“ป๊อก ปิยธิดา” ฝากถึง “ป๋อมแป๋ม” ถ้าไม่หยุดเล่า จะเล่าบ้าง ลั่นฟังแล้วต้องหาร อย่าไปเชื่อมาก

“ป๊อก ปิยธิดา” บอกเล่นแต่ดรามา เพราะชีวิตจริงบันเทิงพอแล้ว เลือกบทจากความสมเหตุสมผล เพื่อให้คนดูเชื่อ ไม่โกรธ “ป๋อมแป๋ม” เอาเรื่องในวงมาเล่าสู่สาธารณะ แนะฟังแล้วต้องหาร อย่าไปเชื่อมากฝากบอกถ้าไม่หยุดเล่า เดี๋ยวจะเล่าบ้าง

ด้วยความเป็นพี่เป็นน้องที่สนิทสนมกันมาก งานนี้ “ป๊อก ปิยธิดา มิตรธีรโรจน์” ก็เลยมักจะโดน “ป๋อมแป๋ม นิติ ชัยชิตาทร” เอาเรื่องในวงสังสรรค์ มาเล่าสู่สาธารณะอยู่บ่อยๆ ล่าสุดวันนี้ (4 ธ.ค.) ได้เจอป๊อก ในงานบวงสรวงซีรีส์ Zomvivor มหาลัยคลั่ง เจ้าตัวก็ได้เผยถึงเรื่องนี้ ว่าไม่ได้โกรธ แต่ถ้ายังไม่หยุดเล่า ก็จะเป็นฝ่ายเล่าบ้างแล้ว และในส่วนของการเลือกรับงาน ก็เลือกรับจากบทที่อ่านแล้วมีเหตุผลรองรับในการกระทำ

“คืออ่านแล้วก็ให้รู้สึกว่าตัวละครทำอะไรไป มีเหตุผลรองรับหรือเปล่า ถ้าสมมติว่าเหตุผลรองรับแล้วมันมีความน่าเชื่อถือพอสมเหตุสมผล เรื่องมันก็จะดำเนินไป แล้วคนดูก็จะเชื่อไปตามเราโดยง่าย ถ้าสมมติทำอะไรออกมาแล้วไม่มีเหตุผลรองรับ คนดูไม่เชื่อตั้งแต่คลิกแรก ละครก็จะไม่สนุกต่อไปอยู่ดี เรื่องนี้ก็ยากเหมือนกันค่ะ แต่ถ้าใช้ประสบการณ์ในการแสดงของเรา ในการเลือกรับงานของเรามา ตอนอ่านบทเราก็จะรู้สึกได้ว่าเรื่องนี้ดีไม่ดี จริงๆ ก็อยากเล่นคอมเมดี้นะ เล่นคอมเมดี้ได้เหมือนกัน แต่มีแต่งานสายดรามา ซึ่งการทำงานที่มันไกลชีวิตจริง มันก็สนุกดีเหมือนกัน เพราะว่าชีวิตเราบันเทิงมากจริงๆ”

“ป๋อมแป๋ม” พูดถึงตลอดเวลาไปไหน เป็นน้องรักที่ฉลาด อยู่ด้วยแล้วได้พัฒนาสมอง
“เรารักน้อง แล้วก็รู้สึกได้ว่าน้องรักเรา แล้วก็เป็นคนที่มีความชอบใกล้เคียงกัน เรารู้สึกว่าเราอยากจะคุยกับคนที่เวลาเราคุยด้วยแล้ว มันพัฒนาสมองไปด้วย เพราะเราปฏิเสธไม่ได้เลย ว่ายายแป๋มเป็นคนฉลาด แล้วเราก็รู้สึกว่าการได้อยู่ใกล้ๆ กับคนฉลาด มันจะทำให้เราดูดีขึ้นไปด้วย”

ไม่กังวลโดนเอาเรื่องในวง มาเล่าสู่สาธารณะ
“บางทีเราไม่เชื่อเขาทุกเรื่องก็ได้ (หัวเราะ) ส่งมาให้กลั่นกรองก่อน แล้วเดี๋ยวจะบอกว่าจริงไม่จริง (กังวลไหมว่าเขาเอาเรื่องในวงมาเล่า?) มันก็เป็นเรื่องจริง (หัวเราะ) ไม่ คือไม่ได้บอกว่าจริงไม่จริง แต่บอกมาก่อน จะได้แก้ตัวถูก จะไม่ปฏิเสธหรอกว่ามันไม่จริง ถามว่าแล้วเรื่องไหนไม่ใช่ความจริง ไม่มี (หัวเราะ) แย่จัง เวลานั่งกันอยู่เราชอบบอกว่าแป๋ม เราไม่จำเป็นต้องบอกสังคมทุกเรื่องก็ได้เนอะ รู้กันแค่สองคนก็พอ มันก็จะได้แป๊บหนึ่ง อีก 3-4 เดือนก็เล่าแล้ว”

บอกตัวจริงเป็นอย่างนี้มานานแล้ว แค่ไม่ได้เปิดเผย
“จริงๆ เราเป็นอย่างนี้มานานแล้วล่ะ เพียงแต่ว่าเราไม่ได้เปิดเผยให้ใครรับทราบ สมัยนี้สื่อมันชัดเจนขึ้น แล้วก็เข้าถึงง่าย เราก็เลย มันจะปิดไม่ได้แล้ว (หัวเราะ) ส่วนที่คนชื่นชอบที่ตัวเราที่เป็นแบบนี้ มันอาจจะทำให้คนรู้สึกว่าใกล้ชิดกับเรามากขึ้นมั้งคะ คงรู้สึกว่าเราก็ไม่ได้ประดิษฐ์ ไม่ได้ระวังตัวตลอดเวลา ความสบายๆ ทำให้คนคิดว่าได้ ว่าเราก็เป็นหนึ่งคนที่มีชีวิตปกติ เที่ยวเล่นไปตามประสา คนสามารถเข้าถึงเราง่ายขึ้น ก็จะรู้สึกว่าเราไม่ไกลมากขนาดนั้น แต่คนที่ตามเขาก็ต้องรู้บ้างอยู่แล้ว เราเป็นคนอย่างนี้อยู่แล้ว คือตลกหน้าเฉยๆ เราไม่ได้ตลกสังขาร เราตลกนิ่งๆ”

ฝากบอก “ป๋อมแป๋ม” ไม่ได้โกรธ แต่ถ้าเล่าอีก ก็จะเล่าบ้าง
“ถ้าน้องเล่าพี่ พี่ก็จะเล่าของน้อง (หัวเราะ) ไม่โกรธค่ะ แต่เดี๋ยวพี่จะเล่าของน้อง (หัวเราะ) แล้วพี่จะไม่แก้ตัวเรื่องของพี่ด้วยค่ะ (ยิ้ม)”