“แอนโทเนีย” ช็อกประชาชนแห่ต้อนรับล้นสนามบินสุวรรณภูมิ ขอบคุณทุกคนที่ทำให้ฝันของตนเป็นจริง เปิดใจยังมูฟออนจากการประกวดไม่ได้ อยากเป็น Miss Universe เหมือนกัน เล่าโมเมนต์จับมือกับนางงามนิการากัว หูดับ รอฟังเรียกชื่อไทยแลนด์ แต่ก็ไม่มี แต่ถึงไม่ได้มงก็ได้ใจคนไทย
แม้จะไม่ได้มง 3 ตามที่หวัง แต่ “แอนโทเนีย โพซิ้ว” ก็สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับคนไทยในรอบ 35 ปี คว้าตำแหน่งรองอันดับ 1 Miss Universe 2023 กลับบ้าน วันนี้ (26 พ.ย.66) มีประชาชนต้อนรับแอนที่สนามบินสุวรรณภูมิมากมาย หลังจากที่ แอนโทเนีย ได้กล่าวทักทายพูดความในใจกับแฟนๆ ที่มากันมาต้อนรับล้นหลามในวันนี้ แอนโทเนีย ได้เปิดใจกับสื่อมวลชนว่าตนรูัสึกช็อกมากที่มีคนมาต้อนรับตนมากมายขนาดนี้ พร้อมร้องเรียกชื่อตน
“แอนช็อกตั้งแต่ออกมาจากเครื่องแล้วมีคนรอต้อนรับเยอะมากเลย ขอบคุณทุกคนมากๆ เลยนะคะที่มาต้อนรับแอนกลับมาบ้านแล้ว ตื้นตันภูมิใจมากๆ แอนไม่เคยคิดเลยว่า จะมีคนมาต้อนรับแอนเยอะขนาดนี้ แฮปปี้และติ่นเต้นตลอดเวลา แฟนคลับทุกคนจะมีพื้นที่ในหัวใจแอนเสมอ เหมือนเป็นอีกครอบครัวของแอนที่มั่นใจในความสามารถของแอน เห็นการเดินทาง เห็นพัฒนาการของแอน ทุกครั้งที่แอนทำอะไร แอนทำมากกว่าเพื่อตัวเอง แอนทำเพื่อทุกคนที่ติดตามแอนด้วย มันมีความหมายสำหรับแอนมากๆ"
"หลายคนชอบถามทำไมแอนชอบใส่ชุดไทยออกงานใหญ่ๆ ทำไมไม่ใส่สูท สำหรับแอนการสวมชุดไทยเหมือนเป็นการส่งพลังให้กับแอน มันมีเรื่องราวมีประวัติศาสตร์ ให้ทุกคนได้เห็นความสวยงามบนผ้าไทย สร้างอินเนอร์ให้แอน แอนจะไม่เปลี่ยนค่ะ ทุกครั้งที่แอนไปไหน มีงานสำคัญอะไรแอนก็จะใส่ชุดไทย มันคือ soft power การที่ได้โชว์ความเป็นไทย“
แม้จะไม่ได้มง แต่ก็ภูมิใจมากทึ่ได้สร้างพลังและแรงบันดาลใจให้ผู้คน
”มันยิ่งใหญ่ ใช่แอนชนะรองอันดับ 1 แต่มันไม่ได้แปลว่าเราไม่ได้เป็นจักรวาลสำหรับคนอื่น เราได้มีอพลตฟอร์มที่จะช่วยเหลือคนอื่น มันมากกว่าแค่มงกุฎ มากกว่าแค่สายสะพาย มันเป็นแพลตฟอร์มที่เรามี ที่เราเลือกที่จะส่งพลัง สร้างแรงบันดาลใจให้คนอื่น"
"เป็นโมเมนต์ที่แอนจะทำให้ดีที่สุด ไม่ใช่แค่เพื่อตัวเองหรือเพื่อประเทศของเรา เพื่อจะเป็นตัวอย่างให้ทุกคน ถ้าเรามีความฝันพร้อมที่จะสู้มัน สเต็ปแรกเราต้องมั่นใจในตัวเอง และความสามารถของตัวเอง เราไม่ต้องเปลี่ยนโลกใบนี้ภายใน 1 วัน แค่ถ้าเราร่วมมือและมั่นใจในตัวเอง แอนเชื่อว่าจากนี้ไปทุกคนจะร่วมมือและไปกับแอน ขอให้ทุกคนไปกับแอนนะคะ"
เล่าถึงโมเมนต์จับมือก้บนางงามนิการากัว หูดับ รอฟังเรียกชื่อไทยแลนด์
”หัวใจวูบลงมาเลย แอนเหมือนไม่ได้ยินอะไรเลยตอนที่จับมือ ตอนที่ได้ยินคนกรี๊ด มันเหมือนเราหูดับ รอให้เขาพูดว่าไทยแลนด์ แต่เขาก็ไม่พูดไทยแลนด์เสียที พูดนิการากัว แต่ก็ยินดีกับนิการากัวมากๆ เราก็เต็มที่ เต็มใจ ทำทุกอย่างแต่มันไม่ใช่ตามที่เราฝันไว้ หวังไว้ ก็เสียใจนิดนึง"
"แอนได้เห็นรีแอคชั่นของทุกคน ทุกคนตื่นเต้น แล้วก็เหวอ… แอนก็เหมือนกันค่ะทุกคน แบบนั้นเลย แต่ก็ไม่เป็นไร เรายังมีอีกหลายอย่างที่ได้ทำด้วยกัน นางงามจักรวาลไม่ได้เป็นจุดสุดท้ายของเรา แอนบอกเสมอว่าถึงเราไม่ชนะแต่มันก็ได้เป็นบทเรียนรู้ให้เราพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นทุกวัน ไปหาความฝันอีกอ้นนึงก็ได้ เราไม่ได้จะต้องหยุดแค่ตรงนี้“
อย่าว่าแต่แฟนนางงามไม่มูฟออน “แอนโทเนีย” เองก็ยอมรับว่าตนก็ยังไม่มูฟออนจากเวทีเหมือนกัน
”จริงๆ แอนได้ยินคำว่ามูฟออนหลายรอบแล้ว แอนเชื่อว่าทุกคนมีโมเมนต์ของตัวเองที่พร้อมจะมูฟออน เราไม่ต้องบังคับทุกคนว่าต้องมูฟออนแล้ว มันผ่านมาแล้ว เพราะหลายคนมีแพชชั่นไม่เหมือนกัน มีความหวังไม่เหมือนกัน ขนาดตัวแอนเองตอนนี้ก็ยังไม่ได้มูฟออน แอนยังยอมรับไม่ได้ แต่ว่าแอนก็ยินดีกับผู้ชนะอยู่แล้ว แอนก็อยากจะเป็นมิสยูนิเวิร์สเหมือนกัน ทุกคนก็อยากจะให้แอนเป็นมิสยูนิเวิร์สเหมือนกัน เราก็ไปต่อในเวย์ของเรา สร้างความแฮปปี้ให้ตัวเองอีก เหมือนตอนทึ่เราอกหัก มีอะไรเกิดขึ้นในชึวิต มันเป็นแค่โมเมนต์เดียวที่เราเสียใจ แต่ไม่ใช่ว่าเป็นชีวิตที่ไม่ดี เรายังมีอีกหลายโมเมนต์ที่ทำให้เราแฮปปี้ ตื่นขึ้นมาแล้วมีความสุข"
"แอนพยายามทำทุกวันให้เต็มที่เพื่อทุกคนที่ภูมิใจในตัวแอน การที่มีคนภูมิใจในตัวแอนทำให้แอนมีพลังลุกขึ้นมาทำเต็มที่ในทุกวัน มันมีผลกับใจแอนสุดๆ จากนี้แอนก็ยังจะทำงานการกุศลในฐานะมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ไปเรื่อยๆ ถ้ามีโอกาสดีๆอะไรเข้ามาแอนก็เลือกที่จะลองดู”
ถึงไทยอยากทานข้าวกระเพราไข่ดาวมากที่สุด แล้วก็ขนมจีนน้ำยาไก่
“อาหารไทยค่ะ oh my god ไม่ใช่ว่าอาหารทึ่โน่นไม่ดี ม้นอร่อย แต่แอนชอบความแซ่บ ความเผ็ด มันขาดไปนิดนึง อยากินข้าวกระเพราไข่ดาวมากที่สุด แล้วก็ขนมจีนน้ำยาไก่”
กับประเด็นภาครัฐเตรียมผลักดันนางงามเป็น soft power “แอนโทเนีย” มองว่านางงามมีศักยภาพอย่างไรบ้าง….
“หลายคนจะถามว่านางงามสำคัญคืออะไร แอนเชื่อว่าในการแข่งขันที่ผ่านมา การที่เราเป็นนางงาม เราเป็นแรงบันดาลใจให้หลายคนที่จะมาอิมแพคในเรื่องของ soft power การที่เราเอาอะไรมาขาย แอนไม่ได้โชว์ที่กล้องว่าต้องซื้อ เพียงแค่ใส่ชุดไทย กินน้ำพริก ยิ้ม ไหว้ อะไรเล็กๆ น้อยๆ มันมีอิมแพคกับคนรอบข้างเรา ถ้าเราสร้างรอยยิ้มให้เขา มันก็จะอิมแพคไปเรื่อยๆ“
ขอบคุณทุกคนที่ทำให้ฝันของเป็นจริง มีคนมาร้อง มากรี๊ดเรียกชื่อตน จากนี้ไม่ได้อยากเป็นคนที่เซย์ฮัลโหลแล้วก็เดินไป แต่ตนอยากเป็นเพื่อน อยากเป็นครอบครัวกับทุกคน
“ขอบคุณทุกคนมากๆ เป็นการเดินทางของแอน แอนไม่คิดเลยว่ามันจะเป็นความจริง คิดว่ามันเป็นแค่ความฝันอย่างเดียว แอนจำได้ว่ามีนางงามจักรวาลที่เดินมาตอนไปสนามบิน แอนคิดกับตัวเองว่า อยากรู้จังเลย ความรู้สึกแบบนี้ที่มีคนมากมายมากรี๊ดชื่อเรา รักเราขนาดนั้น แอนไม่คิดเลยว่าแอนจะมีจุดนี้ แล้วมันเป็นแอนจริงๆ ขอบคุณทุกคนที่ทำความฝันอันนี้ให้แอนเป็นจริง แอนหวังว่าแอนจะทำทุกอย่างให้ทุกคนภูมิใจได้ แอนไม่ได้อยากเป็นคนที่เซย์ฮัลโหลแล้วก็เดินไป แอนอยากเป็นเพื่อน อยากเป็นครอบครัวของทุกคน"
"ขอบคุณทุกคนมากๆ นะคะ แอนได้ยินเสียงกรี๊ดของทุกคนจากที่นี่ไปถึงเอลซัลวาดอร์เลยค่ะ แอนทำให้ดีที่สุด เพื่อที่จะมาโชว์วัฒนธรรมของคนไทย รอยยิ้มของคนไทย ใจของคนไทยที่รับทุกคนมาในประเทศเรา กับรอยยิ้ม แอนไม่ได้มากกว่าใคร ไม่ได้เหนือกว่าใคร แอนเท่ากับทุกคน เท่ากับทุกคนที่คนอยู่ตรงนี้ ยืนอยู่ในใจของแอน และวันนี้เป็นแค่วันแรกในอีกหลายๆ วันที่เราจะเดินทางไปด้วยกันนะคะ"
"ถ้าไม่มี 2 คนนี้ แอนจะไม่มีความมั่นใจที่มายืนตรงนี้และทำให้ดีที่สุด มีหลายวันที่แอนไม่มั่นใจในตัวเอง แอนไม่รู้จะไปมันต่อได้ไหม ไม่รู้ว่าสู้ได้ไหม แต่ว่ามีม๊ามี้ และแม่ปุ้ย ที่สู้กับแอนมาตลอด และผลักดันแอน และเป็นกำลังใจให้แอนทุกวัน บอกว่า ทำไปเลยไม่ต้องสนใจใครพูดอะไร ทำให้ดีที่สุด มันทำให้แอนเห็นว่าไม่ต้องไปสนใจกับคำพูดลบๆ ของคนอื่นเพราะสุดท้ายความฝันของเรา เราเป็นคนเดียวที่ทำให้ความฝันของเราเกิดขึ้นได้ แล้วเราควรโฟกัสไปกับคนที่รักเรา และขอบคุณแม่ปุ้ยกับม๊ามี้มากๆ เลยนะคะ ที่มั่นใจในความสามารถของแอน แอนอาจจะไม่ได้คว้าตำแหน่งของมิสยูนิเวิร์ส แต่ว่าแอนเชื่อว่าแอนได้คว้าหัวใจของคนไทยทุกคน“