“ดีเจนุ้ย” ไม่ติดใจ “แอน ทองประสม” ตบหน้า พิสูจน์เล่นจริงตบจริง ขอบคุณชาวเน็ตเป็นห่วง แต่รู้อยู่แล้วว่าจะโดน

“ดีเจนุ้ย” ขอบคุณชาวเน็ตเป็นห่วง หลังโดน “แอน ทองประสม” ตบหน้า พิสูจน์เล่นจริงตบจริง บอกเป็นช็อตที่รู้อยู่แล้วเลยไม่ตกใจ เคลียร์ทุกอย่างจบไปต้้งแต่บนเวที ขำๆ เปิดประสบการณ์เจ้าหญิงแห่งวงการตบ เคารพทุกคอมเมนต์ของทุกคน สะท้อนให้เห็นว่าสังคมยุคนี้มีความเสมอภาค ขึ้นแท่นพิธีกรยืนหนึ่ง หยุดทำงานไม่ได้เหมือนจะเป็นบ้า

หลังพิธีกรอารมณ์ดี “ดีเจนุ้ย ธนวัฒน์ ประสิทธิสมพร” ออกมาแชร์คลิปที่ “แอน ทองประสม” สาธิตวิธีการเล่นจริง ตบจริง ด้วยการตบหน้าตนแบบจริงๆ ให้ดูในอินสตาแกรม พร้อมใส่แคปชั่นว่า “ไม่น่าไปสงสัยเรื่องพี่แอนเล่นจริงตบจริงเลย 5555” ก็กลายเป็นดรามาใหญ่โต เพราะชาวเน็ตไม่ตลกด้วย โดยชี้ว่าดูเป็นการกระทำที่ไม่ให้เกียรติ และยังดูเป็นการใช้ความรุนแรง แม้แอนจะเข้าไปขอโทษดีเจนุ้ยแล้วก็ตาม ล่าสุด (16 ต.ค.) ได้เจอดีเจนุ้ย ที่มาเป็นพิธีกรในงาน BengBeng Fin Fans Fun เจ้าตัวก็ได้ออกมาเคลียร์ถึงประเด็นนี้ ว่าไม่ได้ติดใจอะไร แต่ยังไงก็ต้องขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วง

“รอยบนหน้าโอเคมากแล้ว ถ้าเป็นเรื่องนี้ต้องขอบคุณแฟนๆ ที่ส่งความเป็นห่วงเข้ามา รวมถึงพี่ๆ ใกล้ชิดทักทายเข้ามาเยอะมาก ตอนที่มีเรื่องราว ขอบคุณมากๆ เลย แต่ว่าจะอธิบายว่าจริงๆ แล้วไม่ได้มีอะไรเลย ทุกอย่างเคลียร์กันไปจบบนเวทีตรงนั้น เรื่องราวไม่ใช่อยู่ดีๆ เขาจะพุ่งมาแล้วตบเลย มันเป็นเรื่องราวที่เราถามเขาว่าอยากรู้วิธีการเล่นจริงเป็นยังไง เขาก็ค่อยๆ ปูเรื่องมา ซึ่งระหว่างปูเรื่องมาจะอธิบายเรื่องการเล่นเราจับทางได้แล้วว่า เขาน่าจะมีช็อตที่ปะทะจริงๆ คือรู้อยู่แล้ว ก็เลยไม่ได้ตกใจอะไรเยอะ”

หลายคนตีความแทน ว่าสีหน้าไม่โอเค
“จริงๆ มันมองได้หลายมุมมากเลย เพราะว่าอย่างที่บอกว่ามันตัดมาเป็นคลิปสั้นๆ คนอาจจะดูแค่คลิปสั้นๆ แล้วเริ่มต้นคลิปมาก็ผั้วะๆ เลย เรียกลูกค้าก่อนไง คลิปเรียกแขกก่อน ทีนี้อาจจะดูรุนแรงไปนิดหนึ่ง จริงๆ คือเราก็ให้เกียรติมุมมองของทุกๆ คนนะครับ คนที่เข้าใจก็มี คนที่ไม่เข้าใจก็มี คนที่มองว่าเป็นความรุนแรงก็มี จริงๆ เราเข้าใจในมุมมองของคนและให้เกียรติทุกๆ ความคิดเห็นของคน มันทำให้เราเห็นว่าจริงๆ ในยุคนี้มันไม่ใช่ใครจะทำอะไรใครก็ได้ แล้วมันเป็นความเท่าเทียมกันของคนแล้วว่าไม่ใช่อายุมากกว่าจะมาทำร้ายคนนี้ได้ หรือมีชื่อเสียงมากกว่าจะทำได้ มันทำให้เห็นว่ามุมมองของสังคมเป็นยังไง ความเท่าเทียมกัน หน้าก็เป็นรอยนิ้ว ด้วยความที่เราเป็นคนช้ำง่ายก็เลยมีรอย”

ลงเวทีมาไม่ได้การเคลียร์กัน เพราะโมเมนต์ตรงนั้นเหมือนเคลียร์กันไปแล้ว ไม่ได้ติดใจ
“ด้วยความที่นุ้ยกับพี่แอนรู้จักกันมานานมาก พี่แอนคือคนให้โอกาสนุ้ยมาทำพิธีกรรายการของเขา วันปีใหม่ก็มีของขวัญให้ โทร.มาอวยพรวันเกิด เราเจอกันมานานมากแล้ว คุ้นเคยกัน เจอพี่แอนทีไรก็จะเป็นแนวเขาจะแซวเล็กแซวน้อย ประมาณนี้อยู่แล้ว ณ โมเมนต์ตรงนั้นมันเหมือนเคลียร์กันไปหมดแล้ว มันรู้แล้วแหละว่านี่พี่แอนเขาเล่น เขาไม่ได้จริงนะ เราก็รับแอ็กตรงนั้น แล้วก็ไปต่อให้ได้ ถามว่าหลบไหม หลบไม่ทัน (หัวเราะ) พอรู้อยู่ว่าจะมีอะไรแบบนั้น แล้วพี่แอนก็เห็นแหละว่าเป็นรอยนิ้ว เขาก็ขอโทษเรา เราเองก็ไม่ได้ติดใจอะไร เพราะอย่างที่บอกว่าพอเดาทางได้จากเรื่องที่เขาปูมา เดี๋ยวต้องมีช็อตนั้นแน่ๆ เลยไม่ตกใจ แต่ถ้าสมมติไม่ได้ปูมา เดินมาแล้วทำเลยก็ค่อยว่ากัน แต่อันนี้รู้อยู่แล้ว ไม่มีอะไรๆ กับพี่แอนเป็นพี่ที่เคารพและรักกัน”

เคารพทุกคอมเมนต์ สะท้อนให้เห็นว่าสังคมยุคนี้มีความเสมอภาค
“อย่าที่บอกนุ้ยเคารพในทุกคอมเมนต์ คนที่เข้าใจก็มีหรือที่ไม่เข้าใจก็มี แต่คนที่มองว่าเป็นเรื่องของความรุนแรง เราก็เข้าใจและเคารพในตรงนั้น มันสะท้อนให้เห็นว่าสังคมยุคนี้คือความเสมอภาค สิทธิมนุษยชนเท่ากันหมด เราเคารพการตัดสินใจ แต่ที่อยากจะเคลียร์คือโมเมนต์ตรงนั้นมันไม่ได้มีอะไรเลย”

หลังเกิดดรามายังไม่มีต่อสายตรงเคลียร์ เพราะมันไม่มีอะไร บอกเปิดประสบการณ์โดนเจ้าหญิงในวงการตบ
“ยังไม่มีๆ นุ้ยคิดว่าพี่แอนอาจจะมองว่าไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นตรงนั้นอยู่แล้ว นุ้ยเองจบลงเวทีเรื่องราวก็จบลงไปแล้ว เราก็ตัดคลิปออกมา เพราะงานที่เราไปเราก็ตัดคลิป เลยจัดไฮไลต์มาลงคลิปของเรา ซึ่งนี่ก็คือไฮไลต์ของเราในงานนี้ เราไม่ได้มองว่าจะเป็นเส้นทางนำไปสู่ความดรามา ที่เราตัดสินใจลงแสดงว่าเราเองก็ไม่ได้คิดอะไร พี่แอนก็เข้ามาคอมเมนต์ขอโทษ เรื่องวันนั้นพี่ลืมไปแล้ว เราเองก็คอมเมนต์แซวกลับเหมือนกัน แต่ก็เข้าใจมุมมองของแต่ละคน คนที่เป็นห่วงนุ้ยก็ขอบคุณมากๆ ครับ เข้าใจมุมมองต่าง แต่ที่มาพูดอยากจะบอกว่ามันไม่มีอะไร ถามว่าโดนแรงๆ ครั้งแรกไหม ก็ครั้งแรก เปิดประสบการณ์ (หัวเราะ) เจ้าหญิงวงการบันเทิงตบ ก็น่ารักๆ (หัวเราะ)”

ขึ้นแท่นเป็นพิธีกรยืนหนึ่ง บอกยังจ้างได้อีก เดี๋ยวเคลียร์คิวให้
“จ้างได้ อย่าคิดว่าเต็มแล้ว ติดต่อเข้ามาก่อน ได้ไม่ได้ เดี๋ยวเคลียร์ให้ (หัวเราะ) ไม่ยากๆ ยังมีคิว ปกติรับวันละงาน กลัววิ่งไม่ทัน แต่ถ้างานไหนจำเป็นต้องวิ่งจริงๆ เราก็จะหาวิธีการวางแผนจะทำยังไง ถ้ากระชั้นชิดเราก็จะปฏิเสธ ไม่อยากรับงานแล้วทำให้เขามีปัญหา เคยรับเยอะสุดวันละ 5 งาน แต่มันรวมถ่ายรายการ อีเวนต์ แต่เราก็ไม่ทำแล้ว มันโหมเกินไป รีบเร่งไปหมด ไปต่อแล้วกังวล ไม่โฟกัส ตัดสินใจว่าวันละงาน จบๆ ไป แต่ลูกค้าก็น่ารัก ให้งานทุกวัน เรื่องค่าตัวก็จับต้องได้ ทำงานให้เต็มที่ เหมาะสมกับราคาที่จ่ายมา”

เสพติดการทำงาน หยุดแล้วจะเป็นบ้า ฟุ้งซ่าน
“มันหยุดไม่ได้ หยุดแล้วเหมือนจะเป็นบ้า อาการไม่ปกติ เลยลองแล้ว มีฟุ้งซ่าน เลยรู้แล้วว่าเราเสพติดการทำงาน เพื่อนชอบแซวไม่ได้ทำงานเอาเงินนะ ทำงานเอาคอนเทนต์ จริงๆ เอาสังคมด้วย เอาคอนเทนต์ด้วย (หัวเราะ)”