“พีพี” เผย แม่ออกจากรพ.แล้ว แต่ความอักเสบทางสมอง ทำกระทบความทรงจำบางอย่าง “บิวกิ้น” ดูแลซัปพอร์ตทุกคนในครอบครัว ฟ้องถูกบิวกิ้นขโมยจูบแรกกลางคอนเสิร์ต แถมไม่ได้ค่าตัว
จบคอนเสิร์ตเดี่ยวไปแล้วอย่างประทับใจ สำหรับคอนเสิร์ตครั้งแรกของ “บิวกิ้น พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล” ที่มี “พีพี กฤษฎ์ อำนวยเดชกร” เป็นแขกรับเชิญในคอนเสิร์ตใหญ่ งานนี้หนุ่มพีพีฟ้องว่าตนซ้อมยิ่งกว่าคอนฯ ตัวเอง แถมไม่ได้ค่าตัว โอดถูกบิวกิ้นขโมยจูบแรก
บิวกิ้น : “ดีใจที่ผ่านมันมาได้ครับ เพราะจริงๆ แล้วมันก็เป็นความท้าทายครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิตครั้งหนึ่ง ที่ผมมีโอกาสได้ลงไปทำอะไรหลายๆ ได้พัฒนาตัวเอง ทั้งเรื่องของการเพอร์ฟอร์ม การร้อง ก็รู้สึกว่าเราได้เก่งขึ้นอีกระดับหนึ่ง แล้วก็ได้ท้าทายตัวเองเยอะเหมือนกันครับ ดีใจที่ผ่านมันมาได้จริงๆ เพราะมีอะไรหลายๆ อย่าง ที่เราก็ไม่คิดว่าเราจะทำมันได้
ส่วนที่คนบอกว่าหลายโชว์เซอร์ไพรส์มาก ผมว่าพอมันเป็นคอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรก เราก็พยายามจะทำอะไรให้มันพิเศษ สมกับการเป็นคอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรก อยากให้คนมา แล้วเราก็รู้สึกว่ามันไม่ได้เป็นเหมือนที่ผ่านมา ที่ทุกคนอาจจะเคยเห็นหรือรู้สึกเท่าเดิม ผมรู้สึกว่ามันต้องดีกว่าเดิม พิเศษกว่าเดิม เราก็ดีใจที่สุดท้ายแล้วคนชื่นชอบ และได้รับความรู้สึกที่ดีกว่าที่เคยเป็นกลับบ้านไป”
พีพีฟ้อง ซ้อมยิ่งกว่าคอนฯ ตัวเอง แถมไม่ได้ค่าตัว แถมถูกบิวกิ้นขโมยจูบแรก
พีพี : “เปิดเปิดตัวมันก็มีสั่นๆ บ้าง เพราะมันค่อนข้างสูง แต่ว่าเราก็ได้ซ้อมกันมาแล้ว สำหรับซีนนั้น”
บิวกิ้น : “ซ้อมตอนไหนๆ”
พีพี : “ซ้อมหลายตอนมาก พีขอฟ้องเลย คอนเสิร์ตนี้นะ หนูซ้อมยิ่งกว่าคอนเสิร์ตหนูอีกนะ เหนื่อยก็เหนื่อย ร้องเพลงก็เยอะ ค่าตัวก็ไม่ได้นะ”
บิวกิ้น : “ถามว่าจ่ายเป็นอะไร (ทำเหมือนจะหอมแก้ม มองหน้าพีพี) ยิ้มอะไร”
พีพี : “ฟรีก็ได้ พี่ไปดูภาพได้เลย หนูไม่ได้สมยอม จูบแรกของหนู (งั้นวันนี้ให้หอมคืน?) อะไรเนี่ย (เขิน) จังหวะนั้นก็ตกใจนิดหนึ่งครับผม แต่ก็เล่นๆ กันนี่แหละ”
บิวกิ้น : “โอ้ย ตกใจนิดหนึ่ง ทำเป็นตกใจ โถ แหม (หัวเราะ)”
โว “พีพีชนะ” เพราะไม่ได้เกิดมาเพื่อแพ้
พีพี : “เพราะพีไม่ได้เกิดมาเพื่อแพ้ วันนี้ชนะไม่ได้ เพราะว่าต้องให้ไอค่อนสยามเขา”
คอนเสิร์ตวันที่ 2 ร้องไห้เพราะถูกพีพีบิวต์อารมณ์
พีพี : “(หันไปถามบิวกิ้น) ทำไมร้องไห้”
บิวกิ้น : “ก็พีพีแหละบิวต์ พีพีเขารู้อยู่แล้วว่าทำยังไงจะร้องไห้ เขาก็ตั้งใจจี้ให้ผมร้องไห้”
พีพี : “ใครจะไปรู้”
บิวกิ้น : “เธอแหละรู้ จริงๆ ร้องตั้งแต่วันรันทรูเลยครับ มันทุกวันเลยครับ หมายถึงว่าพอเนี่ย เราเล่นๆ กันอย่างนี้ นานๆ เราแบบ… ผมว่าด้วยความที่เราอยู่ด้วยกันทุกวัน เราคุยกันตลอด เราก็ไม่ค่อยได้พูดอะไรที่มันเปิดอกคุยอะไรจริงจัง แต่ว่าเราก็จะรู้ ว่าทุกครั้งที่เราคุยกันในบริบท หรือว่าในเนื้อหาแบบนั้น มันก็จะไปทัชความรู้สึกเรา นี่ร้องก่อนทุกทีพี พีร้องก่อนทุกวันนะ”
พีพี : “ร้องตั้งแต่ห้องซ้อมแล้วครับ จริงๆ ดีใจกับเขาแหละครับผม ไม่ค่อยได้มีโอกาสได้พูดแสดงความยินดีอะไรกันมาก เพราะเราอยู่ด้วยกันทุกวันอยู่แล้ว เราทำงานด้วยกันบ่อยพอได้มีโอกาสได้พูดความในใจ ดีใจกับเขาจริงๆ”
บิวกิ้น : “ไหนพูดสิ”
พีพี : “ไม่พูดหรอก เดี๋ยวได้ร้องไห้ตรงนี้หรอก ก็ดีใจกับเขาครับผม คอนเสิร์ตครั้งแรกเขาตั้งใจมากๆ เราเห็นเขามาตั้งแต่ 7-8 ปีที่แล้ว ตั้งแต่เขาขึ้นเวทีโรงเรียน จนมาถึงวันนี้เขามีคอนเสิร์ตเดี่ยวของตัวเอง เราก็รู้สึกว่าเขาประสบความสำเร็จมากๆ จริงๆ เราก็ภูมิใจในตัวเขามากๆ”
คอนเสิร์ตคู่แล้วแต่พีพี
พีพี : “บิวกิ้นเขาจะอยากทำเหรอพี่”
บิวกิ้น : “พีพีๆ พีพีตอบดีกว่า เพราะยังไงผมก็ต้องตามพีพีอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นให้พีพีตอบดีกว่า”
พีพี : “คอนเสิร์ตคู่ใช่ไหมครับ มันเป็นเรื่องของอนาคต ก็ไม่สามารถตอบได้ เพราะว่าตอนนี้พีพีปวดหัว ปวดหัวพี่ตอนนี้มันสามสี่ทุ่มแล้วเนี่ย มันเป็นเวลานอนแล้ว”
บิวกิ้น : “ก็ตามพีพีแหละครับผม ถ้าเขาอยาก โอ้ยปวดหัว (หัวเราะ) คือถ้าเขาอยากทำผมก็ยินดีทำแล้วก็แฮปปี้ทำอยู่แล้วครับ อยู่ที่เขา ถามว่าคิดโชว์ให้หรือยัง ห๊ะ เดี๋ยวสิ อย่าเพิ่งชงสิ รอพีพีครับ ต้องรอคิวของพีพีด้วยนะ ของผมง่าย”
พีพี: “ถามว่าอยากชี้แจงอะไรไหม ไม่ชี้แจงดีกว่า เขาก็ตั้งใจทำงานไง เราก็ชื่นชม (ราชมังฯ?) โห จะมีคนดูหรือเปล่า”
บิวกิ้น : “ที่ไหนก็เดินไหวครับ”
พีพี : “ระดับนี้ บิวกิ้นเขาไม่เดินแล้ว เขาต้องรอลอย”
บิวกิ้น : “ลอยเพราะอะไร ผมมีสลิง ตั้งไจทำโชว์ไง ได้สาระบ้างไหมครับตั้งแต่คุยกันมา (หัวเราะ)”
อัปเดตอาการป่วยคุณแม่ ได้กลับบ้านแล้ว แต่ความทรงจำบางอย่างหายไป
พีพี : “คุณแม่ได้กลับบ้านแล้ว เมื่อวานเพิ่งกลับมาวันแรก จริงๆ คุณแม่ก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ครับ มีพยาบาลมาดูแลอยู่ที่บ้านด้วย แล้วอาการต่างๆ ก็เริ่มดีขึ้นแล้ว แล้วจะมีการเช็กอัปคุณแม่ทุกสองอาทิตย์หรือหนึ่งอาทิตย์ ก็ไปตามที่คุณหมอสั่ง แต่ว่าคุณแม่ก็จะมีการลืมเรื่องราวบางอย่างไปนิดหนึ่ง แต่ก็ยังด่าหนูได้อยู่ คือตามอาการครับ ถ้าร่างกายเขาดีขึ้นเรื่อยๆ แบบนี้ มันก็จะค่อยๆ กลับมา ช่วงนี้เขาไม่เล่นโทรศัพท์เลย เหมือนเขาลืมวิธีเล่น Facebook พวกนี้ไปด้วย พวกโซเชียลมีเดีย คือจริงๆ พีว่าเรื่องพวกนี้มันก็เกิดจากอาการอักเสบทางสมองและตัวโรคที่เขาเป็นด้วย ก็คือภูมิคุ้มกันทำลายตัวเอง มันก็เลยทำให้มีเอฟเฟกต์กับเรื่องเมมโมรี่บางอย่างของเขาไปด้วย
ตอนนี้โล่งครับ คือจริงๆ โล่งแต่คุณแม่เริ่มตื่นที่ไอซียู ก็เริ่มรู้สึกสบายใจขึ้นแล้วครับ เหมือนเราทุกคนก็พยายามเฝ้ารอกันอยู่ ว่าเขาจะดีขึ้นไหม เหมือนการรักษามันแอ็กทีฟขึ้นจริงหรือเปล่า แต่พอเขาตื่นขึ้นมา แล้วเขาจำชื่อเราได้ จำคนในครอบครัวได้ และจำเพื่อนๆ ได้ ก็ดีใจมากๆ กับบิวกิ้นเขาก็จำได้ เขาเรียกชื่อคนแรกเลย”
บิวกิ้น : “มันก็คือการไปให้กำลังใจทั้งคุณแม่เขา แล้วก็ตัวพีพี แล้วก็คุณปะป๊าพีพี พี่สาวพีพี ก็เป็นการให้กำลังใจทั้งครอบครัวมากกว่า เพราะว่าเวลามีปัญหาอะไร เราก็ช่วยกันอยู่แล้ว เพราะว่าสุดท้ายแล้วเราช่วยอะไรกันได้ ทั้งทางใจ ผมก็เต็มที่อยู่แล้ว และก็กลับกันวันหนึ่งถ้าผมมีปัญหา พีพีก็พร้อมที่จะช่วยผม”
พีพี : “เหมือนพฤติกรรมเขาเปลี่ยนนิดหนึ่ง เหมือนกับคนที่เคยกินเผ็ด เขาก็จะไม่อยากกินเผ็ดแล้ว แล้วก็คือช่วงนี้กินอะไรไม่ค่อยได้ด้วยครับ เหมือนเขาเคยใส่เครื่องช่วยหายใจมา ก็ยังมีแผลอยู่ในช่วงคอช่วงปากก็ยังกลืนได้ยาก ก็ต้องทำกายภาพเรื่อยๆ พอเป็นโรคเกี่ยวกับภูมิคุ้มกัน คุณหมอก็อาจจะห้ามออกไปตะลอนๆ ใช้ชีวิตข้างนอกเยอะๆ เพราะกลัวเสี่ยงจะติดเชื้อ เพราะว่ามีโอกาสจะติดเชื้อง่ายกว่า”