เป็นหนึ่งในประเด็นสังคม ว่าด้วยเรื่อง.
... ... มงจบ คนไม่จบ ....
สิ้นเสียงการประกาศสถานะของ Miss Universe 2023 ว่าผู้ที่ได้ครอบครองมงกุฎผู้หญิงที่สุดในจักรวาล คือ “เชย์นิส อาลอนโด ปาลาซิออส กอร์เนโฆส” นางงามจากประเทศนิการากัว
ขณะที่ “แอนโทเนีย โพซิ้ว” ของไทย มาไกลที่สุดได้เพียงแค่ตำแหน่งรองอันดับ 1 แต่ก็ถือว่าเป็นตำแหน่งที่ใกล้กับ Miss Universe มากที่สุดในรอบ 35 ปี นับจากวันที่ “ปุ๋ย-ภรทิพย์ นาคหิรัญกนก” คว้ามงที่ 2 ของจักรวาลมาฝากคนไทย
เข้าใจความรู้สึกของคนไทยเลยว่า ยิ่งเฉียดเท่าไหร่ ก็ยิ่งเจ็บใจมากเท่านั้น
เพราะ แอนโทเนีย คือความหวังของคนไทย ที่จะสามารถคว้ามงที่ 3 มาครอง ด้วยคุณสมบัติที่ครบเครื่อง และใกล้เคียงความจริง ที่จะได้ครองตำแหน่ง Miss Universe มากที่สุดในบรรดาตัวแทนสาวไทยในรอบหลายๆ ปีที่ผ่านมา
ยิ่งเมื่อมีการเทียบฟอร์มกันแบบตัวต่อตัวแล้ว ต้องบอกว่าสาวงามของไทยสมควรที่จะชนะขาด แต่เมื่อผลออกมาแบบนั้น ก็ต้องยอมรับในคำตัดสินของคณะกรรมการ
งานนี้จึงตามมาด้วยดรามาถล่มทลาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสวยไม่สมมง , ใช้ล่ามแปลภาษา กินเวลาในการตอบคำถามในรอบไฟนอล
และใดๆ เลย ก็คือลามไปถึงว่ามีเรื่องเกี่ยวกับธุรกิจ และการเมืองของเวทีเข้ามาเกี่ยวข้อง อย่างที่ได้ยินกันมาทุกปี
ความพ่ายแพ้แบบค้านสายตาของ แอนโทเนีย เลยพาให้ทัวร์ไปจอดลงตรงหน้า “แอน-จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์” แห่ง JKN GLOBAL ในฐานะที่เป็นเจ้าขององค์กร และเจ้าของเวทีการประกวดสาวงามระดับจักรวาล ที่ถูกค่อนว่าเป็นเจ้าของเวทีแท้ๆ ทำไมถึงปล่อยให้มงถูกแย่งไปต่อหน้าต่อตา
การออกมาไลฟ์สดสยบดรามาของ แอน ด้วยวรรคทองที่ว่า
“ไมได้ซื้อเวทีมาเพื่อโกงใคร”
ก็นับว่าเป็นตรรกะที่ถูกต้องจริงๆ คือถ้า แอนโทเนีย จะได้มง ก็ควรจะได้เพราะความสามารถของตัวเอง ซึ่งจะเป็นชัยชนะที่ใส สะอาด สมศักดิ์ศรี และสง่างาม มากกว่าขึ้นชื่อว่าได้ตำแหน่ง เพราะเจ้าของเวทีที่เป็นคนไทยเหมือนกัน
และหลายคนอาจจะลืมไปว่า จริงๆ แล้ว แอน-จักรพงษ์ เป็นเจ้าของเวทีมาตั้งแต่เมื่อปีก่อน ที่ “แอนนา เสืองามเอี่ยม” เป็นตัวแทนประกวด และไมได้ตำแหน่งใดๆ ติดมือกลับมาเลยซ้ำ ถ้าจะดรามากันเรื่องเป็นเจ้าของเวที แต่ปล่อยให้คนไทยยังชวดมง ก็ควรจะดรามากันมาตั้งแต่เมื่อปีก่อน
ในขณะเดียวกัน แม้ แอนโทเนีย จะไม่ได้มงกุฎ แต่ก็เชื่อว่าเธอจะได้รับการยอมรับในฐานะของ Miss Universe ในหัวใจของคนไทยอยู่ดี
ประเด็นสำคัญ ก็คือ Miss Universe ดูจะเป็นแสงสว่างเดียวของ แอน ที่จะสามารถพลิกฟื้น JKN ที่กำลังซวนเซอยู่ ให้กลับมาผงาดได้อีกครั้ง
เพราะพิจารณาจากธุรกิจทั้งหมดในมือของ JKN ทั้งช่องทีวีที่ซื้อมา ก็น่าจะไปไม่ได้ไกลกว่านี้ ซีรีส์อินเดียวที่เคยเฟื่องฟูอยู่พักใหญ่ ตอนนี้ก็แทบจะถูกลืมไปแล้ว
แม้ใครจะมองว่า แอน มาซื้อกิจการขององค์กร Miss Universe ในขณะที่เป็นขาลง กระทั่งเจ้าของเดิมยังแบกไม่ไหว
หรือแม้จะมีดรามาทุกปี แต่ก็ไม่มีใครปฎิเสธความยิ่งใหญ่ของเวที และความศักดิ์สิทธิ์ของมงกุฎ ที่สาวงามทั่วโลกถวิลหาที่สุดในบรรดาเวทีประกวดระดับโลกทั้งหมดตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน
ถ้าไม่มีดรามาอะไรเลยต่างหาก ที่น่าเป็นห่วง เพราะเท่ากับว่าเป็นคอนเทนต์ที่ไม่ได้รับความสนใจ เป็นรายการที่ไม่มีคนดู
เชื่อว่า แอน เอง ก็มองเห็นโอกาสตรงนี้ จากเวทีนี้ บวกกับความเชื่อมั่นในศักยภาพของตัวเอง ว่าจะสามารถผลักดันให้เวทีนี้ ต่อยอดธุรกิจของ JKN ออกไปได้อีกยาวไกล
ผู้จัดการ 360 องศาสุดสัปดาห์ ฉบับ 25 พฤศจิกายน – 1 ธันวาคม 2566