xs
xsm
sm
md
lg

“นิวเคลียร์” ร้องไห้เล่าชีวิตแม่ม่าย จุกในใจต้องบอกลูกพ่อแม่เลิกกัน ลั่นชีวิตตอนนี้ไม่ต้องการแฟน (คลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หลังกลับมาโสดอีกครั้งสำหรับ “นิวเคลียร์ หรรษา จึงวิวัฒนวงศ์” ล่าสุดมาเปิดใจในรายการ WOODY INTERVIEW เล่าถึงสาเหตุลึกๆ ของการเลิกรา ที่นิวเคลียร์รู้สึกว่าเหมือนตัวเองได้เกิดใหม่อีกครั้ง ได้ทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ รู้สึกขอบคุณตัวเองที่ก้าวข้ามผ่านจุดนั้นมาได้ มีความสุขด้วยตัวเอง ในตอนนี้ยังไม่คิดมีแฟนใหม่

เป็นยังไงบ้างชีวิตตอนนี้ ?
“ก็แฮปปี้นะคะ รู้สึกตัวเองเพิ่งโตเป็นสาว รู้สึกตอนนั้นเรามองย้อนกลับไป เราเด็กมากเลย”

อะไรที่รู้สึกว่าเราเป็นเด็กในตอนนั้น ?
“ความคิดเป็นหลักเลย เด็กมาก ทำอะไรเองแทบจะไม่เป็น ต้องขึ้นอยู่กับคุณสามีเก่า”

พอวันหนึ่งที่มันเดินไปด้วยกันแล้วไม่มีความสุข ก็แค่ต้องตีจาก แต่แค่ต้องมีสติพอที่จะรู้ว่าต้องไปแล้วจริงๆ นะ แล้วคุณก็พิสูจน์ให้เห็นว่า แต่ละคนก็ดีขึ้น ?
“ใช่ค่ะ ดีขึ้นทุกคนเลย เป็นการตัดสินใจที่คิดว่าเราตัดสินใจถูก”

น้องไทก้าเป็นยังไงบ้าง ?
“มีความสุขค่ะ คือเราสองคนยึดไทก้าเป็นหลักเลย ไม่ว่าจะตัดสินใจอะไรต่างๆ ก็คือเอาไทก้าเป็นหลัก ทุกวันนี้ที่ยังอยู่ด้วยกัน ทำอะไรด้วยกันเป็นเพื่อนกัน ไปไหนด้วยกันก็เพราะว่าไทก้า”

ความสัมพันธ์ตอนที่เป็นเพื่อน แล้วมันมีกลิ่นอายของอดีตสามี ในช่วงแรกเป็นยังไงปรับตัวยากไหม ?
“มันไม่มีเลยสำหรับนิวนะ มันจบเลย เพราะว่ากว่าที่นิวจะมาถึงจุดที่นิวบอกเลิก คือนิวเป็นคนบอกเลิกเขา มันสะสมมาเยอะแล้ว เยอะมาก จนเรารู้สึกว่ารางวัลของการที่เราสะสมมาคือการจากไปโดยเราไม่เสียใจ คือเวลานิวให้คำปรึกษาเพื่อนนิวจะบอกเสมอว่า อย่าเพิ่งเลิกเอาให้สุดก่อน กลับไปดีกันเถอะ จะกี่รอบพันรอบก็ดีไปก่อน จนวันหนึ่งที่มันหมดแล้ว มันไม่รู้สึกอะไรแล้ว มันจะเดินออกไปง่ายมาก โดยที่เราไม่นึกเสียใจเลยที่เราเดินออกมา”

เพราะบางคนเวลาเลิกมันก็ยังหวั่นๆ แต่ของนิววันนั้นก็คือรู้เลยว่ามันจบแล้ว ?
“ใช่มันจบแล้ว มันหมดแล้ว วันสุดท้ายที่รู้สึก คือเราชั่งน้ำหนักตลอดว่าเรามีความสุขมากกว่าหรือมีความทุกข์มากกว่า คือถ้าทุกข์พอๆ กันกับสุข มันโอเค แต่นี่ทุกข์มันเริ่มมากกว่า แล้วเราอยู่ในบ้านเรารู้สึกอึดอัด เรารู้สึกกดดัน เราไม่มีความสุขแล้ว เราคิดว่าต้องไปแล้วล่ะ”

การออกมาจากความสัมพันธ์ แล้วมาตั้งต้นในการใช้ชีวิตอยู่คนเดียว ได้ตัดสินใจเอง ทำเองทุกอย่าง เหมือนกลับมาเกิดใหม่อีกครั้ง ไหนเล่าสิว่ามีอะไรบ้าง ?
“คือตอนแรกที่เราจะเดินออกมาไม่มีใครเห็นด้วยเลย แล้วตอนนั้นก็ไม่ค่อยมีคู่ดาราที่เขาประกาศเลิกกันเท่าไหร่ คือพ่อแม่บอกเลยว่าถ้าเธอเลิก เธอจะเป็นคู่แรกๆ เลยนะ ไม่อายเหรอ เพื่อนบางคนก็แบบไม่อายเหรอ ทำไมไม่ทนเพื่อลูก ออกมาแล้วจะยังไงทำอะไร ดูแลลูกยังไงจะต้องโดนตราหน้าว่าชีวิตคู่ไม่สมบูรณ์แบบ แล้วเราเป็นพวกที่ตอนที่คบกันก็ โอ้โห ชีวิตฉันมีความสุข สามีฉันดี ฉันมีความสุข ฉันเป็นผู้หญิงที่โชคดีที่สุดไม่อายเหรอ

ที่เรารู้สึกตอนนั้นคือ ช่างมันไม่สนใจแล้ว! ตอนนั้นรู้สึกว่าเราต้องดูแลใจตัวเอง คือหลายคนชอบบอกว่า มันต้องรักตัวเอง แต่มันมีอีกสิ่งหนึ่งที่คนอาจจะลืมไปว่า เราต้องมีความเห็นใจต่อตัวเอง มีความเมตตาตัวเอง เวลาเพื่อนมาปรึกษาเราก็ไม่เป็นไรนะ ทำดีที่สุดแล้ว มันเหนื่อยแล้วเราไม่ต้องสู้กับใครแล้ว แต่เวลาเราบอกตัวเองสู้สิ อดทนสิ อะไรอย่างน้ ลองเอาคำที่เราพูดกับเพื่อน มาพูดกับเราเองมันจะรู้สึกเบาขึ้น มันจะรู้สึกเรารักตัวเองจริงๆ ถ้าเราเป็นแบบนี้

นิวก็เลยไม่สนใจแล้วว่าใครจะมองยังไง เอาตัวเองก่อน แล้วนิวก็เดินออกมาเลย ก็เลิกเลย หย่าเลย เซ็นเลย อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด รู้สึกว่าถ้านิวรักตัวเอง ใจดีต่อตัวเอง โลกมันจะใจดีกับเรา แล้วมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ มันไม่มีข้อเสียอะไรเลย ทุกอย่างมันดีหมด นิวได้ทำในสิ่งที่นิวอยากทำ ที่ไม่เคยได้ทำ อะไรที่นิวโดนบังคับห้ามทำ นิวก็ได้ทำ นิวก็ได้ไป”

ห้ามทำเช่นอะไร ?
“ห้ามไปดำน้ำ เพราะเขาไม่อยากให้นิวไปเรียนดำน้ำ เขาไม่อยากให้นิวไปอยู่บนเรือ เขากลัวคนมาจีบ คือเขาหวงนิวมาก เขาไม่ผิด คือทุกอย่างนิวเดินตามเส้นที่เขาขีดไว้หมด เขาไม่ให้เราเล่นเลิฟซีน เรื่องไหนมีไม่ให้เล่น เสื้อผ้าห้ามเกาะอก ห้ามสายเดี่ยวเส้นเล็กๆ ห้ามเว้าหลัง ห้ามกระโปรงสั้น เราก็บ้าทำตามเขาหมดไงตอนแรก เพราะเรารักเขาไง

ตอนนี้นี่นิวได้ทำหมดเลย ไปต่างประเทศ ไปประเทศที่อยากไป อยากไปงานเฟสติวัล เราชอบ EDM แต่เขาไม่ชอบ เขาก็ไม่เคยพาเราไปเลย พอเลิก นิวก็ไปเอง จะไป Tomorrowland ก็ไป อะไรก็ไป ประเทศไหน ไปคนเดียวก็ไป พี่วู้ดดี้รู้ไหมตอนนิวไป Tomorrowland นิวยืนร้องไห้เลย คือแบบ Hardwell ขึ้นทุกอย่าง เวทีที่เขาทำแบบเหมือน Disneyland พลุ ซาวด์ คน อากาศทุกอย่างแบบ นิวร้องไห้ รู้สึกขอบคุณตัวเองที่ก้าวข้ามผ่านจุดนั้นมาได้และเลือกในเส้นทางของตัวเอง ได้มาเห็น ได้มาทำอะไรแบบนี้ นี่คือชีวิตจริงๆ”

คุยอะไรกับตัวเองในตอนที่มันเป็นวิกฤตที่สุด?
“ก็พูดว่าเราทำดีที่สุดแล้วจริงๆ เราไม่ต้องสู้เพื่อใครแล้ว เราเต็มที่แล้ว พอเราเต็มที่ พอมองย้อนกลับไปเราจะไม่เสียใจอดีตอยู่แล้ว นิวก็เชื่อว่านิวทำเต็มที่แล้ว นิวเป็นภรรยาที่ดี นิวเป็นแฟนที่ดี นิวเป็นแม่ที่ดี แต่ในเมื่อเขาไม่สามารถถนอมจิตใจเราได้แล้ว เราก็ถนอมจิตใจตัวเอง แล้วเดินก้าวต่อไปดีกว่า”

เคยร้องไห้อยู่คนเดียวไหมก่อนหน้านี้ ?
“ประจำค่ะ ช่วงที่ยังไม่ได้เลิก มันเหนื่อย มันเครียดนะ คือนิวก็มานั่งย้อนสรุปที่เราเลิกกันมันเพราะอะไรกันแน่ ก็คิดมาตลอด จนมาตกผลึกว่าเหมือนนิวให้คุณค่ากับสิ่งๆ หนึ่ง แต่พี่เขาไม่ได้ให้ความความสำคัญ ไม่ได้เห็นคุณค่าของสิ่งนั้น มันก็เลยไปด้วยกันไม่ได้

ยกตัวอย่างเช่น นิวให้คุณค่ากับคำพูดมาก คำพูดที่มากระทบจิตใจ คำพูดให้กำลังใจ ทุกอย่างที่เกี่ยวกับคำพูด แต่พี่เพชรไม่ได้ให้ค่ามัน บางทีพี่เพชรอารมณ์ไม่ดี พูดไปเรื่อย พูดไม่คิด พูดทำให้เราเสียใจ พูดให้เราเสียความรู้สึก หลายๆ ครั้งมันสะสมไง จนวันหนึ่งมันก็ไม่ไหวแล้ว คนพูดไม่คิดแต่คนฟังมันก็เก็บ”

ไทก้าเคยถามไหมว่าพ่อกับแม่ทำไมไม่อยู่ด้วยกัน เคยคิดไหมก่อนจะเลิกว่าเราต้องตอบลูกว่ายังไง ?
“เคย นิวก็มีคำพูดมากมายที่คิดไว้ในหัวเยอะมาก แต่พอเขาถามขึ้นมาจริงๆ มันก็จุกเหมือนกันนะ มันก็ไปไม่ถูกเหมือนกัน ก็บอกได้แค่ว่าปะป๊ากับหม่าม๊าตอนนี้ไม่ได้เป็นแฟนกันแล้ว เขาเข้าใจคำว่าแฟน ว่าแฟนคือการอยู่ด้วยกัน รักกัน มีลูกด้วยกัน แต่ว่าปะป๊ากับหม่ามี๊รักไทก้าที่สุดเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน ถึงแม้แบบความเป็นแฟนกัน มันจะเปลี่ยนไปนะลูก แต่ว่าความเป็นพ่อเป็นแม่ไม่มีเปลี่ยน”

ไทก้าเขาพูดว่าอะไร ?
“ทำไมเวลานอนปะป๊า หม่ามี๊ถึงไม่นอนด้วย (ร้องไห้) เดี๋ยวบ้านเราเสร็จหม่ามี๊ก็จะไม่มาอยู่บ้านปะป๊าแล้วใช่ไหม คือเขาแค่สงสัยแต่เขาไม่ได้อะไรหรอก แต่เรามันมันจี๊ดไง เพราะเราเคยเป็นเด็กสาวที่คิดว่าพอแต่งงานมีครอบครัวมีลูกแล้วมันคือจบ นั่นคือสิ่งที่เราคิด สมบูรณ์แบบที่สุดแล้วนั่นคือสิ่งที่เราคิดไง แต่ความจริงมันไม่ใช่เลย มันไม่จบ มันมีอีกหลายช่วงชีวิตมากๆ”

ในสังคมวันนี้ก็คงแบ่งเป็นหลายเสียงจะทนอยู่หรือไม่ทนดี คุณว่าเราใช้อะไรในการตัดสินใจ ?
“ลองชั่งน้ำหนักความสุขกับความทุกข์ค่ะ ถ้าสุขมันมากกว่าโอเคยังไงก็ทนอยู่แล้ว ถ้าทุกข์กับสุขพอๆ กันมันยังไปด้วยกันได้ ทุกข์ขึ้นมานิดหนึ่งก็ยังพอถูไถได้ แต่ถ้ามันทุกข์เยอะ แล้วเรารู้สึกว่าเราไม่มีความสุขเลย เราจะทนทำไม จะทนไปทำไม สู้เราออกไปแล้วมีชีวิตที่มีความสุขด้วยตัวเราเอง มันมีความสุขมากกว่าอยู่แล้ว”

ชีวิตของคุณเป็นยังไงบ้างตอนนี้ มีผู้ชายไหม ?
“ก็มีมาเรื่อยๆ อยู่นะ (หัวเราะ) ตอนแรกเราก็กลัวนะว่าออกมาจะมีใครเข้ามาเหรอ เพราะว่าอายุด้วย มีลูกแล้วด้วย แต่งงานแล้วด้วย มันมีนะพี่วู้ดดี้ แล้วแบบมีเข้ามาก็คือ เด็กๆ เยอะมาก มีตั้งแต่อายุ 21 จาก IG ส่งข้อความนั่นนี่ หรือบางทีเราไปงาน เจอเด็กแบบซีรีส์วาย ก็เป็นแนวนั้นเยอะมาก น้องทำไมไม่ชอบรุ่นเดียวกันเหรอ แบบอยากได้แม่เพิ่มเหรอ เขาก็บอกคุยกับพี่แล้วเป็นผู้ใหญ่ดี ไม่งี่เง่า แล้วแบบโอเค มีลูกแล้วยังดูแลตัวเองขนาดนี้ เขาก็ชอบ แต่ถ้าอายุน้อยมากๆ คุยไม่ค่อยรู้เรื่อง โอเคไปเที่ยวอะไรสนุกๆได้ แต่แบบให้มาคุยถึงชีวิตจริงๆ มันยากมาก เพราะเขาไม่เข้าใจในสิ่งที่เราเจอมาเลย เราผ่านอะไรมาเยอะมาก แต่เขายังไม่เคยผ่านอะไรเลยที่แบบหนักๆ มาเลย ก็ยาก”

แต่ตอนนี้คุณก็ไม่ได้ต้องการแฟน ?
“ไม่ ไม่ต้องการเลยค่ะ”
สามารถติดตาม WOODY INTERVIEW ได้ที่ช่องทาง Facebook: Woody , Youtube: Woody

@seetrue_ "นิวเคลียร์” จิ๊ดที่ใจ หลั่งน้ำตาเล่าช่วงเวลาที่บอกลูกชายว่าพ่อกับแม่เลิกกัน พร้อมแนะจะทนอยุ่ หรือ ไม่ทนแล้ว อะไรคือตัวตัดสินความสัมพันธ์ #Seetrue #ซีทรู #ข่าวบันเทิง #ข่าวบันเทิงtiktok #นิวเคลียร์หรรษา #นิวเคลียร์เพชรจ้า #ปัญหาครอบครัว #วู้ดดี้ #วู้ดดี้วุฒิธร ♬ เสียงต้นฉบับ - See True
















กำลังโหลดความคิดเห็น