“โชค รถแห่” เปลี่ยนนามสกุลใหม่ “โชค ไหทองคำ” เปิดใจประสบการณ์ชีวิตน้อยทำหย่าเมีย กลุ้มใจร้องไห้คนเดียว กินข้าวไม่ลง

เป็นดรามาไปทั่วโซเชียลกับประเด็นปัญหาชีวิตครอบครัวของ “โชค รถแห่” หย่าเมีย ล่าสุดเจ้าตัวได้มาออกรายการ โต๊ะหนูแหม่ม โดยล่าว่าตอนนี้ได้เปลี่ยนนามสกุลใหม่แล้ว เป็น "โชค ไหทองคำ" ได้นายห้าง "ประจักษชัย ไหทองคำ" คุมทั้งพฤติกรรมและงานเพลง

ตอนนี้เปลี่ยนชื่อจาก โชครถแห่ เป็น โชค ไหทองคำแล้ว?
"ก็ตั้งแต่มีดรามา และช่วงนั้นก็กำลังว้าเหว่อยู่ว่าเราจะไปทางไหนดี หาคิดทางออกไม่รู้ว่าจะไปทางไหนดี จะรับงานเองหรือว่าจะไปหาผู้จัดการหรือว่าจะไปอยู่ค่าย พอดีเป็นจังหวะเหมาะเจาะที่นายห้างโทร.เข้ามาพอดี ก็เลยได้นัดคุยกัน เลยได้มาอยู่ด้วยกัน"

พอเข้ามาอยู่ค่ายปุ๊บ นายห้างถอยรถใหม่ให้ 2 คันเลย?
"คือทุกวันนี้ผมยังไม่เคยมีรถตู้เป็นของตัวเอง เวลาไปงานจะเช่ารถตู้ก็เลยพูดเรื่องนี้ให้นายห้างฟัง นายห้างก็เลยบอกว่าถ้าโชคมาเซ็นสัญญาปุ๊บเดี๋ยวออกรถให้เลย เพื่อที่จะรับงานได้ วิ่งงานได้สะดวก"

แล้วพอได้รถมา รับงานเต็มทุกวัน?
"งานน่าจะเริ่มเต็มเดือนหน้า เดือนหน้าเต็มแล้วครับ ตอนนี้ก็พอมีประปรายบ้าง"

หัวใจข้างในแข็งแรงพอที่จะรับงานได้กี่เปอร์เซ็นต์?
"สำหรับเรื่องงานผมว่าหัวใจผมพร้อม100%ครับ เพราะว่าผมเป็นคนแยกแยะได้ แต่ถ้าเรื่องส่วนตัวมันก็อาจจะมีเอามาคิดบ้าง เอามานอนคิดบ้างทำใจบ้าง แต่พอเวลาทำงานเราก็ทำเต็มที่มากครับ ไม่มีบกพร่องแน่นอน"

จบเรื่องความสัมพันธ์เรื่องหย่าเมียยังไง?
"ก็ตามที่ข่าวออกไปครับ หลังจากนี้ก็คือทำหน้าที่พ่อที่ดี กับลูกถ้ามีเวลาก็จะไปหาลูก ซื้อของไปให้ลูกบ้าง แล้วก็อาจจะต้องส่งเงินให้ลูกทุกเดือน แต่ทางครอบครัวเขาบอกว่าแล้วแต่เรานะ เราจะส่งก็ได้ไม่ส่งก็ได้ แต่ผมรู้สึกว่าผมทำงานผมส่งให้ลูกแน่นอน"

ได้รับบทเรียนอะไรจากการตัดสินใจเรื่องนี้?
“ผมได้รับบทเรียนอะไรหลายอย่างมากๆ เลยครับที่ถาโถมเข้ามา ในช่วงที่ผมมีปัญหาชีวิตหย่ากับภรรยา ทั้งดรามาเอย ทั้งคนว่าโน่นนี่นั่น หลายอย่างมากเลยบางครั้งบางที เรื่องบางเรื่องมันเป็นเรื่องละเอียดอ่อนของครอบครัว บางครั้งผมก็ไม่สามารถที่จะอธิบายอะไรให้ทุกคนฟังให้ทุกคนเข้าใจ บางทีมันอาจจะมีอะไรภายในลึกๆ แต่ผมไม่อยากพูดถึงตรงนั้น เขาก็เป็นแม่ที่ดีของลูกอยู่แล้ว

และบทเรียนที่ผมได้รับคืออะไร หลากอยากมากๆ ทั้งเรื่องการใช้ชีวิตหรือว่าเรื่องอารมณ์ก็ตั้งแต่เลิกกับแม่ของลูกไปเราแทบจะไปต่อไม่ได้ ข้าวแทบไม่ได้กินเลย กลุ้มอยู่ตั้งหลายวัน ทั้งกลุ้มทั้งเครียด บางทีอาจจะมีร้องไห้บ้างคนเดียว ก็เลยคิดว่าต่อไปนี้เราจะต้องวางแผน จะคิดอะไรก็ต้องคิดหน้าคิดหลังนิดๆ

ถ้าเราตัดสินใจไปแล้วมันไม่สามารถกลับมาย้อนหลังได้ บางทีเราใช้อารมณ์ตัดสินใจอะไรไปโดยไม่ได้ยั้งคิด อีกอย่างนึงคือเรามีประสบการณ์ชีวิตน้อยด้วย เรื่องทำงานผมมีประสบการณ์ชีวิตเยอะมาก แต่เรื่องชีวิตส่วนตัวผมอาจจะมีน้อยมากๆ บทเรียนครั้งนี้ก็คือครั้งแรกในชีวิตเลยที่หนักหน่วง"

มาอยู่กับนายห้างให้คำแนะนำยังไงบ้าง?
"อันดับแรกเลยคือเรื่องการใช้ชีวิต เรื่องการทำงานและเรื่องการวางตัว อีกอย่างเลยคือเรื่องผลงานเพลงอันนี้สำคัญมาก เขาก็ให้คำแนะนำว่าช่วงนี้เราอาจจะต้องทำเพลงออกมาบ่อยขึ้น เพื่อที่จะให้เอฟซีและแฟนคลับติดตาม"

การดูแลตัวเองกับการมีค่ายแตกต่างกันยังไงบ้าง?
"การที่อยู่ค่ายมันก็สบายใจหลายเรื่อง หลายๆ อย่างมากๆ เรามีหน้าที่เตรียมตัวให้พร้อม กลับการลุยคอนเสิร์ตกับการทำงาน และก็ดูแลสุขภาพตัวเองให้ดี ไม่เจ็บไม่ป่วยผมจะต้องทำงานให้เต็มที่ อยากอยู่ตรงนี้ให้ได้นานที่สุดเพราะว่าผมมีพ่อแม่และลูกที่ต้องดูแล ก็เลยอยากจะรักษาโอกาสตรงนี้ให้ดีที่สุด เพราะเราก็ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสดีๆ แบบนี้อีกไหม ชีวิตคนเราก็ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสดีๆ แบบนี้อีกสักกี่ครั้ง"