“แพรวา ณิชาภัทร” แจงดรามาพูดคำว่า “สู้ๆ” ก็ผิด? บอกถ้ามีเพื่อนสนิทหรือคนรอบตัวเป็นซึมเศร้า ให้ใช้คำอื่นดีกว่า ในฐานะคนเป็นมาก่อน แค่อยู่ข้างๆ ก็พอแล้ว หวังคลิปนี้จะมีประโยชน์ ด่าตัวเองได้ แต่อย่าเหมารวมด่าคนเป็นโรคนี้ โอดตอนนี้โสดนานจนเหงา เรตติ้งตกที่สุดในชีวิต
ออกมาเล่าถึงการต่อสู้ และการรับมือกับโรคซึมเศร้า เพื่อหวังให้คนเข้าใจคนที่เป็นโรคนี้มากขึ้น แต่กลับมีดรามาเข้ามาจนได้ สำหรับสาว “แพรวา ณิชาภัทร ฉัตรชัยพลรัตน์” ที่ไปเผยใน Sounds Good SS.2 EP.6 ว่าช่วงที่อยู่กับโรคซึมเศร้า คำว่า “สู้ๆ” กลายเป็นคำทริกเกอร์ ในเวลาอารมณ์กำลังดาวน์ และคำว่า “ไม่เป็นไร” ก็เช่นเดียวกัน จนถึงขั้นว่าไม่ชอบให้มาปลอบด้วยคำนี้ โดยมีบางคนไม่เข้าใจ ว่าทำไมแค่พูดว่า ‘สู้ๆ’ ก็ผิดเหรอ?
“ที่บอกว่าพูดไม่ได้คือเวลาที่เราดาวน์ แล้วก็ต้องเป็นเฉพาะคนที่สนิทกับเรา คนที่เราอนุญาตให้เข้ามาในเซฟโซน ถ้าเขาเข้ามาครั้งแรกแล้วเขาพูดว่าสู้ๆ นะ เราก็จะบอกเขาว่าเราไม่ชอบคำนี้ มันเกิดการคุยกันแล้ว มันไม่ใช่ชาวบ้าน 3 4 5 เดินมาพูดว่าสู้ๆ นะ แล้วเราบอกว่าอยากพูดคำนี้ได้ไหม ไม่ใช่ (หัวเราะ) พอตัดมาเป็นคลิปสั้น คนก็เลยเข้าใจผิด นี่ก็เลยเป็นเหตุผลว่าทำไมต้องไปดูเต็มๆ”
ส่วนตัวยังไม่เห็นดรามานี้ แต่หวังว่าคลิปนี้จะมีประโยชน์
“ใช่ ยังไม่เห็น แต่ตอนนี้สู้กับตัวเอง ไม่อยากสู้กับชาวเน็ตแล้ว เหนื่อย ทำอะไรก็โดนด่า ไม่อยากสู้แล้ว ไม่ได้กลัวหรอก แต่คือตอนแรกที่เราตัดสินใจไปพูดเรื่องอาการซึมเศร้าในรายการ เราก็คิดแล้วว่ามันอาจจะมีสองกระแสนะ ซึ่งเราไม่ได้คาดหวังว่าทุกคนบนโลกจะต้องเข้าใจ แต่เรารู้สึกว่าอย่างน้อย ใครที่มีเพื่อนสนิทเป็น ตัวเองเป็น หรือคนรอบตัวเป็นมาฟัง จะได้หาทางออกในแบบที่เราใช้ หรือว่าคนรอบข้างมาฟัง แล้วจะรู้สึกว่าเออ เพื่อนเราที่เป็นซึมเศร้าอยู่ อาจจะไม่ชอบคำว่าสู้ๆ ก็ได้ เราลองหาวิธีอื่นคุยกับเขาดู อยากให้ฟังแล้วเปิดใจกับคนรอบตัวมากขึ้น ไม่ได้อยากให้เป็นดรามาอะไร หวังว่าคลิปนี้มันจะเป็นประโยชน์”
ไม่เป็นไร ถ้าความหวังดีกลายเป็นตรงข้าม
“ก็ไม่เป็นไร คือฟีดแบ็กที่เราได้รับ ส่วนใหญ่จะคนรอบตัวเรา แล้วทุกคนดันเข้าใจ เราก็เลยไม่รู้ว่ามีกระแสลบอยู่ตรงไหน เพราะเราไม่ได้ตั้งใจไปดูด้วย คือเพื่อนๆ ส่วนใหญ่เข้าใจ เราก็เลยดีใจที่คนเข้าใจในสิ่งที่เราจะสื่อ สำหรับคนที่ไม่เข้าใจ เราก็ไม่ได้คาดหวังว่าต้องเข้าใจวันนี้หรือวันพรุ่งนี้นะ ตอนเราเด็กกว่านี้ ก็เพิ่งมาเข้าใจในวันนี้เอง มันอาจจะต้องใช้เวลาหรือต้องมีประสบการณ์ร่วมก่อน ถึงจะเข้าใจได้”
ในฐานะผู้ป่วยซึมเศร้า ไม่ต้องพูดอะไร แค่อยู่ข้างๆ ก็พอ
“ถ้าในฐานะผู้ป่วย แพรรู้สึกว่าเราต้องรู้ตัวเองก่อน ว่าเราต้องการอะไร อย่างแพร แพรรู้ตัวว่าเราต้องการคนมาอยู่ข้างๆ ถ้าไม่รู้ว่าคำพูดไหนกระทบกระเทือนจิตใจเรา เขาแค่อยู่ข้างๆ ก็พอ แล้วก็บอกว่าเฮ้ย…อยู่ตรงนี้นะ เราอยู่ด้วยกันตรงนี้ เราอยู่ข้างเธอ พร้อมเมื่อไหร่ค่อยมาเล่านะ”
ก่อนไปก็เกร็งกลัวมีดรามา แต่ก็พูดด้วยเจตนาดี บอกด่าตัวเองได้ แต่อย่าเหมารวมด่าคนที่เป็นซึมเศร้าคนอื่น
“คือก่อนจะไปเราก็จะเกร็งตลอด ไม่อยากให้เกิดดรามา แต่สุดท้ายไปถึงหน้างาน เราก็ลืมไปแล้วว่าเราเกร็ง เรารู้สึกว่าเราก็เป็นตัวเราแบบนี้แหละ เราพูดออกมาจากใจ แต่ต้องคำนึงด้วยว่ามันจะไม่กระทบคนอื่น ตอนนี้มันไม่กระทบคนอื่น แต่มันกระทบตัวเอง (หัวเราะ) ทำอะไรก็เป็นกระจก 8 ด้านไปหมดเลย งงเล็กน้อย แต่เราคือว่าเจตนาเราดี จริงๆ เราไม่ไปก็ได้ แต่ก็รู้สึกว่าไม่เป็นไร ถ้าจะเป็นแพรวาคนนี้ที่โดนตลอดก็ได้ มันอาจจะมีคนด่า แต่มันจะมีคนเข้าใจประโยชน์จากอันนี้มากขึ้น ด่าเราได้ แต่ไม่อยากให้ไปด่าคนที่เป็นซึมเศร้าคนอื่น อย่าเหมารวม”
โอดเรตติ้งตกที่สุดในชีวิต โสดนานจนเหงา ยังไม่มีใครมาจีบเลย
“ยัง (หัวเราะ) ไม่มีคนมาจีบเลย เรตติ้งตกสุดในชีวิต คือคนที่ทักเรามา เราก็ไม่ชอบเขา คนเรารู้สึกว่าเขาเข้าตา เขาก็ไม่ชอบเรา แต่ก็ไม่ได้รีบอะไร เราก็รอ วันหนึ่งมันต้องมีสักที ก็ใช้ชีวิตไปเรื่อยๆ แต่ก็เหงาแล้ว ทุกวันนี้โทร.หาเพื่อนทุกวัน คือจีบได้นะ แต่ไม่มีใครเข้ามาเลย หรือเราดูแรงไป แต่จะให้เป็นสายแบ๊วสายหวานก็ทำไม่ได้ (หัวเราะ) แพรวา ฮอร์โมนคนนั้นมันตายไปแล้ว แต่เราก็มีมุมน่ารักแหละ ถ้าเรามีแฟน โสดนานสุดแล้วตอนนี้ รู้สึกแล้วว่าความโสดมันเป็นแบบนี้
แต่อีกมุมหนึ่งก็ดีเหมือนกันนะ ทุกวันนี้โทรศัพท์มีแต่เพื่อนตุ๊ด เพื่อนเก้งโทร.มา ชายแท้คนเดียวที่โทร.มาคือคนส่งของ (หัวเราะ) เลยไม่ค่อยเล่นโทรศัพท์ หันมาอ่านหนังสือแทน แต่ก็ดีนะ ทำให้ได้ความรู้มากขึ้น (หรือฉลาดไปผู้ชายไม่จีบ?) โอ้ยถ้าชอบคนโง่ก็ไปเลยค่ะ แพรวาไม่ใช่คนโง่ค่ะ เราก็ไม่ได้อยากโง่ให้ผู้ชายมาชอบไง”