“แพทริเซีย กู๊ด” สบายใจ เลิกเป็นโรคจิต ส่องลูกตลอด โอดออกข้างนอกก็คิดถึง เป็นผีบ้า แต่ตอนนี้ชิลแล้ว นับถือแม่ที่เลี้ยงลูกฟูลไทม์ ปลื้มเรตติ้ง “เกมรักทรยศ” เล่นละครอีกครั้งตอนอายุ 30 ขอกลับไปทำหน้าที่แม่ เผยเหวอ “แอน” ตบหน้า “ดีเจนุ้ย” แต่เขาสนิทกันอยู่แล้ว เชื่อแอนไม่ได้คิดร้าย ไม่คิดว่าจะดรามาได้ขนาดนี้
นานๆ ออกงานที ก็ทำเอาคิดถึงลูกเหมือนกัน สำหรับ “แพทริเซีย กู๊ด” ซึ่งเจ้าตัวเผยในงาน “UNICEF Together for Every Child” ปีที่ 5 ลั่นเมื่อก่อนจะเครียด แต่ตอนนี้ชิลแล้ว เพราะมีพี่เลี้ยงที่ดี
“แรกๆ เครียด เมื่อไหร่จะได้กลับบ้าน น้ำตาซึม ตอนนี้เริ่มชินแล้ว อย่างที่บอกว่าการทำงานมันคือความสุขของเรา เพราะฉะนั้นยิ่งออกเราก็ยิ่งแฮปปี้ แต่ก็ยังไม่ได้ทำงานทุกวันนะคะ อาทิตย์หนึ่งอย่างมากก็ 4 วัน โชคดีที่มีพี่เลี้ยง ถ้าไม่มีหนูไม่กล้าไปไหนเลยค่ะ ดีมากๆ ที่เราได้พี่เลี้ยง แต่การหาพี่เลี้ยงที่เราไว้ใจได้ก็ยากนะ
ถามว่ามีข่าวพี่เลี้ยงแอบทำร้ายลูก เรากลัวอะไรพวกนี้ไหม (ถอนหายใจ) กลัว ยิ่งมันมีหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะไปฝากลูกที่ไหนมันก็ต้องระวังจริงๆ ในฐานะแม่คนหนึ่ง เรื่องความปลอดภัยมันเป็นอะไรที่เราต้องสกรีนเองตลอดเวลา แต่เราเชื่อว่าพอเขาโตขึ้น เราจะสอนให้เขาว่า ถ้ามีอะไรที่ยูไม่โอเค ยูต้องเล่าให้เราฟัง รู้สึกว่าอันนี้เป็นสิ่งที่เราสามารถให้เขาปกป้องตัวเองได้ด้วย”
เปิดกล้องวงจรปิดส่องลูกตลอดเป็นผีบ้า แต่ตอนนี้ชิลแล้ว นับถือแม่ที่เลี้ยงลูกฟูลไทม์
“ดูตลอด ชอบดูว่านอนหรือยัง กินนมหรือยัง ช่วงนี้เริ่มสบายใจขึ้นมาแล้ว แต่แรกๆ เป็นโรคจิตเลย ดูลูกตลอดเวลาเวลาออกมาข้างนอก คิดถึงจริงๆ ตอนนี้เริ่มชิลแล้ว แต่เรกๆ คือผีบ้าเลย มองจอโทรศัพท์ คิดถึงลูกมากๆ ก็โชคดีที่มีพี่เลี้ยงดีค่ะ เอาจริงๆ หนูนับถือนะ คนเป็นแม่ที่เลี้ยงฟูลไทม์โดยไม่มีพี่เลี้ยง ยู เดอะ เบสต์ มาก หนูมีคนช่วยเยอะมาก เป็นบุญของหนูมากจริงๆ”
ไม่คาดคิดเรตติ้ง “เกมรักทรยศ” ตอนสุดท้ายพุ่งปรี๊ด แฮปปี้มาก แฟนๆ ยุให้เล่นร้าย
“ดูแบบว้าว ไม่มีใครคาดคิดเลยว่ากระแสตอบรับจะดี เพราะมันเป็นรีเมก อย่างมากก็เสมอตัว แต่เราโชคดีที่องค์รวม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องภาพ เรื่องบท นักแสดงที่เรามี การตัดต่อ ทุกอย่างทำให้เกมรักทรยศเป็นกระแสออนไลน์ แล้วเรตติ้งตอนสุดยิ่งพุ่งปรี๊ด เราแฮปปี้มาก ก็ขอบคุณทุกคนค่ะ ที่เข้ามาซัปพอร์ต แล้วก็ติชมทุกช่องทาง
ถามว่าเรื่องต่อไปต้องแซบไหม กลายเป็นมีแต่คนบอกว่าแพท ยูไปเล่นร้ายเหอะ ไม่ต้องเล่นแล้วหวานๆ น่าสงสาร แต่เรากลับสนุกนะคะ มันท้าทายตัวเรา ก็อยากรับทุกบทบาทตอนนี้ แต่เรื่องนี้โดนรวมบทเขาดีค่ะ หนูอาจจะไม่ได้เป็นบทเด่น หรือออกเยอะ แต่ทุกตัวละครในเรื่องนี้เด่นหมดเลย ถามว่าติดใจบทร้ายไหม ก็สนุกนะ มันน่ารำคาญดี เราไม่เคยเล่นอะไรแบบนี้ มันได้ใช้พลังและอารมณ์ในอีกแบบหนึ่ง”
ไม่ชอบดูตัวเองในบทเคท ส่วน “โน้ต วิเศษ รังษีสิงห์พิพัฒน์” ยอมให้เล่นละครอีกไหม ต้องรอดูต่อไป แต่ขอกลับไปทำหน้าที่แม่ก่อน
“ไม่ชอบดูตัวเอง รู้สึกแบบมันแปลกๆ ค่ะ แต่ว่าชอบ เอาจริงๆ แค่ภาพมันก็อาร์ตแล้ว เหมือนอยู่ในหนังภาพยนตร์ ทุกอย่างสวยงามมาก คุณสามีนางก็ชอบ บอกดีเกินคาด ถามว่าเขายอมให้เล่นเรื่องต่อไปไหม ไม่รู้ (หัวเราะ) ต้องไปรอดูอีกทีเนอะ แต่หนูว่าเขาซัปพอร์ตหนูอยู่แล้วแหละ ถ้าแพทพร้อมเขาก็เต็มที่ เจอกันอีกที 30 จะกลับไปเล่นละครใหม่ ทำหน้าที่แม่ก่อน 2-3 ปีแรกเขายังไม่เข้าโรงเรียน เราก็อยากมีเวลาให้เขาเยอะๆ หลังคนที่สองเดี๋ยวว่ากันใหม่นะคะ จริงๆ ตอนนี้ถ้ามันมีซีรีส์สั้นๆ หรือมีหนังก็รับได้นะคะ (หัวเราะ)”
เหวอ “แอน ทองประสม” ตบหน้า “ดีเจนุ้ย ธนวัฒน์ ประสิทธิสมพร” แต่ยันสองคนสนิทกันอยู่แล้ว รู้สึกว้าวเป็นดรามา เชื่อแอนไม่ได้คิดร้าย
“เห็นผ่านๆ ก็ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องขนาดนี้ ตกใจที่เป็นดรามาค่ะ จริงๆ ตกใจตั้งแต่มันเกิดขึ้นแล้ว แบบอุ้ยพี่แอน แต่หนูรู้ว่าเขาสนิทกันมาก มันไม่ควรเป็นเรื่อง ที่เราหน้าเหวอ หนูเสมือนเป็นคนดูท่านหนึ่ง แบบโห พี่แอน คือโชคดีที่บรรยากาศในงานมันขำๆ มันไม่ได้เป็นอะไรที่มีใครไม่โอเค เราก็เห็นว่าพี่แอนไม่ได้หวังร้ายอะไรอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นก็โอเคค่ะ
พอกลายเป็นเรื่องใหญ่ก็รู้สึกว่าว้าว เป็นดรามาได้ยังไงก่อน (หัวเราะ) ก็นี่แหละค่ะ เวลาเราเห็นในเน็ต เราอาจจะเห็นแค่คลิปสั้นๆ หรือพาร์ตสั้นๆ ของเหตุการณ์ทั้งหมด แล้วมันก็อาจจะตีความได้หลายๆ แบบ ไม่ได้คุยกับพี่แอน เพราะหนูเชื่อว่าแม่ไม่ได้อะไรอยู่แล้ว คือทุกคนรู้ว่ามันเป็นเรื่องตลกของเขา เขาไม่ได้คิดร้ายหรืออะไร เราเห็นแล้วแบบทำไมทุกอย่างมันเป็นดรามาไปหมดเลยสมัยนี้
แต่มันก็ทำให้คนระวังตัวมากขึ้นนะ ไม่ว่าจะพูดอะไร จะทำอะไร พอเรามีกล้องตลอดเวลา คนก็อาจจะไม่กล้าเป็นเกรียนคีย์บอร์ด มันก็มีข้อดีของมันด้วยแหละ แต่ด้วยความที่หนูโตมาในวงการ เราก็เรียนรู้กับอะไรมาเยอะ แล้วเราก็เป็นตัวเอง เราก็รู้ว่าเราไม่ได้เป็นคนที่คิดไม่ดี หรือทำไมดี เพราะฉะนั้นเราก็เป็นตัวของตัวเองค่ะ”