ยิ่งใหญ่ จัดเต็มแสง สี เสียง และโปรดักชั่นระดับเวิลด์ สแตนดาร์ด สำหรับคอนเสิร์ตเดี่ยวเวิลด์ทัวร์ครั้งแรกในชีวิต ของศิลปินเกาหลีสายเลือดไทยชื่อดังระดับโลก “แบมแบม-กันต์พิมุกต์ ภูวกุล” หรือ “แบมแบม GOT7” กับงาน “2023-2024 BamBam THE 1ST WORLD TOUR [AREA 52] in BANGKOK” ที่สร้างระเบิดความมันส์สร้างปรากฏการณ์สุดร้อนแรง วันที่ 28-29 ตุลาคม 2566 ณ ธันเดอร์โดม สเตเดียม (Thunderdome Stadium) ตอกย้ำความนิยมในไทย และสร้างสถิติใหม่ขึ้นแท่นศิลปินเดี่ยวชายเกาหลีคนแรกจัดคอนเสิร์ตสเตเดียมกลางแจ้ง SOLD OUT 2 รอบการแสดง งานนี้ผู้จัด ‘ไอมี่ไทยแลนด์ (iMe Thailand)’ ทุ่มไม่อั้นเพื่อความสมบูรณ์แบบตั้งแต่ต้นจนจบ
เปิดฉากแอเรีย 52 ของ “แบมแบม” ด้วยเพลง ‘Wheels Up’ , ‘Pandora’ กับเพอร์ฟอร์มสุดเจ๋งเวทีแทบลุกเป็นไฟ ท่ามกลางทะเลสีเขียวจาก ‘อากาบง’ (แท่งไฟวง GOT7) และเสียงกรี๊ดดังกระหึ่มจากเหล่า ‘อากาเซ่’ (ชื่อแฟนคลับ GOT7) ที่มากันเต็มทุกพื้นที่สเตเดียม ก่อนจะต่อเนื่องความสุขให้แฟนๆ ออกสเต็ปกับเพลง ‘Sour&Sweet’ , ‘Ride or die’ ตามด้วย ‘Let’s Dance’ และ ‘Who Are You ‘ ที่ได้เห็นความคาริสม่า หลงรักแล้วก็หลงรักเข้าไปอีก จากนั้น “แบมแบม” ได้ทักทายทุกคน เดินไปหาทุกโซนทั่วสนาม พร้อมต้อนรับสู่แอเรีย 52 ชวนให้ทุกคนในคอนเสิร์ตสนุกไปด้วยกันอย่างเต็มที่ และยังบอกด้วยว่าตื่นเต้นสุดๆ ไม่คิดว่าทะเลสีเขียวในสเตเดียมจะสวยขนาดนี้!! เมื่อได้รับเอนเนอร์จี้ฟูลฟีลจากแฟนๆ แล้ว เจ้าของแอเรีย 52 ไม่รอช้าไปต่อกันอีก 3 เพลง ‘Wings’ เพลงที่มีความหมายสื่อถึงอากาเซ่ นกน้อยจากขนนกเล็กๆ กลายเป็นปีกคอยโอบอุ้มแบมแบม ตามด้วยเพลง ‘Take It Easy’ , ‘GHOST’
จากนั้น อากาเซ่ได้ว้าวแรงมาก เมื่อแบมแบมได้สาดความร้อนแรง และความเซ็กซี่เล่นกับใจแฟนๆ กับเพลงไทยอย่าง ‘FIRE BOY’ ของ PP Krit (พีพี กฤษฏ์) สเปเชียลโชว์ที่ตั้งใจเตรียมมาเพื่องานนี้โดยเฉพาะ เสียงกรี๊ดดังสนั่นต้อนรับสเปเชียลเกสต์ “มาร์ค ต้วน” พี่ใหญ่วง GOT7 ที่รับไม้ต่อน้องชาย ขึ้นเวทีมาพร้อมเพลง ‘Everyone Else Fades’ , ‘You World’ และยังได้โชว์เพลงใหม่ ‘Fallin’ ออนสเตจให้แฟนคลับที่ไทยได้ชมเป็นครั้งแรก ความพิเศษยังไม่หมดเท่านั้น ไทยแลนด์สมมงดินแดนเมียหลวงได้เห็นคู่พี่น้องร้องเต้นเพลง ‘TIPPY TOE’ ด้วยกันที่นี่ที่แรก!! ยิ่งได้ยินเสียงกรี๊ด “แบมแบม-มาร์ค” ยิ่งมีพลังแท็กทีมปลุกเลือดอากาเซ่ทั้งสเตเดียมด้วย 2 เพลงฮิต ‘NANANA’ และ ‘Lullaby ‘ จากวง GOT7 เสียงกรี๊ด เสียงแฟนชานดังสนั่น มีความสุขกันยกด้อม
มาถึงอีกช่วงเวลาที่ทุกคนรอคอย แบมแบมแจก! แบมแบมจัดให้! จับลักกี้แฟน 20 คน จากทุกโซนทั้งบัตรนั่ง และบัตรยืน ได้ถ่ายรูป 1:1 แบบใกล้ชิด ตามด้วยโชว์ที่แฟนๆ รีเควสเพลง ‘Air’ และ ‘Subliminal’ ได้ซูมชัดๆ กับความเซ็กซี่แบบฉบับแบมแบม แฟนคลับใจสั่นกันทุกโพ ส่งท้ายคอนเสิร์ตด้วยเพลง ‘riBBon’ ที่แจ้งเกิดแบมแบมในฐานะศิลปินเดี่ยว ฟากอากาเซ่ก็มีโปรเจกต์เซอร์ไพรส์บอกรักเจ้าของแอเรีย 52 ด้วยการแปรตัวอักษรคำว่า “WE 52 ❤️ BAM” ที่ศิลปินหนุ่มเห็นแล้วแฮปปี้สุดๆ บอกว่าเป็นโปรเจ็กต์แรกของทัวร์นี้ และยังได้บอกความในใจของตัวเองกับอากาเซ่ไทยด้วยว่า “ผมขอบคุณทุกคนที่มาเป็นส่วนหนึ่งในวันสำคัญ ขอบคุณทุกคนที่ทำให้วันนี้เกิดขึ้นมามากกว่าฝันของผม งานนี้ไม่ได้เป็นงานเพื่อตัวผม แต่เป็นงานที่อยากตอบแทนทุกคนตลอด 10 ปีที่ผ่านมา อยากให้ทุกคนมีความสุข ขอบคุณที่รัก และซัพพอร์ตผมและ GOT7 มาตลอด ผมพูดได้เต็มปากว่าอากาเซ่ไทย คือดินแดนเมียหลวงตลอดไป นี่แหละบ้านเกิดของผม ผมรักทุกคนจริงๆ ครับ”
คอนเสิร์ตจบ แต่อากาเซ่ไม่ยอมจบ!! ตะโกนเรียกชื่อ “แบมแบม” ดังสนั่นสเตเดียม จากนั้นไม่นานเสแสงไฟบนเวทีสว่างอีกครั้ง พร้อมเสียงดนตรีเพลง Look so fine “แบมแบม” ขึ้นมาเสิร์ฟความสนุกสุดขีด ตามมาซิงเกิลไทยสุดฮอตของเจ้าตัวอย่าง ‘พี่ไม่หล่อลวง’และ ‘Do You’ แฟนในสนามร้องตามได้ทั้งเพลง เวลาผ่านไปใกล้ถึงช่วงท้ายจริงๆ แต่เอ็นเนอร์จี้แฟนๆ ไม่มีทีท่าจะแผ่ว เอ็นจอยกันขั้นสุด “แบมแบม” เลยชวน “พี่มาร์ค” ขึ้นมาร่วมแจมอีกครั้งกับ ‘Hard Carry’ เพลงที่ถูกยกให้เป็นเพลงชาติ GOT7 และเพลงเดบิวต์วง ‘Girls Girls Girls’ ปิดท้ายความประทับใจด้วยเพลง ‘riBBon’ ที่คนรักแบมแบม 25,000 คนนั่งไม่ติดเก้าอี้ พร้อมใจกันลุกขึ้นมาแดนซ์เอ็นจอยกันสุดๆ จนมาถึงช่วงที่ต้องบอกลากันจริงๆ เจ้าของคอนเสิร์ตก็ถึงน้ำตาซึมด้วยความซาบซึ้ง และปลื้มใจ!! ต้องยกนิ้ว 3 เยี่ยม!!! ให้คอนเสิร์ตครั้งนี้ ที่เต็มไปด้วยความประทับใจ อิ่มเอมความสุข สร้างความทรงจำ และหวนคิดถึงช่วงเวลาการเดินทางตลอด 10 ปี ของ “แบมแบม” กับ “อากาเซ่ไทย” ได้อย่างยอดเยี่ยมจริงๆ!!
แล้วโปรเจกต์ต่อไปของไอมี่ไทยแลนด์จะพาความสนุกจากศิลปินสุดฮอตคนไหนมามอบให้กับแฟนๆ ชาวไทยอีก รอติดตามกันได้เลยที่ Facebook @imethailand, IG และ Twitter @ime_th