“ยุ้ย-ธันน์” เปิดใจกว่าจะได้ลูกคนแรกไม่ใช่เรื่องง่าย ด้วยเรื่องอายุ ทำให้มีไข่ที่สามารถฝังได้แค่ใบเดียวเท่านั้น บอกต้องระวังตัวเองสุดๆ แต่ตอนนี้พ้นภาวะวิกฤตไปแล้ว อายุครรภ์ได้ 3 เดือนกว่า เฉลยเพศได้ลูกสาวสมใจ ด้านคุณพ่อเห่อมาก เตรียมไว้หนวดแต่เนิ่นๆ แถมทำสนามเด็กเล่นเตรียมไว้ให้แล้ว ลั่นตั้งแต่มีลูกคนนี้ ทุกวันมีแต่ความสุข เตรียมหยุดงานยาวๆ เลี้ยงลูกกันเอง
ถือเป็นเรื่องน่ายินดีของวงการบันเทิงจริงๆ ตั้งแต่นักแสดงสาว “ยุ้ย จีรนันท์ มะโนแจ่ม” กับสามีหนุ่มมาดเข้ม “ธันน์ ธนากร” ออกมาเปิดเผยว่ามีทายาทสมใจแล้ว หลังจากที่รอคอยมากว่า 4 ปีเต็ม ล่าสุดทั้งคู่ได้มาเปิดใจถึงเรื่องนี้ ณ คลินิกอินสไปร์ ไอวีเอฟชั้น 5 อาคารเพลินจิตเซ็นเตอร์ คลองเตย บอกว่ากว่าจะได้ลูกคนนี้มาไม่ใช่เรื่องง่าย ถือเป็นปาฎิหารย์จริงๆ
ยุ้ย : “ตอนนี้ 3 เดือนกว่าแล้วค่ะ ส่วนตอนที่ประกาศตอนนั้นเกือบๆ 2 เดือนค่ะ รอกันมายาวนานมาก ยุ้ยก็ให้สัมภาษณ์มาตลอดว่ายุ้ยอยากมีลูก และรอนานมาก คราวนี้สมหวังแล้วค่ะ (หัวเราะ) รอมาตั้งแต่แต่งงานก็ 4 ปีค่ะ”
ธันน์ : “จริงๆ เราก็วางแผนตั้งแต่แต่งแล้ว ว่าพอแต่งก็อยากจะมีลูกเลย แต่ก็ผ่านมา 4 ปี”
ยุ้ย : “ลองมาทุกวิธีแล้ว ปล่อยธรรมชาติแล้ว แต่น่าจะด้วยตัวยุ้ยอายุเยอะด้วยส่วนนึง และ 20 กว่าปีทำงานหนักมาตลอด ไม่ได้พักเลย ละครส่วนใหญ่ก็เครียดมาก ทุกเรื่องร้องไห้ตลอด คุณหมอก็เลยบอกว่าถ้าไม่หยุดพักละคร น่าจะไม่ได้มีลูกแล้ว (หัวเราะ) ก็เลยเป็นเหตุผลที่หยุดรับงานละครก่อน”
บอกไข่ติดแค่ใบเดียว ทุกอย่างจึงต้องระมัดระวังไปหมด
ยุ้ย : “ครั้งนี้ใช้วิทยาศาสตร์ค่ะ และมีการฝังตัวอ่อน แล้วก็ผสมค่ะ ครั้งแรกก็ติดเลยค่ะ โชคดีมาก”
ธันน์ : “และมีใบเดียวด้วย เป็นพรหมลิขิตสุดๆ”
ยุ้ย : “ใช่ค่ะ และด้วยความที่ยุ้ยน่าจะเกิดภาวะอายุเยอะอะไรต่างๆ ทำให้ไข่ก็มีน้อยมาก และที่ได้ไปสำเร็จก็คือมีใบเดียว ไม่ได้เลือกเลย (หัวเราะ) คือเขาตั้งใจมาเลย คุณหมอบอกว่าปาฎิหาริย์นะ (หัวเราะ)”
ธันน์ : “แต่จริงๆ เรารู้อยู่แล้วนะครับ เพราะแรกๆ เราก็ได้ประมาณ 3 ใบ แล้วก็ต้องลุ้น Day 1 Day 2 Day 3 ว่าผ่านหรือไม่ผ่าน คือตื่นเช้ามาลุ้นทุกวัน”
ยุ้ย : “เป็นอะไรที่ลุ้นมาก บางทีตื่นมายุ้ยต้องกินข้าวให้อิ่ม เพราะถ้าไม่อิ่ม ยุ้ยจะกินข้าวไม่ลง คือใจมันเหมือนจะระเบิดตลอดทุกวันที่รอลุ้นว่าวันนี้จะเป็นยังไง แต่เท่าที่คุยกับพี่คนที่เป็นคนผสมไข่ เขาก็พูดว่าน้องแข็งแรงมาก น้องตั้งใจมาเลย ได้แน่นอน (หัวเราะ) ตอนที่รู้ก็คือตอนนั้นไม่ได้อยู่ในบ้าน ยุ้ยแทบอยากจะกรี๊ด เก็บกดมาก แล้วธัญญ์กำลังซื้อโดนัทอยู่ ยุ้ยก็อยากจะกรี๊ดมาก เพราะมีไลน์กลุ่มมาบอกว่า คุณยุ้ยตั้งครรภ์นะครับ จะร้องไห้ด้วย กรี๊ดก็จะกรี๊ด แล้วอยู่ในห้าง ทำอะไรไม่ถูก ดีใจมาก”
ธันน์ : “ตอนนั้นผมซื้อโดนัทอยู่ ก็บอกเขาว่า คุณใจเย็น เดี๋ยวกลับไปกรี๊ดที่บ้าน (หัวเราะ) แต่พอหลังจากนั้นก็ยังมีเรื่องน่าเป็นห่วงอีกหลายอย่างนะ ถึงจะฝังติดแล้วก็ตามก็ต้องระวังตัว”
ยุ้ย : “เหมือนกับทุกสิ่งทุกอย่างก็ยังไม่ 100% เราเองก็ยังต้องระวังตัวมากขึ้น”
เผยมีช่วงที่เลือดออก ทำนอยด์และเครียดไปหมด
ยุ้ย : “ช่วงนั้นระวังมากเลยค่ะ ธันน์เขาระวังทุกอย่าง ห้ามถืออะไรเลย ห้ามทำอะไรเลย เดินเป็นเจ้าหญิงอย่างเดียว (หัวเราะ)”
ธันน์ : “แรกๆ ต้องระวังการกระทบกระเทือนครับ มีอยู่วันนึงด้วยความที่เรารู้ว่าท้องแล้ว และกำลังเดินดูต้นไม้ คิดไปไกลแล้วว่าจะมีสวนสนุกให้ลูก จะมีต้นไม้ วางแผนหมดแล้ว”
ยุ้ย : “เพิ่งรู้ว่าท้อง เพิ่งติดได้ไม่ถึง 10 วัน พ่อเตรียมจะทำสนามเด็กเล่นให้ลูก ก็ไปซื้อต้นไม้กัน วันนั้นก็ไม่ได้ถือว่าเดินเยอะ เพราะระวังตัวอยู่ แต่วันนั้นแอบมีเลือดออก ก็เครียดทั้งยุ้ย เครียดทั้งคุณหมอ (หัวเราะ) แต่ก็แอบคิดว่าอาจจะเป็นเลือดธรรมชาติ ก็โชคดีที่ไม่มีอะไร ก็เครียดนะ ยุ้ยก็กังวลทุกวัน แต่คุณหมอบอกว่าห้ามเครียด ไปหาอะไรกิน ไปเที่ยว จะได้ไม่ต้องเครียด แต่ในใจมันก็ลุ้น”
ธันน์ : “เพราะระยะเวลาที่เราทำมาใช้เวลานานมาก ตั้งแต่เตรียมร่างกาย เตรียมไข่ ฉีดยานั่นนี่ ตื่นมาทุกวันต้องฉีดยา”
ยุ้ย : “ต้องมีการกระตุ้น”
ธันน์ : “เป็นยากระตุ้นฮอร์โมน กระตุ้นไข่”
ยุ้ย : “เขาเรียกว่าเป็นโปรแกรมที่เราจะต้องทำเพื่อกระตุ้นไข่ แล้วก็ต้องฉีดเองด้วย และมาฉีดที่คลินิกด้วยค่ะ”
ธันน์ : “คือผมเห็นเขาทุกวันอยู่แล้ว ก็เห็นว่าเขาเหนื่อยมากเลยนะกว่าจะเริ่มผลิตไข่ให้สมบูรณ์ กว่าจะได้ไข่มา กว่าจะผสม มันเหนื่อยมาก แต่ต้องขอบคุณคุณหมอนะเพราะว่าคุณหมอจะพูดกับเราเสมอว่าถ้าร่างกายเราไม่ดี เขาจะไม่ใส่ เพราะเรามีความหวังแค่ตัวเดียว”
ยุ้ย : “ใช่ คือไข่เรามีค่ามาก เพราะเรามีแค่ฟองเดียวจริงๆ คุณหมอจะบอกว่าโลเกชั่นที่จะไปฝังตัวอ่อน ถ้าเรายังไม่แข็งแรงจริงๆ หมอจะไม่มีวันฝังตัวอ่อนเข้าไป เพราะมันเสี่ยงมากๆ และเราเองก็ไม่รู้ว่าจะมีไข่อีกหรือเปล่าในอนาคต ใช้ระยะเวลาค่อนข้างยาวค่ะ ยุ้ยต้องดูแลตัวเอง ต้องบำรุง กินทั้งยาบำรุง ทั้งฉีดยาบำรุงทุกอย่าง หลายเดือน ประมาณครึ่งปีได้ค่ะ แต่ตอนนี้พ้นระยะอันตรายแล้วค่ะ ถือว่าโอเคแล้ว คุณหมอก็ยังบอกเลยว่าอยากจะบินไปต่างประเทศอะไร ก็ขอให้เป็นเดือนพฤศจิกายนไปก่อนนะ เพราะเห็นคุณแม่เที่ยวเก่งเหลือเกิน (หัวเราะ)”
บอกได้ลูกสาวสมใจทั้งคู่ เตรียมตั้งชื่อเป็นหนึ่งในละครที่ตนเคยเล่น
ยุ้ย : “ทราบเพศแล้วค่ะ”
ธันน์ : “บอกได้เลย ผมเห่อมาก อยากจะบอกอยู่แล้ว (หัวเราะ) เป็นผู้หญิงครับ”
ยุ้ย : “ถูกใจทั้งคุณพ่อ คุณแม่ค่ะ”
ธันน์ : “พยายามไว้หนวดอยู่ครับ”
ยุ้ย : “เรื่องแพ้ท้อง คือโชคดีมากเลย ยุ้ยแข็งแรงมาก ยุ้ยจะบอกกับลูกเสมอว่าอย่ากวนแม่เยอะนะ แม่จะได้ทำงานหาเงินมาเลี้ยงลูก เขาก็ไม่กวนเลย ไม่เคยแพ้ท้องเลย แม้แต่อาเจียนครั้งเดียวก็ไม่เคย แข็งแรงมาก”
ธันน์ : “ตอนนี้เราเหมือนเป็นคนท้องสองคน คือยุ้ยเองต้องกินตลอดเวลา เพราะเขาจะหิว เราก็เลยต้องกินเป็นเพื่อน”
ยุ้ย : “ยุ้ยกินอะไรเหลือนี่ก็เก็บกินหมด (หัวเราะ) ทานได้ทุกอย่างค่ะ ไม่มีเหม็น ก็มีคนบอกว่าเดี๋ยวจะเหม็นสามี แต่นี่ยังไม่มีนะ ไม่เคยแพ้เลยค่ะแต่อยากกินของหวาน กินไอติมทีนึง 3 แท่ง ปกติไม่เคยอยากกินไอติม เมื่อวานถึงขั้นต้องลุกขึ้นมาชงน้ำหวานกิน อยากกินอะไรหวานๆ เย็นๆ ชื่นใจๆ อยากกินอะไรก็อ้างลูกตลอด แต่ปกติเป็นคนไม่กินหวานนะคะ”
ธันน์ : “ยุ้ยไม่แพ้ แต่ผมแพ้ ปกติผมจะเป็นคนไม่กินส้ม แต่นี่กินกันเป็นกิโลเลย มันรู้สึกเปรี้ยวปาก (หัวเราะ)”
ยุ้ย : “ก็มีทานอะไรที่ไม่ค่อยได้กินอย่างส้มนี่แหละค่ะ แล้วก็กินเยอะผิดปกติ ยุ้ยเองจากที่ไม่ค่อยกินอะไรหวานๆ ไอติมเป็นปีๆ บางทียุ้ยยังไม่เคยกินเลยแต่นี่กินเยอะมาก อยากกินหวานๆ”
บอกทุกวันนี้มีความสุขมากที่ได้ลูกคนนี้มา
ยุ้ย : “ปาฎิหาริย์จริงๆ ค่ะ บอกได้เลยว่ามีความสุขมาก ตั้งแต่มีเขาคือมีความสุขจริงๆ และยุ้ยเองตั้งแต่ก่อนมีเขา หรือในระหว่างมีเขา ยุ้ยก็ได้สวดมนต์ นั่งสมาธิ ชีวิตมันมีแต่ความสุข แค่ตื่นมาแล้วก้าวเท้าลงเตียงรู้สึกว่าชีวิตมันเปลี่ยนไป มีความสุขมากจริงๆ ค่ะ”
ธันน์ : “แค่เราไปซาวด์เห็นหน้าลูก อาจจะไม่ค่อยชัดเท่าไหร่ ใจเราก็เต้นตุ๊บๆ แล้ว ครั้งแรกในชีวิตที่เป็นพ่อคน”
ยุ้ย : “น้ำตาจะไหล มันมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก เราสองคนอยากได้ลูกสาว แต่คุณหมอบอกว่าเลือกไม่ได้ เขาจะมายังไงก็ต้องอย่างนั้น แต่ทีนีถ้าเรามีไข่หลายฟอง แล้วจะเอาไข่มาใส่ในท้องเราเป็นแฝดค่อยเลือกตอนนั้น วันที่รู้ว่าลูกในท้องเป็นผู้หญิง คุณหมอบอกว่าเป็นปาฏิหาริย์ เพราะว่าเราอยากได้ลูกผู้หญิงอยู่แล้ว”
ธันน์ : “จริงๆ เราอยากได้ท้องเดียว แต่เป็นแฝดไปเลย จะชายหญิง หรือว่าหญิงๆ เลยก็ได้ ด้วยอายุเราด้วย และแน่นอนครับ ลูกต้องเหมือนพ่ออยู่แล้ว”
ยุ้ย : “เขาบอกว่าขอให้ลูกหน้าตาเหมือนเขา ยุ้ยบอกว่าไม่เป็นไร ขอให้นิสัยเหมือนยุ้ย (หัวเราะ) หน้าตาเหมือนพ่อได้ แต่ขอนิสัยเหมือนยุ้ย ขอแค่ให้จบตรงนี้แล้วกัน (หัวเราะ)ส่วนเรื่องชื่อ คิดไว้หลายชื่อมาก กลางคืนนอนคิดชื่อกันตลอด แล้วจดกันเอาไว้ แล้วจะเอาไปให้อาจารย์ที่เคารพช่วยดู ประกอบกับวันที่เขาเกิดด้วย ทั้งชื่อเล่นและชื่อจริงอาจจะเป็นชื่อเดียวกับนางเอกละครเรื่องหนึ่งที่ยุ้ยเคยเล่น”
เผยทำทุกอย่างทั้งวิทยาศาสตร์และสายมู
ยุ้ย : “ดูฤกษ์คลอดหมดแล้วค่ะ ดูแม้กระทั่งฤกษ์ฝังตัวอ่อน (หัวเราะ)”
ธันน์ : “อย่างเราต้องเอาทุกอย่างมาควบเพื่อช่วยกัน เพราะเรามีไข่แค่ใบเดียว เลือกอะไรไม่ได้”
ยุ้ย : “ผ่านทั่งวิทยาศาสตร์ ไสยศาสตร์ผสมกันมาหมด ขอสวดมนต์ไหว้พระ ทุกวันนี้ก็ยังสวดมนต์ไหว้พระขอพรทุกอย่าง”
ธันน์ : “หลังจากนี้ก็คือเดินสายแก้บนยาวเลยครับ เยอะเลยครับขอทุกที่”
ยุ้ย : “ทุกวันนี้ยุ้ยก็ยังสวดมนต์และทำบุญอยู่ ยุ้ยจะมีกล่องทอง ไว้ใส่เงินเพื่อทำบุญที่ต่างๆ ให้ลูกได้ทำบุญกับเราด้วย และครั้งนี้ก็ตั้งใจจะผ่าคลอดค่ะ เพราะว่าก่อนหน้านี้ยุ้ยได้มีการผ่าตัดเพื่อปรับแต่งมดลูก มันเลยทำให้คลอดธรรมชาติไม่ได้ ก็ต้องผ่า”
เผยเตรียมทำสนามเด็กเล่นให้แล้ว และคงพักงานยาว 3-4 ปี
ธันน์ : “ตอนนี้ทำสนามเด็กเล่นแล้ว เอาต้นไม้ใหญ่ๆ มาลง เตรียมทำบ้านต้นไม้ ด้วยความที่ที่บ้านหลานยุ้ยก็ท้อง ทีนี้ก็น่าจะมีเพื่อนเล่นแล้ว นั่นเขาก็ได้ลูกสาวเหมือนกัน”
ยุ้ย : “บอกแล้วว่าอย่าพาลูกยุ้ยไปลงบ่อปลานะ อย่าพาลูกไปปีนต้นไม้นะ (หัวเราะ) แต่คิดว่าคงไม่พ้น”
ธันน์ : “ทุกคนเห่อกันทุกคนเลยครับไม่ใช่แค่ญาติๆ พี่น้องวงการบันเทิงก็เห่อมาก เขาลุ้นกับเรามานาน”
ยุ้ย : “เรื่องงานในวงการ ด้วยอายุน่าจะพักยาว (หัวเราะ) เพราะคิดว่าอยากที่จะเลี้ยงลูกเอง 100% เลยค่ะจะไม่มีพี่เลี้ยงเราจะเลี้ยงกันเองสองคน”
ธันน์ : “ตัวผมเองตอนนี้ก็หยุดรับงานแสดงเลยครับ จริงๆ เราสองคนก็มีงานอีกสายอาชีพอยู่แล้ว ถ้าเกิดรับงานละคร ผมต้องตื่นมาตีห้าออกจากบ้าน แล้วยุ้ยท้องอยู่คนเดียวในบ้าน หรือว่าเขาต้องเลี้ยงลูกคนเดียวผมก็ไม่โอเค ก็คิดว่าหยุดช่วยเขาเลี้ยงลูกก่อน”
ยุ้ย : “น่าจะมี 3-4 ปีแน่นอน”
ธันน์ : “อาจจะมีรับเชิญบ้าง เพราะเพื่อนพี่น้องเขาก็ติดต่อมาตลอด บางทีอาจจะขอเล่นนิดหน่อย ไม่ได้ใช้ระยะเวลาเยอะมาก”
ยุ้ย : “ก็ขอบคุณลูกในท้องทุกวัน ขอบคุณที่เขาสู้ กว่าที่เขาจะปฏิสนธิ เขาสู้ เราก็จะบอกเขาตลอดว่ารอแม่หน่อยนะ ตอนที่เขาอยู่ที่นี่ จะบอกเขาว่ารอแม่หน่อยนะ เดี๋ยวแม่มารับ ไปปฎิบัติภารกิจให้เรียบร้อยค่อยมารับลูก ตอนนี้ลูกหนาวแล้ว เพราะว่าลูกอยู่ในห้องฟรีซ แล้วก็ทำบุญให้เขาทุกวัน อยากทำทุกอย่างให้มันดีที่สุด และอยากจะบอกว่าเขาคือของขวัญที่ดีที่สุด เขาคือปฏิญาณของชีวิต ตั้งแต่มีเขาตื่นมารู้สึกว่าชีวิตเรามันมีความสุขขึ้นมาก ตอนนี้เราไม่ได้มีชีวิตอยู่เพื่อตัวเราเองแล้ว เราอยู่เพื่อเขาด้วย จะทำอะไรก็ต้องคิดหมดทุกอย่าง ต้องทำให้มันดีที่สุด”
ธันน์ : “เขาเป็นสิ่งที่เข้ามาเติมเต็มชีวิตคู่ของเรา มีความสุขและสมบูรณ์ขึ้น เราคาดหวังมานาน ได้ลูกคนนี้มาเป็นผู้หญิงก็ยิ่งชอบเลย แล้วยิ่งเป็นลูกขี้อ้อน อย่างหลานผมก็ติดหลานมาก”