“โอม อัชชา” เปิดใจรัก 6 ปี “พัคจูฮี” สุกงอม ไม่มีอะไรต้องปรับตัว แพลนแต่งเร็วๆ นี้ คาดอาจเป็นปีหน้า ขอจัดงานเล็กๆ และง่ายที่สุดภายในครอบครัว
คบหาดูใจแฟนสาวชาวเกาหลี “พัคจูฮี” มานานถึง 6 ปีแล้ว สำหรับพระเอก “โอม อัชชา นามปาน” ล่าสุดเจ้าตัวก็เผยว่าแพลนเรื่องแต่งงานแล้ว คาดว่าอาจเป็นปีหน้า พร้อมเผยว่าถึงตอนนี้แทบไม่มีอะไรให้ต้องปรับตัวแล้ว ชมหวานใจพูดไทยเก่งแล้ว เป็นกำลังใจที่ดีของตน อยู่กันแล้วสบายใจ
“ความรักปกติครับ เราไม่ได้คลั่งรัก มันคือความรัก 6 ปีแล้ว ยังเหมือนเดิมครับ ถามว่ายังมีอะไรให้ต้องปรับตัวกันอีกไหม เหลือน้อยแล้วครับที่ต้องทำความเข้าใจ ทุกวันนี้เราก็ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดแล้ว ไม่มีอะไรให้ต้องปรับ เขาอยู่เมืองไทยค่อนข้างเยอะกว่าอยู่ที่เกาหลีอีก ผมว่าเขาพูดภาษาไทยได้คล่องประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์แล้ว เพราะอยู่ที่นี่เขาก็เรียนค่อนข้างเยอะ ถ้าเราพูดกับเขาช้าๆ เขาจะเข้าใจ เขาก็สามารถตอบโต้เป็นภาษาไทยได้ เป็นประโยคได้ เดี๋ยวนี้เขาออกไปข้างนอกคล่องกว่าผมอีก ไปห้างสรรพสินค้า ใช้รถไฟฟ้าเก่งกว่าผมอีก ผมยังไม่ค่อยได้ไปสักเท่าไหร่เลย จริงๆ คนเกาหลีเป็นคนชอบเดิน แต่เราจะไม่ค่อยให้เดินในบ้านเราสักเท่าไหร่ เพราะเราก็เป็นห่วงเขา เขาก็จะชอบไปเดินตามห้างไปซื้อของ”
เผยเป็นกำลังใจที่ดี อยากให้อยู่แล้วสบายใจ
“คือกำลังใจดีกว่า อย่างที่บอกว่า 6 ปีแล้วทุกอย่างยังเหมือนเดิม มีความพยายามทำความเข้าใจกันมากขึ้น ส่วนเขาแฮปปี้กับการใช้ชีวิตอยู่เมืองไทยแค่ไหน อันนี้ต้องถามเขา คือเพื่อนเขาที่เป็นคนเกาหลี ผมถามเขา เขาบอกว่าเขาแฮปปี้ที่อยู่เมืองไทยเพราะคนเกาหลีที่มาอยู่เมืองไทยส่วนใหญ่ก็แต่งงาน มีครอบครัวทำธุรกิจกัน ผมถามเขาว่าอยากอยู่ที่นี่ไหม เขาอยากไปๆ มาๆ มากกว่า พยายามจะหาบางอย่างที่ทำให้เขารู้สึกว่าเขาอยู่แล้วสบายใจ เรื่องสังคมด้วย ตอนแรกที่เขามายังไม่มีเพื่อน เราก็หากลุ่มให้เขาที่เขารู้สึกว่าปลอดภัย ตอนนี้เขามีเพื่อนเยอะกว่าผมอีก เราเป็นสารถีขับรถให้เขาไปหาเพื่อน แล้วไปรับกลับ หน้าที่เราเป็นอย่างนั้น
ถามว่าเขาแบ่งเวลาอยู่ไทยและเกาหลียังไง คือปกติวีซ่ามันได้ 3 เดือน พอครบเขาก็ไปทำวีซ่าเพื่อจะกลับมาเข้าใหม่ บางทีเราก็ตามไปด้วย หรือบางทีก็ไปประเทศใกล้ๆ แล้วกลับเข้ามาแค่นั้นเองครับ พยายามใช้ชีวิตให้ปกติมากที่สุด”
แพลนแต่งเร็วๆ นี้ จัดงานเล็กๆ และง่ายที่สุดภายในครอบครัว
“แพลนครับ แต่ยังไม่ได้มีในหัวว่าจะแต่งที่ไหน จะไปที่โน่นหรือที่นี่ แต่ก็คิดว่าน่าจะเร็วๆ นี้ เราก็คุยกับเขาเป็นเรื่องส่วนตัวกับครอบครัวไว้บ้างแล้ว ถามว่าผู้ใหญ่ฝ่ายเขาเร่งรัดไหม ก่อนหน้านี้ด้วยสังคมของเขาก็อาจจะเร่งรัด พอเขามาเจอเรายังไม่ถึงเวลา เราเป็นคนที่มีฤกษ์มียาม มีจังหวะเวลา ช่วงนี้ในชีวิตของเราก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เรื่องส่วนตัวมันก็ยังมีอะไรติดๆ ขัดๆ หลายอย่าง ถ้าเป็นฤกษ์มงคลแล้วเนี่ยเราก็ต้องนึกถึง
ปีหน้าถามว่ามีโอกาสไหม มีๆ ก็มีเตรียมๆ ไว้ดูฤกษ์ เราก็อยากจัดงานให้เล็กที่สุด ง่ายที่สุด แค่นั้นเอง ภายในครอบครัว เราคุยกันสักพักแล้ว ก็รอทุกอย่างพร้อมเวลาเหมาะสมครับ”
