกอดเราเลยนะ ไม่สบตา แต่เรากอดเขาแน่นมาก ไม่รู้จะเข้าเรื่องนี้ยังไง (ร้องไห้) หนูก็ถามว่ามีเรื่องอะไรที่กลับมาเป็นเหมือนเดิมไม่ได้ พ่อมีคนอื่นใช่ไหม เขาปากแข็งไม่พูด ขอดูโทรศัพท์หน่อย ที่ผ่านมาไม่เคยเช็กโทรศัพท์พ่อเลย เขาขัดขืนทุกสิ่งทุกอย่าง (ร้องไห้) หนูก็ถามว่าพ่อมีคนใหม่ใช่ไหม เขาบอกว่าใช่ (ร้องไห้) หนูถามว่านานหรือยัง เขาบอกไม่นานหรอก 2 เดือน หนูกลั้นใจถามว่าคุยเฉยๆ หรือมีอะไรกัน
ตราประทับตัวหนูคือซื่อสัตย์ (ร้องไห้) ทั้งที่อาชีพหนูเสี่ยงทุกอย่าง หนูพร้อมมีคนใหม่ได้ทุกเมื่อ แต่หนูไม่เคยทำเลย ตั้งแต่มีครอบครัว นั่นหมายถึงหนูหยุดแล้ว หยุดการตามหาแล้ว (ร้องไห้) หนูก็ถามว่าพ่อมีอะไรกับเขาแล้วใช่ไหม ก็ร้องไห้ เขาก็ตอบว่ามีแล้ว มีอะไรกันแล้ว คุยได้เดือนนึง เดือนที่สองมีอะไรกัน (ร้องไห้) บอกว่าเขามาอยู่ในคอนโด คอนโดที่หนูเป็นคนหา ตระเตรียมให้ทุกอย่าง (ร้องไห้) คนนั้นมาใช้แทนที่หนูหมดเลย ห้องน้ำ ห้องครัว ทุกอย่างเขาใช้แทนที่หนูหมด (ร้องไห้) อันนี้เขาเป็นคนสารภาพเอง มีอะไรกันบ่อยครั้งมาก หนูใจแข็งถามว่าป้องกันตัวเองไหม เขาบอกว่าไม่ ใส่ข้างใน ก็ถามว่าไม่กลัวโรคเหรอ รู้จักได้ยังไง เขาบอกว่าเขาเครียด เขาเที่ยวตั้งแต่อยู่ประจวบฯ เที่ยวคาราโอเกะ (ร้องไห้) กินเหล้า สังสรรค์กับเพื่อนๆ แทบทุกวัน มันเป็นเหตุผลนี้นี่เองที่เขานอนไม่ตื่น เละมาตั้งแต่ประจวบแล้ว (ร้องไห้) เราไว้ใจว่าเขาอยู่ในแคมป์กีฬา เราก็ไม่ตาม เพราะมันไกลมาก (ร้องไห้) หนูไม่ตามเพราะไว้ใจ หนูว่าหนูร้องไห้พอแล้วนะ มันบีบหัวใจทุกครั้งที่พูดเรื่องนี้
เขาก็บอกว่าเขาเครียด กินเหล้าเที่ยวสังสรรค์กับเพื่อนๆ ไม่รู้เครียดเรื่องหนี้ที่เขาปิดบังหรือเปล่า เที่ยวไม่ให้พังพินาศก็ได้ไหม ทำไมต้องให้มีผู้หญิงเข้ามา (ร้องไห้) จากนั้นหนูก็ถามเขาอีกว่าไปเจอกันยังไง เขาเจอที่ร้านเหล้าที่ผับแห่งนึง ไปเที่ยว เขาบอกว่าขอแลกไลน์กันหน้าผับ เขาบอกว่าคุยกันเพราะเขาเหงา เขาไม่ได้อยู่กับลูกกับเมีย วันหยุดก็มาหาสิ เหงาก็โทร.คุยดิ ที่บางทีเมียไม่อยากคุยด้วย เพราะตัวเองทำนิสัยแบบนี้ นอนไม่ตื่น ใครจะไม่เอือมระอา บางครั้งหนูก็เหนื่อย หนูก็ไม่ได้อยากมีอารมณ์คุยด้วย เพราะคุณไม่ได้ปรับปรุงตัวเลย ลองปรับปรุงตัวเองก่อนสิ
ต่อหน้าเพื่อนๆ ก็ไม่เคยขึ้นกูมึง ไม่เคยไม่ให้เกียรติสามีเลย เขาก็บอกว่าเอาเขาขึ้นห้องและอยู่กันแบบนั้นเลย หนูบอกว่าเห็นหมดแล้ว บนห้อง มีกุญแจอีกอันนึง เขาสารภาพเอง โดยเรื่องนี้เราใช้จิตวิทยา เขาพูดเองเลยนะ ซื้อกระเป๋าดอกไม้ให้กันโน่นนั่นนี่ หนูก็ไม่เป็นไร พลาดกันได้ หนูให้อภัย หนูกอดอีกครั้งนึง หนูรักพ่อมาก ไม่พร้อมเสียพ่อไปตอนนี้ กลับมาได้ไหม (ร้องไห้) ลูกยังรอพ่ออยู่ แม่ให้อภัยพ่อได้ จากนั้นเขาพูดขึ้นมากับหนูว่ามันไม่ได้ มันกลับไปไม่ได้ (ร้องไห้) เขาไม่มองหน้า หนูก็กลั้นใจถามว่ามันท้องกับพ่อใช่ไหม ร้องไห้ใหญ่เลย (ร้องไห้) ผู้หญิงคนนั้นบอกว่าประจำเดือนยังไม่มา หนูเข่าทรุด ล้มลง แล้วบอกว่าทำไมมันถลำขนาดนี้ แม่ไปทำอะไรให้พ่อ แม่ทำผิดอะไร แม่กับลูกผิดอะไร (ร้องไห้)
น้องหนูบอกว่ามันโกหกพี่เปล่า หนูถามพี่คำเดียว จะกลับมาหาพี่กิ๊กกับลูกไหม ถ้าพี่จะกลับมาหนูจะเคลียร์เอง สักพักนึงมันนั่งคิด แล้วบอกว่าพี่กลับแนน หนูเลยพูดว่าขอดูโทรศัพท์หน่อย ถ้าพ่ออยากตัดขาด ต้องกล้าให้แม่และน้องช่วย เขาเอาโทรศัพท์มา ความใจสลายมันอยู่ในโทรศัพท์ ทุกคำพูดเหมือนเอามีดร้อยๆ เล่มมาแทงซ้ำๆ (ร้องไห้) ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขาพูดว่าจะไปเริ่มต้นใหม่ด้วยกัน จะไปซื้อรถใหม่ด้วยกัน ใช้หนี้ด้วยกัน แล้วบอกว่าคิดถึงหนูมาก อยากกอดหนูแล้ว ใช่ หนูคิดถึงพี่มาก อยากนอนกอดพี่แล้ว อยากจุ๊บกัน เขาก็รายงานกันตลอด แล้วภาพพื้นหลังผู้หญิงคนนั้น เป็นภาพที่เขานอนบนเตียงสีขาว ตอนนั้นหนูคิดว่าแล้วหนูกับลูกอยู่ตรงไหน หนูกับลูกอยู่ส่วนไหน (ร้องไห้)
ก็ให้ไปเคลียร์ ณ ที่นี้คือแชตไป เขาก็คุยกันว่า แม่-ครอบครัวพี่จับได้แล้ว อย่างนั้นอย่างนี้ หนูใจเย็นที่สุดแล้ว หน้าลูกกับครอบครัวลอยขึ้นมา หนูคิดว่าเคลียร์ได้ เพราะยังทำใจไม่ได้ ไม่พร้อมเสียเขาไปตอนนี้ (ร้องไห้) หนูจะเคลียร์ให้จบ เขาก็แชตคุยกัน กิ๊กก็บอกว่าโทร.ไปได้ไหม เดี๋ยวแม่คุยเอง ไม่ต้องห่วง แม่ไม่คุยกับเขาไม่ดีหรอก เขาคิดอยู่สักพักก็โทร.ไป ผู้หญิงคนนั้นเงียบเหมือนรอฟังเสียง เขาเหมือนรู้อยู่แล้วว่าเราอยู่ด้วย เราก็พูดว่าสวัสดีค่ะ หนูรู้ใช่ไหมว่าทำผิด จะไปดีๆ หรืออยากให้เรื่องรุนแรงกว่านี้ น้องจะเอายังไง น้องท้องจริงหรือเปล่า ถ้าท้องจริง เดี๋ยวเคลียร์กับน้องสาวพี่ พี่ไม่อยากเจอหน้าน้อง เขาบอกว่าหนูอยากเจอพี่ เราก็ถามว่าหนูไม่กลัวบาปกรรมเหรอ พ่อแม่หนูไม่รู้เหรอ
เรามาไลฟ์ อย่างน้อยความซื่อสัตย์ของหนู กล้าเอาออกมาแสดงแล้วกัน ไม่ต้องพูดว่าจะออกมาไลฟ์ทำไม เขาก็บอกว่าหนูอยากเจอพี่ พี่เฟิร์สไม่แมน เราก็บอกว่าเขาแมนสิที่กลับมาหาครอบครัว เขาขอคุยกับพี่เฟิร์ส เขาบอกว่าไม่จบ อยากคุยกันเราสามคน เราไหน อย่าใช้คำว่าเรากับพี่ เอางี้ คุยกับน้องสาวพี่ มีปัญหาตรงไหน ถ้าท้องจริงเดี๋ยวไปรพ.ตรวจเลย ถ้าหนูไม่ท้อง อีก 3-5 เดือนข้างหน้า หนูท้องกับใครแล้วมาบอกว่าท้องกับสามีพี่เหรอ ไม่ได้ ต้องตรวจวันนี้ ก็อ้ำๆ อึ้งๆ ไม่ตรวจไม่อะไร เราใจเย็นมาก ไม่มีคำหยาบสักคำ แนนก็คุยต่อ แนนเอาเบอร์โทร.ให้มัน บอกว่ามีปัญหาอะไรมาเคลียร์กับกู ไม่ต้องมายุ่งกับพี่สาวพี่ชายกูอีก ก็เหมือนวันนั้นจะดีขึ้น ความเชื่อหนู คือยายมาถึงทีหลัง เอาน้ำมนต์มาให้กิน เอาสายมาผูกแขนให้ ยายอยู่ที่อุบลฯ นะ ก็เคลียร์กันลงตัว กอดกัน กลับบ้าน กิ๊กมีงานที่อุดรฯ ตากับยายขับรถจากอุบลฯ ไปรอที่อุดรฯ คืนนั้นทุกคนคิดว่าสถานการณ์จะกลับมาแฮปปี้ แต่ช็อกอยู่ ยังไงก็ไม่ปกติแน่นอน ทุกครั้งที่ภาพขึ้นมาในหัว มันบีบหัวใจหนูทุกครั้ง (ร้องไห้) บีบหัวใจหนูมาก ก็บอกให้เขาไปอาบน้ำให้สะอาด ร่างกายเปรอะเปื้อนหมดแล้ว (ร้องไห้) ผู้หญิงคนนี้เป็นของพ่อคนเดียว ซื่อสัตย์กับพ่อคนเดียว แต่พ่อเปรอะเปื้อนหมดแล้ว เขากอดกิ๊กนะ ก็ถามว่ากอดผู้หญิงคนนี้อุ่นไหม อุ่นเหมือนผู้หญิงคนนั้นหรือเปล่า (ร้องไห้) เขาก็เหมือนรู้สึกผิดกับเราและครอบครัว เราก็เป็นบ้าถามเอง มันเป็นธรรมดาที่มันช็อก ถึงจะเจ็บแต่อยากรู้ ก็ถามว่าไปไหนมาก่อนเข้าบ้าน เราถามว่าไปยังไงมายังไง เขาบอกว่าก่อนเขาเข้ามาบ้าน เขาไปโรงแรม ยิ่งถามยิ่งเจ็บ ได้กับมันครั้งล่าสุดตอนไหน เขาตอบเมื่อเช้า ก่อนมาบ้านไปแวะโรงแรมกันก่อน (ร้องไห้)
ตื่นเช้ามาก็อาบน้ำแต่งตัว เดินทางไปอุดรฯ บนรถกิ๊กร้องไห้ตลอด ถามว่าพ่อไปหลงอะไรเขา เขาบอกจะดูแลครอบครัวพ่อ จะเปิดโอกาสให้พ่อ ใช้หนี้ให้ทางบ้านเต็มที่ แต่ความเป็นจริงมันใช้ไม่ได้ เพราะพ่อมีหนี้ของพ่ออยู่ พ่อไปหลงวิมานแก้ววิมานทองอะไร มันทำได้หรือยัง แต่แม่ทำให้ได้มา 5 ปีแล้ว เขาเพิ่งมโนขึ้นมาไม่กี่วันไม่กี่เดือนเอง พ่อเอาอะไรไปหลง รู้ไหมเขาบอกว่าไง เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ฮีลใจเขาที่สุด ใครก็ตามที่บอกจะดูแลครอบครัวเขา ฮีลใจเขาที่สุด จากนั้นก็ไปงานที่อุดรฯ กิ๊กขึ้นร้องเพลง ไม่ทำให้งานเสียแน่นอน งานคือทุกอย่างของกิ๊ก งานคือลูก คือพ่อแม่ คืองวดรถงวดบ้าน คือทุกอย่าง ทำงานเสร็จคืนนั้นก็มีการทะเลาะกันอีก มันคิดขึ้นมาปุ๊บก็ขึ้น ตอนลงมันก็ลง ก็ทะเลาะกัน วันต่อมาหนูต้องเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพราะมีอัดรายการ วันนั้นหนูขับรถกระบะเอง หนูเหนื่อยมาก กว่าจะถึงบ้าน แล้วมีปากเสียงกันขึ้นมาอีก
มีคำนึงที่เขาพูดขึ้นมาว่า กูไม่ทนแล้ว กิ๊กเดือดเขาเดือด กูไม่ทนแล้ว กูจะไม่กลับไปอยู่จุดนี้อีกแล้ว กูไม่ทน กูจะไป ก็เลยบอกว่าไม่ทนอะไร ไม่ทนควรเป็นเราพูดไหม เสร็จแล้วเขาก็ตัดสาย ขาดการติดต่อ ก็ให้น้องติดต่อให้ เขาโทร.มาหากิ๊ก บอกว่าเราควรจบกันแค่นี้ มันสุดทางแล้ว ไปกันต่อไม่ได้ เราก็อ่อน เราขอโทษเขาด้วย บางครั้งมันช็อกเหมือนคนป่วย ต้องเข้าใจแม่นะ ให้เวลาแม่หน่อย (ร้องไห้) สักวันก็ต้องหาย ตอนนี้เลือดหยุดแล้ว เหลือแค่แผลมันหายนะ เขาก็ไม่กลับ กิ๊กร้องไห้จะเป็นจะตาย หลังเสร็จงาน กิ๊กก็กลับอุบลฯ นั่งรถไฟไปหายายกับลูก ตอนแยกกันที่อุดรฯ เขากลับเชียงใหม่ กิ๊กกลับอุบลฯ ระหว่างทางเราพูดว่าทางบ้านพ่อที่ประจวบรู้เรื่องนี้หรือเปล่า พักนึงใหญ่ๆ แม่เขาโทร.หาแม่กิ๊ก บอกว่าไม่ได้รู้จักอะไร ไม่ได้รู้เรื่องด้วย ไม่รู้อะไรสักอย่าง แม่กิ๊กก็เลยถามว่า เฟิร์สโทร.หาบ้างไหม วันนี้นะ แม่ย้ำอยู่ประมาณ 3 ครั้ง เขาตอบว่าไม่ ไม่ได้โทร.หานานแล้ว ปฏิเสธว่าไม่ได้ติดต่อลูก ไม่รู้เรื่องอะไรเลย นี่ก็รู้แล้วว่าโกหก หลักฐานก็มี แต่ข้ามไป
ย้อนกลับไปตอนนั่งรถไฟ ก็โทร.หาแม่เขา พี่เขา อ้อนวอนเขาทุกอย่าง วันนั้นลูกเขาไม่สบาย จากนั้นแม่กิ๊กแชตไปว่าลูกไม่สบาย จะไปรพ. ไม่อ่าน ไม่ตอบอะไรเลย สักพักนึงกลับไปถึงอุบลฯ กิ๊กมีงานตอนเย็น แทบไปงานไม่ได้เลย ใจจะขาด เราขาดเขาไม่ได้ มีแต่แนน กับครอบครัวแนน ที่ติดต่อเขาได้ เขาติดต่อแนนกลับมา แนนบอกว่าทางบ้านพี่เฟิร์สบอกว่าอย่าโทร.หาเขาบ่อย เขารำคาญ ไม่เป็นอันทำอะไร แต่เขาบอกเราว่าไม่ได้คุยกับลูกชายเขา นี่โป๊ะแล้วนะ พ่อแนนก็ไปคุยให้เมืองกาญจน์ เพราะสงสารอาเธอร์ (ลูก) กิ๊กก็ไปกอดเขาบอกว่ากลับมาเนอะ กลับมาเป็นพ่อจ๋าคนดีคนเดิมนะพ่อนะ จับมือกันให้แน่น สุดท้ายดีขึ้น แยกย้ายกลับ โทร.คุยกัน แชตคุยกัน เขาเพิ่งมาอ่านไลน์กิ๊ก กิ๊กดีใจมาก ทำให้ครอบครัวยังเป็นครอบครัวได้ วันนั้นหนูดีใจที่สุดเลย (ร้องไห้) หนูคิดว่าสวรรค์เห็นใจหนู (ร้องไห้)
กิ๊กยอมรับว่าตอนกิ๊กโมโหมาก กิ๊กขู่ฟ้อง จะฟ้องทั้งคู่ จะทำอีกไหม ตอนพูดรุนแรงกว่านี้ เพราะอารมณ์ขึ้นลง วันที่เขาตอบแชตช้า พอกลับมาถึงบ้าน ก็คุยกันปกติ ว่าพ่อทำตัวให้เป็นปกตินะ เสร็จงานวันที่ 1 จะไปอยู่ที่เชียงใหม่ด้วย แม่ทำใจได้ จะวัดใจตัวเองว่าจะใจแข็งพอไหมที่จะไปอยู่ห้องนั้น แม่จะอยู่กับพ่อให้มากขึ้น ดีมากจนเราคิดว่าปกติแล้ว สักพักระหว่างคุยดี จริงๆ มันก็สุดทางแล้วล่ะ เขาก็บอกว่าไม่ได้อยากกลับไป เกรงใจผู้ใหญ่ เหมือนเขาครุ่นคิดในหัวว่าคุยดีกับเราไปแบบนั้นแหละ กิ๊กถามมีปัญหาอะไร เรื่องหนี้เราก็เคลียร์กันแล้วนี่ ยังติดขัดตรงไหนอีก ลูกเราจะเอายังไง เขาบอกว่าเดี๋ยวลูกก็โต เดี๋ยวก็รู้เรื่อง ตอนไปเมืองกาญจน์ ตกลงกันว่าหนี้ส่วนของเขา ก่อนเงินเดือนออกในรอบต่อไป เราอยากปลดหนี้เร็วๆ ไม่อยากให้เขามีตราบาป ไม่อยากให้ใครมองเขาไม่ดี ไม่อยากให้ใครตราหน้าว่าเฟิร์สเป็นหนี้ ตาบอกว่าจะเอาเงินให้ ไม่อยากให้เป็นเงินกู้เพราะดอกมันแพง อาทิตย์ละ 6 พันซื้อนมให้อาเธอร์ได้ตั้งเท่าไหร่ ตาก็บอกว่าเอาเงินไปจ่ายก่อน เงินเดือนออกค่อยมาเคลียร์ เดี๋ยวทางบ้านจะช่วย อย่าเป็นหนี้เขา ตกลงกันแล้วนะ ทุกคนเคลียร์ให้หมดเพื่อไม่ให้เป็นหนี้ กิ๊กก็สงสัยว่าจะมาหนักใจอะไรอีก
เขาบอกเดี๋ยวลูกก็โต แต่แม่พ่อจะตายอยู่แล้ว ก็ถามว่าย่าแกเป็นอะไร จะตายเรื่องอะไร อะไรที่สบายใจจะทำให้หมด ขอแค่กลับมาหาลูก สงสารลูก รู้ไหมเป็นยังไง เขาบอกว่าตอนนี้ย่าไม่พอใช้ ย่าไปเอาตัวนั้นมาใส่ตัวนี้ ตอนนี้หนี้สะสมอีก 1.2 แสน ของเก่าอีก 2 แสนที่จะให้ช่วยอีก หนี้นอกระบบเยอะไปหมด แล้ว 1.2 แสนมายังไงอีก แต่ไม่เป็นไร พ่อจะทำยังไง จนตกลงกันได้ จะใช้หนี้ให้ย่าเพิ่มขึ้น กิ๊กยอมจนไม่รู้จะยอมยังไง พ่อโอเคหรือเปล่า กลับมาเป็นคนดีของแม่เนอะ พรุ่งนี้เป็นวันครบรอบของเรา เราลงรูปกันเนอะ อะไรที่พูดแรงๆ แม่ขอโทษ แล้วแม่จะปรับ พ่ออยากได้แบบไหนก็บอก แม่ยอมหมด กลับมาเป็นพ่อจ๋าของอาเธอร์นะ กลับมาเป็นครอบครัวนะ พรุ่งนี้เราจะลงภาพกันนะ เขาก็ลงรูปกับลูก เรายังไปกดหัวใจให้ พอวันต่อไป เราก็ถามว่าจะเอารูปไหนลงรูปกับเรา เราไม่อยากให้คนมองเขาไม่ดี ตื่นเช้ามา กิ๊กขับรถกลับอุบลฯ กับลูกกับยาย วันนั้นเขาบอกมีแข่ง อาจตื่นสายหน่อยนะ 9 โมงอาจโทร.หา
พอ 9 โมงเขาก็โทร.หา บอกว่าขาบวมหมดเลย แม่สู้ๆ นะ พาลูกกลับบ้านดีๆ นะแม่ จากนั้นกิ๊กก็ไม่ได้อ่านเพราะกิ๊กขับรถ ตอนบ่ายก็ทักไปว่าทำอะไรอยู่ ไม่อ่านอีก พ่อจ๋าทำไมไม่รับสายแม่ กิ๊กโทร.ไปสองครั้ง ก็ไม่รับ ไม่อ่าน ไม่ตอบ แต่ออนเฟซนะ จนกิ๊กถึงอุบลฯ ก็บอกว่าถึงอุบลฯ แล้วนะ นับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา สี่ห้าข้อความที่ส่งไป เขาไม่อ่านจนถึงทุกวันนี้ ของยายก็ไม่อ่าน เขาไม่อ่านแชตใครเลย (ร้องไห้) สุดท้ายเขาติดต่อน้องสาว เขาบอกเขาจะไปแล้ว ไม่ทนแล้ว คำว่าไม่ทนคืออะไร เขาบอกหมดรักตั้งแต่อยู่ประจวบฯ แล้วที่ผ่านมาคืออะไร (ร้องไห้) ลูกล่ะ กิ๊กกับลูกอยู่แบบไหน ยังไง ลูกเขาก็ให้จัดการไป เราคุยค่าเลี้ยงดูกันแล้ว ภาระหนี้สินตรงไหน ก่อนหน้านี้เขาบอกน้องว่าถ้าไม่ไหวก็ปล่อยให้ยึดไปเลย ทำไมพูดง่ายจัง ผ่อนมาจะ 3 ปีแล้ว เราก็คุยกันค่าเลี้ยงดูเท่านี้ ผ่อนบ้านเท่านี้ ค่าเลี้ยงดูลูกคนละครึ่ง ก่อนที่จะไป น้องสาวก็พูดว่าไม่ผูกพันเลยเหรอ ไม่รักลูกเลยเหรอ เขาผิดอะไร มีคำไหนที่พี่จะขอโทษเขาไหม เขาไม่อ่านแชตตั้งแต่วันนั้นจนถึงตอนนี้
บางคนบอกว่าหนูวุ่นวายกับผัว จู้จี้ ไม่ใช่นะคะ เราพูดกับเขาไม่ได้แล้ว เขาไม่ยอมพูดกับเราเขาเกลียดเรามาก ไม่อยากเจอหน้าหนู เขาบอกวันหย่าไม่ต้องเอาลูกมาอ้าง ไม่ต้องเอาลูกไปรั้งเขา ตั้งแต่วันที่เคลียร์ที่เมืองกาญจน์ แม่กับพี่สาวเขาก็โทร.มาหาว่าเป็นยังไงบ้างสถานการณ์ หลังจากนั้นไม่ติดต่อหลานเลย เอาอะไรมารักหลาน เรื่องค่าเลี้ยงดู เขาอยากหย่า เขาก็ยอมหมดเลย ขอแค่หย่าให้เร็วที่สุด ครั้งแรกจะหย่าวันที่ 8 แต่เขาบอกขอเร็วกว่านั้น เขาเร่งหย่า เขาบอกพี่เขา แม่เขารู้เรื่องนี้หมด เขาโอเค เตรียมเงินไว้ช่วยด้วย นี่เป็นคำพูดเฟิร์ส ถ้าจะบอกว่าไม่จริง งั้นก็ไปถามน้องชายคุณ หนูคุยผ่านแนนตลอด
มีคนทักว่าโดนของที่เชียงใหม่ โชคชะตาโคตรเล่นตลกกับกิ๊กเลย อยากเอาผัวคืนมา มีคนแนะนำว่าเขาถูกของ หนูเป็นเมน เขาจะเอารถมาเปลี่ยน เขาบอกไม่อยากเข้าไปเหยียบบ้านหลังนั้นอีกเลย ไม่อยากเห็น โน่นนี่ รู้ไหมหนูทำยังไง หนูเป็นเมน เอาเมนตัวเองไปทาเบาะรถ เขาบอกต้องทำให้ของเสื่อมก่อน หนูอยากเอาผัวคืน เขาโทร.มาด่าแนน หนูเอาเมนหนูไปทาเบารถ พวงมาลัยรถ แล้วบอกน้องอย่าไปจับรถนะ ห้ามย้ายรถ ที่เล่าเพราะอยากให้รู้ว่าหนูทำดีที่สุดแล้ว หนูทำทุกอย่าง เขาก็บอกว่าถ้าไม่ได้ถูกของก็ชั่วโดนสันดาน หนูก็ลองทุกทางแล้ว หนูอยากให้รู้ว่าหนูทำดีที่สุดแล้ว