“วิลลี่ ผีก้าบก้าบ” ควงภรรยาขอแก้ข่าว ยันไม่ใช่ตลกเมากร่าง ไม่ได้ไล่ “จอยบียอนด์” ลงจากเวที มีปัญหากันจริง จากมือที่สาม ยันแค่ผลักหัว “แหวดศรี” น้อง “ฮาย อาภาพร” แต่เมื่อก่อนก็เคยทำแบบนี้ เพราะรักเหมือนน้อง ช่วยให้มีงานมีเงินมีทอง เสียใจให้เกียรติฮาย อาภาพรมาตลอด แต่กลับให้ข่าวเมากร่าง วอนอย่าฟังความข้างเดียว เป็นลูกผู้ชายพอ ผิดก็ยอมรับ แต่ถ้าไม่ผิดก็พร้อมสู้
กลายเป็นประเด็นดรามาใหญ่โต กรณีที่ “จอย บียอนด์” นักร้องลูกทุ่ง ควง “แหวดศรี” น้องสาว “ฮาย อาภาพร นครสวรรค์” ขึ้นสน. แจ้งความตลกชื่อดังในข้อหาหมิ่นประมาท โดยเหตุเกิดในงานวันเกิดของกำนันชื่อดังจังหวัดสุพรรณบุรี มีการเล่นคอนเสิร์ตโดยมีศิลปินร่วมงานหลายคน เมื่อถึงคิวนักร้องชื่อดังจอยบียอนด์ขึ้นคอนเสิร์ต กลับถูกตลกชื่อดังไล่ออกจากงาน ไม่ให้ขึ้นคอนเสิร์ตพร้อมด่าทอ ต่อมาฝ่ายฮาย ก็ได้ออกมาฉะตลกดัง พร้อมบอกชื่อตรงๆ ว่าคนที่มีเรื่องกับน้องสาวคือ “วิลลี่ ผีก้าบก้าบ” เตือนออกสื่ออย่ากร่าง ขณะที่จอยบียอนด์ ได้ควงแหวดศรีตั้งโต๊ะแถลงถึงประเด็นนี้ ยันจะฟ้องทั้งแพ่งและอาญา เพราะทำให้อับอายต่อหน้าประชาชน
ล่าสุด “วิลลี่ ผีก้าบก้าบ” พร้อมภรรยา ได้ออกมาชี้แจงเรื่องนี้ โดยเผยว่ามีปัญหากับจอยแต่ไม่ได้มีเรื่องกับแหวดศรี ที่ผ่านมาก็รักกันดี โดยในวันดังกล่าว ได้ผลักหัวแหวดศรี แต่ไม่ได้ทำร้ายร่างกาย พร้อมเผยเสียใจที่ฮาย อาภาพร ออกมาให้ข่าวดังกล่าว
วิลลี่ : “ที่คุณจอยออกมาแถลงข่าวเมื่อวานว่าเขากับผมมีปัญหากัน ทะเลาะกัน เมื่อก่อนผมเป็นเพื่อนกัน มีผม แล้วก็มยุรา ฟ้าสีทอง สามท่านเป็นเพื่อนรักกันมาก เรามีอะไรก็ช่วยกัน ทำงานก็ปรึกษากัน เขาเครียดอะไรก็ปรึกษา มาวันนึง มีมือที่สามหรืออะไรก็แล้วแต่ ไปพูดให้ผมเสียหายกับนักร้องคนนี้หรือยังไงผมก็ไม่ทราบ ผมก็เพิ่งรู้เหมือนกันว่าเขาตึงผมมาเกือบ 2 ปี แต่ไปเจอตามงานที่ไหน ผมก็ไม่เคยไปโวยวายอะไรใส่เขา ต่างคนต่างเดินกัน
การไปเจอกันวันนั้น ผมรู้ว่าต้องเจอเขา เพราะเจ้านายผมที่ผมนับถือ เขาก็บอกแล้ว ผมก็โอเคแล้ว จอยนี่น้องแหวด น้องสาวอาภาพร เป็นคนชวนมาทั้งหมด น้องแหวดเป็นน้องสาวที่เรารักเหมือนน้องเรา เวลามีงานเราก็ชวนน้องไปตรงโน้นตรงนี้ เพื่อให้น้องมีเงินมีทอง แล้วน้องแหวดเขาก็ไปเต้นอยู่กับคนนี้ เราได้ยินข่าวว่าน้องแหวดมางานนี้ด้วย แล้วนักร้องคนนี้ก็จะมาด้วย”
ภรรยา : “วิลลี่บอกว่ามาก็มา เพราะแหวดเขาจะเต้นอยู่กับจอย ถ้าเขาเต้นกับจอย จอยจ่ายค่าตัวอยู่ จะมาก็มา แหวดจะได้มีค่าตัว มีเงินใช้ ไปไหนก็ชวนกันอยู่แล้ว”
วิลลี่ : “เขาอยากมาเราก็ให้มา เราเต็มใจให้มา เพราะเขาไปคุยกับพี่สมชาย พี่ที่เรานับถือ พี่สมชายก็โทร.ไปหาแฟนเขา แฟนเขาก็ต่อสายมาหาผม แล้วมีน้องหมวยอีกคนอยู่ในสาย น้องหมวยก็ได้ยินที่ผมพูดทั้งหมดว่าถ้ามีนักร้องคนนี้มา ผมก็ไม่มา นี่คือครั้งแรก แต่แฟนลูกพี่ผม ก็ยกแม่น้ำทั้งห้า ว่าจะเอาคนนี้มา เขาพูดมาอย่างนี้ เราก็ให้เกียรติลูกพี่ที่นับถือเคารพ ก็แล้วแต่ลูกพี่จะมาพา เพื่อว่าน้องแหวดจะได้เงิน เอามาให้เขาร้องเลย แต่เรารู้อยู่ในใจว่านักร้องไม่ถูกกับเรา”
เผยนาทีปะทะคารมกัน รับผลักหัวแหวดศรีจริง แต่เคยเล่นกันแบบนี้
วิลลี่ : “ผมเป็นพิธีกรอยู่ตรงนั้น มีลูกพี่ผมอีกคน ที่เป็นนักการเมืองอยู่แถวนั้น ตกเย็นเขามาถามว่านักร้องคนไหนที่ไม่ถูกกับผม ผมก็บอกว่าคนนี้ๆ ไม่มีอะไร จนคาราบาวเล่นจบ ผมก็ยังประกาศชื่อให้เขาอยู่เลย แต่พอดีกำนันเป็นคนชอบร้องเพลง ท่านก็เลยขึ้นมา ผมเป็นพิธีกร แต่ผมไปบอกพิธีกรคู่ว่ามีนักร้องนะ แต่พิธีกรบอกว่าท่านกำนันจะขึ้นร้องเพลงก่อน ท่านกำนันร้องเพลงได้ 3 เพลง ทีมงานนักดนตรีของจอยก็ยังเซ็ต ตั้งเครื่องไม่เสร็จ ผมก็เดินมาบอกแหวดว่าขอสัก 3-4 เพลง น้องแหวดก็ยังโอเค จนผู้ใหญ่อีกคนถามว่านักร้องคนไหนที่ไม่ถูกกับผม ผมก็บอกคนนี้ ทางลูกพี่ พี่สมชาย ผมไม่รู้เขาคิดอะไร เขาขึ้นไปโวยวายใส่ผม ไปด่าผมว่าทำไมไม่ประกาศให้จอยขึ้นร้อง”
ภรรยา : “วิลลี่ก็บอกว่านักดนตรีของจอยยังไม่พร้อม กำนันก็ขอร้องอีกเพลงหรือสองเพลง ทางนี้ก็ด่ากันอยู่ กำนันก็ร้องเพลง ข้างล่างก็ด่ากัน เถียงกัน (หัวเราะ) แล้วลูกพี่ด่าสองรอบ ทางนี้ก็ปรี๊ดเลย”
วิลลี่ : “ผมก็ไปคุยกับแหวด คนที่พามา คนที่รู้ว่าเราไม่กินเส้นกัน แต่คุณก็พยายามเอามา”
ภรรยา : “ความโมโห ก็ไปผลักหัวเขาเลย บอกว่าอีแหวด มึงก็รู้ว่าไม่ถูกกับคนนี้ แล้วมึงเอามาทำไม ผลักหัว ไม่ได้เขาไปตบ ไปตี เข้าไปพูดให้ฟัง ทางนี้คิดว่าเป็นพี่เป็นน้องกัน เคยเล่นกันผลักหัวกันได้ ด่าแหวด แหวดก็ไม่พูดอะไร ไม่เถียง ก็หันมาด่าจอยอีก ว่าคุณก็รู้ว่าคุณกับผมไม่ถูกกัน แล้วคุณมาทำไม มาให้มีปัญหา มีเรื่องทำไม คุยกันเสร็จเรีย พลง ข้างล่างก็ด่ากัน เถียงกัน (หัวเราะ) แล้วลูกพี่ด่าสองรอบ ทางนี้ก็ปรี๊ดเลย”
วิลลี่ : “ผมก็ไปคุยกับแหวด คนที่พามา คนที่รู้ว่าเราไม่กินเส้นกัน แต่คุณก็พยายามเอามา”
ภรรยา : “ความโมโห ก็ไปผลักหัวเขาเลย บอกว่าอีแหวด มึงก็รู้ว่าไม่ถูกกับคนนี้ แล้วมึงเอามาทำไม ผลักหัว ไม่ได้เขาไปตบ ไปตี เข้าไปพูดให้ฟัง ทางนี้คิดว่าเป็นพี่เป็นน้องกัน เคยเล่นกันผลักหัวกันได้ ด่าแหวด แหวดก็ไม่พูดอะไร ไม่เถียง ก็หันมาด่าจอยอีก ว่าคุณก็รู้ว่าคุณกับผมไม่ถูกกัน แล้วคุณมาทำไม มาให้มีปัญหา มีเรื่องทำไม คุยกันเสร็จเรียบร้อย นักดนตรีเทสเสียงเทสอะไรเสร็จ เขาก็ประกาศให้ขึ้นร้องเพลง วิลลี่ก็กลับ ไม่อยากมีเรื่อง เพราะถ้าอยู่จะมีเรื่องต่อไงคะ”
วิลลี่ : “ผมไม่รู้เรื่องเลยว่าเป็นประเด็น มีนักข่าวให้ข่าวกัน ผมก็ยังงงอยู่”
บร้อย นักดนตรีเทสเสียงเทสอะไรเสร็จ เขาก็ประกาศให้ขึ้นร้องเพลง วิลลี่ก็กลับ ไม่อยากมีเรื่อง เพราะถ้าอยู่จะมีเรื่องต่อไงคะ”
วิลลี่ : “ผมไม่รู้เรื่องเลยว่าเป็นประเด็น มีนักข่าวให้ข่าวกัน ผมก็ยังงงอยู่”
ขอแก้ข่าว ไม่ได้เมากร่าง เสียใจให้เกียรติ “ฮาย อาภาพร” มาตลอด แต่กลับพูดถึงตนแรงไป วอนอย่าฟังความข้างเดียว
วิลลี่ : “จะแก้ตัวตรงนี้นิดนึง คนเราอยู่ในงานก็ต้องดื่ม แต่บอกว่าผมไม่มีสติ ไม่ใช่นะครับ วันนั้นผมสามารถประกาศอะไรได้ ถ้าเมาแล้วกร่างไม่จริง ผมเป็นตลกตัวเล็ก ที่หาเช้ากินค่ำ ผู้หลักผู้ใหญ่ให้ความรักให้ความเคารพผม เมื่อกี้มีผู้ใหญ่มากมาย สี่ห้าวันโทร.มาให้กำลังใจ ผมก็พูดกับผู้หลักผู้ใหญ่แล้วว่าเป็นเหตุการณ์แบบนี้ ผู้หลักผู้ใหญ่ก็เข้าใจ แล้วจะบอกว่าทุกสิ่งทุกอย่าง ผมจะขอประทานโทษ ที่ได้ใช้คำรุนแรงกับน้องแหวด แต่เราได้โทร.ไปขอโทษแล้ว โทร.ไปวันรุ่งขึ้น
และโทร.ไปหาคุณอาภาพร โทร.บอกว่าเจ๊ฮาย นี่วิลลี่นะ จะมาเคลียร์เรื่องน้องแหวดที่มีเรื่องผมมีเรื่องกับนักร้องคนนี้ แต่เจ๊ฮายเขาไม่รับฟัง เขาจะรับฟังแต่มุมที่ว่า ทำไมต้องไปทำร้ายน้องเขา ไปโวยวายน้องเขา ผมก็ยอมรับว่าผมด่าจริง ถ้าเรื่องไม่ได้มาจากน้องก็คงไม่เป็นเรื่อง เพราะผมเอ็นดูน้อง พาน้องไปหากินหางานตลอด
แกก็ถามว่าเมาไหม ผมก็บอกว่าผมดื่ม แกก็บอกว่าเหมือนเมานั่นแหละ แต่ผมบอกว่าผมไม่ได้เมา ผมมีสติ แกก็บอกว่าไปให้มีสติ ผมก็รับฟังพี่ฮาย แต่ที่พูดตรงๆ ผมเสียใจพี่ฮาย ที่ผมเคารพนับถือ ที่ผมอยู่กับวงการนี้มานาน ผมให้เกียรติเขามาตลอด แต่เรื่องคำพูดมันแรงไป เสียใจ ผมบอกได้เลยว่าดูข่าวทีไรแล้วเหนื่อย เหมือนทัวร์มาลงบ้านผม แล้วครอบครัวแฟนผมก็โทร.มาถามว่าทำไมเป็นแบบนั้นแบบนี้ แต่คนที่ยืนอยู่ข้างผม คือภรรยา ผมอ้อนวอนเจ๊ฮาย ผมรักและเคารพ แต่บางครั้งพี่ให้ข่าวไป พี่ต้องดูด้วยครับ ว่าพี่แรงไหม พี่ต้องฟังหูไว้หู อย่าฟังความข้างเดียว
แล้วฝากถึงพี่น้องแฟนคลับ อยากให้ทุกท่าน หรือเป็นยูทิวบ์ อินสตาแกรม ติ๊กต๊อก หรือเฟซบุ๊ก อยากให้เห็นว่าเหรียญมีสองด้าน วันนี้ที่ออกมาให้สัมภาษณ์ ก็เป็นมุมผมบ้าง ผมไม่ได้เป็นตลกยิ่งใหญ่ไม่ใช่ตลกกร่าง ผมอยู่วงการนี้มา 40 กว่าปี ผมกล้าพูดได้เลยว่าผมอยู่กับแอ๊ด เทวดา อยู่กับแม่ผึ้ง พุ่มพวง ดวงจันทร์ แม่ผึ้งเป็นคนสอนผมมาตลอดว่าอยู่วงการนี้ต้องซื่อสัตย์ ต้องมีน้ำใจ คำพูดต้องเป็นคำพูด งานไหนช่วยได้ก็ช่วย ไม่ได้ตังค์ผมก็ไป ผมกล้าบอกน้องๆ นักข่าว พี่ๆ นักข่าว ท่านสามารถไปดูได้ว่าผมทำงานเพื่อสังคม งานอะไรผมก็ไปหมด”
ภรรยายันไม่ได้ไล่จอยลงจากเวทีด้วย
ภรรยา : “อยากขอแก้ข่าวที่เขาบอกว่าวิลลี่ไล่เขาลงจากเวที จนเขาอับอายขายขี้หน้าประชาชน จนเดินร้องไห้ลงจากเวที อันนั้นไม่เป็นความจริงเลยค่ะ เรามีเรื่องกัน จอยกับน้องแหวดยังไม่ได้ขึ้นเวทีเลยค่ะ แล้วเขาออกข่าวแบบนี้ได้ยังไง ว่าไล่ลงจากเวที เมากร่างไล่ลงจากเวที อันนี้ไม่เป็นความจริงเลยค่ะ แล้ววันนั้นเขาก็ได้ขึ้นเวทีด้วยค่ะ วิลลี่ประกาศอยู่ทุกช็อต แต่เขาไปให้ข่าวว่าไล่ลงจากเวที อันนี้ไม่เป็นความจริงเลยค่ะ”
วิลลี่ : “กับพี่ฮาย หลังให้สัมภาษณ์ก็ยังไม่ได้โทร.ไปเคลียร์ แต่ผมโทร.ไปอธิบายเรียบร้อยแล้ว พอข่าวออกแบบนี้งงเลย เหมือนรถทัวร์ไปลงบ้าน แต่ก็ยังมีพี่ๆ นักข่าวที่ให้ความเป็นธรรมกับผม ก็กราบขอบพระคุณพี่ๆ นักข่าวที่ให้มองสองมุม ยูทูบเบอร์บางทีจะไปตัดข่าวก็ให้ฟังสองฝ่ายด้วย ไม่ใช่ไปลงสนุกสนามของคุณ คุณฟังฝ่ายเดียว ถ้าให้สัมภาษณ์ก็บอกตรงๆ ผมขอความยุติธรรม ขอศักดิ์ศรีลูกผู้ชายคนนี้คืนหน่อย ผมอยู่วงการนี้มานานแล้ว หาเช้ากินค่ำ ไม่ได้รวย ไม่ได้โด่งดัง แต่มีผู้หลักผู้ใหญ่มากมายที่ให้โอกาสผมมา ก็ขอบคุณผู้สื่อข่าว นักจัดรายการวิทยุ ทีวี ที่ให้โอกาสผม ขอฝากตัวด้วย วิลลี่ ผีก้าบก้าบ ก็คงจะดังในยุคนี้แล้วแหละ”
ขอโทษวงการตลกหากทำให้เสื่อมเสีย
วิลลี่ : “ก็ขอกราบประทานอภัยสมาคมตลกแห่งประเทศไทย ขอฝากว่าข่าวไม่เป็นความจริง ผมไม่คิดทำให้วงการตลกเสียชื่อ แต่ข่าวไปลงกันเองว่าตลกดังกร่าง ผมก็ได้โทร.ไปเคลียร์แล้วกับท่านนายกฯ โอบะ และขอโทษพี่เป็ด เชิญยิ้ม, พี่โน้ต, พี่ถั่วแระ, พี่เด๋อ ตลกรุ่นใหญ่ที่รับรู้ ก็ขอประทานอภัยสมาคมตลกและศิลปินตลกด้วย”
ลั่นเป็นลูกผู้ชายพอ ผิดก็ยอมรับ แต่อันไหนไม่ผิดก็จะขอต่อสู้
วิลลี่ : “ก็ฝากถึงทางโน้น ผมเป็นลูกผู้ชายพอ เรื่องไหนผิดผมก็ยอมรับ เรื่องไหนไม่ผิดผมก็ต้องต่อสู้ ไปให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ แต่จริงๆ แล้วผมเป็นคนไม่อยากมีเรื่องถ้าจบได้ก็จบ เป็นลูกผู้ชายพอ”
ภรรยา : “เราเป็นแค่ตลกเล็กๆ มีเรื่องกับเขาก็กระทบกับงาน เราไม่ใช่ตลกใหญ่”
วิลลี่ : “เขาเป็นนักร้องที่มีตังค์ มีกำลังมากกว่าเรา เราไม่ได้มีกำลังอะไร เราแค่หาเช้ากินค่ำ ทุกวันนี้บอกตรงๆ หากินกันเหนื่อยกว่าจะได้ตังค์สักบาท ถึงบอกว่าทุกวันนี้ผมไม่ได้มีตังค์ ผมไปช่วยงานฟรี เป็นตลกที่ทุกคนรู้จักว่าสู้ชีวิต ทำมาหากิน ขายขนมบ้าง ทุกวันนี้ทำขนมเปียกปูนขายตามใบสั่ง วันที่ 19 ต.ค. จะไปที่โรงพักครับ
ถามว่าถ้าเขาอยากให้ขอโทษซึ่งหน้า ยินดีเจอไหม เท่าที่ได้พูดไปแล้ว อันไหนผิดผมขอโทษ อันไหนไม่ผิด ผมไม่ขอโทษ คุณก็รู้อยู่ว่างานนี้มีผม แต่คุณก็ยังต้องการมา แต่เราก็บอกแล้วว่าเราสงสารน้องแหวด เราอยากให้น้องแหวดมีงาน หาเงินให้น้องแหวด นี่คือจุดยืนของเรามาตลอด เราพูดมาตลอด เรารับปากมาตลอด นี่คือความจริงใจในมุมของเรา”