xs
xsm
sm
md
lg

“ทอยทอย” เล่าเหตุการณ์วันที่แทงแฟนสาวดับจากในเรือนจำ ยกมือสาบาน มันเป็นเรื่องจริง! (คลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กลายเป็นประเด็นเลยทีเดียว กรณีที่ “โกบอย”เจ้าของรายการเพื่อนข้างใน ช่องยูทิวบ์ KoBoyKrush ซึ่งมักสัมภาษณ์คนที่อยู่ในเรือนจำ เพื่อให้แฟนๆ รายการได้ฟังเรื่องราวอีกด้าน ล่าสุดโกบอยได้สัมภาษณ์ “ทอยทอย ธนภัทร ชนะกุลพิศาล”อดีตนักแสดงซีรีส์วาย ที่เคยตกเป็นข่าวใหญ่ แทงแฟนสาวกว่า 20 แผลจนเสียชีวิต ซึ่งปัจจุบันทอยทอยถูกตัดสินจำคุก 10 ปีข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา และชดใช้ความผิดอยู่ในเรือนจำมา 2 ปีแล้ว โดยหนุ่มทอยทอยได้เล่าหมดเปลือกนาทีเกิดเหตุ



เจ้าตัวเผยว่ารู้จักผู้หญิงคนนี้ จากการไปเที่ยวด้วยกัน กินเหล้าด้วยกัน ตอนนั้นเจ้าตัวลองรับงานเอ็นครั้งแรก เพราะเพิ่งอกหักจากแฟนคนเก่า คิดอะไรไม่รู้ อยากมีเพื่อน ก็เลยไป ได้ 3 พัน ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไร ไม่ได้ซีเรียสเรื่องเงิน แค่ผู้ชายคนนึงที่เหงาและเสียใจมากๆ กับการที่ต้องเลิกกับใครสักคน ที่คบมาเป็นระยะเวลานาน ตนไม่อยากอยู่คนเดียว ประกอบกับเป็นช่วงโควิดด้วย

“แฟนที่คบเป็นผู้หญิง ผมไม่มีเพื่อน เพื่อนอยู่ต่างจังหวัด โควิดอีก คิดอะไรไม่ออก ผมเห็นในบอร์ดงานก็ลองไป ในกลุ่มไลน์ทุกกลุ่ม ผมเคยเรียกเด็กเอ็นมาเหมือนกัน นั่งกินเหล้าด้วยกัน เราส่งไปถามโมฯ คนนึง แล้วเขาก็เอาเราไปอยู่ในกลุ่มนั้น คัดหน้าตา ส่งเด็กให้เรา ก็เลยได้อยู่ในกลุ่มนั้นโดยปริยาย เจอบอร์ดงานนี้พอดี โมฯ ที่ผมเคยขอเด็กไป เขาถามว่าผมรับงานไหมงานกินเหล้าที่พูลวิลล่านี้ๆ ก็ลองส่งรูปไปเล่นๆ ได้ก็ได้ ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ตอนนั้นผมอกหัก โดนทิ้งโดนเทมา ตอนนั้นไม่มีปัญหาเรื่องเงินเลย ไม่ได้โฟกัสเรื่องเงิน

ตอนนั้นคิดอย่างเดียวว่าไม่อยากอยู่คนเดียว อยากกินเหล้า สุดท้ายไปกินเหล้าจริง แต่ต้องจ่าย เพราะผู้หญิงเมา คนที่เรียกไปคือคนที่เสียชีวิต จากนั้นก็คุยกัน ไปส่งเขาที่บ้าน เขาชวนผมไปบ้าน ตอนนั้นเขาขับรถไม่ได้แน่นอนเพราะเมา วันแรกก็มีอะไรกันปกติ เราก็ไม่ได้คิดผูกมัดอะไรอยู่แล้ว คิดว่าเล่นๆ ตามประสาผู้ชาย พอฟื้นจากเมาก็ลากไปพัทยา เขาก็ขอผมเป็นแฟนที่พัทยา

กลับมาเขาก็พาผมให้รู้จักแม่ พี่สาวเขา เขาบอกตั้งแต่วันแรกว่าเขาป่วย เป็นไบโพลาร์ โรคซึมเศร้า พยายามฆ่าตัวตายมาแล้วหลายครั้ง ก็ใช้ชีวิตมาดี แต่เสียอย่างนึงเขาเรียกเด็กเอ็นมากินเหล้าทุกวัน ผมก็อยู่ เขาบอกว่าเป็นการช่วยเหลือน้อง เขาบอกเขาเป็นเลขารัฐมนตรี และที่รู้อีกอย่างคือเขาส่งเด็กให้ส.ส. นักการเมือง ทำสีเทา ผมก็ใช้ชีวิตอยู่บ้านเขา และมีเงินเก็บส่วนตัว ตอนนั้นผมเหงา เขาก็ต้องการคนมาดูแล แม่เขาก็พูดจากับเราดี ฝากลูกแม่ด้วยนะ”

เล่าหมดเปลือกวันเกิดเหตุทะเลาะ จนเกิดเรื่องบานปลาย
“วันที่เกิดเรื่อง ตอนเช้าผมไปบริษัทพี่เอ็มมี่ อมลวรรณ ไปเซ็นสัญญา เหมือนเป็นงานปาร์ตี้เล็กๆ เราได้บท กลับไปรับเขา พอไป 2 ทุ่มรับเขาที่พูลวิลล่า ถนนรามอินทรา ระหว่างกลับเขาไม่คุยกับผมเลย ผมเอาสัญญาให้เขาดู บอกว่าดูให้หน่อย เขาบอกเขาเป็นเลขารัฐมนตรี เรื่องเอกสารน่าจะแม่น ก็ให้เขาดูไป เขาด่าผมมาว่า ทำไมเธอโง่แบบนี้ นี่มันสัญญาทาสผมเคยทำงานในวงการมา เห็นสัญญาพวกนี้เยอะเหมือนกัน ซึ่งมันก็เหมือนกันหมดไม่มีอะไรแตกต่าง เราไม่ได้คิดไร ก็แค่ตอบว่า เหรอ มันยังไงเหรอ ก็ถามเขา เขาบอกค่อยไปคุยที่บ้าน

ตอนนั้น 3 ทุ่มพอดี จำภาพได้แม่น ภาพยังติดตาอยู่เลย นั่งกินเบียร์กันต่อ แต่เขาเมามาแล้วจากพูลวิลล่า ผมนั่งจิบเป็นเพื่อนเขา เขาเอาสัญญามาอ่านอีกครั้ง เขาบอกสัญญาข้อนี้ไม่โอเค ไม่เกี่ยวอะไรกับผมเลย ผมขอโทษพี่เอ็มมี่ก่อนนะครับ คือห้ามทำบริษัทเสียชื่อเสียง ซึ่งเขาอธิบายให้ผมฟังว่า นี่คบใครจะเปิดตัวโน่นนี่นั่น ถ้าลงรูปคู่ไป เขาฟ้องมาจะเอาตังค์ที่ไหนจะจ่ายเขา

ซึ่งผมว่าไม่ได้เกี่ยวอะไรเลย ตอนตกลงเป็นแฟนเราบอกแล้วว่าไม่สามารถเปิดตัวได้นะ ผมบอกเขาชัดเจนที่พัทยา ถ่ายรูปได้ แต่ให้แค่เพื่อนสนิทรู้แค่นั้น แต่ไม่จำเป็นต้องเปิดเผย เขาก็ด่าผมมา บอกให้ผมไปเซ็นสัญญา ผมก็โทร.ไปหาผู้จัดการผม บอกพี่เปลี่ยนสัญญาได้ไหมข้อนี้ เขาบอกได้ แต่พี่พิมก็ยังไม่พอใจ เขาได้ยินที่ผมคุยกับผู้จัดการเพราะเปิดลำโพงให้เขาได้ยินไปเลย สักพักเขาก็ไม่พอใจ ยกโน่นนี่มา จนผมเริ่มหงุดหงิดเลยบอกว่าโน่นก็ไม่ได้ นี่ก็ไม่ได้ แต่งงานเลยไป งานไม่ต้องทำแล้ว พูดประชดเขาไป เขาบอกว่าจะแต่งได้ไงยังไม่ถอนหมั้นกับคนเก่า ผมก็นิ่งเงียบไป นี่คือที่บ้านเขาชั้นล่าง

แล้วเขายกเรื่องอะไรสักอย่างมาด่าผมเรื่อยๆ ไม่หยุด เขาพูดบ่น มึงโง่ วนกลับมาเรื่องเดิมๆๆ ตลอดเราเงียบ ไม่โต้ตอบ สักพักเหมือนเขาเหนื่อย ผมก็จิบไปเรื่อยๆ อยู่ดีๆ เขาตบหน้าผม เขาหาว่าผมกวนตีx ไม่ยอมพูดกับเขา ไล่ผมออกจากบ้าน ผมบอกโอเคผมยอมแพ้แล้ว ผมเดินไปชั้น 2 ไปเก็บเสื้อผ้า เขาเดินตามขึ้นมาถือมีดทำครัวขึ้นมาด้วย เอามาถือแกว่งไปแกว่งมาอยู่ตรงประตู ผมนั่งเก็บเสื้อผ้าผมอยู่ เขาพูดในเชิงด่า ดูถูกผม แต่ผมไม่ได้ตั้งใจฟัง ผมแค่ไม่อยากอยู่แล้ว

ผมก็เก็บเสื้อผ้าผมไปเรื่อยๆ เขาก็ด่าผมไปเรื่อยๆ เหมือนไม่พอใจอะไรสักอย่าง เขาก็เดินมายกกระเป๋าผมเท ตอนเขาเดินมายกกระเป๋าเท เขาวางมีดไว้ตรงเตียงทางเข้าห้อง เขาก็ด่าๆ ผมและตบหน้าผม ถ้าคนไม่อยากให้ไป ทำไมต้องทำขนาดนี้ ตอนนั้นผมโกรธด้วยทำไมทำกันแบบนี้ ไหนคุยกันแล้วว่าเราจะไม่อะไรใส่กัน ผมไม่สนใจเก็บอีกรอบ สักพักเขาเทอีก เขาก็ด่าๆ เชิงดูถูกผมโน่นนี่นั่น เขายกแฟนเก่ามาอ้างว่าแฟนเก่าดังกว่านี้ทำไมยังลงรูปได้ เขาบอกแฟนเก่าเป็นดารา แต่เราไม่ได้สนใจ ไม่รู้พูดเพื่ออะไร

รอบสามเขาด่าผม ยกคีย์บอร์ดจะมาฟาดผม ผมสะดุ้งก่อนเลยผลักเขาไปที่ประตู ก่อนเขาจะดึงคีย์บอร์ด เขาพังหน้าจอคอมบ์ฯ ผมพังลงมา หน้าจอก็แตกมีเศษออกมา ด้วยความโมโห ทำผมแล้ว ทำไมยังทำลายทรัพย์สินผมอีก เพื่ออะไร ผลักเขาไปชนขอบประตู หัวเขาไปกระแทกขอบประตู เลือดไม่ออก ผลักให้ออกไปจากห้อง ไม่ไหวแล้ว ผมก็วิ่งกลับมาเก็บของยัดรวบของ เขาก็เดินเข้ามาอีก หยิบมีดที่วางบนเตียงเข้ามาอีก ช่วงนั้นชุลมุน ทะเลาะแย่งมีดกัน พอเขาแย่งมีดได้ เขาขู่ฆ่าพ่อแม่ผม ผมสาบานให้ผมตายโหงตายห่x เขาบอกว่าจะฆ่าพ่อแม่ผม จะทำให้มึงไม่มีที่ยืน ทำให้พ่อแม่มึงลำบากที่สุด ครอบครัวผม ใครมาพูดแบบนี้ใครจะรับได้ คนอาจจะคิดว่าเขาเป็นผู้หญิง จะไปทำอะไรแบบนั้นได้ แต่การที่ผมเสพอยู่กับเขามา เขาบอกเขาทำงานธุรกิจสีเทา เป็นไปไม่ได้เหรอที่เขาจะมีอิทธิพลในด้านการเมือง

เขายังมาทุบตีผมอยู่ ผมกำมีดอยู่ ฟิวส์ขาดไปแล้วแต่ยังไม่ได้ทำอะไร เขาไปยกคีย์บอร์ดมาฟาดผม ผมเอามือกันไว้ ด้วยความโมโหและเจ็บมากๆ กับอะไรที่ผมต้องมาเจออะไรแบบนี้ ผมไม่รู้ว่าผมแทงไปตอนไหน แต่ตอนช่วงผมโดน ผมดันเขาออกมาจากห้องนั้น ที่ไม่มีทรัพย์สินผมอยู่ ดันไปอีกห้องนึงน่าจะเป็นช่วงที่ดันกัน เพราะเขาจิกตบหัวผมตลอด

พอรู้สึกตัวอีกที ผมนั่งในห้องมีเตียง โซฟา ทีวี และเป็นห้องแต่งตัว เขานั่งยิ้ม เลือดไหลออกมา เขาหัวเราะ ผมกลัวเลือดทำอะไรไม่ถูก ช็อก โทร.หาพี่ที่รู้จัก เป็นรูมเมทที่เคยไปแคสงานด้วยกัน ทำไงดีผมทะเลาะกับพิมใช้มีดแทง ตอนนั้นอาการเขายังนั่งยิ้ม หัวเราะพี่เขาบอกว่าอย่าพาเขาไปไหน อย่าพาไปฝังหรืออะไรนะ เขาเป็นนักข่าวด้วย ผมบอกเขาว่าเลือดไหล เขาก็บอกว่าอย่าพาเขาไปไหน เดี๋ยวจะโดนข้อหาเคลื่อนย้ายอำพรางศพ เขาใช้คำนี้ แต่อาจเป็นเพราะผมพูดไม่รู้เรื่องแล้วตอนนั้น ผมโทร.หา 191 เอง บอกขอรถพยาบาลด่วนเลย ผมจำได้ผมโทร.ตอน 00.19 น. ตร.ขี่มอเตอร์ไซค์มา 2 คน ผมโทร.เสร็จหันออกมาจากห้อง เขาลงไปนอน จากที่นั่งพิงโซฟาเขาลงไปนอนกับพื้น ครั้งนี้เลือดไหลเยอะกว่าเดิม

โกผมสาบานเลย (ยกนิ้วสาบาน) มีดไม่ได้อยู่ที่เดิม ผมพูดผมสาบานเลย (ยกนิ้วสาบานเลย) วันนั้นไม่รู้ว่าแทงไปกี่แผล ตร.บอกว่าผมแทงไป 30 บาดแผล แผลจริงมีประมาณ 3-4 แต่แผลทั้งหมดลงมาว่า 0.4 มิลฯ ซึ่งเป็นรอยข่วน ให้คนคิดกันแล้วกัน แผลที่เข้า 2 เซนฯ สภาพเขายังไม่นิ่ง เขายังหายใจ

ตอนนั้นผมกลัว ผมทำอะไรไม่ถูก ผมเห็นเขานั่งอยู่ ไม่เป็นอะไร ตอนแรกเหมือนแผลถลอกและเลือดไหล ผมก็ไม่รู้ ตอนนั้นผมเห็นเขานั่งยิ้ม หัวเราะอยู่คนเดียว ตอนนั้นผมคิดว่าเขาแกล้งผมอยู่ด้วยซ้ำ ตอนตร.มา ผมนั่งห้ามเลือดเขาอยู่ แม้ว่าผมจะกลัวเลือด เขาไม่ได้สติ แต่หายใจอยู่ ผมเอาผ้ากดห้ามเลือด ไม่ได้คิดว่าจะกลัวแล้ว ตอนนั้นก็คิดว่าผมทำเหี้-อะไรลงไป สติผมกลับมา ช่วงนั้นรถตร.มา เขาตะโกนว่ามีใครโทร.แจ้งไหม ผมบอกว่าให้เข้ามาช่วยผมหน่อย เลือดออกเยอะเลย ตอนนั้นพิมยังหายใจ แล้วตร.บอกว่าปลอดภัยแล้ว ให้มานั่งข้างล่าง ใครปลอดภัยก็ไม่รู้ ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ผมก็คิดว่าเหมือนในหนัง ตร.คงนั่งห้ามเลือด คงมีวิธีของเขา คิดว่าคงไม่เป็นไรแล้ว ไม่คิดอะไรแล้ว
ช่วงนั้นเวลาประมาณตี 4 เขาห่อผ้าขาวลงมา ตอนนั้นพี่ชายแท้ๆ ผมมาที่เกิดเหตุ ผมกลายเป็นคนบ้าที่สติแตก จะเอาหัววิ่งชนกำแพง อยากด่า ไหนบอกว่าเขาปลอดภัย ไม่มีคำไหนอธิบายเป็นคำพูดได้ มันสุดๆ แล้ว

สุดท้ายผมก็โดนจับ ตร.แจ้งข้อหาเจตนาฆ่า ก็ได้สู้ว่าผมไม่ได้เจตนา ผมไม่ได้อยากเอาชนะหรืออะไร ผมอยากจะเล่าเหมือนที่ผมเล่าวันนี้ให้ศาลฟัง แค่ขอให้พูดให้เล่าในสิ่งที่ผมเจอมาจริงๆ ผมอยากพูดตั้งแต่ที่ผมอยู่ สน.ด้วยซ้ำ แต่ผมไม่มีโอกาสได้พูด”

ช่วงแรกพยายามฆ่าตัวตาย แต่ตอนนี้ไม่คิดแล้ว หากได้ออกจากคุกอยากบวชให้
ตอนนี้ศาลตัดสิน 10 ปี อยู่เรือนจำมา 2 ปีแล้ว ช่วงแรกผมเข้ามาผมพยายามฆ่าตัวตาย ผมอยากตายตามเขาไป อยากอยู่กับเขาจริงๆ แต่ตอนนั้นมันไม่ทันแล้ว ผมไม่ได้อยากหนีความผิด ผมอยากไปอยู่กับเขาจริงๆ ไหนๆ มีคนบอกว่าให้ตายๆ ตามเขาไป แต่ตอนนี้ไม่คิดฆ่าตัวตายแล้ว เลยจุดนั้นมาแล้ว ถ้าออกไปความตั้งใจแรกอยากบวชให้เขา

ตอนแรกที่ประกันตัวออกไปเพราะอยากบวชให้เขา ผมอยากขอโทษแม่พี่พิม ได้เจอกันหลายครั้งตอนไปศาล ผมขอโทษ เขาไม่ได้รับไหว้ผม ผมเข้าใจว่าเขาโกรธ ใครๆ ก็โกรธ ผมขอโทษในสิ่งที่ผมทำ ผมรู้สึกผิดจริงๆ ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ผมไม่ได้อยากให้เรื่องนี้เกิดขึ้น ไม่มีใครอยากให้เรื่องนี้เกิดขึ้น แต่ผมทำไม่ได้ ถ้าผมถูกปล่อยตัวไปผมอยากบวชให้พี่พิมจริงๆ”









กำลังโหลดความคิดเห็น