“อ.เอก ฝ่ามือพลังจิต” รักษา “เมฆ วินัย” โวรักษาคนเป็นหมื่น เตรียมขอขึ้นทะเบียนศาสตร์พลังจิต ขอพื้นที่โชว์ศาสตร์ โบ้ยลูกศิษย์เรียกเงิน ส่วนตนได้แค่ค่าครู “ธนกฤต” พิสูจน์จะจะกลางรายการ
กรณีโลกโซเชียลเผยแพร่คลิปการรักษาผู้ป่วย ของ “อาจารย์เอก ฝ่ามือพลังจิต” ที่อ้างว่าสามารถรักษาผู้ป่วยโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท และผู้ที่มีอาการปวดคอ บ่า ไหล่ โดยวิธีการตบ-ถีบจนหายจากอาการป่วยได้ นอกจากนี้ อาจารย์เอกยังได้ช่วยรักษา “เมฆ วินัย ไกรบุตร” ที่เผชิญปัญหาการรักษาโรคตุ่มน้ำพองมานานหลายปี
รายการโหนกระแส ออกอากาศวันที่ 15 พ.ย. 66 ดำเนินรายการโดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 สัมภาษณ์ อ.เอก ฝ่ามือพลังจิต มาพูดคุยถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น มาพร้อม นพ.ณัฐพงศ์ วงศ์วิวัฒน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข และ นายกองตรี ดร. ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำรองนายกรัฐมนตรี
วันนี้ถามแบบตรงไปตรงมา อาจไม่เหมือนตอนช่อง 28 เพราะประเด็นร้อนแรง ไม่โกรธกันนะ?
อ.เอก : ไม่โกรธครับ
ลูกศิษย์ลูกหาอาจารย์ หรือใครก็ตาม อย่านำเรื่องราวที่ออกรายการวันนี้ แล้วบอกว่าผ่านการพิสูจน์จากรายการโหนกระแสแล้ว เหมือนที่มีการเอาไปโปรโมตก่อนหน้านี้?
อ.เอก : ก็ขออนุญาตขอโทษ เพราะในเพจที่เขาทำ อาจารย์ไม่ได้เป็นคนเข้าไปดูแล อาจารย์แจ้งเรียบร้อยแล้ว เขาแก้ไขหมดแล้ว ด้วยเป็นเพจลูกศิษย์ที่ทำ เราก็แจ้งแล้วว่าอย่าไปทำ ตั้งแต่คุณหนุ่มพูดออกไป เราก็แก้ไขเรียบร้อยแล้ว
พูดออกไปเมื่อวาน แต่อยู่มาหลายปี?
อ.เอก : เหรอฮะ เขาเปลี่ยนเรื่อยๆ เลยไม่ได้ติดตาม
พลังที่อาจารย์รักษา คือยังไงกันแน่?
อ.เอก : ยินดีมากที่ได้มีโอกาสมาให้ข้อเท็จจริง เพราะหลายคนคิดออกไปหลายอย่าง เริ่มต้นอย่างที่เคยบอก อาจารย์เป็นฤาษี ปัจจุบันครบ 32 กว่าปี เราเข้าสู่การพัฒนากระบวนการทางจิต มันก็ลำดับขั้นของมันจนเรารู้ว่าจิตของเราไปทำอะไรได้บ้าง เรามีโอกาสทดลองใช้ ช่วงที่ผ่านมาอาจารย์ไม่เคยอยู่ประเทศไทย ส่วนใหญ่อยู่ต่างประเทศที่เขาเชิญไปแต่ละที่ หลังออกโหนกระแสของคุณหนุ่มไป กระแสมาสักระยะนึง มีการตรวจสอบจากกระทรวงสาธารณสุข ของเพชรบุรี อาจารย์ก็บอกแล้วว่าไม่ได้รักษา ไม่ได้เปิดศูนย์ ไม่ได้เปิดสถานพยาบาล ไม่ได้เปิดอะไร แต่เราอยู่บ้านตรงนี้ พอออกข่าวไปคนก็แห่มาหาเรา จนอาจารย์ต้องแจ้ง ขอเถอะอย่ามาหาอาจารย์เลย แต่ตอนนี้ตั้งใจทำศาสตร์นี้ให้ขึ้นทะเบียน
ศาสตร์อะไร?
อ.เอก : ศาสตร์พลังจิต ในเรื่องของการรักษา ตอนนี้เรียบเรียงเอกสารเรียบร้อย กำลังรวบรวมเอกสารทุกอย่างเพื่อเข้าไปขอยื่นจดทะเบียนในทางการแพทย์ ไม่ใช่ว่าไม่ได้ทำนะ เริ่มทำแล้ว เริ่มรวบรวมเอกสารแล้ว
จะบอกว่ารักษาผู้ป่วยหายได้จริงเหรอ?
อ.เอก : หายได้จริงครับ
พูดแบบนี้จะมัดตัวเอง?
อ.เอก : ไม่มัดครับ ยินดีพิสูจน์ ถ้าทำไม่ได้จริงจะยอมถอย และไม่ทำอะไรอีกเลย
ถ้ามีคนใดไปรักษากับอาจารย์แล้วอาจารย์บอกว่ารักษาหาย แต่เขาไม่หายแล้วเขามาร้อง มีสิทธิ์คุกนะอาจารย์?
อ.เอก : เข้าใจ การที่เรามา เราไม่ได้บอกว่ารักษาหาย แต่คนป่วยที่เข้ามาให้เราช่วยเหลือ เขาเป็นคนพูด เขาเป็นคนบอก ฉะนั้นเราทดสอบแล้วหลายๆ เคส อย่างเคสดาราดัง ตลกดัง แม้กระทั่งหมอ เป็นรองผอ.รพ.ก็มา เจ้าของรพ.ก็มา แต่ไม่ได้หายทุกคน
เป็นรพ.ของรัฐด้วยหรือเปล่า?
อ.เอก : ด้วยครับ เส้นทางที่อาจารย์พิสูจน์ มันพิสูจน์ได้ เหมือนสาธารณสุข ก็ไม่สามารถรักษาให้หายได้ทุกคน ถ้าหายคงไม่มาหาอาจารย์ มันก็มีวาระของแต่ละคน แต่ละโรค โรคไหนที่เราเป็น เราทำ อย่างปวดคอ ปวดหลัง ทุกคนก็บอกเอง ไม่ใช่เราเป็นคนบอก อาจารย์ประกาศว่ารักษาเพราะกำลังจะขอขึ้นทะเบียน เราต้องใช้ข้อมูล
ตั้งแต่อาจารย์มาออกโหนกระแส อาจารย์เริ่มรักษาอยู่แล้ว?
อ.เอก : เขาเชิญ
จากวันนั้นถึงวันนี้กี่ราย?
อ.เอก : เป็นหมื่นราย เขามาหาผมและเขาเชิญผมไป
โฆษณาออกมาได้ยังไง?
อ.เอก : มีกลุ่มนึง ลูกศิษย์เขาไปเจอเรา ตอนนั้นใส่ชุดฤาษี เขาก็พาคนจีนมา
ทำไมไม่ใส่ลายเสือ?
อ.เอก : ฤาษีไม่เหมือนใคร เป็นเอกลักษณ์ของผมเอง ฤาษีใส่ลายเสือ เอามาจากไหนครับ นั่นคืออาชีพฤาษี ไม่ใช่ฤาษีมืออาชีพ การแต่งตัวเราไม่ก้าวล่วง ฤาษีมีสองประเภท บำเพ็ญพรตและบำเพ็ญเพียร เบื้องต้นอาจาย์บำเพ็ญพรตแล้วต่อมาก็บำเพ็ญเพียร ฉะนั้นฤาษีไม่อยู่ที่เครื่องนุ่งห่ม ชุดธรรมดาก็เป็นฤาษีได้
ศาสตร์นี้อาจารย์เรียนมาจากไหน?
อ.เอก : ด้วยตัวเอง เราพัฒนาจิตของเรา นั่งกรรมฐาน ฝึกจิตฝึกสมาธิอยู่ในป่าในเขา ในถ้ำ
เป็นวิชาผีบอกเหรอ?
อ.เอก : ไม่ครับ จิตเราเป็นคนสัมผัสเอง มันเป็นความบังเอิญ
เหมือนนวดแผนไทยมั้ย?
อ.เอก : น้อยมากที่จะเอาแพทย์แผนไทยมาเกี่ยวข้อง เพราะอาจารย์ใช้ในเรื่องของการลูบ แล้วพลังออกไป
เหมือนเครื่องกายภาพ ที่เหมือนเป็นหัวอัลตร้าซาวด์?
อ.เอก : ก็ทดลองดู ถ้าคุณหนุ่มปวดไหล่ ก็เอามือสัมผัส
หายเลย?
อ.เอก : คนป่วยก็มาพิสูจน์ได้ สิ่งที่อาจารย์ทำเข้าใจว่าไม่มีใครเชื่อหรอก เพราะเพิ่งเป็นศาสตร์แรก
ธนกฤต : พลังจิตผ่านมือ แต่ผ่านไปที่เท้าด้วยเหรอ
อ.เอก : ใช่ครับ ไม่ต้องจับ ไม่สัมผัสก็ได้
ตอนทำให้นักข่าว อาจารย์ไม่ได้ถอดถุงเท้า?
อ.เอก : มันผ่านจิตเรา แต่บางทีเราจะเคลื่อนย้ายร่างกายมนุษย์ ส่วนไหนสะดวกเราถึงใช้ แม้แต่โทรศัพท์ ใช้ผ่านวิดีโอคอล อาจารย์ก็ช่วยมาแล้ว มีคลิปเยอะแยะ คนป่วยที่อยู่ในรถแอมบูแลนซ์ ลูกศิษย์ของอาจารย์ที่มาเลเซีย แม่เขาหัวใจวาย หายใจไม่ได้ หมอปั๊มหัวใจแล้วยังช่วยไม่ได้ วิดีโอคอลมาสามสาย
อาจารย์เคยวิดีโอคอลรักษาทางไกล งั้นอาจารย์ก็รักษาผ่านทีวีได้สิ?
อ.เอก : ได้ครับ อยากให้พิสูจน์ ทุกคนทำแล้วมันพิสูจน์ได้ ถึงบอกว่าอยากให้ทุกศาสตร์ ทุกสถาบันมาคุยกัน มาดูว่าศาสตร์นี้มีความสามารถที่จะช่วยได้มั้ย ซึ่งอาจารย์ถ่ายทอดให้ลูกศิษย์ได้ด้วย ทำแล้วเห็นผลได้ อาจารย์ถึงขอขึ้นทะเบียน
ทำไมก่อนไปขึ้นทะเบียน ไปขออนุญาต อาจารย์ไม่หยุดรักษาเสียก่อน?
อ.เอก : ถ้าอาจารย์เอกเดินไปบอกว่าขอขึ้นทะเบียน ผมเป็นหมอ ผมรักษาตรงนี้ได้ เขาจะเชื่อมั้ย ก็ต้องรักษาให้เห็นก่อน ถ้าไม่ประกาศรักษา จะมีเคสนที่ไหนมา
แต่การที่เขาให้ขึ้นทะเบียนไม่เกี่ยวกับการรักษาได้หรือไม่ได้ ต้องดูเรื่องการศึกษาต่างๆ นานา อยู่ดีๆ อาจารย์ไปยื่นตอนนี้ ถ้าเขาถามอาจารย์ว่าเอามาจากไหน บอกว่านั่งสมาธิ แล้วจิตบอก เขาจะให้จดเหรอ?
อ.เอก : ก็ต้องมีวิธีการพิสูจน์ ตอนนี้กำลังเรียบเรียงเอกสาร ข้อมูล อาจารย์ไม่ได้ทำงานคนเดียว มีลูกศิษย์ที่เขาเป็นหมอ เป็นแพทย์แผนไทย แผนปัจจุบันก็มี ทนายความก็มี ตอนนี้เรากำลังดำเนินการ ตอนนี้เรากำลังจดลิขสิทธิ์เรื่องศาสตร์พลังจิต จดเรียบร้อยแล้ว ได้เรียบร้อยแล้ว จดที่กรมทรัพย์สินทางปัญญา
นพ.ณัฐพงศ์ : ประเด็นที่พูดว่าก่อนไปขึ้นทะเบียน ใครก็ได้ที่จะไปทำกับประชาชนทั่วไป ตรงนี้ถือเป็นการทดลองกับมนุษย์ เป็นสิ่งที่อันตราย เพราะเราไม่เคยมีวิชานี้มาก่อนเลย เหมือนวันนี้เราจะผลิตยา เรายังมีขั้นตอนการขอ ทดลองในสิ่งไม่มีชีวิต ทดลองในสัตว์ก่อนมาที่มนุษย์ ต้องขอคณะกรรมการอีก สิ่งที่ท่านทำมา ถือว่าผิดหลักการทดลองทั้งหมด ต้องมีครู มีอาจารย์ ผู้สอน พิสูจน์ได้ทุกอย่าง วันนี้ยังไม่สามารถแสดงอะไรได้ออกมา
อ.เอก : อันนี้ผมยอมรับว่าด้วยผมไม่มีความรู้ตรงนี้ ผมก็มาซื่อๆ ดื้อๆ ปีนี้ผมเพิ่งมีแนวความคิดว่าเราอยากขอขึ้นทะเบียนตรงนี้ เราก็คิดแค่ว่าเรามีหลักฐานอะไรเพื่อยืนยัน เพราะพลังจิตไม่รู้จะพิสูจน์ยังไง ผมก็มองว่าตัวผมไม่มีครูบาอาจารย์สอนเรื่องการรักษาเหล่านี้ ของผมเพิ่งเป็นคนแรกที่ทำได้ เหมือนเคสตาบอด เส้นเลือดตีบต่างๆ นานา เหมือนที่อาจารย์ยกตัวอย่างว่ารองนายแพทย์รพ.รัฐแห่งนึง ก็เชิญท่านมาได้ ท่านก็มองเห็นได้ ใช้ชีวิตได้ ขับรถมาหาอาจารย์ได้
แต่ยายเสาร์ อาจารย์บอกว่ารักษาได้ แต่สามวันก็มองไม่เห็นอีก?
อ.เอก : ยายเสาร์เขาบอดสนิท รพ.ก็บอกแล้วว่าไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากหยอดตา อ.เอกไปช่วยครั้งแรกเขาก็มองเห็นเป็นเงาเป็นลาง พอครั้งที่สองเขาสามารถมองเห็นลูกหลาน จนกอดคอกันร้องไห้ได้ มีคลิปเยอะแยะ แต่ทำไมไม่เอามาลง อาจารย์ก็บอกแล้วว่ายาย อาจารย์มาก็หมดเงินเยอะนะ ยายมีเงินแล้วก็ให้คณะกรรมการเขาเบิกเงินเช่ารถมาหาอาจารย์ก็ได้ เดี๋ยวอาจารย์ช่วยต่อ ไม่งั้นก็กลับมาเป็นอีก ฉะนั้นคือกระบวนการช่วยเหลือค่อยๆ พัฒนาไปเรื่อยๆ ไม่ได้บอกว่าเขาจะหายร้อยเปอร์เซ็นต์ คนป่วยเขาพิสูจน์เอง อย่างแกขายลอตเตอรี่ แกยังมองออกว่าเป็นสีอะไร ถ้ามีคุณหมอมาแนะนำ มีวิธีไหนเราจะแก้ไขได้ ผมยินดี
อาจารย์พูดตั้งแต่รอบก่อนที่มาออก?
อ.เอก : รอบนั้นไม่ได้รักษานะ แต่เขาเชิญผมไปต่างประเทศมากกว่า
แต่อาจารย์รักษามาตลอด?
อ.เอก : เขาไปหาเรา เราปฏิเสธได้มั้ย
ได้สิ บอกเลยว่าไม่ขอรักษา เดี๋ยวคุกนะ?
อ.เอก : คนมาหาอาจารย์ เขาป่วยมา เขาลำบากมา บางทีป่วยไม่ได้เกิดจากการป่วย ไปตรวจหาหมอหมดแล้วทุกอย่าง
อาจารย์ไปออกรายการแฉ อาจารย์จับมดดำด้วย มดดำก็ยังคอแก๊งๆ อยู่?
อ.เอก : แล้วดูคุณน็อตสิครับ คุณน็อตเขาบอกว่าหายว่ะ ลองดูคลิปสิ
หลังจากนั้นเขาเป็นอีก?
อ.เอก : ไม่รู้สิครับ อาการป่วยของคนมันเป็นได้ อย่างหมอรักษามะเร็ง บอกว่าหายแล้ว ปกติแล้ว ตรวจสอบอีกที 3 ปีก็เป็น ปีนึงก็กลับมาเป็น ศาสตร์มันขึ้นมาใหม่ ทำไงถึงจะมีประโยชน์ ผมคิดแค่นี้
เอาอะไรมา?
อ.เอก : เป็นอาวุธประจำกาย มันเป็นคฑาที่เราใช้ บางคนโดนคุณไสยมา โดยของมา เราก็ใช้ลงอักขระ ลงทอง เป็นปู่ฤาษีที่เรานับถือ เป็นบรมครูปู่ฤาษี
การรักษาแบบนี้ ไม่ได้เป็นการนวด จับเส้น หรือรีดแบบแพทย์แผนไทย อาจารย์ใช้พลังอย่างเดียวเลยเหรอ?
อ.เอก : ถูกครับ อาจารย์ใช้การเสก ตรงนี้ใช้เรื่องพลังจิต วิชาอาคมการเสก เหมือนเราชกมวย ถ้าปล่อยไปก็ไม่มีสิทธิ์น็อกคนได้ แต่ถ้าพูดคำว่าเพี้ยง มันก็จะมีพลังมากขึ้น เราก็ใช้พลังตรงนี้ขับเคลื่อนเข้าสู่ร่างกายคนป่วยที่เราช่วย กระดูกทุกอย่างก็สามารถเคลื่อนได้ เส้นเอ็นก็สามารถเคลื่อนได้ อย่างเคสเมื่อกี้ สุดท้ายเขาถือไม้เท้ามา เขาก็วิ่งได้ ทำระยะเวลาไม่ถึง 2 นาที ตอนมาถือไม้เท้าเดินเหมือนเป็ดมาเลย ก็ให้ตรงนี้เป็นคำตอบ
เป็นเรื่องจิตนำกายหรือเปล่า?
อ.เอก : ก็ให้เขามโนว่าเขาหายได้มั้ยครับ ก็ลองให้คนสายตาสั้น หรือพร่ามัว กระดูกทับเส้นนอนลง แล้วมโนว่าจะหาย มันหายได้มั้ย
ธนกฤต : ตรงนี้เป็นที่ไหน
อ.เอก : นนทุบรี เขาจะเปิดเป็นศูนย์แพทย์แผนไทย อยู่ในช่วงที่เขากำลังจะยื่นขอ ตรงนี้ไม่ใช่ศูนย์ของอาจารย์ ลูกศิษย์เชิญมา โลโก้อาจารย์คือเปิดสอนพลังจิต เริ่มถ่ายทอดพลังจิต เพื่อพิสูจน์ว่าพลังจิตของอาจารย์ สามารถถ่ายทอดให้คนอื่นทำช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ เดี๋ยวจะสาธิตให้ลองทำดู
ธนกฤต : อย่างอาจารย์เขาเรียกว่าอะไร แพทย์ หมอ หรืออาจารย์
อ.เอก : เป็นอาจารย์พลังจิต
ธนกฤต : การรักษาไม่เรียกว่าหมอเหรอ
อ.เอก : ผมไม่ได้เป็นหมอ แต่กำลังจะขอขึ้นทะเบียนเป็นหมอได้มั้ย เราคิดว่าเรามีเคสแล้ว มีลูกศิษย์แล้ว มันครบที่จะไปพิสูจน์ เราไม่ได้เรียนกฎหมาย
ธนกฤต : ในทางการรักษาต้องมีเวชระเบียบ สถานที่ช่วยคน ใช้ที่ไหน
อ.เอก : ไม่มีครับ ที่อุบลฯ เป็นบ้าน รักษาคนโดยเขาเชิญเราไป สมมติลูกศิษย์ป่วย จะเชิญอาจารย์มาได้มั้ย แล้วจะรวบรวมคนให้อาจารย์มาช่วย แต่ละโรคเราไม่รู้เขาเป็นอะไร
รักษาได้หมดทุกโรคเหรอ?
อ.เอก : ไม่ได้ทุกโรค อย่างกระดูกหัก กระดูกหลังหัก กระดูกคอหัก ผ่าตามา เราไม่รู้ว่าโรคไหนรักษาได้ไม่ได้ แต่เขาเชิญเราไปบ้านเหมือนเราเป็นเกจิ เป็นฤาษีที่เขานับถือ อาจารย์มีหน้าที่แค่เชิญไปเราก็มา
ธนกฤต : มีค่าวิชาชีพมั้ย
อ.เอก : ไม่มีครับ เป็นค่าครู คนที่เชิญผมไป เขาเป็นคนจ่ายค่าตัวเรา เหมือนเวลานิมนต์พระเขาก็ใส่ซอง เราไม่ได้ร้องขอ
เห็นว่าอาจารย์เอาน้ำมันไปขาย?
อ.เอก : ไม่มีนะครับ น้ำมันอะไรครับ มีตัวงานวิจัย ที่ทำงานกับทีมวิจัย เป็นแร่ธาตุสกัดสมุนไพร มีขึ้นทะเบียน เลขจดแจ้งถูกต้องตามกฎหมายอาหารเสริม ซึ่งไม่เกี่ยวกัน คนละอย่างกัน พลังจิตก็คือพลังจิต
อาจารย์มองเรื่องนี้ยังไง?
นพ.ณัฐพงศ์ : ในตำแหน่งรองอธิบดี แต่ผมเป็นหมอกระดูก เรียนมา ใช้เวลา 6 ปี ทำงาประสบการณ์ 3 ปี เรียนหมอกระดูกอีก 4 ปี ก็ไม่ใช่ว่าจะรักษากระดูกสันหลังทับเส้นประสาทได้เลยทันที งั้นแสดงว่าแต่ละคนเราต้องมีครู มีวิชาที่ถ่ายทอดและพิสูจน์ได้ สิ่งที่เห็นในคลิปต่างๆ ที่เป็นห่วงคือห่วงประชาชนเข้าใจผิด เราก็รู้ว่าถ้ากระดูกสันหลังทับเส้นประสาท เราต้องทำอย่างไรถึงจะดีขึ้น ถึงปล่อยไว้บางอย่างไม่ตาย ไม่พิการ แต่ก็อาจปวดบ้าง วันดีคืนดีมันเป็นความเสื่อม ก็อาจหายได้ด้วยตัวมันเองก็มี บางเรื่องต้องผ่าตัดคือผ่าตัด ก็อยากให้พี่น้องประชาชนทำความเข้าใจว่า ไม่จำเป็นทุกรายที่บอกผ่าตัดแล้วต้องผ่าตัด บางทีก็หาย มันอาจเป็นเหตุบังเอิญ เหมือนที่อาจารย์บอก อยากให้คนไข้มโนว่าหาย เขาก็เหมือนหาย แต่จริงๆ โรคเขาไม่ได้หาย มันเป็นความเชื่อ ไม่อยากให้เอาความเชื่อของพี่น้องประชาชน ที่เขาเชื่อในระบบการแพทย์มาทิ้งตรงนี้ ทำให้เขาเสียโอกาส ทับเส้นประสาทไม่รุนแรงมาก ถ้าเขาเป็นมะเร็ง เป็นโรคหัวใจที่ฉุกเฉินต่อชีวิต เราจะเสียดายโอกาสนี้กับพี่น้องประชาชน สองสิ่งที่เราได้ทำในวันนี้ อยากเชิญชวนว่าถ้าเรามีศาสตร์มีความรู้จริงๆ ต้องเข้าสู่กระบวนการ ประเทศไทยเรามีพรบ.เกี่ยวกับวิชาชีพอยู่แล้ว ถ้าประชาชนคนไหน มีศาสตร์วิชาที่คิดว่าเข้าตรงนี้และมีคุณสมบัติเพียงพอ ท่านก็ไปจดทะเบียนตรงนั้น ก็จะเป็นผู้รักษาประชาชนได้ถูกต้อง ไม่อยากให้ใช้คำว่ารักษา เพราะถ้าใช้คำว่ารักษาวันนี้ผิดกฎหมายแน่ๆ
อ.เอก : ข้อแรกที่มาหาผม เราไม่ได้บอกว่าเป็นการรักษา เป็นการช่วยเหลือ ดูแล คนมาหาเราแต่ละโรคเราไม่รู้ ส่วนใหญ่แล้วเขาได้รับความทุกข์ทรมาน ไม่ว่าจะหนักหรือเบา เขาไปรักษารพ.มาแล้ว ผมก็ไม่เคยห้ามนะ ไม่มีคำไหนห้ามไปหาหมอ ทุออย่างถ้าควบคู่กันได้ ตัวเรายังไม่เป็นหมออย่างถูกต้อง แต่ตอนนี้กำลังทำตำรา เรียบเรียงอยู่
ธนกฤต : ณ ขณะนี้ศาสตร์ที่อาจารย์พูดถึง เป็นศาสตร์ของคำว่าแพทย์หรือหมอ
อ.เอก : อันนี้ไม่ทราบครับ
ธนกฤต : ถ้าเป็นศาสตร์ทางหมอต้องใช้กฎหมายเรื่องนึงถ้าเป็นศาสตร์หมอ จะมีหมอพื้นบ้าน กับหมอแพทย์แผนไทย กรณีหมอแพทย์แผนไทย ต้องได้รับใบอนุญาตประกอบโรคศิลปะ ซึ่งขึ้นทะเบียนคล้ายแพทย์ แต่มีการพิสูจน์ทราบ มีผลงานวิจัย มีคณะกรรมการวิชาชีพไปตรวจสอบ นี่คือขั้นตอน ต่อมาถ้ากรณีหมอพื้นบ้าน อาจารย์ต้องรักษาประชาชน และมีเวชระเบียน อันนั้นจะเป็นศาสตร์สมุนไพร และพิสูจน์ทราบได้จริง แต่พลังจิต ยังไม่เคยปรากฏว่าจะพิสูจน์ทราบได้อย่างไร ถ้าอาจารย์ไม่ได้เข้าสู่กระบวนการนี้ ข้อกฎหมายเวลานี้ สถานที่ที่เกิดขึ้นในการรักษาก็เหมือนการรักษาพยาบาล แสดงว่าอาจารย์เปิดสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือไม่ แล้วมันเป็นความผิดทางอาญา สองเรื่องของพรบ.เวชกรรม การที่อาจารย์สัมผัสตัว เป็นองค์ประกอบนึงการรักษาเหมือนกัน ก็เข้าความผิดตามเงื่อนไขพรบ.เวชกรรมเหมือนกัน ต่อมาเรื่องแพทย์แผนไทย อาจารย์ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนหรือจดแจ้งใดๆ หรืออยู่ระหว่างการขอ ก็ยังไม่ถือว่าได้รับอนุญาตจากกรมแพทย์แผนไทยเช่นเดียวกัน ต่อมาเรื่องการโฆษณาทั้งหลาย ก็เป็นเรื่องการนำเข้าข้อมูลเข้าระบบคอมพิวเตอร์ไปแล้ว ก็กลายเป็นกฎหมายอีกฉบับ ถ้าอาจารย์รักษาไปเป็นหมื่นๆ คนแล้ว เกิดสมมติมีคนที่เขาหายจริงก็ว่าไป แต่ถ้ามีคนไม่หาย แล้วมีจำนวนมาก องค์ประกอบความผิดในเวลานี้เท่ากับเป็นข้อหาฉ้อโกงประชาชน ทั้ง 5 เรื่องนี้ ผมกำลังสันนิษฐานว่าอาจารย์เข้า 5 เรื่องเลย และเป็นความผิดทางอาญาทั้งหมดเช่นเดียวกัน
ล่าสุดมีคนส่งข้อความมาหาติดต่ออาจารย์ขอรักษา อาจารย์เรียกเขา 5 พัน?
อ.เอก : อาจารย์ไม่เคยพูด มีตรงไหนติดต่ออาจารย์มา ผ่านทางไหน
เขาบอกว่าเคยโทรสอบถามว่าจะไปรักษา มีการแจ้งว่าค่ารักษาครั้งละ 5 พันบาท?
อ.เอก : ถ้าได้ยินจากปากอาจารย์ก็เอาหลักฐานมา ถ้าเป็นเพจที่ลูกศิษย์เขารวมตัวกัน มันก็จะมีฟรี มีเคสที่เขารวมตัวกันมา ก็เป็นเรื่องของเขา
สิ่งที่อาจารย์ตอบออกมา เป็นการเลี่ยง?
อ.เอก : เหมือนเขาเชิญอาจารย์ไปที่งาน เหมือนผู้จัดการดาราจัดคิว ก็ต้องมีค่าผู้จัดการส่วนตัว แต่ทีนี้เขากำหนดเองเรื่องค่าอะไร ไม่ได้เกี่ยวกับอาจารย์
เหมือนตัดตอน ทำไมอาจารย์ไม่บอกว่าถ้าจะให้รักษาห้ามเก็บตังค์แม่แต่บาทเดียว มันจะสง่างาม?
อ.เอก : ไม่ใช่อาจารย์ ลองดูว่าเขาติดต่ออาจารย์หรือเปล่า
แสดงว่าเป็นลูกศิษย์?
อ.เอก : เขารวมตัวกัน เขากินหัวคิวก็เรื่องของเขา ถ้าเคสไหนทำแล้วไม่ดี ก็บอกว่าอย่าไปเอาเขา คืนเขาไปก็มีเยอะแยะมากมาย อาจารย์ก็บอกทุกคนว่าอย่ามาพูดเรื่องเงินกับอาจารย์
ลูกศิษย์พวกนั้นเอาอาจารย์ไปหากิน?
อ.เอก : แล้วแต่เขา
พูดงี้ก็เสียสิ?
อ.เอก : ก็เราเป็นฤาษี ส่วนนึงก็อย่างที่บอก เราช่วยคน เราทำอะไรที่มันดี เราไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน
ธนกฤต : โดยจริงๆ แล้วอาจารย์ควรปรึกษากระทรวงสาธารณสุข แล้วอาจารย์ลองพูดถึงงานที่อาจารย์จะเขียนมาว่าเป็นยังไง
ระหว่างพักเบรก มีคนส่งข้อความเข้ามา เขาเก็บเงินค่ะ อาจารย์คนนี้ คนละ 5 พัน พ่อแม่เราเคยไป นนทุบรี?
อ.เอก : ส่งสลิปมาว่าเข้าบัญชีอาจารย์มั้ย
เก็บเงินสดหรือเปล่า?
อ.เอก : ไม่เคยมี ให้โอนเข้าบัญชีไหน
ตกลง ดูตามหลักสาธารณสุขมองยังไง เข้ามั้ย?
นพ.ณัฐพงศ์ : ไม่เข้าเลยครับ ถ้ามองเรื่องสุขภาพประชาชน ใครก็ตามที่จะไปประกอบกิจกรรมแบบนี้ พรบ.ประกอบโรคศิลปะ พวกนี้ต้องได้ปริญญา 4 ปี ไม่ว่ากิจกรรมบำบัด จิตวิทยา คลินิก มี 9 สาขา อีกสามศาสตร์มาจากเมืองนอก ยังไงต้องมีปริญญา สองพรบ.การแพทย์แผนไทย สำคัญ เหมือนหมอปัจจุบันแต่รักษาด้วยแผนไทย ด้านนวดไทย เภสัชกรรม ผดุงครรภ์ อีกด้านคือหมอพื้นบ้าน ที่อยู่ในพรบ.นี้ ที่เหลืออีก 7 ก็เป็นพรบ.วิชาชีพเวชกรรม เป็นคุณหมอ เป็นเภสัช เป็นทันตแพทย์ เทคนิคการแพทย์ กายภาพบำบัด ตรงนั้นต้องมีความรู้ระดับชาติทั่วโลกยอมรับ ถ้าอย่างท่านที่ทำอยู่วันนี้ การรักษาถ้าจะให้เป็นไปได้มากที่สุด การรักษาคือหมอพื้นบ้าน เข้าหรือเปล่าไม่รู้ แต่ก็ต้องมีครู มีการสืบทอดมา ต้องมีการร่ำเรียน ทำมาเป็นสิบปี อยู่ในสถานที่ ที่การแพทย์แผนไทยเขารับรอง ถ้ามองดูแล้ว สิ่งที่อาจารย์ทำมาก็ไม่เข้าเรื่องหมอพื้นบ้าน ผมสรุปว่าสิ่งที่ทำไม่ได้อยู่ในพรบ.อะไรเลยที่รับรอง การไปแตะต้องตัวคนไข้ อะไรก็ได้ ที่มุ่งหวังต่อร่างกาย ตรวจ วินิจฉัยรักษา ก็ต้องใช้พรบ.นี้ควบคุมหมด ถ้าใครไม่มีวิชาชีพก็ผิดหมด
ธนกฤต : กรณีศาสตร์แพทย์แผนไทย เป็นเรื่องที่ต้องพิสูจน์ทราบ มีคณะกรรมการ เอาแค่เบสิก พื้นๆ เลย แพทย์แผนไทย หนึ่งค่าวิชาชีพต้องไม่มีการเรียกเก็บเลยด้วยซ้ำ ค่าครูก็จำนวนน้อยมาก ต้องมีสถานประกอบการที่ชัดเจน ที่สาธารณสุขจังหวัดสามารถเข้าไปตรวจสอบได้
ถ้าอ.เอก บอกว่าเข้าข่ายหมอธรรม?
นพ.ณัฐพงศ์ : คำว่าหมอพื้นบ้านอยู่ในพรบ.แพทย์แผนไทย ก็ต้องมีวิชาความรู้ที่สืบทอดกันมา อ้างอิงได้ว่ามีครู สอนมากี่ปี 5 ปี 10 ปี
หมอธรรมเข้าไปรักษาคนไข้ตามพื้นบ้าน ไม่มีสิทธิ์ธรรม?
ธนกฤต : ยกตัวอย่างที่ชัดเจน ท่านคำรงวิทย์ เป็นหมอพื้นบ้าน ท่านสืบทอดมา มีครู มีอาจารย์มา ท่านรักษา ท่านก็ไปขึ้นทะเบียน มีใบอนุญาตมา รักษาในพื้นที่ ที่ต้องจด แล้วมีพรบ.สถานพยาบาล กรณีเดินสายรักษาตามที่ต่างๆ แบบนี้ มันก็ไม่เข้าเงื่อนไขของแพทย์พื้นบ้าน ตรงนี้อาจารย์ต้องหยุดทำก่อน ถ้าไม่หยุดทำจะมีข้อกฎหมายที่ทำให้อาจารย์เดือดร้อนได้
ล่าสุดส่งมาอีกแล้ว บอกเป็นรปภ. เส้นเลือดตีบ เคยถูกเรียก 5 พันบาท แต่ไม่มีเงิน ผมเลยไม่ได้ไปรักษา โดนมากับตัวเอง รักษาผมให้หายได้มั้ย 5 พัน ผมจะไปกู้มาให้ มีคนที่เขาดูแล้วเขาเชื่อ เขาอยากทำ เขาต้องไปหาเงิน 5 พัน หาไม่ได้ก็ไปกู้หนี้ยืมสิน สมมติว่าหายเขาก็ต้องหาเงิน 5 พัน แต่ถ้าไม่หาย เขาก็ไม่หายแล้วเป็นหนี้ด้วย?
อ.เอก : นี่ฟังแค่มุมเดียว
กังวลใจมั้ย สาธารณสุขบอกว่าสิ่งที่พูดมามันผิดหมดเลย?
อ.เอก : ไม่ได้รู้สึกกังวลใจ ในข้อกฎหมายเราไม่ได้รู้ลึกขนาดนั้น เรากำลังทำทดสอบพิสูจน์ตัวเอง และกำลังจะไปขอขึ้นทะเบียน เราก็ต้องมีข้อมูลเพื่อเอาสิ่งที่เราเป็น สิ่งที่เราได้ไปนำเสนอ ด้วยแค่คิดแค่นี้เอง เราไม่รู้หรอกว่าต้องไปศึกษาลึกละเอียดขนาดนั้น เราเป็นฤาษี ใครเชิญไปเราทำ เราช่วยได้ก็ช่วย
อาจารย์ถ่ายทอดวิชาให้ลูกศิษย์เยอะมั้ย?
อ.เอก : 300 กว่าคน หลากหลายอาชีพ มีหมด มีนายพล ดร. ทนายความ ผู้พิพากษา แทพย์แผนไทยก็มีหมด ก็อยากทำงานให้ศาสตร์นี้ช่วยคน จะทำยังไงถึงทำได้แค่นั้นเอง ตอนนี้กำลังทำงานกับรพ.เอกชนแห่งนึง
นพ.ณัฐพงศ์ : ศาสตร์นี้เรียกว่าพลังจิตเหรอครับ มันต้องพิสูจน์ว่ามันทำซ้ำได้ ทำร้อยครั้ง 90 กว่าครั้งได้ผลเหมือนเดิม ถ่ายทอดได้ แต่อาจมีบางอย่างที่เรารู้ว่ารักษาไม่หาย แต่ถ้าทำโดยบังเอิญ สัมผัสบางคนโดยบังเอิญแล้วหาย อย่างนี้ไม่ใช่
อ.เอก : ไม่บังเอิญครับ กระดูกทับเส้น ถ้าปวดข้างซ้ายก็ทำซ้ำๆ แบบนี้ทุกคน
นพ.ณัฐพงศ์ : ผมพูดในฐานะเป็นหมอกระดูก รักษามาเยอะ มันไม่ง่าย การถีบอยู่ข้างนอกมันไม่ออกหรอกครับ
กระดูกทับเส้นเกิดจากอะไร?
นพ.ณัฐพงศ์ : ส่วนใหญ่ในคนมีอายุ เป็นภาวะเสื่อมตามสภาพ ทำให้เกิดหินปูน เหมือนกระดูกมันงอก ก็จะปิดช่องรูที่เส้นประสาทออกมา ในรูปนี้ก็จะมีหินปูนพอกมาเรื่อยๆ มันก็ตีบแคบ หนีบเส้นไว้ ซึ่งมันก็จะสั่งการเรื่องขยับ รับความรู้สึกจากปลายเท้าปลายขา พอโดนบีบมันก็อักเสบ ก็ทำให้ชา และเจ็บปวด ถ้าจะทำให้หาย ก็ต้องหาอะไรที่กดทับให้เอาออกไป ถีบจากข้างนอกมันไม่ออกหรอกครับ แต่มีนะ เคยเห็นมั้ยคนกระดูกทับเส้นประสาทที่บั้นเอว แล้วปวดร้าวชาลงขา ถ้าไปรพ.กายภาพบำบัด เขาดึงหลังดึงเอว เขาดึงภายนอกเพื่อให้กระดูกยืดแยกออกจากกัน บางเคสจำเป็นต้องผ่าตัด แต่ไม่ได้ทั้งหมด ร่างกายมีการปรับตัว พอรู้ว่ามีการกดทับ ร่างกายก็พยายามมีส่วนไหนทำให้เกิดเป็นช่องขึ้นมาได้ ก็ต้องใช้เวลา บางเคสคนไข้ไม่รอ ก็ไปผ่าตัด แต่ถามว่าแพทย์แผนไทยรักษาได้มั้ย เขารักษาได้ตามอาการ เช่น ปวดขา เมื่อยขา ชา เขาก็อาการดีขึ้นครับ แต่หินปูนที่กดทับมันไม่ออก เวลาผ่านไป 6 เดือนหรือปีนึง แต่อย่างที่บอก ถึงแม้ไม่ทำอะไร หินปูนพวกนี้ก็อาจสลายได้ตามธรรมชาติมัน แล้วเราจะบอกว่าเป็นเพราะเราไปถีบไปดึง อธิบายไม่ได้ครับ
ในมุมอาจารย์ เอาเท้าถีบ เอามือพลังจิตผลัก มันทำให้หินปูนหลุดได้เหรอ?
อ.เอก : ด้วยอาจารย์ไม่รู้หรอกว่ามันหลุดหรือไม่หลุด แต่คนที่มาหาเรา เขาปวดทรมาน เขาเดินแทบไม่ได้ เขาถือไม้เท้ามา พอเราช่วยเขาหาย เขาทุกข์ทรมานมาเป็นสิบปี
เคยมีคนไปรักษากับอาจารย์ แล้วเขาไปเอกซเรย์แล้วหาย มีมั้ย?
อ.เอก : มี หลายคนที่กระดูกสันหลังงอ แต่ทำให้ตรงได้ ถึงได้บอกว่าขอพิสูจน์ มันเป็นศาสตร์แรกเกิดขึ้นมาในโลกใบนี้ ขอพื้นที่พิสูจน์ได้มั้ย นักข่าวที่ไปสัมภาษณ์ทุกช่อง เขาพิสูจน์ด้วยตนเองทั้งหมด และไม่มีใครที่ไม่ดีขึ้น
ล่าสุดคุณออย ของพี่สรยุทธ เมื่อเช้าเข้ารพ.ไปแล้ว บอกปวดหลังมาก?
อ.เอก : ไม่ใช่หรอกครับ เขาเกี่ยวกับสะโพก ไม่เกี่ยวกับหลัง เมื่อวานเขาก็ไปอยู่ แต่เมื่อเช้ายังรักษาช่วยน้องอีกคนนึง ถ้าพูดอย่างนี้ฝ่ายเดียว อาจารย์ขอเอาเคสที่ช่วยเหลือ มีผลชัดเจนอีกรอบได้มั้ย เอาคนป่วยที่ช่วยทุกโรคมานั่งคุย แล้วอยากขอเวทีในการพิสูจน์ที่ไหนก็ได้ ตอนนี้พยายามเบรกการรักษา เพราะผมมีธุรกิจอยู่ กำลังทำงานต่างๆ อยู่ ตรงนี้เป็นการช่วยเหลือเขา แต่เข้าใจว่าศาสตร์นี้เป็นศาสตร์แรก ทุกคนไม่เชื่อ อย่างตาบอดไม่ใช่เคสเดียว มีเยอะ ขอเวทีพิสูจน์ เดี๋ยวจะเอาคนที่อาจารย์รักษามา จะเอากี่ร้อยคน ให้เวทีผมมั้ย
นพ.ณัฐพงศ์ : การพิสูจน์ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน เหมือนเรารักษาคน ผลลัพธ์ที่เกิดมา ไม่ใช่บอกว่าเรารักษาดีขึ้นหรืออะไรแต่ต้องมีผู้เชี่ยวชาญในสาขาที่เคยรักษา เขาก็จะมาร่วมกัน ตรงนั้นอาจเป็นการพิสูจน์ส่วนหนึ่งได้ อย่างกระดูกทับเส้นประสาท ก่อนรักษามันเห็น หลังรักษาก็ต้องไปเอกซเรย์ กระทรวงสาธารณสุข พร้อมพิสูจน์ แต่ต้องเป็นมาตรฐาน
อ.เอก : ขอพื้นที่ในการพิสูจน์ ขอเชิญผู้เชี่ยวชาญมาเลย รายละเอียดต่างๆ มานั่งคุยกัน ถ้าทำได้ลองบอกสิว่าให้ทำไง เพื่อให้ผมได้รับการยอมรับ ถ้าใครไม่ป่วย ไม่รู้หรอก ว่ามันทุกข์ทรมานแค่ไหน
ธนกฤต : ผมไม่รู้ศาสตร์อาจารย์อยู่วงจรไหนของการรักษา การเริ่มต้นที่ถูกต้องควรไปสาธารณสุข ไม่ใช่มารักษาแบบนี้ก่อน ผลเสียมันอันตรายเกินไป แต่เขาจะมีกระบวนการบอกว่าอาจารย์ต้องเริ่มต้นยังไง อย่างคนเคยมีอาการแล้วเขายินยอม ไปเอ็มอาร์ไอ พอผ่านการรักษาของอาจารย์ แล้วไปเอ็มอาร์ไออีกที ทำซ้ำๆ จนคุณหมอยอมรับว่าศาสตร์นี้เป็นศาสตร์ที่รักษาคนได้จริง มันก็จะเข้าสู่กระบวนการพิจารณากรรมการ แล้วกรรมการถึงอนุญาตให้อาจารย์ได้เป็น แต่พอมีแบบนี้ มีการเรียกเก็บผลประโยชน์ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม หรือมีการโฆษณาอย่างไรก็ตามเวลานี้ ก็มีปัญหาเรื่องข้อกฎหมาย อาจารย์ต้องเข้าใจว่าโดยธรรมชาติ การรักษา และข้อกฎหมายต้องไปด้วยกัน เพราะกฎหมายเอามาไว้ปกป้องกระทบสิทธิ์ ถ้าอาจารย์รักษาแล้วเขาพิการขึ้นมามันก็ทั้งชีวิตเขา หรือแทนที่เขาจะได้รับการรักษาที่ถูกต้อง เขาคิดว่าแบบนี้คือการรักษาแล้ว ในที่สุดเกิดเสียชีวิตขึ้นมา มันก็หนักขึ้นกว่าเดิม
อ.เอก : ข้อกฎหมายตรงนี้ผมน้อมรับ แต่คนที่มาหาผม เอาความเป็นจริงก่อน เขาผ่านกระบวนการทางการแพทย์มาทั้งหมดแล้ว เอาง่ายๆ แม้แต่ผ่าแล้วนอนติดเตียง ยังมีเลย
ธนกฤต : อย่างน้อยที่สุดก็ต้องเชิญสาธารณสุขจังหวัด ปัญหาคือวันนี้เกิดการโฆษณาแล้ว มีการได้รับค่าบริการแล้วด้วย
อ.เอก : ไม่ใช่ค่าบริการ เป็นค่าครูที่เขาเชิญผมมา เอาหลักฐานที่ว่าผมได้ค่าบริการจากคนป่วย อาจารย์รับกับมือมีมั้ย คนเขาเป็นเจ้าของสถานที่ เขารวบรวมคน รวบรวมแล้วจะเชิญอาจารย์มา อาจารย์ก็รับเป็นค่าครู เหมือนเกจิ ในเมื่อเป็นอาจารย์เขา เขานับถือครูบาอาจารย์
ธนกฤต : นี่แหละเขาเรียกค่ารักษาพยาบาล
อ.เอก : มันไม่ใช่ค่ารักษา ไม่ใช่ค่าประกอบวิชาชีพอะไร ผมเป็นฤาษีผมก็ประกาศว่าผมเป็นฤาษี เขาจะใส่ซองให้ผมเท่าไหร่เขาก็ใส่มา
นพ.ณัฐพงศ์ : แต่นี่เรียกนะครับ
อ.เอก : แต่ผมไม่ได้เรียก เหมือนเขาเป็นเอเยนต์ เขาจะเรียกอย่างไรก็เรื่องของเขา
ธนกฤต : แล้วอาจารย์รับตังค์มั้ย
อ.เอก : รับค่าครูที่เขาใส่ซองให้
ธนกฤต : มันก็เป็นเรื่องเดียวกัน ก็ไม่เป็นไร อาจารย์ก็ไปพิสูจน์ตามกฎหมาย เราไม่ใช่ศาล เราฟันธงไม่ได้หรอก แต่อย่างนี้เข้าข่ายองค์ประกอบความผิดอยู่
ผมว่าเรื่องตัวเงินตรงนี้มีปัญหา?
ธนกฤต : ขั้นต่ำแพทย์พื้นบ้านเขายังไม่ให้เก็บค่ารักษา ฟรีซะด้วยซ้ำ
อ.เอก : เขาเป็นตัวแทน เหมือนอาจารย์ไปเกาหลี มาเลย์ เขามีเอเยนต์
แบบนี้ผิดมั้ย?
อ.เอก : เหตุผลที่เขาเก็บ เขาไม่รู้หรอกคนมามากน้อยแค่ไหน เขามีค่าใช้จ่าย
ธนกฤต : กระบวนการไม่ได้เริ่มจากการเก็บเงิน เริ่มจากการรักษา ต้องเอาขั้นตอนการรักษามาเลย ไม่มีหมอที่ไหนเก็บตังค์ล่วงหน้า เวลาไปรพ.หมอเช็กบิลตอนหลังรักษาเสมอ
อ.เอก : ในเหตุผลก็เข้าใจ ผมยอมรับไม่ได้เถียงอะไร มีอะไรแก้ไขผมก็ยินดีจะแก้ไข เรารู้แล้วว่าเราทำแบบนี้ไม่ได้ เราก็บอกลูกศิษย์ว่าไม่ได้
ในอินบ็อกซ์ส่งมาแล้วบอกว่ารักษาแล้วไม่หายหลายคนมาก?
อ.เอก : ไม่ได้บอกว่าไม่หาย คืนเงิน ก็บอกคนที่เขารับคิวมา ถ้าเขาไม่ดีขึ้น หรือดีขึ้นระดับหนึ่ง หรือยากจน ยืมเงินเขามา อาจารย์ก็ให้คืนเงินทั้งหมด ไม่งั้นอาจารย์คงโดนร้องเรียนมาเยอะแยะมากมาย ที่พิมพ์ในโซเชียล เอาความเชื่อถือมาจากไหน ผมบอกลูกศิษย์ถ้าทำไม่ดีขึ้นให้คืน อย่าไปรับเขา
ธนกฤต : ที่ทนายรณณรงค์ไป เขาเสียค่ารักษา
อ.เอก : ผมไม่คุยกับเขาหรอก ผมไม่ให้ค่าคนแบบนี้ ผมไม่มีอะไรกับเขา อยู่ๆ เขาเดินไปแล้วไปโพสต์ในเฟซของเขา บอกว่าปวดหลังจะไปหาอาจารย์พลังจิตหน่อย แล้วคุณมาทำไม จริงๆ คุณต้องนัดคิวมาถึงได้เจอผม
เขาไปเอง เหมือนล่อซื้อ?
อ.เอก : ก็คงอย่างนั้น ไม่ได้ว่าหรอก แล้วแต่เขา ถ้าจะฟ้อง จะฟ้องผมเรื่องอะไร ผิดเหรอคำว่าไม่ให้ค่า อะไรที่ไม่ถูกก็แนะนำ อย่างที่บอกผมขอพื้นที่พิสูจน์ และทำเอกสารขอขึ้นทะเบียน
ธนกฤต : วันนี้เรามาแนะนำแล้วนะ ไม่ได้มากลั่นแกล้งอาจารย์ เรื่องวิธีการที่จะทำให้ถูกต้อง ต้องเดินอย่างไร กรณีคืนเงินกลับไป ความผิดสำเร็จแล้ว ก็ต้องเตรียมฝ่ายกฎหมายอาจารย์ ให้รณณรงค์ดูแลก็ได้
อ.เอก : ไม่ต้องหรอกครับ ผมมีทนายกระดูกเหล็กดูแลอยู่แล้ว ทุกวันนี้พยายามลดลงไปมาก แต่ด้วยเขาโทรมา ให้คิวน้อยลงๆ เดือนนี้แทบไม่มีเลย
นพ.ณัฐพงศ์ : หยุดเลยครับ ถ้าลูกศิษย์จะทำก็เป็นความผิดของเขา แต่ตัวเราต้องไม่ทำ
ธนกฤต : สอนพลังจิตลูกศิษย์ยังไง
อ.เอก : เปรียบเหมือนผมเป็นสัญญาณโทรศัพท์ เป็นแม่ข่ายใหญ่ เป็นคอร์สเรียน 1 หมื่น ค่าอาหาร ที่พักฟรี 2 วัน จะเป็นตั้งแต่วันแรก พิสูจน์ได้ ขอพื้นที่ให้ผม แม้แต่คุณถั่วแระ ผมก็ถ่ายทอดให้เขา เขาก็รักษาได้ เป็นการเชื่อมจิต ย้ำเสมอว่าทุกคนไปรักษาทางการแพทย์อยู่แล้ว เชื่อมั้ยคนเป็นมะเร็ง ไม่ได้รักษาคีโมอย่างเดียวนะ อาหารเสริมอะไรดีเขาก็เอาหมด เพราะเขากลัวตาย อย่างคุณหนุ่มเดินกะเผลก แล้วหมอบอกว่าต้องผ่าตัด คุณหนุ่มกลัวมั้ย
การรักษาผ่านโทรศัพท์มือถือคืออะไร?
อ.เอก : ใช้จิตเชื่อมโยง
ธนกฤต : เชื่อมผมหน่อย
อ.เอก : ขออนุญาตสัมผัสเลยครับ แต่ละเคสทำกี่ครั้งก็ต้องดูว่าเป็นยังไง อย่างของคุณหมอบอกว่ากระดูกคอทรุด ก็ต้องใช้เวลาในการทำค่อนข้างเยอะ
ธนกฤต : ผมเอ็นหัวไหล่ฉีก ยังเจ็บอยู่ ผมมีเอ็มอาร์ไอนะ
อันนี้แค่ทดสอบ ไม่ใช่การรักษานะ?
ธนกฤต : ถ้าผมปลิ้นกว่าเดิม ผมเอาผิดเลยนะ
อ.เอก : ยินดีครับ ผมเดินเข้าไปในคุกได้เลย ถ้าทำแล้วหนักขึ้น (ใช้ฝ่ามือพลังจิต) เป็นยังไง
ธนกฤต : ก็ยังเหมือนเดิม
อ.เอก : การที่ผมช่วยทุกคนไม่ได้บอกว่าทำแล้วหายแล้วดี ถ้าดีก็ดี ถ้าไม่ดีก็ค่าครูคืนเขาไป ต้องลองเรื่อยๆ เพราะอันนี้ค่อนข้างรุนแรงในเรื่องเอ็น (ใช้ฝ่ามือพลังจิตอีกรอบ)
เป็นยังไง?
ธนกฤต : เหมือนเดิม
อ.เอก : ก็เหมือนเดิม
ธนกฤต : ตรงนี้ตอบไม่ได้หรอก แต่ถ้าจะให้ดูจริงๆ ต้องดูที่คอ แต่อย่าเอาเท้าถีบผม
อ.เอก : คนป่วยส่วนใหญ่มาเขาจะปวด
ธนกฤต : ผมปวดนิดๆ
อ.เอก : กระดูกคอเป็นเรื่องที่ยากมาก ในการช่วยผู้ป่วย ถ้าชาลงแขนจะทำให้หายโดยทันทีจะยากมาก แต่ถ้าออฟฟิศซินโดรมจะง่าย (ลองทำอีกรอบ) ต้องถามคนป่วย กระบวนการเวลาทำ 20-30 นาทีก็แล้วแต่ ถ้าปวดมาถึงจะรู้
ธนกฤต : เวียนหัว (หัวเราะ) ไม่เป็นไร เดี๋ยวคืนนี้จะโทรบอก
อ.เอก : ใครสายตาสั้น 300-400 เดี๋ยวขอพื้นที่อีกครั้ง จะพิสูจน์ให้เห็น ให้ได้รู้ แค่นั้นเอง ไม่มีอะไร
ท่านธนกฤต รับเรื่องร้องเรียน ไม่คิดว่าท่านจะล่อซื้อเหรอ?
อ.เอก : เราทำด้วยใจบริสุทธิ์ ดีไม่ดีต้องเขาเป็นคนบอก
จะหยุดก่อนมั้ยการรักษา?
อ.เอก : ผมตั้งใจหยุดอยู่แล้ว ยิ่งเดือนนี้ประกาศเลยว่าไม่มีคิว
ธนกฤต : หยุดทั้งตัวอาจารย์ลูกศิษย์
อ.เอก : ทุกอย่างจะทำให้ถูกต้องทั้งหมด แล้วค่อยมาว่ากัน ถ้าเป็นประโยชน์ต่อประชาชน คนเจ็บป่วย หนึ่งเขาไม่ต้องเสียเงินเยอะแยะมากมาย ไม่ต้องขายบ้าน ขายที่มารักษา