ออกมาโพสต์ร่ายยาวความในใจ หลังจากประกาศปิดค่ายเพลงได้หมดถ้าสดชื่นอย่างเป็นทางการ สำหรับ “เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น” หรือ “รัชนก สุวรรณเกตุ” หลังจากที่ก่อนหน้านี้โพสต์ผ่านสตอรี่ว่าขอหยุดทำค่ายเพลง ไม่ขอปั้นใครอีกต่อไป เพราะสภาพจิตใจไม่ไหวกับคำพูดบั่นทอน นอกจากนี้เจ้าตัวเผยว่าต่อไปจะมีศิลปินแค่สองคนพี่น้องเท่านั้น พร้อมเผยถึงกรณีที่โดนครหาว่าทำนาบนหลังคน รวยอยู่สองคนพี่น้องด้วย โดยระบุว่า..
“ตอนนี้ศิลปิน ได้หมดถ้าสดชื่น ก็กลับมาเหลือกันสองคนพี่น้อง เจนนี่ลิลลี่ แบบเดิมนะคะ ไม่เคยเสียใจเลยที่ครั้งนึงได้มีโอกาสทำค่ายเพลง และได้มีโอกาสรวมตัวกลุ่มวัยรุ่นที่มีความสามารถ ให้มาเดินตามหาฝันกัน มันคือความทรงจำที่ดีมากๆ ถึงมากที่สุด ถึงแม่จะมีดรามา ปัญหาอุปสรรค รักกันบ้าง ทะเลาะกันบ้าง แต่มันก็ยังมีความทรงจำดีๆ ซ่อนอยู่มากมาย
มีประสบการณ์ที่คุ้มค่าที่เชื่อว่าเจนนี่เองก็หาจากไหนไม่ได้เลย พูดแล้วก็คิดถึงเด็กๆ จอมแสบทุกคนจัง คิดถึงมุมหมูกระทะ คิดถึงมุมสระว่ายน้ำ คิดถึงห้องซ้อม ห้องนอน ทุกๆ มุมที่เต็มไปด้วยเด็กๆ ที่มาตามหาฝัน พวกคุณเก่งกันทุกคนเลยนะ ตอนนี้ก็ยังแอบมอง แอบส่งกำลังใจให้ทุกคนได้ไปต่อจนถึงฝันกันอยู่นะ สู้ๆ ล่ะเด็กๆ ทุกคน
เอาล่ะ มาถึงเรื่องตัวเองบ้าง ถึงเวลาแล้วนะ ที่หลังจากนี้ เจนนี่จะสามารถสลัดคำพูดเหล่านี้ออกจากชีวิตสักที ทำนาบนหลังคน รวยกันอยู่แค่สองพี่น้อง เอาเด็กมาเป็นเครื่องมือ ดังอยู่แค่เจ้าของค่าย หัวหมอ เห็นแก่ตัว เอาเปรียบ ขี้โกง หรือคำพูดอื่นๆ ต่างนานาที่รุนแรงมากมาย หวังว่าจากนี้ ทุกคนที่เข้ามาติดตามจะได้สัมผัสและมองให้ลึกเข้าไปจริงๆ ถึงความสามารถ ความพยายาม ความตั้งใจ และการเปลี่ยนแปลงของความเป็นเจนนี่ได้หมดถ้าสดชื่น
จริงๆ หนูเสียดายนะคะ ที่ตัดสินใจไม่ปั้นใครต่อ เสียดายที่ไม่ได้ต่อยอดความฝันให้ใครอีกหลายคน แต่หนูว่าหนูไม่เหมาะกับการปกครองคนเยอะๆ จริงๆ หนูไม่แกร่งพอ ถึงแม้ว่ายังมีอีกหลายๆ คนที่อยากมาสมัคร ยังมีอีกหลายคนบอกว่าหนูทำได้ แต่หนูว่าสภาพจิตใจของหนู ค่อนข้างที่จะบอบช้ำและรับไม่ไหวกับคำพูดที่บอกไปก่อนหน้านี้แล้ว หนูอยากมีความสุขที่แท้จริง ไม่ได้อยากทำตัวต่อต้าน ขวางโลกใดๆ ทั้งสิ้น หลังจากนี้ขอใช้ความสามารถทั้งหมดที่มี ผลิตผลงานต่อไปให้ทุกคนได้รับชมรับฟังกันนะคะ ขอบคุณทุกกำลังใจ ขอบคุณเด็กๆ ทุกคน ขอบคุณทุกบทเรียนที่ทำให้หนูโตขึ้นในทุกๆ วันค่ะ 🙏🏻 #เจนนี่ได้หมดถ้าสดชื่น #เจ้าของค่ายเพลงที่มีดรามาเยอะที่สุดในโลก”
