“แดน วรเวช” ไฟเขียว! เปลี่ยนใจอยากมีลูกแล้ว รู้ “แพทตี้” อยากมีแต่ไม่พูด บอกโดยการเปิดคลิปเด็กให้ดูทุกวัน เพื่อลูกยอมเปลี่ยนแปลนบ้าน หมกมุ่นจัด ลุ้นเดือนนี้อาจมีเซอร์ไพรส์ บอกไม่นับวันตกไข่ เน้นตกมัน เห็นภาพตัวเองตอนเปลี่ยนผ้าอ้อมแล้ว ไม่ติดเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายก็ได้ แต่แฝดเลยไหมต้องคิดอีกที ถ้าไม่มีภายใน 2 ปี จะพึ่งวิธีวิทยาศาสตร์
ในที่สุดก็เปลี่ยนใจ อยากมีโมเมนต์เป็นพ่อคนกับเขาบ้างแล้ว สำหรับนักร้องหนุ่ม “แดน วรเวช ดานุวงศ์” ที่ล่าสุดก็ยอมใจอ่อน เป็นฝ่ายพูดก่อนว่าพี่พร้อมแล้ว โดยงานนี้หนุ่มแดน ได้เล่าโมเมนต์ตอนพูดเรื่องนี้กับสาว “แพทตี้ อังศุมาลิน สิรภัทรศักดิ์เมธา” ให้ฟัง ว่าน้องถึงกับตกใจและถามซ้ำว่าจริงเหรอ เพราะไม่เคยพูดเรื่องอยากมีลูกเลยตั้งแต่คบกันมา และที่เซอร์ไพรส์กว่านั้น ก็คือเดือนนี้อาจมีลุ้น ว่าจะได้เบบี๋มาจากทริปฉลองครบรอบแต่งงาน 1 ปีด้วย
“ครบรอบแต่งงาน 1 ปีก็ดีครับ ดีกว่าที่คิด ดีขึ้นเรื่อยๆ คือตอนแรกมันก็จะมีหลายๆ คนที่พบเจอ จะพูดถึงเรื่องปัญหา ว่าอาจจะเจอปัญหาโน่นนี่ได้จากการใช้ชีวิตคู่ ที่ไม่เคยอยู่ด้วยกัน 24 ชั่วโมงทุกวัน เราก็แบบเอ๊ะ มันจะเป็นอย่างนั้นจริงเหรอ แต่ว่าก็ไม่เจอนะ เพราะเราตั้งใจที่จะปรับจูนกันก่อนที่จะแต่งงานอยู่แล้ว อย่างเรื่องบ้านกว่าจะลงตัวก็นาน เพราะอยากจะให้สบายใจที่สุดทั้งสองคน คือเราก็พยายามเอาข้อดีข้อเสียของแต่ละอันมา ว่าอยู่โซนนั้นโซนนี้อันไหนดี อันไหนข้อเสียเยอะกว่ากัน คือก็ไม่ได้บอกว่าฝั่งโน่นไม่ดีนะครับ แต่ ณ วันนี้เราต้องการพื้นที่ที่เยอะ ซึ่งพื้นที่ที่บ้านผมเยอะมากๆ แล้วเราเป็นคนเดินทางบ่อย ที่ที่ติดกับข้างบ้านก็คือบ้านเก่าผม ซึ่งคุณพ่อคุณพ่อแม่ พี่ชาย มีคนอยู่เยอะมากๆ เผื่อเวลาเราไม่อยู่ จะได้มีคนช่วยดูบ้านด้วย”
เผยที่ไม่แต่งสักทีเพราะรอเคลียร์เรื่องบ้าน
“ปัญหาทุกอย่างถูกแก้ไขก่อนจะแต่งงานครับ คือก่อนหน้านั้นที่ทุกคนถามเรา ว่าเมื่อไหร่จะแต่งๆ เราก็ดึงๆ ไปเรื่อยๆ เหตุผลก็คือเรื่องนี้แหละครับ อยากจะให้เคลียร์ทุกอย่างให้เสร็จก่อน ไม่อยากจะให้เข้ามาอยู่ในบ้านแล้วมันมาคุ มันก็จะมีแต่ความทรงจำที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่”
เปลี่ยนใจอยากมีลูกแล้ว เพราะรู้ว่า “แพทตี้” อยากมี
“อันนี้ก็เหมือนกัน คำถามนี้เราก็ดึงๆ มาเรื่อยๆ แต่ล่าสุดเราก็ลงในช่องเราแล้ว ว่าโอเคตอนนี้ยังไม่มี แต่ก็วางแพลนว่าน่าจะมีแล้ว จุดเปลี่ยนอันแรกเลยคือ เราแกะความรู้สึกของน้องได้ เขาไม่ได้บอกมาตรงๆ หรอกว่าอยากมี แต่ว่าเราฟังจากการสนทนาหลายๆ ครั้ง เราก็รู้สึกว่าอ๋อ ความที่น้องอยากจะมีใครสักคนให้ได้ดูแล เป็นความหมายของชีวิตเขา มันเยอะเหมือนกัน คือเขาดูคลิปเด็กตลอดเวลา แล้วก็ชื่นชมให้เราฟัง เจอน้องธีร์ น้องพีร์ เจอลูกพี่บีม (กวี ตันจรารักษ์) ก็ชอบ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร แต่มันก็เหมือนการพูดแหละ เปิดกรอกหู เราก็ซึมซับ (หัวเราะ)”
ไม่พูดว่าอยากมี แต่ทำให้เห็น
“ใช่ คือเขาอาจจะเกรงใจเรา เพราะตอนแรกผมไม่ได้แพลนเรื่องนี้ไว้ ความเชื่อเดิมผมเคยได้ยินมา ว่าการมีลูกเหมือนซื้อลอตเตอรี่ ลุ้นว่าเขาจะออกมาเป็นอย่างไร สิ่งที่เกิดขึ้นในโลกยุคนี้ แต่พอผมไปศึกษามากขึ้นเรื่อยๆ อ่านหนังสือเจอคนที่เคยมีลูกมาแล้ว มันไม่ได้ยากขนาดนั้น แล้วเราสามารถสอนเขา ให้เขาเป็คนที่เติบโตมาในสิ่งแวดล้อมที่ดีได้ เราก็เลยรู้สึกว่ามันอยู่ในการควบคุมของเรานี่ ลูกจะดีไม่ดีก็ไม่ต้องโทษใคร โทษตัวเราเอง ถ้าเขามีมุมมองความคิดที่ไม่โอเค เพราะฉะนั้นมันก็ย้อนกลับมาที่ตัวเอง ว่าต้องอ่านหนังสือเยอะ แล้วก็เรียนรู้เยอะขึ้น”
เป็นฝ่ายพูด ว่าพี่พร้อมแล้ว
“ผมก็บอกน้องนี่แหละ ว่าพี่พร้อมแล้ว น้องก็จะห่วงว่าพร้อมคือ…มีเฉยๆ แล้วตัวเองชิ่งหรือเปล่า (หัวเราะ) ผมก็บอกว่าพร้อมเป็นพ่อเต็มเวลาเลย ถ้าผมตัดสินใจที่จะมีแล้ว ผมจะทุ่มเท ใช้เวลาเกือบทั้งหมดของชีวิตเพื่อดูแลเขา โดยเฉพาะ 3 เดือน ถึง 7 ปีแรก ตอนเราบอกว่าพร้อมเขาก็ถามว่าจริงเหรอ แล้วก็ทำหน้าตกใจ เพราะไม่เคยพูดเรื่องนี้เลยตั้งแต่คบกับเขามา”
แพลนชีวิตเปลี่ยน เตรียมปรับแปลนบ้านเพื่อลูก
“เปลี่ยนเลยๆ โดยเฉพาะบ้านครับ เพราะบ้านอินดี้มาก เหมาะกับผู้ใหญ่ที่อยู่กันสองคนจริงๆ ตอนนี้ก็คือคุยกันใหม่ ว่าคงต้องปรับแปลนบ้าน ห้องที่มันเคยเป็นห้องของผม บางอันอาจจะต้องเป็นของลูก หรือมุมบันไดที่เก๋ๆ เท่ๆ มันจะเท่ไม่ได้ มันจะต้องใช้งานจริงมากขึ้น (หัวเราะ) ก็โอเค ถ้าเพื่อลูกเราก็ทำได้ ก็แปลว่าบ้านก็ยังไม่เสร็จนั่นเอง ก็คงต้องปรับต่อไป แต่ก็เหมือนที่ผมบอกในคลิป คือยังไม่มีนะ แต่วางแผน”
เตรียมตัวพร้อมมาก เพราะไม่อยากพลาดสักช่วงเวลาของลูก
“น้องก็ขุนตัวเองขึ้นมา เราก็อ่านหนังสือเป็นตู้ๆ เพราะเราไม่อยากให้พลาดสักช่วงเวลาดีๆ ของลูก แต่คอมเมนต์ก็บอกว่าอย่าซีเรียสมาก อย่ากดดัน แต่ผมก็ไม่ได้ซีเรียส ผมมีความสุขกับสิ่งที่ผมได้ทำแบบนี้ เหมือนตอนที่ผมทำเพลง ผมก็จะหมกมุ่นประมาณนี้แหละ มันไม่ได้เครียด มันสนุก มันเป็นนิสัยของผมเอง (แพลนเรื่องลูกมานานหรือยัง?) ก็เกือบปีนะ จริงๆ แต่งงานมาได้สักระยะ ตอนทำบ้านเสร็จแล้วเข้ามาอยู่แล้ว ตอนนั้นยังไม่ได้แพลน”
ตรวจสุขภาพและปรึกษาหมอเรียบร้อย ลุ้นลูกอาจจะมาเดือนนี้ก็ได้
“ก็มีการตรวจสุขภาพ มีปรึกษาหมอแล้ว (เดือนนี้จะมีลุ้นไหม เพิ่งไปต่างประเทศมาด้วย?) ก็ลุ้นๆ ดูแล้วกัน (หัวเราะ) หมกมุ่นๆ อากาศดีมาก (มีนับวันตกไข่ไหม?) ไม่นับๆ เน้นตกมันอย่างเดียว (หัวเราะ) ถามว่าอยากได้ผู้หญิงหรือผู้ชาย ผมได้หมดๆ ตอนนี้ได้หมดแล้วครับ ก็รอลุ้นๆ รอดูทริปต่างๆ ที่จะไป ถ้าออกทริปก็แสดงว่าไปลุ้นกัน (หัวเราะ) ล่าสุดก็เป็นทริปฉลองแต่งงาน ไปสวีเดนกับเดนมาร์กมา 14 วัน หมกมุ่นเลย เที่ยวจุกๆ เต็มที่ (หัวเราะ)”
จะเอาแฝดเลยไหมยังคิดกันอยู่ ถ้ารอ 2 ปีไม่มาอาจจะพึ่งวิธีวิทยาศาสตร์
“มันก็มีสองมุม พอเราเป็นคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ การมีทีละคนก็อาจจะทำให้เราโฟกัสได้ง่าย แต่ว่าข้อดีของการมาพร้อมกันเลย ทุกอย่างก็ทีเดียว ก็เดี๋ยวยังรอคิดกันอยู่ครับ ถามว่ามั่นใจในศักยภาพตัวเองไหม ก็ลองดู (หัวเราะ) ก็รอปีสองปี ถ้าไม่มาก็อาจจะไปพึ่งวิธีวิทยาศาสตร์”
เห็นภาพตัวเองตอนเป็นพ่อคนแล้ว
“เห็นครับ คือถ้าผมเริ่มที่จะพูดว่าจะทำอันนี้ แสดงว่าผมเห็นภาพมันชัดเจนมากๆ แล้วล่ะ เห็นภาพเปลี่ยนผ้าอ้อม คือตอนแรกก็ไม่คิด แต่ว่าผมทำได้ครับ ไม่เคยซ้อมทำกับหลานเลย คือผมจับเด็กจริงๆ จังๆ ก็คือลูกพี่บีมนะ ทั้งสองรุ่นเลย ซึ่งมันคือมือสั่นโคตรๆ กลัวทำของเขาตก ก็แค่นั้นแหละ ป้อนนมยังแหยงๆ เลย พอเป็นลูกคนอื่นนะครับ แต่พอเป็นลูกเรา เราก็ค่อยเรียนรู้ไป”