“มิน พีชญา” แฮปปี้รักหนุ่มนอกวงการ ไม่โพสต์รูปคู่เพราะให้เกียรติฝ่ายชาย ไม่พร้อมเปิดตัว รับหวานใจอยู่ในทุกช่วงชีวิตของตน เพราะเป็นเพื่อนกันมา 10 ปีแล้ว แอบคิดว่าเป็นพรหมลิขิตเหมือนกัน ไม่พร้อมแต่ง แต่บอกกะรัตเพชรไว้แล้ว
เปิดตัวว่ามีรักครั้งใหม่แล้ว แต่ยังไม่เห็นหน้าจังๆ จนทำให้แฟนๆ เรียกร้องอยากเห็นโฉมหน้าแฟนหนุ่มของนางเอกสาว “มิน พีชญา วัฒนามนตรี” ล่าสุดวันนี้สาวมินมาร่วมงาน iCON EVOLUTION UNITEก็โดนพิธีกรแซวว่าวันนี้มีหวานใจมาเฝ้าด้วย ซึ่งมินก็ไม่ได้ปฏิเสธ แต่ยังไม่พร้อมเปิดตัว เพราะอยากให้เกียรติฝ่ายชายที่ยังไม่พร้อมที่จะโดนจับจ้อง
“ไม่ได้มาเฝ้า ก็สวย (หัวเราะ) ก็ไม่ได้ปิดค่ะ ทุกคนเจอก็จะรู้จัก เขาก็ไม่ได้ตามไปทุกที่นะ อย่างที่บอกแหละเป็นเพื่อนกันมา 10 ปีแล้ว บางคนก็เคยเจออยู่แล้ว เพราะบางทีมินไปออกองานอีเวนต์ เขาก็จะไป อีเวนต์ต่างประเทศเขาก็ไป เพราะเขาเก่งภาษาอังกฤษ เขาก็จะคอยช่วยตลอด คบกันในฐานะแฟนมาถึงปีแล้วค่ะ แต่ที่ยังไม่ลงรูปเปิดหน้า เพราะเขายังไม่อยากเปิด เขาไม่ใช่คนในวงการ บางทีเราก็ต้องให้เกียรติเขาว่าเขาพร้อมหรือยัง บางทีเขาก็ยังไม่อยากแบบเดินไปไหนแล้วคนทักทาย แต่มินชินแล้ว เพราะเป็นอาชีพเรา เราไม่ได้หวงความเป็นส่วนตัวขนาดนั้น แต่คนนอกวงการอาจจะต้องให้เวลานิดนึง
เขาก็เริ่มชินกับการถ่ายรูปแล้วหน้าเบลอไปครึ่งนึงแล้วนะ สมมติว่าถ่าย 10 รูป รูปไหนเบลอก็คือรูปนั้น (หัวเราะ) แต่เราก็อยากจะลงนะ ก็คือให้รู้ว่าเรามีคนคุยนะ แต่ก็ให้เกียรติ ถ้ามันยังมีดีเทลที่เขายังไม่อยากเปิดหน้าเพื่อให้ผู้คนทักทาย งั้นเราก็ละไว้แล้วกัน แต่ก็ไปไหนมาไหนกันปกติค่ะ มินว่าคนก็เห็นนะ แต่มินเดินเร็ว ถ่ายรูปไม่ทัน มินเห็นคนมองเยอะนะเวลาเดินผ่าน แต่มินเป็นคนเดินเร็วมาก แอ็กทีฟไง ตื่นเช้ามาก็ออกกำลังกาย เดินปกติก็จะเดินเร็ว แต่ไม่มีปลอมตัวนะ ไม่ใส่แว่นด้วย เปิดหน้า เปิดมาสก์ แล้วก็เดินห้างปกติ บางคนก็มีชี้เหมือนกัน ซึ่งเขาก็คงเกร็งแหละ ไม่ได้หนีนะ เขาก็สง่าผ่าเผย แต่ถ้าให้ลงรูปในไอจีมิน ก็อาจจะต้องคุยกันก่อนว่าเขาพร้อมหรือยัง เพราะไปไหนมาไหนคนก็จะถ่ายรูปนะ คนก็จะถามนะ”
บอกฝ่ายชายอยู่ในแทบจะทุกช่วงชีวิตของตนเลย เหมือนเป็นพรหมลิขิต
“มินว่าเขาชินกับสิ่งที่อยู่รอบตัวเรา อย่างมินถ่ายรูปสัมภาษณ์ มินก็ชิน เขาก็ชินกับการที่เห็นมินเป็นอย่างนั้น แต่ถ้าต้องมายืนเอง ลองนึกภาพว่าคนที่ไม่เคยแล้วต้องมายืนอยู่ในจุดที่มินยืนน่ะ เราก็อาจจะไม่รู้จะตอบสนองยังไง แต่ละคนก็อาจจะไม่เท่ากัน คือมันมีการคุยกันมาแล้ว เพราะเขาก็คงไม่มีโอกาสได้มาสัมภาษณ์หรอก ตราบใดที่ยังไม่ลงรูป ถามว่าจะลงรูปเมื่อไหร่ วาเลนไทน์ดีไหม เพราะตอนที่ลงรูปครั้งแรกก็วาเลนไทน์เดี๋ยวถามเขาก่อน ก็ต้องปรับตัวแหละ เขาทำได้แหละ แต่ในไอจีเขามีรูปเราลงเพียบเลยนะ สมัยก่อนเวลาโปรโมตละครมินก็จะบอกว่าให้ลงให้หน่อย
ถ้ามีคนเปิดวาร์ป ก็เปิดได้ มินไม่ได้ปิด ถ้าค้นรูปเจอก็เจอไป มินไม่ได้ปิดอะไร แต่มินอาจจะเกรงใจเขา แต่จริงๆ เขาไม่ค่อยเล่นโซเชียล เป็นคนที่ออร์แกนิกมาก ต่อให้ไม่เจอก็ไม่ลงรูป นานๆ ถึงจะลง รูปมินก็คือถ้าไปค้นในอดีตก็จะเป็นเกือบ 10 ปีที่แล้วเลย แล้วเป็นรูปมินสมัยเปิดตัวความรัก เขาก็ไปร่วมงาน งานวันเกิดมินก็จะมี เขาอยู่ในทุกช่วงเวลาของมินจริงๆ ก็ตอนนั้นเป็นเพื่อนจริงๆ ถามว่าคิดว่าเป็นพรหมลิขิตไหม ก็เคยคุยกันเหมือนกัน เพราะมันเป็นอะไรที่แปลกนะ อย่างตอนนั้นที่ไปเปิดห้างมินที่ขอนแก่น เขาก็อยู่ เหตุการณ์สำคัญในชีวิตมิน พอมานั่งแกะดูจริงๆ เขาอยู่หมดเลย”
เผยทุกคนรอบข้างอยากให้แต่งงานแล้ว แต่ตนเองที่ยังไม่พร้อม
“ยังๆ ไม่ได้หมั้น นิ้วยังว่างอยู่ แต่ก็มีบอกกะรัตของเพชรที่อยากได้ (หัวเราะ) แหวนขั้นต่ำของเราก็มีเท่านี้แล้วนะ ไม่หรอก เดี๋ยวไปกดดันเขา จริงๆ เขาให้ด้วยใจ เราก็เอาหมดแหละ บางทีเป็นเพื่อนกันก็เล่นกันไปเรื่อยแหละ แต่ถ้าหากว่าเกิดขึ้นจริง เราอาจจะไม่ได้คาดหวังอะไร ให้มันเกิดขึ้นตามธรรมชาติ เน้นความจริงใจมากกว่า ถามว่าระยะเวลาในการคบเป็นแฟนคงจะไม่นานเกินไปไหม มินว่าระยะเวลานานกว่านี้ไม่ได้แล้ว คือมันนานมากแล้ว ระยะเวลาไม่ได้เป็นตัวพิสูจน์ และปิดบังอะไรเขาไม่ทันแล้วด้วย เพราะตอนเป็นเพื่อนก็คือเขารู้ความเป็นเราในทุกๆ ด้าน ทั้งด้านที่ดีและด้านที่ง๊องแง๊ง งอแง แต่เขาก็เอ็นดู และเขาก็ชอบที่เราเป็นเรา
แต่สมมติถ้าปีหน้าจะแต่ง ก็รับละครไว้ไง แต่มินยังไม่พร้อม แต่ครอบครัวมินน่ะอยากให้แต่งงาน อยากมีหลานแล้ว คือทุกคนรีบหมดตอนนี้ ยกเว้นมิน ซึ่งเขาก็พร้อม เหลือมินคนเดียว มินว่าสิ้นปีนี้ไม่นะ เพราะแพลนงานมินยาวลากไปถึงกลางปีหน้าแล้วตอนนี้ และมินคิดว่าเขาไม่มีจังหวะที่จะได้เตรียมงาน แต่ถ้ามันเกิดขึ้น เราก็ช็อกสิคะ (หัวเราะ) เราก็ว้าวุ่นเลย เราก็อาจจะทำหน้าไม่ถูก เร็วๆ นี้ก็ไม่มีทริปที่จะไปไหนกันนะ แค่ใช้ชีวิตทำงานปกติ เขาก็ยุ่ง ทำงานตลอด โทรศัพท์ตลอดเวลา แต่ต้องสวยรอใช่ไหม แต่เราก็สวยตลอดอยู่แล้ว”
บอกตอนนี้กลับมารับงานละคร แต่ก็ขอนานๆ รับที เพราะเล่นมาทุกบทบาทแล้ว
“เดือนหน้าจะเปิดกล้องแล้วค่ะ ก็มีการถ่ายโปสเตอร์ไปแล้ว แต่เดี๋ยวรอคิวพระนาง ไม่ตื่นเต้นหรอก มันเหมือนปั่นจักรยาน ถ้าปั่นเป็นแล้วก็คือปั่นเป็น อีกอย่างการแสดงมันไม่ใช่การที่เรามานั่งแอ็กหน้า แต่เราเป็นตัวนั้นจริงๆ แรกๆ เราก็อาจจะยังไม่นัว แต่ถ้าเวิร์กช็อปกัน เข้าขากัน นักแสดงเข้ากันแล้วเป็นยังไง สนิทกันหรือยัง เล่นกันได้หรือยัง เข้ากันสุดแค่ไหนมันก็จะเป็นเรื่องของการทำงานไป
เดี๋ยวนี้ที่นานๆ รับที เพราะมันถึงจุดที่เราก็โตพอเต็มที่แล้วที่จะเลือกได้ เพราะเราลองมาทุกบทแล้ว มันแทบจะไม่มีแนวไหนที่ยังไม่เคยแล้ว สืบสวน ผี คอมเมดี้ ดรามา ฝีมือ กวาดรางวัล เรารู้สึกว่าเราได้เต็มที่กับชีวิตมาเยอะแล้ว จนถึงกระทั่งวันนึงเราก็เริ่มมีบทบาทหลายบทบาทมากขึ้น ก็มีเรื่องของธุรกิจที่บ้าน ธุรกิจของเรา มีงานในวงการ มีเป็นบอสของดิ ไอคอน นั่งตำแหน่งเป็น CCO ของบริษัท และดูแลคุณพ่อคุณแม่ด้วย เพราะมันเป็นวัยที่เราขึ้นมาแล้ว ขึ้นมาเป็นหัวหน้าครอบครัว ดูแลคนเยอะค่ะ มันมีความรับผิดชอบเยอะ ขั้นต่อไปของมินมันก็อาจจะต้องใช้เวลา”
เผยเป็นคนเอ็นเนอร์จี้เยอะ ชอบทำสิ่งใหม่ๆ ตลอด
“ดีนะ เปิดเฟสใหม่ค่ะ เฟส 1-2 ขายหมดแล้ว ตอนนี้เปิดเฟส 3 แล้วค่ะ ถมที่รอไว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว ตอนนี้กำลังจะขึ้นโครงการ จริงๆ มินก็ไม่ได้มั่นใจว่าตัวเองเก่งขนาดนั้นนะคะ แต่มินก็เป็นคนที่พร้อมจะเรียนรู้ อย่างตอนนี้ก็ศึกษาว่าอยากจะไปเรียนคอร์สหรือเรียนโทดี อะไรที่มันจะต่อยอดธุรกิจของเราให้เติบโตได้มากขึ้น เหมือนมินเป็นคนชอบทำอะไรใหม่ๆ ตลอด ชาเลนจ์ตัวเอง ถ้าอะไรที่มันเดิมๆ บางทีมินเบื่อ มินไม่อยากใช้เวลา 1 ปีกับสิ่งๆ นั้นอีกแล้ว ก็อาจจะเป็นอีกก้าวนึงในเส้นทางใหม่ๆ
ตั้งแต่เด็กก็คือเป็นคนที่เอ็นเนอร์จี้เยอะมาตลอด ชอบทำสิ่งใหม่ๆ แม่มินชอบเดินมาถามว่าไม่เหนื่อยเหรอ บางทีตื่นเช้า นอนดึก กลับมาวันเกิดคุณแม่ ก็มานั่งจัดสติ๊กเกอร์ห่อของขวัญเอง วันเกิดคุณพ่อก็ทำเองทุกอย่าง คือเราจะดูแลทุกอย่าง เป็นคนที่ใส่ใจทุกรายละเอียด จนแม่บอกว่าไม่เหนื่อยเหรอลูก (หัวเราะ) เราก็ถามตัวเองนะว่าไม่เหนื่อยเหรอ ก็ไม่เหนื่อยนะ เราก็ออกกำลังกายทุกเช้า”
เผยรีวิวซื้อของออนไลน์ สั่งกระทะทอดไข่ เหตุเพราะอยากกินไข่เจียว แต่ดันสั่งได้กระทะไซส์ยักษ์มาแทน
“อันนั้นโหดมาก จริงๆ ตอนนี้ก็ยังไม่รู้จะเอาไปทำอะไรเลย คนก็บอกว่าเอาไปบริจาค มันก็คงเป็นทางเดียว ตอนมาถึงมินยังตกใจเลย คือเริ่มจากมินอยากทานไข่เจียวเจ๊ไฝ เราก็รู้สึกว่ากระทะเราเป็นกระทะไฟฟ้า แล้วไฟมันไม่แรง ก็คุยกับคุณแม่บ้านว่ามินอยากได้แบบนี้ เขาก็เลยบอกว่ามันต้องกระทะแบบบ้านๆ เราก็สั่งมาเลยครบเซ็ต พอตอนมาส่งคือกระทะใหญ่มาก
ตอนสั่งมันไม่ได้บอกว่าเป็นนิ้วหรือเป็นเซนฯ บอกแค่ 22 แต่ตอนนั้นมินก็สั่งตอนป่วยด้วย เป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A ก็เบลอ แล้วก็อยากกินไข่เจียว งอแง พอของมาถึงก็คิดว่าสงสัยเราคงเบลอจริง (หัวเราะ) ก็สั่งตอนไข้ 40 ก็เลยได้กระทะเบอร์ 40 มาเลย (หัวเราะ) แต่ไม่แพงนะ ไม่ถึงพัน แล้วใครจะไปคิด เพราะกระทะปกติมันต้องพันกว่า แต่ราคา 700 กว่าบาท มินก็เลยเข้าใจว่าเล็ก ก็ชินแหละ มินเป็นคนชอบสั่งของออนไลน์แต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว เราดูไม่ละเอียดเองแหละ มินไม่ค่อยชอบอ่าน”