ขึ้นแท่นนักแสดงดาวรุ่งไปแล้วสำหรับ "มิ้ม รัตนวดี วงศ์ทอง" ผู้รับบทบาท "แย้ม" ในภาพยนตร์เรื่อง "ธี่หยด" ที่กำลังทำรายได้พุ่งสู่ 400 ล้านบาทในขณะนี้ นอกจากฝีไม้ลายมือที่ฝากไว้ในภาพยนตร์จนหลอนกันทั่วบ้านทั่วเมือง และความสวยเข้าตาผู้ชมจนกลายเป็นสาวฮอตที่น่าจับตามอง วันนี้ มิ้ม ได้มาเล่าเรื่องรางของตัวเองให้ฟังว่า…
“เข้าวงการบันเทิงมาตั้งแต่อายุ 8 ขวบ เล่นละครเรื่องวุ่นนักรักเต็มบ้าน ตอนนั้นยังเรียนอยู่ แล้วมีเพื่อนเป็นนักแสดง แม่เขาก็เลยชวนมิ้มมาแคสงานด้วย จกานั้นก็แคสงานมาเรื่อยๆ ไปแคสโฆษณามาเป็น10 ตัวก็ไม่เคยได้ คือแคสแล้วแคสอีกวนๆ อยู่อย่างนั้น แต่เราก็ยังไม่หยุดแคส จนหลังๆ เราเริ่มจับทางได้ ว่าควรทำยังไง มิ้มก็ฝึก สั่งสมประสบการณ์มาเรื่อยๆ ชอบตีความตัวละคร ชอบท่องจำบท
ด้วยความที่เราเป็นเด็ก เราไม่ได้คิดอะไรมาก แม่อยากให้ไปแคสก็ไป พอเราโตขึ้น เราก็รู้สึกเราชอบทางนี้เหมือนกันนะ พอได้มาเล่นละครเรื่องวาสนารัก มิ้มรู้สึกว่ามิ้มชอบในอาชีพนี้ เรียกว่าเราทำไปจนเรารัก เราอยากทำมันไปเรื่อยๆ ไม่ได้รู้สึกว่าเราหมดแพชชั่น เราท้อกับการมาแคสงาน ทำแล้วเรารู้สึกว่าเรามีความสุข ได้เจอผู้คนหลากหลาย”
ขอใช้ชีวิตวัยรุ่น ยอมไม่รับงานเพื่ออยากใส่เหล็กจัดฟัน
“ครั้งนึงในชีวิต มิ้มก็อยากจะได้ลองใส่เหล็กจัดฟันบ้าง อยากเปลี่ยนสียาง เป็นความฝันของมิ้มเลย ตอนแรกแม่จะให้จัดแบบใส จะได้ทำงานได้ มิ้มก็บอกแม่ขอเถอะนะ ขอจัดฟันแบบใส่เหล็ก แม่ก็ไม่อยากห้ามเรา ก็เลยยอม ช่วงนั้นเป็นช่วงที่มิ้มเรียนหนักด้วย เพื่อจะเข้านิติศาสตร์ ธรรมศาสตร์ แต่ก็ได้ซีรีส์มาเรื่องนึง แล้วธี่หยดก็มาเป็นจุดเปลี่ยน ตอนนั้นที่ไปแคสมิ้มใส่เหล็กดัดฟัน ผมยาว แล้วก็ได้ ตอนนั้นคือคิดแล้วคิดอีกเลยนะ แต่ด้วยความที่บทดูน่าสนใจ มันท้าทายความวามารถเราดีนะ เราอยากเล่นหนังมาก แต่ไม่เคยได้ไปแคสเลย นี่เป็นการแคสหนังครั้งแรก และบทก็ยาก ท้าทายมาก ถ้าได้เล่นเรื่องธี่หยดจะยอมเปลี่ยนลุคเลย สุดท้ายก็ยอมตัดผมสั้น ถอดเหล็กออก อยากให้คนเห็นศักยภาพของมิ้ม ว่ามิ้มสามารถเล่นได้ทุกบทบาท อยากให้คนจดจำ มิ้น รัตนวดี= แย้ม ธี่หยด”
“มิ้ม รัตนวดี” เจอเรื่องขนลุกมีวิญญาณผู้หญิงแก่ตามมาเข้าฝันบอกให้เล่นฉากผีเข้า ว่าให้เป็นอย่างไร ใน “ธี่หยด”
"เราก็ไม่รู้ว่าความรู้สึกซีนนั้นหรือความรู้สึกผีเข้ามันเป็นยังไง แล้วคืนนั้นหนูก็เลยฝันว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งเป็นผู้หญิงแก่ๆ เนี่ยค่ะ มานั่งข้าง ๆ หนู เขานั่งที่พื้นแล้วหนูก็มองเขาอยู่ แล้วเขาก็เล่นให้ดูว่า เออเนี่ยเป็นยังไง เราก็จำความรู้สึกเหมือนเราโดนผีเข้าประมาณนั้นค่ะ แต่ว่าเราอาจจะคิดมากไปก็ได้ค่ะ เพราะว่ามันจะค่อนข้างเครียดตั้งแต่ตอนนั้น"
และล่าสุดเจ้าตัวไปถ่ายรายการหนึ่ง ขณะใส่เสื้อผ้าที่ทางรายการเตรียมให้ น้องก็มีอาการหายใจไม่ออก เหมือนเสื้อผ้ารัดแน่นกว่าปกติ ทำให้หน้ามืด มีอาการคล้ายจะเป็นลม พี่ทีมงานพยายามแก้ไขเสื้อผ้าให้ 2-3 รอบยังไงก็ไม่หาย จนทีมคอสตูมได้เดินมาทักว่า พี่เห็นมีวิญญาณผู้หญิงคอยตามน้องมิ้มอยู่ ทางผู้จัดการต้องไปจุดธูปขอขมาอาการเลยดีขึ้น ซึ่งนอกจากนี้มีหลายคนทักว่าให้ไปทำบุญให้กับน้าแย้ม ตัวจริงที่มิ้มรับบทอยู่ เพราะว่าเรื่องนี้สร้างจากเค้าโครงเรื่องจริง ซึ่งน้องมิ้มเลยนัดเพื่อน ๆ นักแสดง ธี่หยด ไปทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับวิญญาณน้าแย้มตัวจริง วิญญาณผีชุดดำ และสัมภเวสีทั้งหลายเป็นการด่วน"
เล่าถึงการแบ่งเวลาการเรียนและเวลาทำงาน
“เรื่องการเรียนวันไหนที่หยุดเรียนเพื่อมาทำงาน ก็จะใช้วิธีเรียนย้อนหลังเอาเลย ไปอ่านหนังสือทบทวนบทเรียน เช็คว่าวันนี้เพื่อนๆเรียนเรื่องอะไรกัน แล้วก็เรียนตามเพื่อน ตามงานกับเพื่อน จะทำเลย ไม่เก็บสะสมงานไว้ ถ้าเราบอกตัวเองว่าเดี๋ยว ไว้ก่อน มันจะเป็นดินพอกหางหมู เดี๋ยวค่อยทำอยู่อย่างนั้น เราจะไม่ได้อะไรเลย
ถามว่ามันมีความขี้เกียจไหม มันมีบ้างอยู่แล้วแหละที่บางวันเราไม่อยากทำอะไรเลย อยากนอนเฉยๆ แต่เราก็สู้ เรารู้สึกว่าเราโตแล้ว ต้องมีความรับผิดชอบ ก็ต้องทำให้เต็มที่ สุดๆ ไปเลย”
และอีกหนึ่งผลงานของ “มิ้ม รัตนวดี” ตอนนี้ ขึ้นแท่นนางร้ายเข้าร่วมรายการ นางร้ายไทยแลนด์
“มิ้มกำลังจะมีผลงานในการเข้าร่วมรายการ นางร้ายไทยแลนด์ มิ้มอยากลองอีกลุคนึง อยากลองทางนางร้ายดูบ้างว่าความสามารถเราถึงไหม อยากลองเล่นในหลายๆ บทบาท จากที่คนเห็นมิ้มเป็นผีแล้วก็อยากจะลองเล่นร้ายๆ เป็นอีกขั้วนึงดู อยากลองท้าทายตัวเอง อยากลองเล่นให้หลากหลายบทว่าแบบไหนที่เหมาะกับเรา
มุมมองของมิ้ม นางร้ายในยุค 2023 นางร้ายสมัยใหม่ ต้องใช้สีหน้า แววตา น้ำเสียง ต้องมา นางร้ายในยุคนี้ไม่จำเป็นต้องกรี๊ดอย่างเดียว เราต้องตีความกับบทและครีเอตให้เข้ากับยุคสมัยว่าเราจะสื่อสารออกไปยังไง มิ้มว่าถ้าเรากรี๊ดกร๊าดมากไปมันดูเป็นการแสดง มิ้มว่าการร้ายแบบธรรมชาติดีกว่า”