“ชาล็อต” เสียใจคนสนิทปล่อยรูป พร้อมรับบทลงโทษ จาก “ณวัฒน์” พ้อไม่รู้จะเป็นโอกาสครั้งสุดท้ายไหม?

“ชาล็อต ออสติน” เสียใจคนสนิทปล่อยรูปในโคลสเฟรนด์ น้อมรับผิดไม่รอบคอบและประมาท ทำอะไรไม่ได้นอกจากขอโทษ ยันเป็นรูปเก่า 3-4 เดือนที่แล้ว ตอนนี้เป็นเพียงแค่เพื่อนกัน พร้อมรับบทลงโทษจาก “ณวัฒน์” ถึงเป็นลูกรักก็เลิกรักได้ สัญญาจะเชื่อฟังเพื่ออนาคต ยอมแลกเรื่องรัก โฟกัสเรื่องงาน

หลังมีคนปล่อยภาพความสนิทสนม ของสาว “ชาล็อต ออสติน” กับหนุ่มปริศนา ที่โยงกันไปว่าคือหนุ่ม “ซี ทวินันท์ อนุกูลประเสริฐ” นักแสดงซีรีส์วาย จากค่าย GMMTV ก็ทำเอาหลายคนแอบสงสัย ว่าทั้งคู่กำลังคบหากันอยู่หรือเปล่า ล่าสุดสาวชาล็อตก็ได้ออกมาเคลียร์ถึงประเด็นนี้ โดยเผยว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมาสักพักแล้ว เป็นรูปเก่าเมื่อ 3-4 เดือนก่อน ซึ่งตอนนี้เป็นเพียงแค่เพื่อนกันจริงๆ ต้องขอโทษทุกคนที่ได้รับผลกระทบด้วย โดยเฉพาะบอสใหญ่ขององค์กรมิสแกรนด์ อย่าง “ณวัฒน์ อิสรไกรศีล”

“จากประเด็นที่เกิดขึ้น ยอมรับว่าเป็นความผิดพลาด ความประมาทไม่รอบคอบของตัวเอง ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดมาสักพักแล้ว ตอนนี้เป็นเพียงแค่เพื่อนกันเท่านั้น แล้วก็ต้องขอโทษองค์กรและทุกคนที่ได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้ด้วย ตัวหนูไม่ได้มีเจตนาจะให้เรื่องมันเป็นแบบนี้ แต่ในเมื่อมันได้รับผลกระทบแล้ว หนูก็ขอเป็นคนยอมรับผิดค่ะ”

รู้ตัวคนทำแต่ไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ เสียใจประมาทเองที่ลงโคลสเฟรนด์
“ก็งง แต่ก็ก็พยายามไม่คิดอะไรมาก เพราะรูปอยู่ในเฉพาะกลุ่มเท่านั้นที่ได้เห็น (รู้ไหมว่าใคร บอสบอกว่ารู้แล้ว?) ไม่อยากปรักปรำร้อยเปอร์เซ็นต์ ในโคลสเฟรนด์มีประมาณ 10 กว่าคน ซึ่งเป็นคนที่เราไว้ใจอยู่แล้ว หนูไม่อยากหาคำถามหรือคำตอบเลย ว่าทำไปเพื่ออะไร ในเมื่อทำไปแล้วก็ไม่เป็นไร ต้องยอมรับทุกอย่าง เราเองก็ประมาณและไม่รอบคอบที่เอาไปลง ไว้ใจคนง่ายเกินไป ถือว่าเป็นบทเรียนอีกบทหนึ่งแล้วกัน จริงๆ เรื่องที่เสียใจ คือเรื่องเราไว้ใจคน แล้วเขาทำอย่างนี้กับเรามากกว่า ก็ถือว่าทำอะไรไม่ได้แล้ว ก็ยอมรับในผลที่ทำไป ก็มูฟออนทำงานต่อ”

ตอนนั้นเครียด แต่ก็โทร.หาบอสก่อนอันดับแรก
“เครียด คือรู้เลยว่าต้องเกิดอะไรขึ้นแน่ๆ อับดับแรกคือโทร.หาบอสก่อน แจ้งบอส บอสก็บอกโอเคค่อยๆ ดูกันไปนะว่ายังไง แล้วค่อยจัดการอีกทีหนึ่ง”

ยันเป็นรูปเก่า 3-4 เดือนที่แล้ว ตอนนี้เป็นแค่เพื่อนกันจริงๆ
“คนโคลสเฟรนด์มีแต่คนที่สนิทในระดับหนึ่งเลยนะ ปกติหนูก็ไม่ได้ลงแค่อันนั้นอันเดียว หนูก็ลงชีวิตส่วนตัวที่อยู่บ้านหรืออะไร เพราะบางทีเราก็ไม่ได้อยากลงแบบสาธารณะทั้งหมด แต่รูปที่หลุดออกไป เป็นรูปประมาณ 3-4 เดือน ตั้งแต่รูปที่มันหลุดไปตั้งแต่รูปแรกยันรูปสุดท้าย ซึ่ง ณ ตอนนี้บอกเลยว่าเป็นเพื่อนกันจริงๆ ต่อจากนี้ก็คือไม่ลงไม่อะไรแล้วค่ะ ไม่ได้มีแล้ว หนูมีแค่ไอจีตัวเองกับพะโล้ (กระต่าย) 2 ไอจีแค่นั้น”

ได้คุยและขอโทษคนที่อยู่ในรูปแล้ว
“ก็คุยค่ะ ก็มีการขอโทษไป ทั้งตัวเขาและทางผู้ใหญ่ของเขาด้วย ที่สร้างผลกระทบให้กับเขา ถือว่าเป็นบทเรียนของเรา และยอมรับในสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นแค่นั้น”

ถือเป็นบทเรียน ไม่กล้าไว้ใจคนรอบข้างแล้ว
“ทั้งลดลงแล้วก็ไม่กล้าด้วย สองอย่างรวมกันเลย รู้สึกว่าพออยู่ในวงการ สิ่งที่ต้องมีที่สุดคือความรอบคอบและสติ ซึ่งหนูอาจจะขาดในจุดๆ นี้ไป แล้วก็ประมาทด้วยในบางทีบางเรื่อง ก็รู้สึกว่าเป็นบทเรียนให้เราได้มีสติเตือนตัวเองว่าอย่าไว้ใจคนเยอะ ต่อให้สนิทกันมากแค่ไหนก็อย่าไปไว้ใจ เพราะเขาสามารถทำลายเราได้เหมือนกัน”

พูดขอโทษ “ณวัฒน์” บนเวทีแฟนมีตฯ เข้าใจอยู่จุดนี้ต้องแลกเรื่องรัก
“หนูก็ขอโทษบอส เพราะเขาก็เสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นเหมือนกัน ก็ขอโทษและจะโฟกัสงานต่อไป เพราะเข้ามาในจุดนี้แล้ว เราก็ต้องแลก ก็ต้องยอมรับ ก็จะทำงานไปเรื่อยๆ นี่แหละค่ะ จะอยู่สร้างผลงานดีๆ ให้ทุกคนได้ชื่นชม ให้แฟนคลับที่เขารักเราได้เห็นผลงานเรา ได้เห็นเราเติบโตขึ้นในวงการบันเทิง หวังว่าจะยังคงอยู่ด้วยกัน”

เตรียมใจรับบทลงโทษ เสียใจทำให้บอสผิดหวังอีกแล้ว
“ก็เตรียมใจว่าถ้าอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ก็ยอมรับ เคารพการตัดสินใจของบอส (เครียดไหมในการทำงานร่วมกับบอสใน 3 วันที่ผ่านมา?) กับบอสไม่เครียดค่ะ พอมันเคยเกิดขึ้นไปแล้ว เรารู้ว่าต้องทำตัวยังไง มันเสียใจและเสียความรู้สึก ที่ทำให้เขาผิดหวังอีกแล้ว ไม่มีวันชินกับความผิดพลาด แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้โตขึ้น”

ถึงเป็นลูกรัก แต่ก็เลิกรักได้ เพราะฉะนั้นต้องทำตัวดีๆ
“กลัวว่ารักได้ ก็เลิกรักได้นะ (หัวเราะ) เพราะฉะนั้นก็ต้องทำตัวดีๆ นะ เตือนสติตัวเองว่ามีผู้ใหญ่ให้โอกาส คอยดัน คอยปั้นเรา ก็ต้องเห็นโอกาสของเขาเยอะ เห็นคุณค่าในสิ่งที่เขาให้เยอะๆ พยายามที่จะอยู่ในวงการให้ได้มีความสุขที่สุด จากนี้ก็จะตั้งใจทำงาน ไม่ใช่แค่กับบอส แต่กับทุกๆ คน โฟกัสงานไปก่อน อนาคตที่เราอยากเป็นอยากมี ก็พยายามเก็บเกี่ยวช่วงเวลาตรงนี้ให้ได้มากที่สุด ถ้าวันหนึ่งมันไปได้จริงๆ ก็คงไป”

ต้องเข็มแข็งในระดับหนึ่งกว่าจะผ่านไปได้ ไม่รู้จะพูดอะไรนอกจากขอโทษ
“ผลกระทบกับแฟนคลับยังไม่ค่อยมีนะ แต่ลูกค้ายังไม่ทราบ ถ้ากับตัวหนูเองตรงๆ เลย หนูรู้สึกว่าต้องเข้มแข็งในระดับหนึ่งเลยกว่าจะผ่านไปได้ ไม่ใช่แค่กระทบเราแล้วไง มันเป็น Butterfly Effect ที่กระทบวงกว้างทุกคน มันเสี่ยงมากๆ จริงๆ ไม่รู้จะพูดยังไงนอกจากคำว่าขอโทษ ก็อย่าทำอีก แค่นั้น อยู่ให้เป็น ก็ให้สัญญากับแฟนคลับ ว่าจะสร้างผลงานดีๆ จะเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับทุกๆ คน แม้ว่าตอนนี้หลายคนอาจจะไปแล้ว ไม่อยู่แล้วก็ไม่เป็นไร ถ้าเห็นผ่านๆ ก็ฝากติดตามด้วยค่ะ”

พักเรื่องรักไม่อยากพูดถึง ขอเอางานก่อนค่อยว่ากัน
“ของานดีกว่า ความรักไม่อยากพูดถึง ขอเอาเป็นงาน ให้เราสำเร็จก่อนค่อยว่ากัน เหมือนที่บอสบอกว่าโอกาสที่อยู่ตรงนี้ หลายคนเขาอยากจะได้นะ เราได้มาแล้วต้องรักษาให้ดีๆ อย่าให้อะไรมาทำลายได้ ก็เชื่อฟังบอสค่ะ (บอสบอกว่าอยากให้เรามีสติ เพราะ 24 แล้ว?) ไปฟิลิปปินส์เนี่ยยังไม่ได้คุยเป็นการส่วนตัวกับบอส เลยไม่รู้ว่าเมื่อกี้สัมภาษณ์ไปมีอะไรบ้าง ยังไม่ได้มีการคุยกันนอกรอบหลังเกิดเรื่อง เลยไม่รู้ว่า ณ ตอนนี้บอสรู้สึกยังไง แต่ถ้าเป็นตามที่พี่บอกก็ต้องขอบคุณมากๆ มันอาจจะเป็นโอกาสสุดท้ายหรือเปล่าไม่รู้ แต่ว่าจะทำให้ดีที่สุด จะไม่ทำให้ผิดหวัง อยู่ในวงการอย่างมีสติรอบคอบ ไม่ประมาท”

เรื่องนี้สอนอะไรให้เยอะมาก
“สอนเยอะเลย ให้มีสติมากๆ ทำอะไรต้องรอบคอบ อย่าไว้ใจคนง่ายเกินไป โฟกัสตัวเองก่อนอันดับแรก อย่าเพิ่งไปเขวเลือกเส้นทางอื่น ให้เลือกเส้นทางที่ผู้ใหญ่เขาตั้งใจจะมอบโอกาสให้เราจริงๆ”

เสียใจไม่อยากพูดถึงคนปล่อยรูป อย่าไปทำอย่างนี้กับใครอีก พร้อมปฏิบัติถ้าบอสสั่งห้ามมีความรัก
“ขอไม่พูดถึงดีกว่า เพราะไม่รู้ว่าใคร แล้วรู้สึกว่าเสียใจที่เขาทำแบบนี้ จะว่าเขาฝ่ายเดียวก็ไม่ได้ ก็ผิดที่เราด้วย แต่ก็ให้รู้ว่าอย่าไปทำอย่างนี้กับใครอีกก็แล้วกัน ถามว่าเหตุการณ์นี้สแกนได้ไหม คนไหนหวังดีหรือหวังดิสเครดิต ดูออก หนูเป็นคนเพื่อนไม่เยอะ ถ้าสนิทจริงๆ จะไม่เยอะ แต่พอเหตุการณ์นี้ ด้วยความที่ว่ามันมีเพื่อนทั้งสนิทและสนิทมาก มันมีเลเวลความสนิท บางทีเขาอาจจะทำไปด้วยความคึกคะนองหรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่ก็ไม่เป็นไร ถือว่าเกิดไปแล้วทำอะไรไม่ได้ ต่อให้เรียกตัวมา ข่าวก็ไม่ได้หายไป (ถ้าบอสห้ามมีความรัก เราพร้อมไหมที่จะอยู่ในสังกัด?) พร้อมปฎิบัติค่ะ”