“หน่อง อรุโณชา-เบลล่า” ตื่นเต้นและตกใจกระแสละคร “พรหมลิขิต” พุ่งตั้งแต่อีพีแรก ลั่นถือเป็นละครประวัติศาสตร์ ที่ทำลายสถิติเรตติ้งสูงสุดของช่อง 3 ดีใจแฟนๆ ชื่นชมในแง่ที่ละครเล่าเรื่องประวัติศาสตร์ที่ตอนเรียนจะจำยากแต่พอมาเป็นละครแล้วทำได้เข้าใจมากขึ้น ด้าน “รอมแพง” เผยเขียนพรหมลิขิตเพื่อนำเสนอวิถีชีวิตชาวบ้าน รวมถึงหลักธรรมพระพุทธศาสนาในเรื่องของเวรกรรม
กลับมาได้ยิ่งใหญ่สมศักดิ์ศรีจริงๆ สำหรับ ละครเรื่อง “พรหมลิขิต” ของทางช่อง 3 ที่ถือว่า ช่อง 3 ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามตั้งแต่อีพีแรก คว้าเรตติ้งสูงถึง 6.40 ถือเป็นเรตติ้งละครตอนแรกสูงสุด ทุบทุกสถิติละครไทย ยอดคนดูจากในโซเชียลทะลุล้านวิว ซึ่งหาได้ยากในยุคนี้ ยิ่งใหญ่สมฐานะสมการรอคอยของคนดูจริงๆ ล่าสุด ผู้จัด “หน่อง อรุโณชา ภาณุพันธุ์”ได้พากองทัพนักแสดงนำทีมโดย “เบลล่า ราณี แคมแปน”และเจ้าของบทประพันธ์ “รอมแพง”มาเปิดใจกับสื่อมวลชน ถึงกระแสพรหมลิขิตที่เกิดขึ้นว่า….
หน่อง : “พวกเราดีใจกันมากๆ ก็ขอกราบขอบพระคุณนะคะ ออเจ้าท่านผู้ชมทุกท่านมากๆ ก็เป็นกำลังใจของทีมงานนักแสดงทุกๆ คน อยากให้ติดตามไปเรื่อยๆ ด้วยค่ะ อันแรกคือดีใจมากแล้วก็ตกใจมากด้วยค่ะเพราะว่าเราก็ทำงานกันมาแล้วทุกฝ่ายทุ่มเทกันมากๆ ก็เป็นผลตอบรับที่ทุกคนได้ชื่นใจแล้วก็ภูมิใจค่ะ ก็พูดแทนทีมทุกๆ คน”
เบลล่า “แต่ถามว่ายังลุ้นอยู่ไหม ยังลุ้นอยู่ค่ะ ไม่คิดว่าทุกคนจะรอชมกันขนาดนี้แล้วก็มันเป็นเหมือนประวัติศาสตร์ช่องเลยที่เปิดตัวมาอีพีแรกได้เรตติ้งถึงขนาดนี้ ก็ถือว่าใจชื้นไปประมาณนึง ถามว่าเซอร์ไพรส์กับตัวเลขเรตติ้งไหมเซอร์ไพรส์มากไม่คิดไม่ฝันเลย ตอนที่รู้ขนลุกไปหมดเลยเพราะเราไม่คาดคิดว่าจะได้รับการตอบรับตั้งแต่อีพีแรกขนาดนี้ (พี่หมื่นกับออเจ้ากลับมาจิ้นอีกครั้ง?) ขอบคุณมากค่ะ ตอนแรกกลัวมากเลยว่าทุกคนจะเบื่อกันแล้ว แต่ทุกคนก็ยังชอบกันอยู่”
หน่อง : “(ไปมูที่ไหนมา) ถามกันเยอะเลย เราก็ขอพรค่ะเราทำงานกันก็เคารพครูบาอาจารย์ค่ะ ก็ขอพรท่านให้คนดูเมตตาค่ะ (ครั้งก่อนมีรำแก้บนคราวนี้พรหมลิขิตจะมีไหม?) ก็อยากให้มีนะคะ”
ดีใจแฟนๆ ชื่นชมในแง่ที่ละครเล่าเรื่องประวัติศาสตร์ที่ตอนเรียนจะจำยากแต่พอมาเป็นละครแล้วจำได้เข้าใจมากขึ้น
หน่อง : “อันนี้ก็เป็นสิ่งที่น่าดีใจเรียกว่าคอประวัติศาสตร์ได้มีการต่อยอด แล้วก็ได้มีการอธิบายในเว็บไซต์ของเราเองที่เป็นผู้ผลิตหรือทีมงานทุกคน ก็คือได้เข้าใจกันมากขึ้นด้วย ก็ดีใจที่ประวัติศาสตร์ไทยมาอยู่ในสังคมไทยในปัจจุบันที่เราพูดคุยกัน ทุกคนก็จะพูดถึงเลยรู้สึกดีใจมากๆ”
รอมแพง : “เรื่องประวัติศาสตร์ก็มีกระแสการถกเถียงได้ทุกตอน ก็รู้สึกดีค่ะ (หัวเราะ) เพราะว่าในเรื่องของประวัติศาสตร์มันไม่สามารถระบุอะไรชัดเจนได้เพราะมีหลากหลายประเด็นมากมีการบันทึกที่แตกต่างกันในส่วนนี้ทางอาจารย์แดง (ศัลยา สุขะนิวัตติ์) กับทีมงานก็ทำการบ้านกันมาได้เป็นอย่างดีแล้วเดี๋ยวอีกสักพักตอนต่อๆ ไปประวัติศาสตร์ก็จะมีการเล่ามากชึ้นเรื่อยๆ ก็จะมีจุดพีกของมันที่น่าติดตามเลยค่ะ
อย่างตอนล่าสุดคนก็ถกเถียงกันเรื่องพันท้ายนรสิงห์ มีใส่เอาไว้ในนิยายด้วยแต่ว่าอาจารย์แดงก็ขยายออกมาให้ชัดเจน คำพูดของพุดตานก็มีส่วนทำให้คนฉุกคิดว่าอันไหนคือเรื่องจริง อันไหนคือเรื่องที่เสริมขึ้นมา ประวัติศาสตร์ก็เป็นเรื่องที่ต้องศึกษาต่อไปตามหลักฐานที่ปรากฏค่ะ”
ด้านนักเขียน “รอมแพง” เผย “พรหมลิขิต” เล่าชีวิตวิถีชาวบ้าน เรื่องของหลักพุทธศาสนา เรื่องของเวรกรรม
รอมแพง : “ในพรหมลิขิตก็จะมีวิถีชาวบ้านมากขึ้นนะคะ ส่วนในเรื่องเวรกรรมก็จะได้รู้ว่าในหลักของศาสนาพุทธว่าร่างกายคือเปลือก ก็คือมีการเปลี่ยนจิตวิญญาณกับเปลือกของร่างกายเป็นยังไงบ้าง ก็คือจะมีการอิงประวัติศาสตร์แล้วก็อิงด้านพุทธศาสนาด้วย
ฟีดแบ็กอีพีหนึ่งกับสอง ต้องชื่นชมอาจารย์แดง สามารถขยายเรื่องขยายรายละเอียดมากขึ้นในเรื่องของประวัติศาสตร์ด้วยแล้วก็ในเรื่องของการเท้าความจากบุพเพสันนิวาสมาสู่พรหมลิขิต ก็มีความรู้สึกว่าสนุกแล้วก็รู้สึกว่าคนดูน่าจะชอบ น่าจะมีความสุขเวลาได้ชมค่ะ
ในส่วนของอาหาร อันนี้ก็ชื่นชมอาจารย์แดงอีกแล้ว เขาเสริมเรื่องอาหารเข้าไปเยอะมากแต่ในนิยายที่เขียนก็คือจะมีอาหารเพิ่มเยอะเหมือนกันแต่ว่าด้วยความที่พอมาเป็นละครก็อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มสีสัน”
อีพีต่อไป “พรหมลิขิต” เปลี่ยนเวลาออกอากาศเป็น 3 วัน จันทร์-พุธ จบวันที่ 18 ธันวาคม เวลาเดิม 20.30 น.
หน่อง : “ในอาทิตย์หน้า จันทร์ อังคาร พุธ หน้าได้เปิดรัชสมัยของพระเจ้าท้ายสระ แล้วก็จะได้เห็นตัวละครใหม่ๆ อีกเยอะมากๆ อาทิตย์หน้าจากนี้ไปคือพลาดไม่ได้เลยค่ะ”
เบลล่า : “ตอนนี้กำลังจะปูเข้าสู่เรื่องพรหมลิขิตจริงๆ แล้วนะคะ อยากจะขอกำลังใจมากทุกคนค่ะ เป็นกำลังใจให้กับพุดตานกับพ่อริดด้วยค่ะ รวมถึงกำลังจะปูเข้าถึงเรื่องประวัติศาสตร์เรื่องของพระเจ้าท้ายสระนะคะ แล้วตั้งแต่อาทิตย์หน้าเป็นต้นไปจะเปลี่ยนวันออกอากาศเป็นวัน จันทร์ อังคาร พุธ ไปจนจบถึง 18 ธันวาคมเลยค่ะเวลาเดิมคือ 20.30 น.”